ผู้เขียน หัวข้อ: สามารถละหมาดตามอีหม่ามที่เป็นวะฮะบีย์ได้หรือไม่  (อ่าน 6896 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Askar

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 7
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

เราสามารถละหมาดตามอีหม่ามที่เป็นวะฮะบีย์ เช่น ซุบฮี หรือเวลาอื่นได้รึปล่าวพี่น้อง

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
เราสามารถละหมาดตามอีหม่ามที่เป็นวะฮะบีย์ เช่น ซุบฮี หรือเวลาอื่นได้รึปล่าวพี่น้อง

ทำไมจะไม่ได้ .... ?!?
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
ไม่ได้... ถามผู้รู้แล้ว เค้ามีคำอธิบายยาวมาก เราจำมาไม่หมด555

^
ไม่ได้ยังไง อยากรู้..
ขอเหตุผลหน่อยเน่อ


ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ tatcha_jah ~♪

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 341
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
โรงเรียนแถวบ้านเขามีคุตบะฮ์ทุกวันเสาร์
คนที่รู้จักเขาก็แนะนำให้ไปเรียน..ไปฟังเรื่องศาสนา...ไปอ่านกรุอ่าน
ดิฉันก็อยากไปนะค่ะ...อยากไปฟังคุตบะฮ์
แต่ติดที่ว่าโรงเรียนนี้เป็นวะฮะบีนะสิค่ะเลยลังเล

T_T

อยากไป...ลำบากใจจัง


*แก้กุตบะฮ์เป็นคุตบะฮ์  อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 04, 2010, 12:45 PM โดย tatcha_jah ~♪ »
ผู้ศรัทธาต่ออัลลอห์...ท้ายสุดจะได้ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในวันอาคิเราะห์

ออฟไลน์ MD

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 61
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
ไม่ได้... ถามผู้รู้แล้ว เค้ามีคำอธิบายยาวมาก เราจำมาไม่หมด555

นั่นซิอยากรู้เหมือนกัน ผู้รู้แบบไหนบอกหรอ ช่วยมาชี้แจงเหตุผลทีนะครับ
งั้นเอานี่ไปอ่านก่อนเผื่อจะเข้าใจ

  ؛
ตอบโดย อ.อาลี   เสือสมิง


นักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์ กล่าวว่า : การละหมาดตามหลังคนฟาซิกนั้นถือว่าใช้ได้ ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม แต่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) และเช่นกัน การละหมาดตามหลังผู้ประกอบอุตริกรรม (มุบตะดิอฺ) ซึ่งมิได้ตกศาสนา (กุฟร์) ด้วยการทำอุตริกรรมของตนนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) และการละหมาดนั้นใช้ได้ (เซาะฮฺ) แต่ถ้าหากผู้ประกอบอุตริกรรมนั้นตกศาสนา (กุฟร์) ด้วยการทำอุตริกรรม (บิดอะฮฺ) ของตน  ก็ถือว่าการละหมาดตามบุคคลเช่นนี้ใช้ไม่ได้เหมือนกับผู้ปฏิเสธทั่วไป


และส่วนหนึ่งจากผู้ที่ตกศาสนา (กุฟร์) นั้นคือผู้ที่กล่าวว่าพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) มีเรือนร่างเช่นมนุษย์อย่างชัดเจน และผู้ที่ปฏิเสธความรู้ของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในส่วนที่เป็นรายละเอียด ส่วนพวกมุอฺตะซิละฮฺ (ที่กล่าวว่าอัลกุรอานเป็นมัคลู๊ก) นั้น ท่านอัลกอฟฟาลและนักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์จำนวนมากกล่าวว่า : อนุญาตให้ละหมาดตามพวกเขาได้ อิหม่ามอันนะวาวีย์ (ร.ฮ.) ระบุว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และท่านอิหม่ามอัชชาฟิอีย์ (ร.ฎ.) ระบุว่า : ชาวสะลัฟและคอลัฟยังคงเห็นว่าให้ละหมาดตามหลังพวกมุอฺตะซิละฮฺและพวกที่เหมือนพวกเขาและมีการสมรสและรับมรดกตลอดจนการใช้หลักการทั่วไปกับพวกเขา (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน อัลมัจญ์มูอฺ ชัรฮุ้ลมุฮัซซับ ; อันนะวาวีย์ เล่มที่ 4 หน้า 150-151)


ส่วนการละหมาดตามหลังวะฮาบีย์นั้นถือว่าใช้ได้ (เซาะฮฺ) ลองคิดดูง่าย ๆ ว่า ถ้าการละหมาดตามหลังวะฮาบีย์ใช้ไม่ได้ คนที่ละหมาด ณ มัสญิดหะรอมทั้งสองแห่งจะเป็นเช่นไร? และนักเรียนไทยที่ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยอิสลามียะฮฺ นครม่าดีนะฮฺเป็นเวลาหลายปี ละหมาดของพวกเขาจะเป็นอย่างไร?



และวะฮาบีย์นั้นจริง ๆ แล้วคือผู้ที่สังกัดมัซฮับฮัมบะลีย์ และอะฮฺลุลหะดีษ ถือตามแนวทางของสะลัฟในเรื่องหลักความเชื่อ (อะกีดะฮฺ) พวกเขาเรียกตัวเองว่า “อัสสะละฟียะฮฺ” มิใช่ วะฮาบีย์ เพราะคำว่าวะฮาบีย์เป็นการใช้คำเรียกขานในแง่ลบและเป็นการโจมตีนั่นเอง! หากท่านอยากทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ลองสอบถาม ดร.อับดุลลอฮฺ หนุ่มสุข ดู อินชาอัลลอฮฺท่านจะได้รับความกระจ่างว่า แท้ที่จริงแล้ววะฮาบีย์เป็นใครกันแน่!


والله أعلم بالصواب

อ้างอิงจาก http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=96.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 04, 2010, 01:45 PM โดย MD »

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
นั่นดิ ...
ไม่ได้... ถามผู้รู้แล้ว เค้ามีคำอธิบายยาวมาก เราจำมาไม่หมด555

ถามผู้รู้หลายคนหน่อย ^^
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ MD

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 61
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
ไม่ได้... ถามผู้รู้แล้ว เค้ามีคำอธิบายยาวมาก เราจำมาไม่หมด555

ผู้รู้แบบนั้แหละที่ทำให้ผู้ไม่รู้แตกแยกกัน

ออฟไลน์ salsabeela

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
งั้นผมลบออก
>>>>>>>>>>>>>>Tidakkah ini Darulharbi.?.?<<<<<

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
ลบออกไปพี่น้องเขาก็ใส่อ้างอิงกัน... ยังไงก็รู้อยู่ดี


ลืมไปอีกอย่าง ลบไปก็ไม่หายไปทันที ผู้ดูแลยังกู้กลับมาได้

ออฟไลน์ salsabeela

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผู้ดูแลก็ช่วยเอาออกหน่อยน้าาา....
>>>>>>>>>>>>>>Tidakkah ini Darulharbi.?.?<<<<<

ออฟไลน์ salsabeela

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
เค้าเอามาอ้างอิงกันหลายคนเลย  ขัดกะเราท้างน้านนน
>>>>>>>>>>>>>>Tidakkah ini Darulharbi.?.?<<<<<

ออฟไลน์ Askar

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 7
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ไม่ได้... ถามผู้รู้แล้ว เค้ามีคำอธิบายยาวมาก เราจำมาไม่หมด555

นั่นซิอยากรู้เหมือนกัน ผู้รู้แบบไหนบอกหรอ ช่วยมาชี้แจงเหตุผลทีนะครับ
งั้นเอานี่ไปอ่านก่อนเผื่อจะเข้าใจ

  ؛
ตอบโดย อ.อาลี   เสือสมิง


นักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์ กล่าวว่า : การละหมาดตามหลังคนฟาซิกนั้นถือว่าใช้ได้ ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม แต่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) และเช่นกัน การละหมาดตามหลังผู้ประกอบอุตริกรรม (มุบตะดิอฺ) ซึ่งมิได้ตกศาสนา (กุฟร์) ด้วยการทำอุตริกรรมของตนนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) และการละหมาดนั้นใช้ได้ (เซาะฮฺ) แต่ถ้าหากผู้ประกอบอุตริกรรมนั้นตกศาสนา (กุฟร์) ด้วยการทำอุตริกรรม (บิดอะฮฺ) ของตน  ก็ถือว่าการละหมาดตามบุคคลเช่นนี้ใช้ไม่ได้เหมือนกับผู้ปฏิเสธทั่วไป


และส่วนหนึ่งจากผู้ที่ตกศาสนา (กุฟร์) นั้นคือผู้ที่กล่าวว่าพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) มีเรือนร่างเช่นมนุษย์อย่างชัดเจน และผู้ที่ปฏิเสธความรู้ของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในส่วนที่เป็นรายละเอียด ส่วนพวกมุอฺตะซิละฮฺ (ที่กล่าวว่าอัลกุรอานเป็นมัคลู๊ก) นั้น ท่านอัลกอฟฟาลและนักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์จำนวนมากกล่าวว่า : อนุญาตให้ละหมาดตามพวกเขาได้ อิหม่ามอันนะวาวีย์ (ร.ฮ.) ระบุว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และท่านอิหม่ามอัชชาฟิอีย์ (ร.ฎ.) ระบุว่า : ชาวสะลัฟและคอลัฟยังคงเห็นว่าให้ละหมาดตามหลังพวกมุอฺตะซิละฮฺและพวกที่เหมือนพวกเขาและมีการสมรสและรับมรดกตลอดจนการใช้หลักการทั่วไปกับพวกเขา (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน อัลมัจญ์มูอฺ ชัรฮุ้ลมุฮัซซับ ; อันนะวาวีย์ เล่มที่ 4 หน้า 150-151)


ส่วนการละหมาดตามหลังวะฮาบีย์นั้นถือว่าใช้ได้ (เซาะฮฺ) ลองคิดดูง่าย ๆ ว่า ถ้าการละหมาดตามหลังวะฮาบีย์ใช้ไม่ได้ คนที่ละหมาด ณ มัสญิดหะรอมทั้งสองแห่งจะเป็นเช่นไร? และนักเรียนไทยที่ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยอิสลามียะฮฺ นครม่าดีนะฮฺเป็นเวลาหลายปี ละหมาดของพวกเขาจะเป็นอย่างไร?



และวะฮาบีย์นั้นจริง ๆ แล้วคือผู้ที่สังกัดมัซฮับฮัมบะลีย์ และอะฮฺลุลหะดีษ ถือตามแนวทางของสะลัฟในเรื่องหลักความเชื่อ (อะกีดะฮฺ) พวกเขาเรียกตัวเองว่า “อัสสะละฟียะฮฺ” มิใช่ วะฮาบีย์ เพราะคำว่าวะฮาบีย์เป็นการใช้คำเรียกขานในแง่ลบและเป็นการโจมตีนั่นเอง! หากท่านอยากทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ลองสอบถาม ดร.อับดุลลอฮฺ หนุ่มสุข ดู อินชาอัลลอฮฺท่านจะได้รับความกระจ่างว่า แท้ที่จริงแล้ววะฮาบีย์เป็นใครกันแน่!


والله أعلم بالصواب

อ้างอิงจาก http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=96.0



ยาซากัลลอฮูค๊อยร๊อน   ท่านผู้รู้คับ  ได้รับความกระจ่างมากขึ้น

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด

และวะฮาบีย์นั้นจริง ๆ แล้วคือผู้ที่สังกัดมัซฮับฮัมบะลีย์ และอะฮฺลุลหะดีษ ถือตามแนวทางของสะลัฟในเรื่องหลักความเชื่อ (อะกีดะฮฺ) พวกเขาเรียกตัวเองว่า “อัสสะละฟียะฮฺ” มิใช่ วะฮาบีย์ เพราะคำว่าวะฮาบีย์เป็นการใช้คำเรียกขานในแง่ลบและเป็นการโจมตีนั่นเอง!
والله أعلم بالصواب

อ้างอิงจาก http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=96.0




การตั้งชื่อใหม่ขึ้นมาว่า "สะละฟียะฮ์" นั้นถือเป็นการตั้งชื่อที่บิดอะฮ์ ผิดเป้าหมายที่แท้จริง  เพราะบรรดานักปราชญ์ผู้มีคุณธรรมตั้งแต่ยุคสะลัฟจนถึงปัจจุบันนั้น  เขาไม่เคยตั้งแนวทางของตนว่า "สะละฟียะฮ์"


==>การตั้งชื่อมัซฮับ"สะละฟีย์"ปฏิมากรรมบิดอะฮ์ยุคใหม่ของวะฮาบีย์

การเรียกว่า "วะฮาบีย์"  จึงมิใช่เป็นการตำหนิ  เพราะอุลามาอ์วะฮาบีย์เองที่พอใจและเห็นชอบในการเรียกชื่อเช่นนี้  แต่บางคนปัจจุบันชอบยึดติดที่ชื่อ  ยึดติดยี่ห้อ  ขอให้เรียกชื่อกลุ่มตนเองให้ดีไว้ก่อน  ถือว่าเป็นการเข้าใจที่ผิด  เพราะสัจธรรมจะไม่พิจารณาที่ชื่อของแนวทาง  แต่ทว่าจะเน้นพิจารณาที่เนื้อหา  หลักอะกีดะฮ์  และหลักปฏิบัติ



==>อยากทราบจุดกำเนิดของวะฮาบี
==>ข้อเขียนของอาจารย์บางท่านที่ขัดกับซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
==>หลักอะกีดะฮ์ของอุลามาอ์มัซฮับฮัมบาลีย์


  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 04, 2010, 03:19 PM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ส่วนตัวผม ผมยังมองว่ากลุ่มวะฮาบีย์เป็นอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์ แต่ความเข้าใจในบางประเด็นทางอกีดะฮ์ รวมทั้งวิธีการไปสู่มันนั้น แม้จะแตกต่างกันอยู่มาก แต่คิดหากใครเปิดใจกว้างหน่อยก็จะมองเห็นมัน และการละหมาดตามหลังอิมามที่เป็นวะฮาบีย์นั้น ก็เช่นเดียวกับการละหมาดหลังอิมามที่ยึดมัฑฮับใดมัฑฮับหนึ่งจากทั้งสี่มัฑฮับทางฟิกฮฺของอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์ และมัฑฮับของมะมูม (ผู้ตาม) ในขณะละหมาด ก็คือให้ตามมัฑฮับของอิมาม (ผู้ถูกตาม) เป็นหลัก แม้ทั้งสองจะยึดคนละมัฑฮับก็ตาม เพราะอิมามมีไว้ให้มะมูมตามนั่นเอง - วัลลอฮุอะอ์ลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 :salam:

วะฮาบียะฮ์ยังมีสถานภาพเป็นมุสลิมอยู่  ก็ถือว่าละหมาดตาม(เซาะห์)ใช้ได้ครับ  

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 04, 2010, 03:59 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged