ผู้เขียน หัวข้อ: ควรตอบเขาอย่างไรดี  (อ่าน 1766 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
ควรตอบเขาอย่างไรดี
« เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 06:22 PM »
0

 :salam:

เพื่่อนมุอัลัลฟได้ถามผมว่า่ ทำไมพระเจ้าไม่สร้างมนุษย์ให้มีศาสนา(อิสลาม)เดียวกันทั้งหมด?
และเขาถามผมว่า แล้วศาสนาอื่นจากถูกสอบสวนในหน้าที่การงานบนโลกดุนยาเหมือนกับมุสลิมไหมในกุโบร์

ช่วยผมคิดคำตอบดีๆด้วยคับ

ญาซากัลเลาะฮฺ

ออฟไลน์ muzaheh

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 157
  • เพศ: ชาย
  • eVerything mUst Go...
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 06:41 PM »
0
รอผู้เชี่ยวชาญทางด้านวาทะ...
...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ...

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 07:39 PM »
0
แล้วศาสนาอื่นจากถูกสอบสวนในหน้าที่การงานบนโลกดุนยาเหมือนกับมุสลิมไหมในกุโบร์

แล้วสามคำถามที่จะถูกถามในกุโบร์ละ...

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 08:24 PM »
0

แล้วสามคำถามที่จะถูกถามในกุโบร์ละ...
[/quote]

สามคำถามนั้นคืออะรัยหรอ

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 08:29 PM »
0
:salam:
วอลัยกุมุสลาม วะรอฮฺมุตุลลอฮฺ

ผมขออณุญาติให้ความเห็น แล้วลองดูว่าพอจะใช้ได้ไหม


เพื่่อนมุอัลัลฟได้ถามผมว่า่ ทำไมพระเจ้าไม่สร้างมนุษย์ให้มีศาสนา(อิสลาม)เดียวกันทั้งหมด?
เพราะพระเจ้าต้องการจะทดสอบมนุษย์
พระเจ้าไม่ง้อมนุษย์ ไม่ว่ามนุษย์ทั้งหมดจะรวมกันแล้วไม่เคารพพระเจ้า ก็ทำอะไรพระเจ้าไม่ได้ หรือมนุษย์ทั้งหมดรวมกันแล้วเคารพพระเจ้า ก็ไม่ทำให้พระเจ้าดีขึ้น


และเขาถามผมว่า แล้วศาสนาอื่นจากถูกสอบสวนในหน้าที่การงานบนโลกดุนยาเหมือนกับมุสลิมไหมในกุโบร์
ใช่.. มนุษย์ทุกคนจะถูกสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใหนก็ตาม
เพราะ พระเจ้า เป็นเจ้าของมนุษย์ และบรรดามนุษย์ทั้งหมด มีเจ้าของเป็นพระเจ้าเหมือนกันหมด

วัสลาม
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 08:30 PM »
0
ผมรู้แต่เพียงว่า เวลาเราจะตอบคำถามเกี่ยวกับศาสนาแก่คนที่ไม่ใช่มุสลิมหรือมุอัลลัฟแรกเข้าเนี่ย
จะต้องให้คำตอบที่สนับด้วยหลักฐานทั้งนักลีและอักลีมิฉะนั้นเขาคงอาจจะเข้าใจยาก และคำตอบที่พูดออกไปนั้นจะต้องให้ง่ายที่สุดแก่การเข้าใจของเขา


almuminoon

  • บุคคลทั่วไป
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 09:01 PM »
0
:salam:

เพื่่อนมุอัลัลฟได้ถามผมว่า่ ทำไมพระเจ้าไม่สร้างมนุษย์ให้มีศาสนา(อิสลาม)เดียวกันทั้งหมด?
และเขาถามผมว่า แล้วศาสนาอื่นจากถูกสอบสวนในหน้าที่การงานบนโลกดุนยาเหมือนกับมุสลิมไหมในกุโบร์

ช่วยผมคิดคำตอบดีๆด้วยคับ

ญาซากัลเลาะฮฺ


อัสลามุอาลัยกุม  วาเราะมาตุลลอฮ

กับคำถามที่ว่า
 ทำไมพระเจ้าไม่สร้างมนุษย์ให้มีศาสนา(อิสลาม)เดียวกันทั้งหมด?

คำตอบ
1.ก็เพราะพระเจ้าได้ให้เป็นที่ทดสอบสำหรับบรรดามนุษย์ผู้ที่ใช้สติปัญญาในการคิดใคร่ครวญ เลือกว่า

ศาสนาใด คือศาสนาที่เที่ยงแท้ โดยไม่มีการบังคับในการนับถือและศรัทธา

โดยพระองค์ทรงสร้าง นรกและสวรรค์ พร้อมไปถึงการสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน เพื่อให้เป็นสนามทดสอบของมนุษย์ ในการที่จะให้มนุษย์นั้น ใช้สติปัญญาในการเลือกที่จะนับถือ และศรัทธาในศาสนาที่เที่ยงแท้

 โดยพระองค์ทรงส่งร่อซูลของพระองค์เพื่อเผยแผ่แนวทางที่ถูกต้องให้มนุษย์นั้นได้รับรู้และศรัทธา

ดั่งที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในซูเราะห์ อัลฟัตฮฺ (Al-fat-h)  อายะฮที่ 28 ซึ่งมีใจความว่า
28. พระองค์คือผู้ทรงส่งร่อซูลของพระองค์พร้อมด้วยแนวทางที่ถูกต้องและศาสนาแห่งสัจธรรมเพื่อพระองค์จะทรงให้ศาสนา (ของพระองค์) นั้นประจักษ์แจ้งเหนือศาสนาอื่นทั้งมวล และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน (*1*)  

(1)  พระองค์ได้ส่งมุฮัมมัดมาเป็นร่อซูลเพื่อเผยแผ่แนวทางที่ถูกต้อง และศาสนาที่เที่ยงแท้สัจธรรมคือศาสนาอิสลาม เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์เด่นชัดเหนือศาสนาอื่น ๆ แม้กระทั่งบทบัญญัติต่าง ๆ ที่มาจากฟากฟ้า เช่น เตารอฮฺ และอินญีล และเป็นการพอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยานให้ว่ามุฮัมมัดเป็นร่อซูลของพระองค์
และดั่งที่พระองค์ทรงตรัสไว้ใน ซูเราะฮฺ อัศศ็อฟ (As-Saff)  อายะฮที่ ๙ ซึ่งมีใจความว่า
9. พระองค์คือผู้ทรงส่งร่อซูลของพระองค์ด้วยการชี้นำทางและศาสนาแห่งสัจธรรมเพื่อพระองค์จะทรงให้ศาสนาอิสลามอยู่เหนือศาสนาทั้งมวล ถึงแม้พวกตั้งภาคีจะเกลียดชังก็ตาม (*1*)  
(1)  ชี้นำทางที่ถูกต้องแห่งมนุษยชาติและศาสนาอิสลาม เพื่อให้ศาสนาของพระองค์อยู่เหนือศาสนาอื่น ๆ และคงเหลืออยู่ศาสนาเดียว ถึงแม้การช่วยเหลือของพระองค์นี้จะเป็นเกลียดชังแก่พวกมุชรีกีนก็ตาม  
  http://www.alquran-thai.com/Showsurah.asp?SurahNo=48&AyahNo=28


ดั่งที่กล่าวมานั้น

    เมื่อพระเจ้า ได้ทรงสร้างนรกและสวรรค์ พร้อมไปถึงการสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน เพื่อให้เป็นสนามทดสอบของมนุษย์ ในการที่จะให้มนุษย์นั้น ใช้สติปัญญาในการเลือกกากบาทไปว่า อย่างไหนทำแล้ว จะได้ผลบุญ อย่างไหนทำแล้ว จะได้ผลบาป และอย่างไหน ทำไปแล้ว จะนำไปสู่นรกและสวรรค์
ก็ไม่มีเหตุผลอันใด หากการสร้างนรกและสวรรค์ของพระองค์นั้น พระองค์จะทรงให้อิสลามมีแค่ศาสนาเดียว และทุกคนที่มีอิสลามนั้น จะได้เข้าสวรรค์ของพระองค์ โดยที่ไม่มีมนุษย์คนไหน จะเข้านรกของพระองค์เลย
  
มันจะมีเหตุผลใดไหม ??

หากการสร้างนรกแล้ว แต่ไม่มีมนุษย์ที่ไม่ใช้สติปัญญาคนไหน จะไม่ได้พำนักอยู่ในนั้นเลย


(เหมือนดั่งที่ เราๆได้เข้าไปเรียนในโรงเรียน ศึกษาในมหาวิทยาลัย แล้วก็ศึกษาเรียน ตามหลักสูตรของโรงเรียนหรือมหาลัยนั้นๆได้กำหนดไว้ว่า จะต้องลงสนามสอบ เพื่อทำเท่านั้นเท่านี้ถึงจะได้ปริญญา หากทำแค่นี้ก็ไม่ได้ปริญญา ไม่จบตามหลักสูตรที่ถูกวางไว้

ซึ่งหาก โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ได้กำหนดว่า ทุกคนจะได้ปริญญาแน่นอน ทุกคนจะได้จบไปแน่นอน มันจะมีเหตุผลอันใดไหม หากจะต้องบรรจุหลักสูตร และวิธีการเรียนการสอน หรือให้เรานั้นได้ใช้สติปัญญาคิด ทุ่มเท เสียสละ และตระหนัก ขยันด้วยว่าจะต้องเรียนให้ได้เท่านั้น เท่านี้ถึงจะจบ หากทำเท่านั้น เท่านี้ก็ไม่ได้ปริญญา ไม่จบตามหลักสูตรที่ถูกวางไว้

มันจะมีเหตุผลอันใดหรือครับ ???  

หากการบรรจุหลักสูตร ว่าจะได้ปริญญา หรือไม่ได้ปริญญา จะต้องทำให้ได้เท่านั้น เท่านี้ แต่สุดท้ายแล้ว ทุกคนก็จบไป ทุกคนก็ได้รับปริญญากันหมด โดยปล่อยผ่านให้คนที่ขี้เกียจ ไม่เข้าเรียน ไม่ใช่ความคิดนั้นก็ได้ปริญญากับเค้าไปด้วย
------------------------


2.การที่พระองค์ทรงให้อิสลาม ไม่ใช่ศาสนาเดียวในโลก ก็เพราะอัลลอฮได้ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นเพศชาย และเพศหญิง และได้ให้แยกเป็นเผ่า และตระกูลเพื่อจะได้รู้จักกัน เพื่อให้มีการรู้จักกันปรึกษาหารือกัน และร่วมมือกันทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม


ดั่งที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในซูเราะห์ อัลหุญร๊อต (Al-Hujurat) อายะฮที่ 13 ซึ่งมีใจความว่า โอ้มนุษยชาติทั้งหลาย แท้จริงเราได้สร้างพวกเจ้าจากเพศชาย และเพศหญิง (*1*) และเราได้ให้พวกเจ้าแยกเป็นเผ่า และตระกูลเพื่อจะได้รู้จักกัน (*2*) แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลลอฮ.นั้น คือผู้ที่มีความยำเกรงยิ่งในหมู่พวกเจ้า (*3*) แท้จริงอัลลอฮ.นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

(1)  คือได้สร้างมาจากต้นกำเนิดเดียวกันคืออาดัมและเฮาวาอ.
(2)  ความแตกต่างระหว่างเผ่า ตระกูล และประชาชาติ หรือความแตกต่างทางภาษาคำพูด ผิวพรรณ ขนบธรรมเนียมประเพณีมิได้เป็นสาเหตุให้มีการแตกแยกเป็นศัตรูกัน แต่เพื่อให้มีการรู้จักกันปรึกษาหารือกันและร่วมมือกันทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม
(3)  คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์นั้น อัลลอฮ.เป็นผู้ทรงกำเนิดนั่นก็คือผู้ที่มีเกียรติที่สุด ณ อัลลอฮ.คือผู้ที่มีความยำเกรงพระองค์มากที่สุด ผู้ที่รักษาขอบเขตและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
http://www.alquran-thai.com/Showsurah.asp?SurahNo=49&AyahNo=13


วัลลอฮฮุอะลัม

วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 10, 2010, 09:03 PM โดย almuminoon »

almuminoon

  • บุคคลทั่วไป
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 09:07 PM »
0
ต่อคำถามที่ว่า

ศาสนาอื่นจากถูกสอบสวนในหน้าที่การงานบนโลกดุนยาเหมือนกับมุสลิมไหมในกุโบร์

หรือคำุถามที่ว่าผู้ที่ไม่เป็นมุสลิม ตายไปแล้ว ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์

ตอบ :  ผู้ที่ มิใช่มุสลิม  แบ่งออกเป็นสองกรณีดังนี้

          1. ผู้ที่หลักฐาน สัจธรรม ของอิสลาม ไปถึงเขาผู้นั้นอย่างครบถ้วน และเขาก็ยังจะปฏิเสธ คนผู้นี้ ที่อยู่ของเขาก็คือนรก


2. ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ (Al-Baqarah)


39. และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และไม่เชื่อบรรดาโองการของเรานั้น ชนเหล่านี้คือชาวนรก โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล

90. ชั่วช้าจริง ๆ สิ่งที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น คือการที่พวกเขาปฏิเสธสิ่งที่อัลลอฮ์ ได้ทรงประทานลงมา ทั้งนี้เพราะความอิจฉาริษยาในการที่อัลลอฮ์ทรงประทานส่วนหนึ่งจากความโปรดปรานของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ในหมู่ปวงบ่าวของพระองค์ ดังนั้นพวกเขาจึงนำความกริ้วโกรธซ้อนความกริ้วโกรธกลับไป (ยังพระองค์)(*1*) และสำหรับผู้ปฏิเสธการศรัทธานั้นคือการลงโทษอันต่ำช้า

(1)  นำความกริ้วโกรธหลายยคร้งหลายคราวที่อัลลอฮ์ทรงมีแก่พวกเขากลับไปหาพระองค์ ประหนึ่งว่าความกริ้วโกรธนั้นคือวัตถุที่สามารถถือหรือแบกได้ ซึ่งเป็นการยืนยันว่า พวกเขาจะต้องได้รับโทษแน่นอน


 2. ผู้ที่หลักฐาน สัจธรรม ของอิสลาม ไปไม่ถึงเขาูผู้นั้น ไม่ว่าจะเหตุใดก็ตาม เช่น  เค้าแก่ชราเกินที่จะรับรู้ หรือ ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับอิสลามเลย

หรือ อิสลามไปถึงแต่ไม่สมบูรณ์   เขาผู้นั้นจะโดนทดสอบ อีกครั้ง ณ วันตัดสินพิพากษา หากทดสอบผ่านก็จะได้เข้าสวรรค์

3. ซูเราะฮฺ อาละอิมรอน (Al-i-Imron)

161. และไม่ปรากฏแก่นะบีคนใดที่จะยักยอก(ทรัพย์เชลย) และผู้ใดยักยอกแล้ว เขาก็จะนำสิ่งที่เขายักยอกนั้นมาในวันกิยามะฮ์แล้วแต่ละคนจะได้รับการตอบแทนอย่างครบถ้วน ตามที่เขาได้แสวงหาไว้ โดยที่พวกเขาจะไม่ได้รับความอยุติธรรม


2.2 ผู้ที่เป็นมุสลิมแต่เพียงผิวเผิน ตายแล้วไปไหน ตกนรก หรือ ขึ้นสวรรค์อยู่กับองค์อัลเลาะห์

ตอบ :  ผู้ที่เป็นมุสลิม อย่างผิวเผิน และมี บาปมากกว่า ความดี  และ กระทำบาปใหญ่ โดยมิได้ กลับเนื้อกลับตัว ก่อนที่วิญญาณจะออกจากร่าง

เค้าผู้นั้นจะถูกทำโทษในนรก   จนกว่า จะชดใช้บาปที่ได้ทำหมด จากนั้น ก็จะถูกนำขึ้นสู่สรวงสวรรค์

 3. ซูเราะฮฺ อาละอิมรอน (Al-i-Imron)

89. นอกจากบรรดาผู้ที่สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวหลังจากนั้น และได้ปรับปรุงแก้ไข แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ


90. แท้จริงบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาหลังจากที่พวกเขาได้ศรัทธากัน แล้วยังได้ทวีการปฏิเสธศรัทธาขึ้นอีกนั้น การสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวของพวกเขาจะไม่ถูกรับเป็นอันขาด และชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่หลงทาง


91. แท้จริงบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาและพวกเขาได้ตายไปในขณะที่พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น ทองเต็มแผ่นดินก็จะไม่ถูกรับจากคนใดในพวกเขาเป็นอันขาด(*1*) และแม้ว่าเขาจะใช้ทองนั้นไถ่ตัวเขาก็ตาม(*2*) ชนเหล่านี้แหละสำหรับพวกเขานั้น คือการลงโทษอันเจ็บแสบและทั้งไม่มีบรรดาผู้ช่วยเหลือใด ๆ สำหรับพวกเขาด้วย

(1)  กล่าวคือหากพวกเขาบริจาคทองเต็มแผ่นดิน อัลลอฮ์ก็จะไม่ทรงรับจากเขา
(2)  คือสมมติว่าในวันกิยามะฮ์เขามีทองอยู่เต็มแผ่นดิน และต้องการจะไถ่ตัวเขาด้วยทองนั้นให้พ้นจากการลงโทษอัลลอฮ์จะไม่ทรงรับเช่นเดียวกัน


2.3 ผู้ที่เป็นมุสลิมอย่างแท้จริง ตายแล้วไปไหน ตกนรก หรือ ขึ้นสวรรค์อยู่กับองค์อัลเลาะห์


คำตอบ    ถ้า เป็น ผู้ศรัทธา และ กระทำความดี ( ถ้าศรัทธาแต่กระทำชั่วก็ต้องตกนรกก่อน) พระเจ้าทรงสัญญาสวรรค์ไว้ให้


18. ซูเราะฮฺ อัลกะฮฺฟฺ (Al-kahf)


2. เป็นคัมภีร์ที่เที่ยงธรรม(*1*) เพื่อเตือนสำทับถึงการลงโทษอย่างสาหัสจากพระองค์ และเพื่อแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่กระทำความดีทั้งหลายว่า สำหรับพวกเขานั้นจะได้รับรางวัลอันดีงาม (คือสวนสวรรค์)

(1)  ไม่มีข้อแตกแยกหรือข้อโต้แย้งใดๆ ไม่มีข้อบิดเบือนหรือหันห่างออกจากความจริง


3. เป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล

by สมาชิกกลุ่ม อัซซาบีกูน

อิสลาม.net

วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ

ออฟไลน์ tatcha_jah ~♪

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 341
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2010, 11:14 PM »
0

สามคำถามนั้นคืออะรัยหรอ

ใครคือพระเจ้าของท่าน

ใครคือนบีของท่าน

ใครคืออิหม่ามของท่าน

ชิมิ

 ???
ผู้ศรัทธาต่ออัลลอห์...ท้ายสุดจะได้ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในวันอาคิเราะห์

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธ.ค. 11, 2010, 12:31 AM »
0

สามคำถามนั้นคืออะรัยหรอ

ใครคือพระเจ้าของท่าน

ใครคือนบีของท่าน

ใครคืออิหม่ามของท่าน

ชิมิ

 ???

เคยเรียนตอนตาดีการู้สึกว่ามีเยอะกว่าสามข้ิอน่ะ เช่น ใครคือพี่น้องของเจ้า อะไรคือกิบลัติของเจ้า คัมภีร์ของเจ้า? เป็นต้น 

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธ.ค. 11, 2010, 12:35 AM »
0
ขอบคุณในคำตอบที่ตอบมาในเบื้องต้น แต่ก็ยังรอคำตอบจากทัศนะคนอื่นด้วยคับ

และนี้ก็เป็นอีกคำตอบหนึ่งที่ตอบโดย Dr Zakir Naik

http://www.youtube.com/watch?v=2D_qc58WCQw

ออฟไลน์ amad 254

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 176
  • Respect: +48
    • ดูรายละเอียด
Re: ควรตอบเขาอย่างไรดี
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธ.ค. 11, 2010, 03:40 AM »
0
อัสสลามุอลัยกุม ทุกท่าน ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นนะครับ
 การตอบคนที่ไม่ใช่มุสลิมนั้น บางทีจะเน้นหลักฐานมากไปก็ลำบากครับ เพราะเขาไม่ได้ศรัทธาในหลักฐานของอิสลาม ฉะนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปทางหลักฐานทางสติปัญญามากกว่า อักลี จริงๆแล้วศาสนาอิสลามนั้นคือความจริง อัลฮัก อยู่แล้ว เพียงมุสลิมนั้นต้องการเรียนรู้แค่ไหนเท่านั้นเองคือ ถ้าเรียนเฉพาะตัวเรายึดมั่นไม่ต้องอธิบายให้ใครฟังแล้ว ก็เรียนแค่ฟัรดูอีนพื้นฐาน แต่ถ้าต้องการรายละเอียดที่สามารถอธิบายสิ่งต่างๆภายในดุนยาและอาคิเราะห์นั้น ก็ต้องเพิ่มการเรียนรู้เข้าไปก็เรียกฟัรดูกีฟายะห์
     ถ้าเขาถามว่าทำไมพระเจ้าไม่สร้างมนุษย์มาให้นับถืออิสลามทั้งหมดหรือ
 ตอบ(ขั้นแรก)จริงๆแล้วพระเจ้าสร้างมนุษย์มาจาก 1 คู่คือ ชาย อดัม หญิง ฮาวา และทั้งคู่ก๊นับถือ
ศาสนาอิสลาม ถ้าเขาถามต่อว่ารู้ได้ไงว่ามนุษย์ทั้ง2เป็นอิสลาม ก็ตอบว่าแล้วใครจะสร้างรูปปั้นในเมื่อไม่มีมนุษย์ในหน้าแผ่นดินนอกจากทั้ง2  แล้วทั้ง2 ก็ศรัทธาต่อผู้ที่สร้างตนขึ้นมาคือพระเจ้า แล้วก็ถามกลับว่าเชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์ทั้งหมดในดุนยาเริ่มจากทั้ง 2 ถ้าเขาไม่แน่ใจ ก็ให้เขาลองคิดย้อนอดีตว่ามนุษย์ในอดีตสัก200-300ปี มนุษย์มีจำนวนเท่าไร มากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ ถ้าย้อนกลับไปนานๆหน่อยมนุษย์จะเหลือกี่คนให้เขากลับไปคิดดู แล้วถ้าเขาบอกว่ามนุษย์นั้นพัฒนาการจากลิง ก็ต้องถามต่อว่าการวิวัฒนาการนั้นใช้เวลากี่ปีสัก200-300ปีหรือมากกว่านั้นหรือเปล่า ไม่เคยได้ยินเลยบรรพบุรุษชนกลุ่มใดกล่าวว่ามาจากลิงแล้วไอลิงปัจจุบันเมื่อไหร่มันกลายเป็นมนุษย์ แล้วถ้าลิงวิวัฒนาการกลายเป็นมนุษย์ แล้วลิงในอดีตทั้งหมดก็ต้องกลายเป็นมนุษย์ทั้งหมด ไฉนยังมีลิงอยู่จนกระทั่งปัจจุบันละ? หรือคนวิวัฒนาการกลายเป็นลิงต่ออีกทอดหนึ่ง ?งง
 ตรรกกะทั้ง2 คือ  1  คนกำเนิดจากมนุษย์ 2 คนซึ่งพระเจ้าเป็นคนสร้าง
                     2   คนกำเนิดจากลิง       
  อันไหนน่าเชื่อถือกว่ากัน เพราะกำเนิดมนุษย์นั้นต้องมี ไม่ 1 ก็ 2 แต่อิสลามบันทึกไว้มีหลักฐานที่ชัดเจนยิ่งกล่าวว่า มนุษย์นั้นเกิดจากการสร้างของพระเจ้าเริ่มจาก 2 คนแล้วขยายไปเรื่อยๆตามกาลเวลา
 สรุปก็คือ เมื่อพระเจ้ากำเนิดมนุษย์จาก 2 แล้ว แล้วทั้ง2 ก็นับถือพระเจ้าองค์เดียวก็คือพระเจ้าผู้สร้างทั้ง 2 นั้นแหละ แล้วพระเจ้าองค์เดียวก็คืออิสลามนั้นแหละ ถ้าเขาย้อนกลับว่าคริสต์ และ ยิวก็นับถือพระเจ้าองค์เดียวเหมือนกัน ก็ตอบว่าใช่ถูกต้องที่สุดเพราะประวัติศาสนาทั้ง2 มนุษย์ก็กำเนิด เริ่มจากจุดเดียวกัน (ต่างกันแค่ประวัติการใช้ชีวิตของคนทั้ง2 เล็กน้อยเท่านั้น)แต่การแยกศาสนาช่วงหลังๆ หลังจากการสร้างมนุษย์ของพระเจ้า (รายละเอียดไว้คราวหน้านะครับเดี๋ยวจะยาว)
  ต่อหลัง(ขั้น2) มนุษย์ทั้ง 2 ได้ให้กำเนิดลูกหลานมามากมาย ก็มีผู้ที่เกเรไม่เชื่อฟัง พ่อ แม่ ปู่ย่า ตา ยาย ว่าให้นับถือพระเจ้าองค์เดียวเหมือนในปัจจุบันนั้นแหละ ก็พยายามสร้างการศรัทธาขึ้นมาใหม่ เริ่มแรกก็สร้างรูปปั้นแล้วก็ให้พี่น้อง พรรคพวกนับถือโดยกล่าวว่าจริงๆแล้วพระเจ้านั้นลงมาสถิตอยู่ในรูปปั้นแล้ว (จริงๆแล้วก็อิบลีสนั้นแหละหลอกลูกหลานอาดัมโดยการแปลงกายเป็นคนแก่ที่น่าเชื่อถือหลอกลูกๆนบียูสุป(อล)เมื่อนบียูสุป(อล) ได้สิ้นชีวิตลงให้ปั้นรูปเหมือนนบียูสุป(อล) สาเหตุเพราะนบียูสุปนั้นรูปงามมากแม้กระทั้งผู้ชายด้วยกันเองยังรู้สึกดีมากเมื่อได้เห็นนบียูสุป จนมีชื่อเสียงมาก ทำให้บรรดาชาวเมืองอื่นๆอยากเข้ามาดูท่านนบียูสุป(อล) เมื่อชาวเมืองอื่นๆเขามาขอพบขอเจอท่านนบียูสุป(อล) นั้นก็จะมีของบรรนาการติดไม้ติดมือ หนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่ฐานะของผู้มา ชาวเมืองที่ท่านนบียูสุป(อล)ปกครองอยู่ก็พลอยได้อนิสงค์ไปด้วยเหมือนนักท่องเที่ยวปัจจุบันนั้นแหละ 
  แล้วเมื่อท่านนบี(อล) ได้เสียชีวิตลูกๆก็ปิดข่าวแล้วประชุมเสนาบดีต่างๆ ว่าจะทำยังไงต่อดี เพราะในใจก็กลัวว่าถ้าข่าวออกไปแล้วจะไม่มีใครมาเยือนประเทศตน ช่วงนั้นอิบลีสก็มาในร่างชายชรา ก็แนะนำให้ปั้นรูปเหมือนแล้วให้ไว้บนคอย โดยสร้างเป็นห้องแล้วให้ปิดด้วยผ้าม่าน เมื่อผู้มาเยีอนก็ให้เปิดม่าน แรกๆ ก็ดู หลังๆก็ไหว้ ก็กราบ ที่แหละที่มาของรูปปั้น
  แต่จะกล่าวกับคนต่างศาสนาลำบากเพราะเขาไม่เชื่อหลักฐานตามเราสักเท่าไร )

 ก็กราบไหว้กันสุดท้ายก็กลายเป็นอีกศาสนาหนึ่ง บางพวกชอบอยู่แยกตัวเองออกไปอยู่ไกลๆจากผู้คน แรกก็นับถือพระเจ้าองค์เดียวหลังๆ หรือ ลูกหลาน เหลน นานๆเข้าเมื่อขาดความรู้ก็ ศรัทธา ดวงดาว ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ไฟ ต่างๆ นาๆ ก็แล้วแต่ใครมีจินตนาการแบบไหนก็ศรัทธาแบบนั้น
ทั้งหมดที่กล่าวก็คือเมื่อพระเจ้าได้สร้างมนุษย์ขึ้นมา ก็ให้สิทธิในการเลือกเฟ้น หรือเลือกที่กระทำสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวเอง เมื่อมนุษย์ทั้ง 2 ถูกกำเนิดมนุษย์ทั้ง 2 ก็รู้บุญคุณผู้สร้างก็คือพระเจ้า ก็เลือกที่จะศรัทธาผู้สร้าง แต่เมื่อมนุษย์หลังจากนั้นไม่ได้สัมผัสพระเจ้าโดยตรงก็เลือกที่ศรัทธาอื่นๆได้โดยอิสระ นั้นเอง โดยพระเจ้านั้นก็ส่งผู้ที่นำข่าวสารความเป็นจริงมาตลอดทุกยุคทุกสมัยว่าหากใครศรัทธาผู้สร้างคือพระเจ้าก็เท่ากับรู้บุญคุณไม่เนรคุณก็ตอบแทนสิ่งดีๆเช่นการได้เข้าสวรรค์ และหากใครเนรคุณก็ตอบแทนด้วยการให้ลงนรก เพราะพระเจ้านั้นยุติธรรมที่สุดอยู่แล้ว  แล้วก็ให้มนุษย์เลือกที่จะตามหรือศรัทธาโดยอิสระ
 คำถามต่อไปคือ แล้วศาสนาอื่นๆจะถูกสอบสวนเหมือนอิสลามหรือเปล่านั้น
ตอบ ครับใช่แน่นอนที่สุด เพราะมนุษย์ทุกคนถูกสร้างมาจากการสร้างของพระเจ้าในยุคเริ่มต้นมนุษย์ แล้วออกลูก ออกหลาน เหลน โหลน แต่ถ้ามีคำถามว่าพระเจ้าสร้างคน 2 คนเท่านั้นแล้วที่เหลือก็มาจากมนุษย์อย่างที่รู้กัน ก็ต้องบอกว่าแล้วการมนุษย์นั้นให้กำเนิดลุกๆ นั้นสามารถกำหนดได้หรือไม่อยากให้ออกมาเป็นแบบไหน เมื่อไหร่ควรจะให้กำเนิดดี จะให้หน้าตาเป็นแบบไหน อีกมากมาย ครับกำหนดไม่ได้ แล้วใครเป็นผู้กำหนดละ เมื่อพระเจ้าสร้างมนุษย์ 2 คนแรกพระเจ้าได้สอนสิ่งต่างๆไว้ด้วย ในนั้นรวมถึงการให้กำเนิดลูกหลาน ก็คือการสีบพันธ์ของมนุษย์นั้นเอง ฉะนั้นการกำเนิดลูกหลานนั้นก็เป็นบุญคุณของพระเจ้านั้นเอง
               

 

GoogleTagged