กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
สารบัญถามตอบปัญหาศาสนา
ฟอรั่ม
หน้าแรก
ค้นหา
ปฏิทิน
Contact
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
GoogleTagged
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
มุมนักศึกษาอะห์ลิสซุนนะห์วัลญะมาอะห์
»
นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
»
คุฏบะฮฺวันศุกร์
»
คุตบะห์มัสยิดฮารูณ วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2554
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: คุตบะห์มัสยิดฮารูณ วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2554 (อ่าน 5748 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bangmud
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
คุตบะห์มัสยิดฮารูณ วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2554
«
เมื่อ:
พ.ค. 06, 2011, 06:29 AM »
0
Tweet
คุตบะห์มัสยิดฮารูณ
วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2554
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพ
ซูเราะฮฺ อัน-นิซาอฺ 4:36
“และจงเคารพสักการะอัลลอฮฺเถิด และอย่าให้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์และจงทำดีต่อผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง และต่อผู้เป็นญาติที่ใกล้ชิด และเด็กกำพร้าและผู้ขัดสน และเพื่อนบ้านใกล้เคียง และเพื่อนที่ห่างไกลและเพื่อนคียงข้าง ผู้เดินทางและผู้ที่มือขวาของเจ้าครอบครอง แท้จริงอัลลอฮฺไม่ทรงชอบผู้ยโสผู้โอ้อวด”
อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา สั่งให้สักการะพระองค์เท่านั้น และทันทีหลังจากนั้น พระองค์สั่งให้ทำดีกับผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง จะเห็นได้ว่าอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ให้ความสำคัญในการทำดีกับผู้บังเกิดเกล้าทั้งสองอย่างมาก หลังจากนั้นจึงเป็นการทำดีต่อผู้เป็นญาติใกล้ชิด หลังจากนั้นจึงเป็นเด็กกำพร้า ลำดับต่อมาคือผู้ขัดสน ลำดับต่อมาคือเพื่อนบ้านใกล้เคียง ต่อมาคือเพื่อนที่ห่างไกลและเพื่อนเคียงข้าง ผู้เดินทางและผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ตามลำดับ ตามคำสั่งของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เราไม่สามารถตระหนี่หรือใช้ให้คนตระหนี่หรือไม่ปรนนิบัติอย่างพอเพียงกับบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงสั่งให้เราทำดีด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง
ซูเราะฮฺ อัลอิสรออฺ 17:23-24
“23:และพระเจ้าของเจ้าบัญชาว่าพวกเจ้าอย่าเคารพภักดีผู้ใดนอกจากพระองค์เท่านั้น และจงทำดีต่อบิดามารดา เมื่อผู้ใดในทั้งสองหรือทั้งสองบรรลุสูวัยชราอยู่กับเจ้า ดังนั้น เจ้าอย่ากล่าวแก่ทั้งสองว่า อุฟ และอย่าขู่เข็ญท่านทั้งสอง และจงพูดแก่ท่านทั้งสองด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน
24:และจงนอบน้อมแก่ท่านทั้งสองซึ่งการถ่อมตนเนื่องจากความเมตตาและจงกล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ทรงโปรดเมตตาแก่ท่านทั้งสอง เช่นที่ท่านทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันเมื่อเยาว์วัย”
ในกรณีที่ท่านทั้งสองบรรลุสู่วัยชรา การสนทนากับท่านทั้งสองต้องเป็นคำพูดที่อ่อนโยนเท่านั้น คำพูดที่ขู่เข็ญหรือแสดงความไม่เคารพเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงห้ามไว้ การขึ้นเสียงนั้นเป็นสิ่งซึ่งทำไม่ได้ อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ยังสั่งให้นอบน้อมถ่อมเนื้อถ่อมตัว และขอดุอาให้ท่านทั้งสองได้รับความเมตตาจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา บันทึกโดยอิมามบุคอรีและมุสลิมว่า “อับดุลลอฮฺ อิบนุ มัสอู้ด ได้ถามท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่า การกระทำอันใดที่อัลลอฮิ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงโปรดปรานเป็นที่สุด ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตอบว่า การละหมาดตรงตามเวลา เขาก็ถามต่อว่า แล้วหลังจากนั้นเล่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็ตอบว่า การทำดีต่อบุพการีทั้งสอง แล้วเขาก็ถามว่า แล้วหลังจากนี้ล่ะ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็ตอบว่า การทำญิฮาดหรือการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เคยสั่งให้ชายหนุ่มที่ต้องการออกไปต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ให้กลับไปดูแลผู้บังเกิดเกล้า เพราะมันเสมอเหมือนการทำญิฮาดเช่นกัน
ซูเราะฮฺ อัลอังกะบูต 29:8
“และเราได้สั่งเสียมนุษย์ให้ทำดีต่อบิดามารดาของเขา และถ้าทั้งสองบังคับเจ้าเพื่อให้ตั้งภาคีในสิ่งที่เจ้าไม่มีความรู้ เจ้าก็อย่าปฏิบัติตามเขาทั้งสอง ยังข้าคือการกลับของพวกเจ้า ดังนั้นข้าจะแจ้งแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้”
หน้าที่ของมนุษย์ก็คือต้องทำดีต่อบิดามารดาทั้งสอง หากในบางครั้ง หากพ่อแม่บังคับให้ลูกตั้งภาคี หรือร่วมในกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการตั้งภาคี ผู้เป็นลูกก็ยังคงต้องปรนนิบัติต่อพ่อแม่ด้วยดี แต่ไม่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้ตั้งภาคีเช่นนั้น เพราะอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงสั่งเราทำดีต่อบิดมารดาโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่การปฏิบัติตามคำสอนของบิดามารดามีข้อยกเว้น หากคำสอนนั้นผิดต่อพระบัญญัติของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา หรือผิดต่อคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สิ่งที่เราควรทำก็คือ ทำดีต่อพ่อแม่ต่อไป แต่ไม่ต้องทำกิจกรรมที่ผิด
สำหรับผู้ที่มีผู้บังเกิดเกล้าที่แก่ชราให้รู้ว่า การปรนนิบัติท่าน จะเป็นหนึ่งหรือสองท่านในวัยชรานั้น จะเป็นหนทางนำท่านเข้าสู่สวรรค์ของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลาในวันพิพากษา บันทึกโดยอิมามมุสลิม ว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้พูดว่า “ขอให้เขาได้รับความอัปยศ” (ได้พูดถึงสามครั้ง) ผู้ที่ได้มีโอกาสดูแลผู้บังเกิดเกล้าในยามชรา แต่ไม่ได้มีโอกาสเข้าสวรรค์ (ไม่ปรนนิบัติท่านดีพอ) ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นมุสลิมหรือไม่ หน้าที่ของลูกคือ ดูแลท่านด้วยความรักความเมตตา และเต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพ อิหม่ามบุคอรีและมุสลิมบันทึกว่า อัสมา บุตรสาวของอะบูบัคร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้พูดว่า “มารดาของฉันเดินทางจากมักกะฮฺมาที่มะดีนะฮฺ เพื่อมาหาฉัน ในขณะที่นางยังมิได้เข้ารับอิสลาม ฉันจึงถามท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่า มารดามาหาฉันและต้องการให้ฉันให้บางสิ่งกับเธอ ฉันควรทำตามหรือไม่ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตอบว่า ใช่ จงมีเมตตาต่อมารดาของเธอ”
การไม่เชื่อฟังต่อบิดามารดาที่เป็นมุสลิมและปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา นั้น เป็นบาปใหญ่ และอิหม่ามบุคอรีและมุสลิมได้บันทึกว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้พูดว่า “การด่าบิดามารดาของตนเป็นบาปใหญ่” บรรดาซอฮาบะฮฺ ได้ถามท่านว่า “โอ้ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา คนเราสามารถด่าพ่อแม่ของตนเองได้ด้วยหรือ” ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงตอบไปว่า “ได้สิ หากเขาว่าพ่อแม่คนอื่น ลูกของคนที่ถูกว่าก็จะสาปแช่งพ่อแม่ของเขาเป็นการตอบแทน”
ในกรณีที่บิดามารดาได้จากโลกนี้ไปแล้ว สิ่งที่ควรกระทำ นอกจากขอดุอา ให้อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงยกโทษให้กับพ่อแม่แล้ว ก็ควรจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับญาติสนิทของบิดามารดา และให้ความเมตตากับบรรดาเพื่อน ๆ ของท่านด้วย
อิหม่ามอะบูดาวูดได้บันทึกว่า มีชายคนหนึ่งได้มาถามท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมว่า ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ มีสิ่งใดบ้างที่ฉันควรทำเมื่อบิดามารดาของฉันเสียไปแล้ว ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตอบว่า ขอดุอาให้กับพวกเขา ขออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงยกโทษให้กับพวกเขา เติมเต็มในสิ่งที่เขาได้สัญญาไว้ และทำดีต่อญาติมิตรและเพื่อนฝูงของเขา
อิหม่ามมุสลิมได้บันทึกว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้พูดว่า “การกระทำที่ดีที่สุดอันหนึ่ง คือ การทำดีต่อบรรดาเพื่อน ๆ ของบิดามารดา หลังจากที่ท่านได้จากโลกนี้ไปแล้ว”
คัดลอกจากเอกสารเผยแพร่ของมัสยิดฮารูณ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
มุมนักศึกษาอะห์ลิสซุนนะห์วัลญะมาอะห์
»
นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
»
คุฏบะฮฺวันศุกร์
»
คุตบะห์มัสยิดฮารูณ วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2554
GoogleTagged
61190604
agc
com
คุตบ๊ะ
วัน
1355534169
สอง
ที่1
56643336
ศุกร์
58187178
59568121
google
cgu
search
คุ
bmk
41524429
กำพร้า
d2k