ทำไมต้องยึดติดที่ชื่อ "ซูฟี"

[Beechern]

Tweet

หากมั่นใจว่าทำตามแนวทางที่ถูกต้อง ก็เรียกว่าอะฮลุ้ลซุนนะฮฺไปเลย น่าจะดีกว่าไหมครับ ....จะได้ไม่ต้องไปใช้ชื่อร่วมกับกลุ่มผู้คนที่หลงผิด?
เพราะจากที่ว่า รักษาบ้านทั้งหลัง เพราะหน้าต่างบานเดียวที่พังนั้น มันจะกลายเป็นในขณะที่บ้านแหลกไปหมดแล้ว ...

จะกลายเป็นว่า บ้านทั้งหลังของซูฟีนั้นแหลกไปแล้ว เหลือเพียงหน้าต่างบานเดียว แห่ง sunnahstudent แห่งนี้ ... ที่ยังคง "ยึดไว้มั่น" ....

[al-firdaus~*]

 

หากมั่นใจว่าทำตามแนวทางที่ถูกต้อง ก็เรียกว่าอะฮลุ้ลซุนนะฮฺไปเลย น่าจะดีกว่าไหมครับ ....จะได้ไม่ต้องไปใช้ชื่อร่วมกับกลุ่มผู้คนที่หลงผิด?
เพราะจากที่ว่า รักษาบ้านทั้งหลัง เพราะหน้าต่างบานเดียวที่พังนั้น มันจะกลายเป็นในขณะที่บ้านแหลกไปหมดแล้ว ...

จะกลายเป็นว่า บ้านทั้งหลังของซูฟีนั้นแหลกไปแล้ว เหลือเพียงหน้าต่างบานเดียว แห่ง sunnahstudent แห่งนี้ ... ที่ยังคง "ยึดไว้มั่น" ....

ซูฟี  คือชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่หลงผิด ?
อืมมมมมมม ขนาดนั้นเรยหรอ ?
มั่นใจมากๆมั้ยค๊ะว่า พวกเค้าคือกลุ่มคนที่หลงผิด ?
ไปกล่าวหาเหมารวมเขาว่าเป็นกลุ่มคนที่หลงผิดแบบนี้  หากว่าพวกเขา
ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามคำสอนของอัลเลาะฮ์  อัลกุรอานและอัลฮาดิษ
โดยที่พวกเขาปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด ห่างไกลจากสิ่งที่ขัดต่อคำสั่งใช้ที่มีมาในทั้งสอง
ทุกๆคำพูดของพวกเขาได้เรียกร้องไปสู่จริยธรรมอันทรงเกียรติ ไปสู่ความกลัวเกรงอัลเลาะฮ์ตะอาลา
ไปสู่ความยำเกรง ความเมตตาปราณี และแสวงหาความพึงพอพระหทัยจากพระองค์

ทั้งหมดนี้   กล้าที่จะบอกว่า ซูฟีเป็นชื่อของกลุ่มคนที่หลงผิดเรยหรือ?
นาอูซูบิลละฮ์

[amad 254]

อัสลามุอลัยกุมครับ

ไม่รู้ท่าน beechern ลืมสิ่งตัวเองมั่นใจไปหรือยัง

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,6651.0.html

ผมอยากจะยืนยันนอนยัน (ทั้งๆทีอัลลอฮ์ยังไม่ประทานความสามารถในตอนนี้ให้ทำได้-ไม่ใช่ผู้รู้) ประกาศออกไปว่า :::
ซูฟีย์ตามแนวทางอัลกุรอานและซุนนะฮ์
คือแนวทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผม ในตอนนี้ครับ (ขออัลลอฮ์ทรงคุ้มครอง-อามีนยารอบบีย์)(อ้างจาก beechern เมื่อ 12 เมษา 2554)

ผมไม่รู้จะกล่าวอะไร แต่ก็สมควรยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและแน่วแน่แล้ว ก็เดินไปตามนั้น ถ้าท่านไม่มั่นใจในแนวทาง ที่กล่าวขานว่า ซูฟีย์ ก็ เลือกเดินตามทางที่ท่านคิดว่าดีกว่า และมั่นใจกว่าก็ตามนั้นไป แต่ถ้าจะกล่าวว่า แนวทาง ซูฟีย์ นั้น หลงผิด ก็คงไม่เป็นธรรมนัก หากผู้คนทั่วไปได้ยิน อย่างน้อยๆท่านนั้นเข้าใจแนวทาง ซูฟีย์ ดีแล้วกระนั้นหรือ เปล่า?  
       แต่ผมไม่ได้หมายความว่า เมื่อท่านได้กล่าวว่า ซูฟีย์ เป็น กลุ่มที่หลงทาง แล้ว บรรดาชาวซูฟีย์ทั้งหลายจะกระทบกระเทือน แต่กลับกัน ยิ่งเพิ่มความบริสุทธ์ให้แก่บรรดาชาว ซูฟีย์ทั้งหลายเมื่อกาลเวลาผ่านไปแล้วมัน(เวลา)จะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง

  ผมเองก็ไม่ใช่ผู้มีความรู้อะไรมากมายนัก(ด้านศาสนา) แต่ความรู้ทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวผมนั้น ผมสามารถบอกได้ว่าไม่มีทางไหนที่ดีกว่าแนวทางนี้เลย(แล้วแต่วิจารณญานแต่บุคคล) สุดท้ายก็อยากจะแนะนำ เสมือนพี่น้องกัน ถ้าท่าน beechern คิดว่าแนวทางที่ท่านกำลังคิดว่าถูกต้องแน่นอนแล้ว(ผมคิดว่าผมเดาออก) ท่าน beechern ก็จงเดินตามนั้นอย่างมั่นคงและมั่นใจเถิด อย่างน้อย อามาลที่ทำ ก็ไม่เกิดความสงสัย(ว่าถูกหรือเปล่า) เมื่อทางนำ เป็นสิทธิของพระองค์อัลเลาะห์(ซบ)แต่ผู้เดียวนั้น ผมก็เพียงได้แต่ขอดุอาให้ ทุกๆคนรวมถึงตัวเอง อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องเท่านั้น ส่วนทางไหนถูกต้องที่สุดก็แล้วแต่ความรู้(ของแต่ละคน)และฮิดายะห์(ทางนำ)จากพระองค์อัลเลาะห์(ซบ)เท่านั้น อย่าได้กล่าวร้ายแก่กันและกันเลย คำกล่าวร้ายต่างๆนั้น ถึงแม้จะเป็นจริงก็ไม่สมควรหรือเสมอตัวเท่านั้น(กรณีที่กล่าวเพื่อป้องกัน) แต่ถ้าไม่เป็นจริงตามนั้นผลร้ายก็คงไม่ไปไหนไกลนัก(อาจจะเข้าตัว)ก็ได้ จริงไหมครับ ?(ผิดพลาดประการใด ขอมาอัฟล่วงหน้านะครับ)  วัสลามครับ    

[WIND]

ทั้งหมดนี้   กล้าที่จะบอกว่า ซูฟีเป็นชื่อของกลุ่มคนที่หลงผิดเรยหรือ?

ผมเคยอ่านเจอ ในหนังสือศาสนาที่เป็นภาษาไทยแต่จำไม่ได้ว่าหนังสืออะไร  ซึ่งกล่าวถึงซูฟีย์ไม่ค่อยจะดีนัก

ถ้าคนที่ไม่เคยรู้แนวทางซูฟีย์ ก็จะฝังความคิดเลยว่า ซูฟีย์ ไม่ดี

เรียนโดยไม่มีคนสอน อันตรายจริงๆ

[ฮุ้นปวยเอี๊ยง]

حكم ابن عطاء الله السكندري الصوفي

ท่านอ่านหิกั่มใช่หรือไม่ พาไปเผาซะ ไม่ต้องซื้อมาอ่านด้วย
เพราะท่านอิบนุอะตออิลละห์มาจากกลุ่มหลงผิด ท่านยึดถือแนวทาง ซูฟีย์ ตอรีเกาะห์ชาซุ้ลลียะห์
บรรดาอุลามาอ์เขาปลื้มปิติยินดีมากหากมีคำว่าซูฟีย์คำสูงส่งคำนี้อยู่ที่ชื่อของพวกท่าน
โปรดระวังน่ะซัลซีละห์ (สายโซ่) แต่ละตอรีเกาะห์ซูฟีย์สืบถึงท่านนาบี (ซล) ทั้งนั้น !!!

[บาชีร]

ให้เข้าใจแบบง่ายๆ คำว่าซูฟี หมายถึงผู้ที่เชี่ยวด้านวิชา ตะเซาวุฟ การขัดเกลาจิตใจ

เหมือนกับผู้ มุฮัดดิษคือ ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านหะดีษ

ฟะกีฮฺ ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านฟิก

มันคือชื่อนะครับ อย่าไปคิดอะไรมาก

[al-azhary]

หากมั่นใจว่าทำตามแนวทางที่ถูกต้อง ก็เรียกว่าอะฮลุ้ลซุนนะฮฺไปเลย น่าจะดีกว่าไหมครับ ....จะได้ไม่ต้องไปใช้ชื่อร่วมกับกลุ่มผู้คนที่หลงผิด?
เพราะจากที่ว่า รักษาบ้านทั้งหลัง เพราะหน้าต่างบานเดียวที่พังนั้น มันจะกลายเป็นในขณะที่บ้านแหลกไปหมดแล้ว ...

จะกลายเป็นว่า บ้านทั้งหลังของซูฟีนั้นแหลกไปแล้ว เหลือเพียงหน้าต่างบานเดียว แห่ง sunnahstudent แห่งนี้ ... ที่ยังคง "ยึดไว้มั่น" ....

หากเรามุ่งเน้นแต่ชื่อ  แต่ไม่มุ่งเน้นในเนื้อที่แท้จริง  เราก็อาจจะมีความสับสนเพราะไปรับฟังและรับรู้จากผู้ที่ไม่เข้าใจซูฟีย์หรือตะเซาวุฟอย่างแท้จริงก็เป็นได้นะครับ

ท่านซัยยิดี  ชัยคุลอิสลาม อัลอิหม่าม  อับดุลกอดิร อัลญีลานีย์  กล่าวว่า

اَلْمُتَصَوِّفُ الْمُبْتَدِيْ وَالصُّوْفِيُّ الْمُنْتَهِي، اَلْمُتَصَوِّفُ الشَّارِعُ فِيْ طَرِيْقِ الوُصْلِ وَالصُّوْفِيْ مَنْ قَطَعَ الطَّرِيْقُ وَوَصَلَ إِلَي مَنْ إِلَيْهِ الْقَطْعُ وَالوَصْلُ

“คนที่มุตะเซาวิฟ(สนใจตะเซาวุฟ) คือผู้เริ่มต้น  ส่วนคนศูฟีย์   คือผู้สุดเส้นชัยแล้ว,  คนมุตะเซาวิฟ  คือคนที่เข้ามาในหนทาง(เฏาะรีก)แห่งการเชื่อมสัมพันธ์(ต่ออัลเลาะฮ์)  ส่วนศูฟีย์นั้น  คือผู้ที่ผ่านเส้นทางและเชื่อม(ผูกพัน)กับอัลเลาะฮ์แล้ว” [อัลฆุนยะฮ์ 606]  

ดังนั้นปัจจุบันมีบุคคลมากมายที่ชอบตะเซาวุฟและบางทีเข้ามาอยู่ในหนทางของเฏาะรีเกาะฮ์  แต่นั่นเป็นเพียงแค่เข้ามายืนใบสมัครเพื่อเข้ามาอยู่ในเส้นทางที่จะไปสู่ความพึงพอพระทัยของอัลเลาะฮ์เท่านั้น  แต่เขายังไม่สำเร็จหรอก  เพราะเพียงแค่อยู่ระหว่างทาง  บางคนหรือบางกลุ่มที่ชอบตะเซาวุฟหรือเข้ามาอยู่ในทาง  ก็เดินแบบออกนอกลู่นอกทาง  ไม่อยู่ในร่องในรอย  กลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีก็ทำการโจมตี  แล้วโพทนาว่า  นี่คือพวกซูฟีย์ที่อุตริและหลงผิด  แต่ผมขอบอกกันตรงๆ ว่า  พวกเหล่านั้นไม่ใช่ซูฟีย์  แต่เป็นพวกที่สนใจอยากเป็นซูฟีย์(มุตะเซาวิฟ)เท่านั้น

ฉะนั้นคนที่อยู่ในแนวทางเฏาะรีเกาะฮ์  ไม่ใช่จะเป็น “ศูฟีย์” กันทุกคน  เพราะซูฟีย์ที่แท้จริง  ต้องรู้หลักชาริอะฮ์(หลักฟิกห์หรือหลักปฏิบัติอะมัล), ต้องรู้หลักอีหม่านที่เข้มแข็ง, และมีหลักเอี๊ยะห์ซาน(หลักตะเซาวุฟหรือคุณธรรม)อย่างเชี่ยวชาญ  เขาก็จะมีจิตใจเชื่อมอยู่กับอัลเลาะฮ์ด้วยการรำลึกพระองค์อย่างสม่ำเสมอและไม่ลืม

ฉะนั้นซูฟีย์คือผู้ที่ตามซุนนะฮ์ของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อย่างแท้จริงและตามซุนนะฮ์นะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในระดับที่สูง  ซึ่งแนวทางอื่นไม่สามารถตามซุนนะฮ์ท่านนะบีย์เหมือนกับซูฟีย์ได้เลย  ไม่ว่าจะเป็นพวกชีอะฮ์หรือวะฮาบีย์

มีพี่น้องถามว่า  “อาจารย์แนวทางใดที่อาจารย์คิดว่าตามซุนนะฮ์ของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มากที่สุด”  ผมตอบว่า “หากการตามซุนนะฮ์นะบีย์ที่เผยออกมาทำลมปากนั้น  ใครๆ ก็พูดและปราศัยบทเวทีกันได้ว่าพวกตนคือพวกที่ตามซุนนะฮ์นะบีย์อย่างแท้จริง  แต่แนวทางที่ตามซุนนะฮ์นะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อย่างแท้จริงนั้น  ก็คือแนวทางใดก็ได้ที่เราปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮ์แล้วหล่อหลอมให้เรามีจิตใจความผูกพันและซิกิร(รำลึก)ต่ออัลเลาะฮ์มากที่สุด  นั่นแหละคือแนวทางที่ตามซุนนะฮ์นะบีย์มากที่สุดและแท้จริง

เพราะอัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

وَلَا تَكُنْ مِنَ الْغَافِلِينَ

“และเจ้าอย่าเป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่หลงลืม(อัลเลาะฮ์)” [ 225 อัลอะร็อฟ]

ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า

كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَذْكُرُ اللَّهَ عَلَى كُلِّ أَحْيَانِهِ

“ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ทำการรำลึกถึงอัลเลาะฮ์ในทุกๆ ขณะ” รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม

นั่นคือคำสั่งของอัลเลาะฮ์และเป็นซุนนะฮ์สุงสูดของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งเป็นซุนนะฮ์นะบีย์ที่ผมปรารถนาจะให้มีก่อนเจ็บป่วยใกล้ตายเป็นอย่างน้อย  แล้วแนวทางใดบ้างที่ทำให้เราตามซุนนะฮ์นะบีย์เฉกเช่นนี้ได้อย่างแท้จริง  แล้วผมศึกษาค้นคว้ามาหลายแนวทาง  ซึ่งไม่มีแนวทางใดที่จะทำให้ตามซุนนะฮ์นะบีย์ระดับสูงนี้ได้นอกจากแนวทางของซูฟีย์ที่แท้จริง”  

อะมัลอิบาดะฮ์ที่ปฏิบัติแล้วมีดุนยา(คือหัวใจสิ่งอื่นจากอัลเลาะฮ์) มีความโอ้อวดและลำพองตนนั้น อัลเลาะฮ์ตะอาลาจะไม่ทรงตอบรับฉันใด  หัวใจที่มีดุนยา  พระองค์ก็จะไม่หันมาสนใจและไม่ให้ความโปรดปราน และเมตตา  เราฉันนั้น

ท่านอิหม่ามอัลฆ่อซาลีย์  ได้กล่าวไว้ในหนังสือเอี๊ยะห์ยาอุลูมิดดีน  ในความหมายที่ว่า

مَنْ لَمْ يَكُنْ لَهُ نَصِيْبٌ مِنْ هَذَا الْعِلْمِ أَخَافُ عَلَيْهِ سُوْءَ الْخَاتِمَةِ

“ผู้ใดที่ไม่มีส่วนได้รับจากวิชานี้  ฉันกลัวเหลือเกินว่าเขาจะมีวาระสุดท้ายของชีวิตที่เลวร้าย”

[Beechern]

@amad 254   ^^ ผมยังยืนยันเหมือนเดิมครับ

#####

ขออัลลอฮ์ตอบแทนอ.อัซฮารีและพี่น้องทุกท่านครับ
สาเหตุที่ถาม ทั้งนี้เพราะตัวเองก็ยังอยากรู้คำตอบ จึงใช้ว่าตัวเองนั้นถามดีที่สุด ....

มนุษย์ล้วนเป็นผู้ทำผิด ... บางทีเรื่องที่ผิดก็เป็นเรื่องง่ายๆ ..
"ซูฟีอันบริสุทธิ์" ก้อยังคงเป็นวิถีทางที่ปลอดภัย เพื่อมุ่งไปสู่ "มุฮฺซิน" อยู่ดี ....... วัลลอฮุอะอฺลัม

การเรียนรู้จากวิถีแห่งซูฟี สำหรับผมแล้วถือเป็นสิ่งที่ฉลาด เพราะจะได้ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกมากมาย
เพียงนำแบบอย่าง พร้อมความรู้ มาฝึก มาลองปฏิบัติ เพื่อใช้จริงในชีวตประจำวัน ....

[Al Fatoni]

ยังงัยก็ค่อยๆ ศึกษาและอ่านไปนะครับคุณบีเฉิน สงสัยอะไรก็มามาละกัน - วัสสลามุอลัยกุม

[Beechern]

ติดลบตรึม -*- กลายเป็นคนแปลกหน้า เป็นอะไรที่ประหลาด อย่างนั้นหรือ ?!? 

[As-Zaleek]

นี่แหละครับ  หากท่านบีเฉิน ไม่ถามด้วยตัวเอง...ก็อาจจะไม่ไ้ด้คำตอบยาวๆ ของบังอัลอัซฮะรีย์ แบบนี้...แสดงว่าสำคัญไม่ใช่เล่น..

[amad 254]

ติดลบตรึม -*- กลายเป็นคนแปลกหน้า เป็นอะไรที่ประหลาด อย่างนั้นหรือ ?!? 

อัสสลามุอลัยกุมครับ

คงไม่ถึงขนาดเป็นคนแปลกหน้าหรอกครับ  ท่านก็ยังเป็นเพื่อนๆ พี่น้องของสมาชิกในเว็ปนี้เหมือนเดิม 
เป็นธรรมดาที่บางครั้ง เราก็สับสนในแนวทางที่ตัวเองเลือกเดิน เพราะสังคมพาไปหรือ ได้ข้อมูลมาใหม่เลยทำให้สิ่งที่เคยมั่นใจกลายเป็นไม่มั่นใจ

เวลายังมีเหลือให้ศึกษาอีกมาก หลายปี ก็ขวนขวายศึกษา(ศาสนา)เพื่อค้นหาแนวทางของตัวเองที่คิดว่าถูกต้อง ที่มั่นใจเกินร้อย แล้วก็ไปตามนั้น
ฉะนั้นทำตามที่ตัวเองมั่นใจเถอะครับ อย่างน้อยก็ช่วยทำให้อามาลที่เราทำไม่อยู่ความสงสัย (ว่าถูกหรือเปล่า) ขอดุอาให้มากๆ(ถ้าอยู่ในช่วงสับสน)

บางทีแนวทางของศาสนาก็มีหลายแนวทาง(แล้วแต่ทัศนะของแต่ละคน) คงต้องใช้เวลาพอสมควรในการศึกษาเพื่อค้นหาแนวทางที่ตัวเองคิดว่าถูกต้องที่สุด หรือ บางครั้งแนวทางที่เราคิดว่าถูกต้องที่สุด บางทัศนะอาจฮูก่ม (ตัดสิน)ว่าผิด และผิดมากก็ได้ แต่แค่อย่าลืมว่า
พระองค์อัลเลาะห์(ซบ)นั้นคือผู้ตัดสินชี้ขาดแต่พระองค์เดียวเท่านั้น  ฉะนั้นความอิศลาศ(บริสุทธิใจ) เพื่อพระองค์อัลเลาะห์(ซบ)(ในทุกการกระทำ)แล้วมีหวังในความเมตตาของพระองค์อัลเลาะห์(ซบ) ที่จะเมตตาบ่าวที่ต่ำต้อยเช่นเรา เพื่อพระองค์นั้นจะพอพระทัยในตัวเราแล้วทรงตอบแทนแต่สิ่งดีๆที่พระองค์ทรงสัญญาแก่ผู้ที่พระองค์ทรงรัก ย่อมดีกว่า การฟังคำตัดสินของผู้คนต่างๆ(ว่าตกนรกหรืออื่นๆ) ไม่ใช่หรือ?

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ แค่สิ่งเดียวอย่าได้ทิ้งไปคือ การศึกษา ด้านศาสนา(พร้อมๆกับการกระทำ) และอย่าได้ท้อใจนะครับ 
วัสลามครับ
 

[Beechern]

วะอะลัยกุมุสลาม วะรอฮ์มะตุลลอฮ์ วะบะรอกาตุฮฺครับ

[บาชีร]

บังบีเฉิน ที่เขียนไปคงจะแค่อยากรู้ว่าที่มีคนกล่าวแบบนี้แล้วเราจะตอบเช่นไร

[nada-yoru]

อัสลามุอะลัยกุม


...กระทู้นี้ดี...ขอขุดนะคะ...

เพราะชีวิตที่ผ่านมาคิดมาตลอดค่ะว่า...
เราจะทำอย่างไรให้ได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺให้มากที่สุด
รู้มาตลอดว่าการได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺนั้นเป็นสุดยอดของมนุษย์
แต่ไม่รู้วิธีการ...ไม่รู้ต้องทำอย่างไรบ้าง...
อยากได้วิธีการที่เป็นรูปธรรม สามารถฉายภาพให้เห็นได้ชัดเจน
จึงเฝ้าศึกษา...ตอนเรียนศาสนา เป็นคนนึงที่ชอบวิชาฟิกฮ์
กับตะเซาวุฟมากๆ...วิชาอื่นก็ชอบ แต่ชอบสองวิชานี้เป็นพิเศษ
และเวลาทำข้อสอบก็ทำได้เกือบเต็มร้อย...เพราะเรารู้สึกชอบ
จึงหมั่นอ่านเป็นพิเศษ...

ซ้ำยังรู้สึกมาตลอดว่า ทุกๆวิชาที่ร่ำเรียนมานั้น
หัวใจของแต่ละวิชาล้วนสอนให้เรารู้จักกับอัลลอฮฺ
รู้จักวิธีทำอาม้าลอิบาดะฮฺ...
แต่สำหรับตะเซาวุฟ เป็นวิชาที่สอนวิธีให้เราได้รู้จักใกล้ชิดอัลลอฮฺ
เป็นวิชาที่สอนวิธีทำอาม้าลอิบาดะฮฺให้อร่อยขึ้น...

หากจะเรียนศาสนา ก็ต้องเรียนมันทุกวิชาค่ะ...
แต่จะชอบอะไรเป็นพิเศษนั้น ก็คงขึ้นอยู่กับเรา...

หากกลัวว่าจะหลงทาง...ข้าน้อยว่ามีสัญญาณนึงค่ะที่จะส่งเสียง
เตือนเราตลอดว่า ตอนนี้เรากำลังเดินอยู่ตรงไหน...
นั่นคือ...สภาวะของการรำลึกถึงอัลลอฮฺค่ะ...
หากเรายังคงรำลึกถึงพระองค์อยู่ สัมผัสได้ถึงพระองค์
และยังคงอยู่ในการปฏิบัติอาม้าลอิบาดะฮฺต่อพระองค์อยู่
ก็อย่าได้หวั่นไหวเลยค่ะ...ฝากกายและหัวใจไว้กับอัลลอฮฺ
พระองค์จะปกป้องมันด้วยประสงค์ของพระองค์...

เพราะมนุษย์สามารถแบ่งเนื้อหาในศาสนาเป็นชื่อวิชาต่างๆได้
เพื่อจะได้สะดวกในการสอน....

แต่เป้าหมายหลักของศาสนาเรา เรามุสลิมทุกคนต่่างทราบกันดี
เพราะเราต้องการเป็นที่รักของอัลลอฮฺ...

อะไรที่จะเป็นการทำให้เป็นที่รักของอัลลอฮฺได้...
เราก็พร้อมและพยายามจะทำการศึกษาและปฏิบัติ
หากทำไปแล้วรู้สึกว่าห่างไกลอัลลอฮฺจนสัมผัสไม่เจอ
ก็ต้องลองศึกษาแนวทางอื่นดูอีกค่ะ...

เพราะหากอัลลอฮฺไม่ให้หลง...อินชาอัลลอฮฺ...เราจะไม่หลง...
ฮิดายะฮฺ(ทางนำ)เป็นของอัลลอฮฺ....

จะกลัวไปใย ในเมื่อเรายังอยู่กับการศึกษาหาความรู้
เรายังคงเป็นนักศึกษาอยู่....

ไม่ว่าซูฟีย์จะแปลว่าอะไรหรือถูกมองอย่างไร
แต่ข้าน้อยก็ชอบที่จะอ่านและศึกษาวิชาตะเซาวุฟ
และนำไปปฏิบัติ...เพราะรู้สึกได้ว่าเราเริ่มผูกพันธ์อยู่กับอัลลอฮฺ
มากกว่าแต่ก่อน ที่เพียงแค่ทำอาม้าลอิบาดะฮฺแบบฉาบฉวย
ด้วยไม่รู้น่ันเอง...

ไม่รู้จะเปรียบกับอะไร
แต่ด้วยประสบการณ์ขอเปรียบกับการปรุงอาหารนะคะ...

เราอาจจะทำอาหารได้ รู้ว่าถ้าทำอาหารเมนูนี้จะต้องใส่อะไรบ้าง
แต่เคล็ดลับที่จะทำให้มันอร่อยได้นั้น เราต้องเรียนรู้และฝึกฝนค่ะ...
จะฝึกฝนหรือเรียนรู้จากไหนดี...เราก็ต้องมองหาว่า...
ใครทำอาหารอร่อย...เมื่อเจอเราก็ไปฝากตัวเป็นศิษย์ให้เขาสอนให้
แล้วก็พยายามตั้งใจทำ...เมื่อฝึกฝนหัดทำแล้ว ก็ใช่ว่าเราจะทำได้
เอร็ดอร่อยเท่าครูของเรา ซึ่งมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์
และความชำนาญค่ะ...หากเราอยากให้อาหารที่เราทำเอร็ดอร่อย
เราก็ต้องหมั่นทำอย่างใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง...เช็คความอร่อย
ของอาหารที่ทำอยู่ตลอด...แล้วก็ตั้งใจทำอย่างดี...
อินชาอัลลอฮฺ...อาหารของเราจะอร่อย...ดังที่ตั้งใจและพยายาม
มาตลอด...ที่อร่อย ไม่ใช่เพราะฝีมือเรา แต่เป็นเพราะอัลลอฮฺ
พอใจให้เราทำออกมาให้อร่อย...และเราก็จะได้สัมผัส
ถึงอำนาจนั้นอย่างชัดเจน เมื่อเราเป็นคนนึงที่อดทน...
และพยายามปฏิบัติจนถึงที่สุดอย่างไม่ย่อท้อ...
และวันใดที่เราขี้เกียจ อาหารของเราก็จะกลับมาไม่อร่อย...
แบบขึ้นๆลงๆ แต่สำหรับผู้ที่มีความชำนาญแล้วหรือมีความเป็น
มืออาชีพแล้วนั้น เขาจะสามารถควบคุมความอร่อยของอาหาร
ที่ทำได้ เพราะเขาข้ามผ่านเส้นทางดังกล่าวไปได้แล้ว...
เขาผ่านโปรแล้ว...

เคยได้ยินมั้ยคะที่ว่า....

คนที่ทำอาหารอร่อยได้อย่างสม่ำเสมอนั้น...
แสดงว่าคนๆนั้นสามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตัวเองได้ดี...

ข้าน้อยเลยอยากบอกว่า...ผู้หญิงที่ทำอาหารได้อร่อยอย่างสม่ำเสมอ
เป็นผู้หญิงที่ผู้ชายไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ...

หากไม่เชื่อ...ลองพิจารณาดูได้ค่ะ...
คนที่ฝีมือการทำอาหารนิ่ง หัวใจจะนิ่ง(ไม่ผันผวน)ด้วย...

หากผิดไปจากนี้ ข้าน้อยก็ขออภัยด้วย
เพราะเป็นคนนึงที่ยังฝึกฝนการทำอาหารให้อร่อย
อย่างสม่ำเสมออยู่ค่ะ...แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จจริงๆเสียที...
ติดๆดับๆอยู่ค่ะ...

หากการเปรียบเทียบดังกล่าวไม่เหมาะสมหรือมีอะไรที่น่าติติง
ก็แนะนำกันได้เสมอนะคะ...


วัสลามค่ะ