อัลหัมดุลิลลาฮฺ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ beechern
วะอะลัยกุมุสลาม วะรอฮ์มะตุลลอฮ์ วะบะรอกาตุฮ์
ผมเคยสรุปประเด็นเรื่องนี้กับพี่น้องผู้ใจดีท่านนึง ที่เคยทำธุรกิจแบบนี้มาก่อน แล้วเข้าหาผู้รู้หลายๆครั้งหลายท่านด้วยความหวังจะได้รับคำตอบ ท่านสรุปให้ผมฟังดังนี้ครับ
1. สินค้าในเครือข่าย จะมีบางอย่างที่เป็น haram เราไม่ได้ขาย แต่ถ้าคนอื่นขาย เราก็จะได้ปันผล ผลลัพธ์คือ เป็นชุบฮาต
2. เป็นชุบฮาต ทำแล้วถ้าฮะรอม จะลงก็จะลงที่เรา แต่หากเราชวนคนอื่นทำ เราก็ชวนคนอื่นทำชุบฮาตด้วย
(เช่น ทำงานในโลตัส โลตัสขายเหล้า เงินที่ได้เป็นเงินเดือนเรา แต่เป็นของเราคนเดียว ส่วนเครือข่ายนั้นเราชวนคนอื่นไปทำด้วย)
3. การงานที่ชุบฮาต ทำแล้วมีสิ่งมารองรับ เช่น การกระทำที่ทำเพื่อศาสนา แต่อาจขัดหลักการศาสนาไปบ้าง แต่นั่นก็ทำเพื่อศาสนา เป็นสิ่งที่ยังสนับสนุนให้ทำต่อไป ส่วนการค้าขายนั้นไม่มีข้อยกเว้น เพราะไม่ใช่การทำเพื่อศาสนา
(เช่น ทำงานราชการที่เงินอาจมาจากภาษีเหล้าหรือดอกเบี้ย แต่เพื่อให้สังคมอิสลามเติบโต ก็ส่งเสริมให้ทำ)
4. ฮะดีษระบุในระหว่างสองสิ่ง สิ่งใดที่ทำแล้วสบายใจ กับไม่สบายใจ ให้เลือกทำในสิ่งที่สบายใจ แล้วละทิ้งในสิ่งที่ไม่สบายใจ
สุดท้าย สิ่งที่ทำให้ติดสินใจเลิกทำก็คือ ข้อที่ 4
วัลลอฮุอะอฺลัม
สินค้าชุบฮาตที่กล่าวถึงนี้ หมายถึง บริษัทธุรกิจที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ฮาลาลและฮารอมปนกันใช่มั้ย? แต่ปัจจุบันนี้ ก็มีหลายบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมดฮาลาล (หมายถึงได้รับเครื่องหมายนะครับ) และบางบริษัทก็เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยมุสลิม, ผลิตภัณฑ์ของมุสลิม
ประเด็นเรื่องสินค้าชุบฮาต จึงไม่ได้ครอบคลุมถึงสิ่งที่ทำให้ธุรกิจเครือข่ายทั้งหมดต้องชุบฮาต และฮารอมตามไปด้วย มันยังมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่นอกเหนือจากนี้ ซึ่งน่าจะขยายความซักหน่อย
ส่วนของผมเพิ่มไปอีกข้อครับคือ เป็นการทำนาบนหลังคน อีกแบบหนึ่ง .. วัลลอฮุอะอฺ์ลัม
การทำนาบนหลังคนนั้น สามารถเกิดได้กับทุกธุรกิจที่วางเงื่อนไขให้ผู้ที่ทำงานใต้ล่างต้องแบกรับภาระมากหรือเงื่อนไขที่กดขี่ ในขณะที่คนด้านบนได้ประโยชน์แม้จะไม่ได้ทำอะไรเลย
ธุรกิจเครือข่ายโดยส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ มีการโกหกและหลอกลวงมาก นักธุรกิจหน้าใหม่ส่วนใหญ่จะ
ถูกทำให้เชื่อว่า การที่หาคนเข้ามาร่วมธุรกิจได้มากๆ นั้น จะทำให้ตัวเองรวย แต่ความเป็นจริงแล้ว คนที่รวยคือบริษัทและอัพไลน์ระดับสูง
ปัญหาสำคัญเกิดจากการทำธุรกิจให้มีความคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ปิระมิด ซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่อยู่ใต้ฐานล่างแทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไร และส่วนใหญ่ต้องออกจากธุรกิจภายใน 3-6 เดือนแรกเท่านั้น (เพราะมีแต่รายจ่าย แต่รายได้น้อย)
การทำธุรกิจเครือข่ายสำหรับมุสลิมในปัจจุบันนี้ จึงเสี่ยงสำหรับคนที่ขาดความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ทั้งความรู้ทางศาสนาและความรู้ทางโลก
การขาดความรู้ทางศาสนาจะทำให้ไม่รู้ว่าสิ่งใดฮาลาลและสิ่งใดฮารอม ส่วนการขาดความรู้ทางโลกทำให้การทำธุรกิจล้มเหลว ขาดทุน และอาจมีหนี้เป็นของแถมด้วย
วัลลอฮุอะอฺลัม