อัสลามูอาลัยกุม
ตอนอวสาน มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1) แล้วน่ะคับ

เริ่มเลยน่ะ
والفعلُ ฮูรูฟ วาวนั้น สามารถที่จะ الإعراب ได้ 2 แบบ คือ
1. วาวนั้นเป็น หุรุฟ อะตัฟ และ الفعلُ ِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ คือ فالاسم ก่อนหน้านี้ ที่รอบอุน ดังนั้น الفعلُ จึงต้อง รอบอุนด้วย สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์ เพราะเป็นคำนามเดี่ยว
2. วาว นั้นเป็นวาว ลิลอิสติสนัฟ เป็นวาวที่ใช้เริ่มต้นประโยค الفعلُ เป็นมุฟตาดาซึ่งมีอามีล คือ อามีลอิบติดาอ์ ซึ่งต้องรอฟอุน สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น คำนามเดี่ยว(อีเซม เดี่ยว)
يُعرَفُ เป็น الفعل المضارع มับนิยุน ลิล มัจฮูล คือ จะเป็น الفعل المضارع ที่ไม่ทราบผู้กระทำ และ يُعرَفُ ซึ่งต้องรอฟอุน เพราะปราศจากอามีล ญาซัม และอามิล นาซับ สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น الفعل المضارع ที่ไม่ต่อท้ายด้วยพยัญชนะอื่น เรียกว่า
لم يتصل بآخره شيء الفعل المضارع الذي นั้นเอง ส่วนผู้กระทำ(ประธาน)ใน يُعرَفُ นี้ก็คือ นาอีบุน ฟาอีล ที่ มุสตาเตร (ซ่อน) ตักดีร ก็คือ هو ที่เป็นสรรพนามแทนที่ الفعلُ
ประโยคตั้งแต่ ฟิอิลและนาอีบุนฟาอีล นั้นก็จะเป็นคอบัร
بقد บา คือหุรุฟ คอฟัตหรือหุรุฟ ญัรรี หมายถึง อักษรที่มีอำนาจ (อามีล)ทำให้ตัวที หลังจากตัวเขา(มัจรูร)นั้นต้องอ่านแบบ ญัร แต่ในที่นี่قد นั้นเป็น คำ มับนิยนที่ ซูกูน
จึงทำได้แค่การเเทนที่ตรง ญัร แต่เพราะว่านามมับนิยุน จึงไม่ปรากฏการ الإعراب
والسِّين วาวนั้นเป็น หุรุฟ อะตัฟ และالسِّين ِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ قد และ السِّين นั้น เป็นมะอ์ตูฟ ที่ ญัรริน ดังนั้น السِّين จึงต้อง ญัร ด้วย มีสัญลักษณ์คือกัสรอฮุ เพราะเป็น นามเดี่ยว
**** สังเกตว่า السِّين มี อาลิฟ ลาม จะเป็น ال ที่เรียกว่า คืออะลีฟ อัลอะฮ์ดี้ย์ العهد หมายถึงอะลีฟลามที่บ่งชี้ถึงถ้อยคำที่รู้กันดี (ตามที่ แบ อัลอัฮฯได้อธิบายก่อนหน้านี้) ในที่นี้จะเป็นการบอกว่า سِّين นั้นไม่ได้เป็น سِّين ที่เป็นพยัญชนะ ******
وسَوف วาวนั้นเป็น หุรุฟ อะตัฟ และسَوف ِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ قد และ سَوف นั้น เป็นเป็น คำ มับนิยนที่ ฟัตตะห์
จึงทำได้แค่การเเทนที่ตรง ญัร แต่เพราะว่านามมับนิยุน จึงไม่ปรากฏการ الإعراب
وتاء التأنيث الساكنة วาวนั้นเป็น หุรุฟ อะตัฟ และتاء ِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ قد และتاء นั้น จะเป็นมูดอฟอีกหนึ่ง โดยจะมี التأنيث เป็นมูดอฟุนอีลัยฮุ ซึ่งต้อง ญัร มีสัญลักษณ์คือกัสรอฮุ เพราะเป็น นามเดี่ยว ส่วน الساكنة นั้นเป็น ซีฟัตหรือนาอัตของ التأنيث ซึ่งต้อง ญัร มีสัญลักษณ์คือกัสรอฮุ เพราะเป็น นามเดี่ยว
والحرف วาวนั้น สามารถที่จะ الإعراب ได้ 2 แบบ คือ
1. วาวนั้นเป็น หุรุฟ อะตัฟ และ الحرف ِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ คือ فالاسم ก่อนหน้านี้ ที่รอบอุน ดังนั้น الحرف จึงต้อง รอบอุนด้วย สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์ เพราะเป็นคำนามเดี่ยว
2. วาว นั้นเป็นวาว ลิลอิสติสนัฟ เป็นวาวที่ใช้เริ่มต้นประโยค الحرف เป็นมุฟตาดาซึ่งมีอามีล คือ อามีลอิบติดาอ์ ซึ่งต้องรอฟอุน สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น คำนามเดี่ยว(อีเซม เดี่ยว)
ما لا يَصلُحُ معه دليلُ الاسم หูรุฟ ما นั้นเป็น นาม นากีเราะห์ เมาซูฟะห์ (อีเซม เมาซูล) เป็นคอบัร ของแนวคิดที่บอกว่า الحرف เป็นมุบตาดา และ ماนั้นเป็นคำมับนิยนที่ ซูกูน ไปแทนที่ของ รอฟอุน แต่เพราะว่านามมับนิยุน จึงไม่ปรากฏการ الإعراب และ لا นั้นเป็น لا นาฟียะห์ (ปฎิเสธ)
ส่วน
يَصلُحُ เป็นเป็น الفعل المضارع ต้องรอฟอุน เพราะปราศจากอามีล ญาซัม และอามิล นาซับ สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น الفعل المضارع ที่ไม่ต่อท้ายด้วยพยัญชนะอื่น เรียกว่า
لم يتصل بآخره شيء الفعل المضارع الذي
ส่วน
معه นั้นเป็น ซอรัฟ มากาน ที่ต้อง มันซูบุน สัญลักษณ์ของ นัสบุน ตรงนี้คือ ฟัตตะห์ และ مع นั้นเป็นมูดอฟส่วน หุรุฟ ฮาอ์ (ه) นั้นเป็นดอมีร ซึ่งมับนิยน ที่ดอมมะห์ ไปแทนที่ของ ญัร เพราะทำหน้าที่เป็นมูดอฟุนอีลัยอุ นั้นเอง
دليلُ นั้นเป็น ฟาอิล (ผู้กระทำ) ของคำว่า يَصلُحُ ต้องรอฟอุน ซับ สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์ เพราะเป็น นามเดี่ยว และประโยคตั้งแต่ ฟิอิลถึง ฟาอิล ที่ไปแทนที่รอบอุน ก็จะเป็น นาอัตของ ของคำว่า ما
ولا دليل الفعل วาวนั้นเป็น หุรุฟ อะตัฟ และ لا นั้น เป็น นาฟียะห์ (ปฎิเสธ) และ دليل ِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ دليل ในคำก่อนหน้านี้ และเป็นรอบอุน ดังนั้น دليل ก็ต้องรอบอุนด้วย สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์ เพราะเป็น นามเดี่ยว และ دليل นั้นจะเป็นมูดอฟ ด้วย โดยจะมีคำว่้า الفعل เป็นมูดอฟุนอิลัยฮุ ซึ่งต้อง ญัร สัญลักษณ์ของการ ญัร คือ กัสรอฮุ เพราะเป็นอีเซม เดี่ยว
วัลลอฮุอะลัม
ปล. ม่ายเข้าจายการ الإعراب ตรงไหนถาม แบอัลอัฮฯ กับ แบนูรุลฯ น่ะ

เพราะจูยา ก็ الإعراب แบบงั้นๆเอง (บ้านๆ)
แต่อย่าพึ่งท้อล่ะ

การที่จะเป็นผู้อาลิม ในวิชานั้น ข้อหนึ่งมันต้องใช้เวลา
