.. ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ ยอมรับว่า "ท่านนบี(ซ.ล.) นั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับอัลลอฮฺ ตะอาลา"
ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ เป็นปราชญ์ที่มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่งจากมัซฮับหัมบะลีย์ ซึ่งท่านเป็นปราชญ์ที่กลุ่มวะฮาบีย์ยึดถือมากที่สุดในแนวคิดและผลงานต่างๆ ของท่าน และท่านได้กล่าวสิ่งหนึ่งให้กับอัลลอฮฺ ตะอาลา โดยสิ่งที่ท่านกล่าวนั้น เป็นทัศนะที่นำไปสู่การทำให้อัลลอฮฺ ตะอาลา มีคุณลักษณะที่เหมือนกับมัคลูก(สิ่งที่ถูกสร้าง) และด้วยทัศนะดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้ปวงปราชญ์ท่านอื่นๆ จากกลุ่มอะฮฺลิสสุนะฮฺฯ ได้ออกมาทำการตอบโต้แนวคิดนี้ของท่าน โดยที่ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ ได้กล่าวเอาไว้ว่า ..
"ดังนั้น แท้จริงแล้วบรรดาปวงปราชญ์ผู้ได้รับความพึงพอใจ และบรรดาผู้ที่ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้กล่าวว่า แท้จริงมุหัมมัด คือ ศาสนฑูตแห่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ซึ่งพระผู้อภิบาลของท่านได้ทำให้ท่านนบี(ซ.ล.) นั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับพระองค์"
ดู ตำรา مجموع فتاوى โดย ท่านอะหฺมัด อิบนุ ตัยมียะฮฺ เล่มที่ 4 หน้าที่ 374
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: sufriyan Date: ก.พ. 25, 2012, 05:58 PM
ยาซากัลลอฮ์คัยรอน
สำหรับความรู้ครับ (และในหลายๆกระทู้ด้วย)
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: taufik Date: ก.พ. 27, 2012, 05:23 PM
ผมเคยได้ถามพี่น้องสาลาฟีย์วะฮาีบีย์ถึงเรื่องนี้ ซึ่งคำตอบที่ได้รัีบนั้น หนึ่ง เป็นการเพิ่มเติมจากฝ่ายที่ต่อต้านท่าน สองมันไม่ใช่คำพูดของท่านเองซึ่งไม่มีสายรายงานพิสูจน์ถึง
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: Muftee Date: ก.พ. 27, 2012, 10:55 PM
ผมเคยได้ถามพี่น้องสาลาฟีย์วะฮาีบีย์ถึงเรื่องนี้ ซึ่งคำตอบที่ได้รัีบนั้น หนึ่ง เป็นการเพิ่มเติมจากฝ่ายที่ต่อต้านท่าน สองมันไม่ใช่คำพูดของท่านเองซึ่งไม่มีสายรายงานพิสูจน์ถึง
มันจะเป็นการต่อเติมจากฝ่ายที่ต่อต้านท่านได้ยังไงกัน ในเมื่อคำกล่าวนี้ถูกบันทึกอยู่ในหนังสือท่านเอง และคนที่ทำการรวบรวมตรวจทานก้อเป็นผู้ที่ชื่นชอบในแนวทางของท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ และมิหนำซ้ำยังถูกตีพิมพ์โดยผู้ที่ยึดในแนวคิดต่างๆ ของท่านอีกด้วย .. แต่หากว่าคำพูดนี้ไปอยู่ในตำราของคนอื่น นั่นแหละอาจจะพิจารณาได้ว่าเป็นการเพิ่มเติมจากฝ่ายที่ต่อต้านท่าน .. ดังนั้น การที่คนเหล่านั้นอ้างว่าสำนวนนี้ถูกต่อเติมขึ้นมา ก็แสดงว่าผู้ที่ตรวจทานมีความบกพร่องอย่างใหญ่หลวง เพราะไปใส่ร้ายต่อท่านอิบนุตัยมียะฮฺ(ทั้งๆ ที่ผู้ตรวจทานชื่นชอบในตัวท่าน) และผู้ที่ตีพิมพ์ก็ไร้มารยาทในด้านวิชาการอย่างยิ่ง(ทั้งๆ ที่สำนักพิมพ์บางที่ก็ชื่นชอบในตัวท่าน) ..
แต่จะเป็นไปได้ยังไงกัน ในเมื่อตำราก็เป็นของท่าน ผู้รวบรวมตรวจท่านก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบท่าน ผู้ที่ตีพิมพ์ทั้งแจกฟรีและจำหน่ายก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบแนวคิดของท่าน .. ดังนั้น การมาบอกว่าถูกต่อเติมนั้น เป็นแค่แนวคิดส่วนตัว เพื่อบอกปัดความจริงมากกว่า แค่พูดให้ผ่านๆ ไปเท่านั้น เพื่ออย่าให้คนอื่นคิดว่าแนวทางของตนเองผิดพลาดไปสะแล้ว เลยอ้างโน่นนี่ไปทั่ว ไม่ได้ยอมรับความจริงในสิ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้
ในส่วนที่บอกว่า ใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีสายรายงานนั้น ก็เป็นการหาทางหนีความจริงอีกเช่นกันครับ นักวิชาการในโลกอิสลาม เมื่อต้องการจะศึกษาแนวคิดของปราชญ์ท่านใด เขาก็จะเริ่มศึกษาจากตำราและผลงานของปราชญ์ท่านนั้นๆ เป็นอันดับแรก ไม่ได้ศึกษาในสายรายงานของปราชญ์คนนั้น เนื่องจากมันชัดเจนอยู่แล้ว เพราะถูกบันทึกโดยตัวของเขาเองหรือลูกศิษย์ลูกหาของเขาเองได้บันทึกเอาไว้
ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาที่วะฮาบีย์กล่าววิจารย์แนวคิดอะชาอิเราะฮฺ เราก็ไม่เคยเห็นพวกเขาระบุสายรายงาน ว่ารายงานจากใคร หรือรับต่อคำพูดนั้นๆ มาจากใคร หรือใครเป็นคนรายงานคนสุดท้ายที่รายงานคำกล่าวนี้ แต่ทว่าพวกเขาก็วิจารย์จากตำราของปราชญ์อะชาอิเราะฮฺที่บันทึกเอาไว้ โดยวิจารย์ไปตามทัศนะของพวกเขา .. ก้ไม่เห็นเค้าจะระบุสายรายงานเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็สามารถพูดเหมือนกันได้สิว่า วะฮาบีย์ก็โกหก ป้ายสี แต่งเติมความเท็จ ให้กับปราชญ์อะชาอิเราะฮฺ เพราะวะฮาบีย์ก็พูดมาลอยๆ ไม่เห็นมีสายรายงานเลยสักนิด
หรือตำราที่ท่าน มุหัมมัด บิน อับดิลวะฮา่บ แต่งขึ้น ,หรือตำราอื่นๆ ที่ท่านอิบนุตัยมียะฮฺ หรือท่านอิบนุ ก็อยยิมแต่งขึ้น ก็ไม่ได้มีสายรายงานจากนักรายงานคนใดๆ เช่นกันว่า ท่านเหล่านี้เป็นผู้ที่แต่งขึ้นมาเองจริงๆ หรือตำราปราชญ์ต่างๆ อีกหลายท่านที่ตายไปแล้ว ต่างก็ไม่ได้มีสายรายงานบันทึกเอาไว้ทั้งสิ้น ถ้าเป็นแบบนี้ ตำราศาสนาอิสลามหลายหมื่นเล่ม คงใช้ไม่ได้กันหมด เพราะไม่มีสายรายงานบันทึกไว้
ความรู้ต่างๆ และตำราต่างๆ ของปราชญ์รุ่้นก่อนๆ ที่ตกทอดกันมาถึงพวกเรา นั่นคือ อะมานะฮฺ(หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ) ของพวกเขาเหนือพวกเรา ซึ่งพวกเราจะต้องรักษามันเอาไว้ โดยห้ามบิดเบือนและเปลี่ยนแปลงโดยเด็ดขาด ดังนั้น ผู้ใดที่บิดเบือนตำรา เขาก็เป็นผู้ที่ไร้อะมานะฮฺ .. ท่านรสูล(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า ..
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : أَيَةُ الْمُنَافِقِ ثَلاَثٌ ، إِذَا حَدَّثَ كَذِبَ،وَإِذَا وَعَدَ أَخْلَفَ، وَإِذَا اؤْتُمِنَ خَانَ
( متفق عليه )
"ท่านรสูล(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า เครื่องหมายของผู้กลับกลอกมีอยู่สามประการ คือ เมื่อเขาพูด เขาก็โกหก ,เมื่อเขาสัญญา เขาก็ผิดสัญญา ,และเมื่อเขาได้รับความไว้วางใจ เขาก็บิดพลิ้ว" บันทึกโดย บุคอรีย์และมุสลิม
และมีรายงานจากท่านอะนัส บิน มาลิก (ร.ด.) ได้เล่าว่า "น้อยครั้งที่ท่านศาสดา (ซ.ล.) ได้แสดงปาฐกถา (คุตบะฮฺ) แก่พวกเรา นอกจากท่านได้กล่าวว่า ไม่มีความศรัทธากับบุคคลที่ไม่มีอะมานะฮ์(ไร้ความรับผิดชอบ) และไม่มีศาสนาแก่บุคคลที่บิดพลิ้วคำสัญญา" บันทึกโดย ท่านอิมามอะห์มัด
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: taufik Date: ก.พ. 28, 2012, 07:35 AM
ญาซากัลลอฮ์ครับ
หลายเรื่องหลายอย่างเกี่ยวกับประเด็นอากีดะฮ์ที่ถูกพาดพิงยังตำรับตำราของเหล่้าบรรดาเชคของสาลาฟีย์เอง เมื่อมีการอ้างมาเมื่อไรก็มักจะถูกแย้งกลับว่า เป็นการต่อเติมด้วยชีอะฮ์(ไม่ใช่พิมพ์โดยสาลาฟีย์วะฮาบีย์เอง) และยังบอกโดยว่าเมื่อไปตรวจสอบกลับยังตำราแล้วปรากฎว่าไม่เจอดังที่ถูกอ้างไว้
(ซึ่งมีข้อสังเกตว่้า ไม่เจอจริงๆหรือเปล่าหรือว่าเจอแล้วแต่ไม่ยอมรับ)
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: Muftee Date: ก.พ. 28, 2012, 08:34 AM
ญาซากัลลอฮ์ครับ
หลายเรื่องหลายอย่างเกี่ยวกับประเด็นอากีดะฮ์ที่ถูกพาดพิงยังตำรับตำราของเหล่้าบรรดาเชคของสาลาฟีย์เอง เมื่อมีการอ้างมาเมื่อไรก็มักจะถูกแย้งกลับว่า เป็นการต่อเติมด้วยชีอะฮ์(ไม่ใช่พิมพ์โดยสาลาฟีย์วะฮาบีย์เอง) และยังบอกโดยว่าเมื่อไปตรวจสอบกลับยังตำราแล้วปรากฎว่าไม่เจอดังที่ถูกอ้างไว้
(ซึ่งมีข้อสังเกตว่้า ไม่เจอจริงๆหรือเปล่าหรือว่าเจอแล้วแต่ไม่ยอมรับ)
หรืออีกอย่างหนึ่ง คือ .. ไม่เคยไปค้นเลย แค่พูดตามที่คนอื่นเค้าว่าเอา
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: GeT Date: มี.ค. 03, 2012, 02:19 AM
ตกลงอิบนุตัยมียะฮฺว่า หรือปวงปราชญ์
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: Muftee Date: มี.ค. 03, 2012, 03:14 AM
ตกลงอิบนุตัยมียะฮฺว่า หรือปวงปราชญ์
คุณ GeT ก็ยังพยายามตั้งข้อสงสัย เพื่อหาข้อหลีกเลี่ยงให้แก่ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺให้ได้เลยนะครับ .. ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺพยายามพูดอ้างทัศนะนี้ ไปยังปวงปราชญ์ เพื่อให้เห็นว่าทัศนะนี้มีน้ำหนัก ซึ่งท่านพาดพิงไป โดยใช้คำว่า "العلماء المرضيون (ปวงปราชญ์ผู้ได้รับความพึงพอใจ)" และ "الأولياء المقبولون (บรรดาคนวะลีย์ที่ได้รับการตอบรับ)" แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นทัศนะของปราชญ์ท่านไหน เพราะท่านก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร !!
งั้นผมขอถามคุณ GeT หน่อยเถอะครับว่า มีปราชญ์ผู้ทรงธรรมท่านไหนบ้างหรือครับ ที่บอกว่า อัลลอฮฺ ตะอาลา นั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับนบี(ซ.ล.) !! .. การที่ให้ทัศนะว่าอัลลอฮฺ นั่งบนบัลลังก์ นี่คือ คำพูดของปราชญ์ผู้ทรงธรรมงั้นหรือครับ ??
หรือถ้าสมมุติว่ามีปราชญ์ท่านใดท่านหนึ่งให้ทัศนะแบบนี้จริงๆ .. ถามว่าการที่ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ ไปยกย่องว่านี่คือ ทัศนะของปราชญ์ผู้ได้รับความพึงพอใจ อีกทั้งยังเป็นทัศนะของบรรดาคนวะลีย์ที่ได้รับการตอบรับ .. ทั้งๆ ที่ จริงๆ แล้ว นี่คือทัศนะที่ทำให้อัลลอฮฺ ตะอาลา เหมือนกับมัคลูก .. แล้วแบบนี้มันไม่เท่ากับให้การสนับสนุนทัศนะที่บิดอะฮฺหรือครับ !!
ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ เป็นมุสลิม เป็นปราชญ์อิสลามท่านหนึ่งที่มีความรู้ มีชื่อเสียง แต่ท่านก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น การที่ท่านจะผิดพลาดบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร .. สำคัญที่คุณ GeT และหลายๆ คนต้องเปิดใจยอมรับ เมื่อมันมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ไม่ใช่พยายามหาทางปกป้องจนถึงที่สุด !!
เราทุกคนเลือกได้นิครับว่าจะตามใคร และวะฮาบีย์ก็พยายามโฆษณาชวนเชื่ออยู่ตลอดว่า เราต้องไม่ยึดทัศนะของใครหรือมัซฮับไหนอย่างตาบอด ดังนั้น กรณีนี้ก็เช่นเดียวกันครับ เราก็ต้องไม่ยึดติดในตัวของท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ อย่างตาบอด .. สิ่งใดผิดพลาด ก็ว่าไปตามเนื้อผ้าครับ ..
วัลลอฮุ ตะอาลา อะลัม !!
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: al-kudawah Date: มี.ค. 03, 2012, 04:29 PM
อัสลามุอะลัยกุ้ม
ในประเด็นนี้ กลุ่มวะฮาบีมีอยู่ 2 แนวทางในการชี้แจง
1. ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ไม่ได้กล่าวยอมรับไว้ แต่เพียงรายงานคำพูดของอุลามาอฺบางส่วนเฉยๆ ที่เชื่อว่าอัลลอฮ์จะให้นบีนั่งบนลังก์พร้อมกับพระองค์
2. หากท่านอิบนุตัยมียะฮ์มีทัศนะแบบนั้น ก็ไม่แปลก เพราะมีอุลามาอฺบางส่วนก่อนหน้าท่านได้เชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับทัศนะดังกล่าว
แต่ถ้าหากพิจารณาตามหลักหะดีษแล้ว รายงานที่บอกว่าอัลลอฮ์จะทรงทำให้นบีนั่งบนบัลลังก์นั้น ฎ่ออีฟ ดังนั้นเรื่องอะกีดะฮ์ต้องมาจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่ซอฮิห์ชัดเจนหรืออิจญฺมาอฺของปวงปราชญ์ที่เป็นจริง
และถ้าหากถามว่า นบี(ซ.ล.)เองนั้นเชื่อเช่นนั้นหรือเปล่า? ก็ขอตอบว่า ไม่มีหะดีษที่ซอฮิห์ได้ระบุถึงหลักอะกีดะฮ์ดังกล่าวเลย
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: GeT Date: มี.ค. 03, 2012, 04:51 PM
"ดังนั้น แท้จริงแล้วบรรดาปวงปราชญ์ผู้ได้รับความพึงพอใจ และบรรดาผู้ที่ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้กล่าวว่า แท้จริงมุหัมมัด คือ ศาสนฑูตแห่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ซึ่งพระผู้อภิบาลของท่าน(นบีมุหัมมัด ซ.ล.) จะทรงนั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับท่าน(นบีมุหัมมัด ซ.ล.)"
ดู ตำรา مجموع فتاوى โดย ท่านอะหฺมัด อิบนุ ตัยมียะฮฺ เล่มที่ 4 หน้าที่ 374
ไหนๆก็ถลำเข้ามาแล้ว ก็ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพอเป็นพิธีก็แล้วกัน
ประเด็นแรก การตั้งชื่อกระทู้ที่ว่า อิบนุตัยมียะฮฺกล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" เท่ากับเป็นการปรักปรำท่าน ซึ่งระหว่างคำพุดของท่านกับประโยคที่เจ้าของกระทู้นำเสนอนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อิบนุตัยมียะฮฺกล่าวว่า يُجْلِسُهُ رَبُّهُ عَلَى الْعَرْشِ مَعَهُ (พระผู้อภิบาลของท่านได้จับท่านนั่ง (เชิญท่านนั่ง) ลงบนอะรัชพร้อมกับพระองค์) ไม่ได้บอกว่าอัลลอฮฺนั่งพร้อมกับท่าน
ซึ่งคำว่าพร้อมกับพระองค์นั้น ไม่จำเป็นว่าอัลลอฮฺจะทรงนั่งลงบนอะรัชหรือบนเก้าอี้แบบชิดเนื้อกับท่านนบีมุฮัมมัด ซึ่งถ้าเราไปศึกษาเกี่ยวกับความหมายของคำว่า معية الله ก็จะทราบดี และคำว่าคนใดคนหนึ่งนั่งอยู่พร้อมกับอีกคนหนึ่ง ไม่จำเป็นเสมอไปว่าอีกคนหนึ่งนั้นต้องนั่งเหมือนกับเขาด้วย โดยเฉพาะอย่างยื่งวะฮาบีเองก็ยืนยันว่าซาตของอัลลอฮฺไม่ได้สัมผัสกับมัคลูก และมัคลูกก็ไม่ได้สัมผัสกับซาตของอัลลอฮฺ
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: al-kudawah Date: มี.ค. 03, 2012, 05:00 PM
และคำว่าคนใดคนหนึ่งนั่งอยู่พร้อมกับอีกคนหนึ่ง ไม่จำเป็นเสมอไปว่าอีกคนหนึ่งนั้นต้องนั่งเหมือนกับเขาด้วย โดยเฉพาะอย่างยื่งวะฮาบีเองก็ยืนยันว่าซาตของอัลลอฮฺไม่ได้สัมผัสกับมัคลูก และมัคลูกก็ไม่ได้สัมผัสกับซาตของอัลลอฮฺ
ตามความเชื่อของวะฮาบีที่คุณ GeT นำเสนอมานั้น เข้าใจได้ว่า การนั่งของนบี(ซ.ล.)นั้นสัมผัสกับบัลลังก์ ส่วนอัลลอฮ์(ซ.บ.)นั้นก็นั่งแต่ไม่สัมผัสบัลลังก์ตามจินตนาการของวะฮาบี ทั้งที่การนั่งโดยไม่สัมผัสสถานที่นั้น ไม่ใช่เรียกว่าเป็นการนั่งตามหลักภาษาอาหรับ
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: GeT Date: มี.ค. 03, 2012, 05:09 PM
คุณ GeT ก็ยังพยายามตั้งข้อสงสัย เพื่อหาข้อหลีกเลี่ยงให้แก่ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺให้ได้เลยนะครับ .. ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺพยายามพูดอ้างทัศนะนี้ ไปยังปวงปราชญ์ เพื่อให้เห็นว่าทัศนะนี้มีน้ำหนัก ซึ่งท่านพาดพิงไป โดยใช้คำว่า "العلماء المرضيون (ปวงปราชญ์ผู้ได้รับความพึงพอใจ)" และ "الأولياء المقبولون (บรรดาคนวะลีย์ที่ได้รับการตอบรับ)" แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นทัศนะของปราชญ์ท่านไหน เพราะท่านก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร !!
ก็ท่านเจ้าของกระทู้เล่นแปลแค่ท่อนเดียวตรงที่ต้องการจะสื่อให้สาธารณะรับรู้เท่านั้น คล้ายกับว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้อ่านข้อความที่อิบนุตัยมียะฮฺละเลงไว้ต่อจากนั้น ซึ่งอย่างน้อยก็มีอุละมาอ์สองคนที่อิบนุตัยมียะฮฺอ้างถึง หนึ่งคือท่านมุญาฮิด ที่อธิบายความหมายของคำว่า مقاما محمودا ว่า يُجْلسه معه على عرشه และท่านที่สองคือ อิบนุญะรีร อะมรุ้ลมุอ์มีนีนด้านตัฟซีร ที่ยืนยันว่า เป็นทัศนะนี้ถูกต้องเหมือนกัน หรือไม่ได้ค้านกับทัศนะที่มีน้ำหนักกว่าของอุละมาอ์ส่วนใหญ่ที่ให้ความหมายว่า "ชะฟาอะฮฺ"
นอกเสียจากว่าทั้งสองท่านนี้ไม่จัดอยู่ในประเภทของ "العلماء المرضيون (ปวงปราชญ์ผู้ได้รับความพึงพอใจ)" และ "الأولياء المقبولون (บรรดาคนวะลีย์ที่ได้รับการตอบรับ)" ตามทัศนะของเจ้าของกระทู้ วัลลอฮุอะอฺลัม
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: GeT Date: มี.ค. 03, 2012, 05:12 PM
ถ้ามีหลักฐานชัดเจนและถูกต้องระบุว่าอัลลอฮฺนั่ง แต่ถ้าไม่มีหลักฐานระบุว่า เราก็ไม่สามารถระบุได้ว่าอัลลอฮฺทรงนั่งพร้อมกับท่านนบีด้วย เพราะคำว่า มะอียะฮฺ ที่แปลว่า ด้วยกัน พร้อมกัน ไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ในลักษณะที่เหมือนกันเสมอไป วัลลอฮุอะอฺลัมและคำว่าคนใดคนหนึ่งนั่งอยู่พร้อมกับอีกคนหนึ่ง ไม่จำเป็นเสมอไปว่าอีกคนหนึ่งนั้นต้องนั่งเหมือนกับเขาด้วย โดยเฉพาะอย่างยื่งวะฮาบีเองก็ยืนยันว่าซาตของอัลลอฮฺไม่ได้สัมผัสกับมัคลูก และมัคลูกก็ไม่ได้สัมผัสกับซาตของอัลลอฮฺ
ตามความเชื่อของวะฮาบีที่คุณ GeT นำเสนอมานั้น เข้าใจได้ว่า การนั่งของนบี(ซ.ล.)นั้นสัมผัสกับบัลลังก์ ส่วนอัลลอฮ์(ซ.บ.)นั้นก็นั่งแต่ไม่สัมผัสบัลลังก์ตามจินตนาการของวะฮาบี ทั้งที่การนั่งโดยไม่สัมผัสสถานที่นั้น ไม่ใช่เรียกว่าเป็นการนั่งตามหลักภาษาอาหรับ
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: GeT Date: มี.ค. 03, 2012, 05:16 PM
อัสลามุอะลัยกุ้ม
ในประเด็นนี้ กลุ่มวะฮาบีมีอยู่ 2 แนวทางในการชี้แจง
1. ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ไม่ได้กล่าวยอมรับไว้ แต่เพียงรายงานคำพูดของอุลามาอฺบางส่วนเฉยๆ ที่เชื่อว่าอัลลอฮ์จะให้นบีนั่งบนลังก์พร้อมกับพระองค์
2. หากท่านอิบนุตัยมียะฮ์มีทัศนะแบบนั้น ก็ไม่แปลก เพราะมีอุลามาอฺบางส่วนก่อนหน้าท่านได้เชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับทัศนะดังกล่าว
แต่ถ้าหากพิจารณาตามหลักหะดีษแล้ว รายงานที่บอกว่าอัลลอฮ์จะทรงทำให้นบีนั่งบนบัลลังก์นั้น ฎ่ออีฟ ดังนั้นเรื่องอะกีดะฮ์ต้องมาจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่ซอฮิห์ชัดเจนหรืออิจญฺมาอฺของปวงปราชญ์ที่เป็นจริง
และถ้าหากถามว่า นบี(ซ.ล.)เองนั้นเชื่อเช่นนั้นหรือเปล่า? ก็ขอตอบว่า ไม่มีหะดีษที่ซอฮิห์ได้ระบุถึงหลักอะกีดะฮ์ดังกล่าวเลย
คำพูดของอิบนุตัยมียะฮฺดังกล่าวเป็นการยอมรับการอธิบายของอุละมาอ์ที่ว่า อัลลอฮฺจะทรงเชิญท่านนบีมุฮัมมัดให้นั่งลงบนอะรัชพร้อมกับพระองค์ ซึ่งท่านถือว่าเป็นทัศนะที่ถูกต้องเหมือนกัน ถึงแม้ว่าทัศนะที่ว่า มะกอมมะหฺมูด คือ ชะฟาอะฮฺ นั้นจะมีน้ำหนักมากกว่าก็ตาม
Re: ท่านอิบนุ ตัยมียะฮฺ กล่าวว่า "อัลลอฮฺ ทรงนั่งอยู่บนอะรัชพร้อมกับท่านนบี(ซ.ล.)" By: al-kudawah Date: มี.ค. 03, 2012, 05:24 PM
ถ้ามีหลักฐานชัดเจนและถูกต้องระบุว่าอัลลอฮฺนั่ง แต่ถ้าไม่มีหลักฐานระบุว่า เราก็ไม่สามารถระบุได้ว่าอัลลอฮฺทรงนั่งพร้อมกับท่านนบีด้วย เพราะคำว่า มะอียะฮฺ ที่แปลว่า ด้วยกัน พร้อมกัน ไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ในลักษณะที่เหมือนกันเสมอไป วัลลอฮุอะอฺลัมและคำว่าคนใดคนหนึ่งนั่งอยู่พร้อมกับอีกคนหนึ่ง ไม่จำเป็นเสมอไปว่าอีกคนหนึ่งนั้นต้องนั่งเหมือนกับเขาด้วย โดยเฉพาะอย่างยื่งวะฮาบีเองก็ยืนยันว่าซาตของอัลลอฮฺไม่ได้สัมผัสกับมัคลูก และมัคลูกก็ไม่ได้สัมผัสกับซาตของอัลลอฮฺ
ตามความเชื่อของวะฮาบีที่คุณ GeT นำเสนอมานั้น เข้าใจได้ว่า การนั่งของนบี(ซ.ล.)นั้นสัมผัสกับบัลลังก์ ส่วนอัลลอฮ์(ซ.บ.)นั้นก็นั่งแต่ไม่สัมผัสบัลลังก์ตามจินตนาการของวะฮาบี ทั้งที่การนั่งโดยไม่สัมผัสสถานที่นั้น ไม่ใช่เรียกว่าเป็นการนั่งตามหลักภาษาอาหรับ
ถ้าสมมุติว่ามีหลักฐานระบุชัดเจนและถูกต้องว่าทรงนั่งพร้อมกันโดยไม่ได้อยู่ในลักษณะเดียวกันกับการนั่งของท่านนบีที่สัมผัสสถานที่(ซ.ล.) ถือว่าเป็นการตะวีลตีความ แต่การนั่งของอัลเลาะฮ์นั้นไม่มีตัวบทจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่ซอฮิห์ระบุเลย