สิ่งที่จะทำให้ได้ลิ้มรสความหอมหวานแห่งศรัทธา !! By: Muftee Date: ก.ค. 09, 2012, 05:45 AM
สิ่งที่จะทำให้ได้ลิ้มรสความหอมหวานแห่งศรัทธา !!

ท่านรสูล(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า ..
ثلاث من كن فيه وجد بهن حلاوة الإيمان : أن يكون الله ورسوله أحب إليه مما سواهما ، وأن يحب المرء لا يحبه إلا لله ، وأن يكره أن يعود في الكفر بعد إذ أنقذه الله منه كما يكره أن يقذف في النار
“หากว่าสามประการนี้มีอยู่กับผู้ใดก็ตาม เขาผู้นั้นก็จะได้ลิ้มรสกับความหอมหวานแห่งศรัทธา คือ การที่เขารักอัลลอฮฺและรสูลของพระองค์มากกว่าสิ่งอื่นใด และการที่เขารักบุคคลหนึ่ง โดยที่เขาไม่ได้รักบุคคลผู้นั้นเพื่อสิ่งอื่นใด นอกจากเขาจะรักบุคคลนั้นเพื่ออัลลอฮฺ และเขานั้นจะรังเกียจที่จะหวนกลับไปสู่สภาพแห่งการไร้ศรัทธา(กาเฟร) ภายหลังจากที่อัลลอฮฺได้ช่วยเหลือเขาให้รอดพ้นจากสภาพนั้นมาแล้ว เหมือนกับที่เขารังเกียจ ที่จะถูกจับโยนลงสู่ขุมนรก” (บันทึกโดย บุคอรีย์และมุสลิม)
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษ
1. ความศรัทธานั้น คือสิ่งที่หอมหวานยิ่ง สำหรับผู้ที่รักอัลลอฮฺ ตะอาลา อย่างแท้จริง
2. หากจะรักใครสักคน ก็จงรักเขาเพื่ออัลลอฮฺ ตะอาลา
3. จงยึดมั่นอยู่บนความศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา อย่างมั่นคง
4. จงขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ ตะอาลา ให้รอดพ้นจากไฟนรก
5. มั่นสรรเสริญและขอบพระทัยต่อความเมตตาของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่มีต่อเราอยู่เสมอ
Re: สิ่งที่จะทำให้ได้ลิ้มรสความหอมหวานแห่งศรัทธา !! By: คนเดินดิน Date: ก.ค. 09, 2012, 04:59 PM
ยอ
Re: สิ่งที่จะทำให้ได้ลิ้มรสความหอมหวานแห่งศรัทธา !! By: nada-yoru Date: ต.ค. 12, 2013, 05:23 PM
ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะ...
อ่านบทความนี้แล้ว ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้ที่มีคนถามว่า...
เป็นมุสลิมแล้วสามารถแต่งงานกับผู้นับถือศาสนาอื่นได้มั้ย?
คำถามนี้ ไม่ใช่คำถามแรกที่ได้ยิน หลายคนที่ได้พบก็มักจะถามเช่นนี้เป็นประจำ...
ข้าน้อยตอบพวกเขาไปเพียงแต่ว่า...
หากจะแต่งแบบอิสลามก็ต้องแต่งกับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามด้วยกัน
เพราะถ้าคู่บ่าวสาวศรัทธาแตกต่างกันย่อมเดินทางไปสู่เป้าหมายเดียวกันไม่ได้...
และเมื่อไม่สามารถเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้ ย่อมไม่อาจเป็นคู่กันได้...
เพราะคำว่าคู่กัน มันต้องไปด้วยกัน...
เขาจึงถามต่อว่า...แล้วถ้าเกิดไปรักกับต่างศาสนิกล่ะ จะทำอย่างไร...
ข้าน้อยก็ตอบเขาไปว่า...สำหรับคนอื่นข้าน้อยไม่รู้...
แต่สำหรับตัวเองแล้ว...เมื่อเรารักพระเจ้า ศรัทธาต่อพระองค์
เชื่อในสิ่งที่ศาสนทูตนำมาบอก...ก็ไม่มีรักใดจะทำให้เรา
อยากหันหลังหรืออยากไปจากศรัทธานี้...
นอกจากว่า...เขาคนที่เรารักจะรักพระเจ้า
ศรัทธากับพระเจ้าและเชื่อในสิ่งที่ศาสนทูตนำมาบอกด้วยความบริสุทธิ์ใจ
จนพร้อมจะเข้ารับอิสลาม เข้ามาอยู่บนหนทางเดียวกันกับเรา...
เมื่อศรัทธาของเขามั่นคงแล้ว เราก็สามารถที่จะร่วมเดินทางไปด้วยกันได้...
เพราะคนเรา...ก็มักจะแสวงหาผู้ที่เราจะสามารถร่วมทางชีวิตไปด้วยกันได้...
แม้รักกันแค่ไหน หากไม่สามารถร่วมทางไปด้วยกันได้...
สิ่งที่เราทำได้ ก็คงเป็นเพียงแค่ความห่วงใยเขา...
เพราะบางครั้ง เวลาเรารักใครมากๆ เราต่างก็มักจะลืมมอง
ความต่าง แต่ท้ายที่สุด เราก็ต้องพบ
แล้วเผชิญกับมันอย่างเลี่ยงไม่พ้น
จนต้องยอมรับกับมันในที่สุด...เนื่องจากไม่อาจร่วมทาง
ไปด้วยกันได้...
เขาก็ถามต่อว่า...
แล้วถ้ามุสลิมจะออกจากศาสนาเพื่อไปแต่งงานกับผู้นับถือ
ศาสนาอื่น จะทำได้หรือไม่...
ข้าน้อยก็บอกกับเขาว่า...
ในอิสลามไม่มีการบังคับกันในเรื่องของการศรัทธา...
อิสลามไม่บังคับใครให้เข้ามาศรัทธาหรือปิดกั้นไม่ให้ใคร
ออกไปจากศรัทธา...ไม่มีการเอาปืนไปขู่เข็ญเพื่อให้เขา
ยอมรับนับถืออิสลาม...หรือขู่จะฆ่า
หากว่าเขาหันเหออกจากศาสนา...
อิสลามเป็นสากล ใครจะเข้ามารับนับถือก็ได้ค่ะ
ไม่มีข้อแม้ว่าคนๆนั้นจะต้องเกิดมาในเผ่าพันธุ์ใด
ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนอาหรับ
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนผิวขาวหรือผิวดำ
เพราะอิสลามไม่ใช่ศาสนาของมนุษย์เผ่าพันธุ์ใดเผ่าพันธุ์หนึ่ง
แต่อิสลามถูกส่งมาเพื่อมนุษย์ทุกคน...สุดแต่ใครจะเชื่อมั่น
และศรัทธาค่ะ...เพราะมนุษย์มีสิทธิ์เลือก...
เลือกอะไรก็ได้อย่างที่เลือกค่ะ...
พอวันนี้ได้อ่านบทความจากหะดิษดังกล่าวแล้ว
เลยทำให้รู้สึกดีค่ะ...^^
ก็เลยอยากจะขุด...
Re: สิ่งที่จะทำให้ได้ลิ้มรสความหอมหวานแห่งศรัทธา !! By: nada-yoru Date: ต.ค. 12, 2013, 06:34 PM
ปล.อีกครั้ง...เมื่อก่อนเคยวอนขอต่ออัลลอฮฺว่า...
ตัวเองนั้นไม่เข้าใจว่า การรักเพื่ออัลลอฮฺนั้นเป็นแบบใด
มันเป็นความรู้สึกเช่นใดหนอ...
เลยขอให้อัลลอฮฺทรงเปิดความเข้าใจนี้ให้ด้วยเถิด...
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...หลังจากนั้นก็ต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบหนัก
ที่คิดว่า...ยากจะผ่านมันไปได้...แต่แล้วก็ผ่านมันมาได้...
ด้วยความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ...ด้วยกับความรักความเมตตาของพระองค์...
จึงทำให้เข้าใจว่า...การที่เรานั่งดูละครที่นางเอกกับพระเอกดูจะบูชาความรัก
ของตนว่าเหนือสิ่งอื่นใด เป็นรักที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เราคนดูฝันและใฝ่
อยากจะพบเจอปรากฏการณ์รักเช่นนั้นบ้าง...อยากเจอพระเอกที่ดีแสนดี
กับเราและรักเราขนาดนั้นบ้าง...
แต่เมื่อได้เจอกับความจริงของชีวิตที่ไม่ได้จะเหมือนในละคร...
กลับทำให้พบว่า...แท้ที่จริงแล้ว...มันมีเหตุผลอย่างมากมาย
ที่ทำไมเหตุใดเราถึงเกิดความรักกับพระเจ้าของเรา เกิดความรักกับรอซู้ลของพระองค์
ขึ้นมา และดูเหมือนว่ารักนี้ยิ่งใหญ่กว่ารักใดๆ...
เหตุเพราะว่า...ไม่มีใครจะให้เราได้เท่ากับที่พระเจ้าได้ให้เรามา...
มนุษย์ที่เรารักเขามากมายแค่ไหน ก็ให้เราได้ไม่เท่ากับท่ีพระเจ้าให้เรามา...
ไม่ว่าจะให้มาในรูปแบบทางกาย หรือรับรู้ได้ทางจิตใจ...
ทุกอย่างล้วนเป็นการให้ทีี่ยิ่งใหญ่ ที่บอกว่ายิ่งใหญ่ก็เพราะว่า
ใครก็ให้เราไม่ได้เท่านี้อีกแล้วนั่นเอง...
แล้วที่ทำให้รักรอซู้ลของพระองค์...ก็เนื่องมาจากว่า...
รอซู้ลเป็นผู้นำความจริงดังกล่าวมาบอกเราอย่างตรงไปตรงมา...
ทำให้เราได้รู้จักรักผู้ที่เราควรจะรักเหนือสิ่งอื่นใด...
ท่านรอซุลุลลอฮฺจึงเป็นผู้ที่ถูกเรารักไปด้วยอย่างอัตโนมัต...
ข้าน้อยรู้สึกได้ว่า ความรัก มันเป็นความรู้สึกอัตโนมัต
บังคับกันไม่ได้ ไม่ว่าจะบังคับให้รัก หรือให้เลิกรัก...
ทุกอย่างมันเป็นไปโดยอัตโนมัต...ระบบอัตโนมัตแบบนี้
หากไม่ใช่อัลลอฮฺสร้างไว้ให้เรา แล้วใครจะสร้างเอาไว้
ให้เราได้...มนุษย์อย่างเราๆทำไม่ได้ด้วยอำนาจของเราหรอก...
และเพราะการรักพระเจ้านี้เอง ที่ทำให้เรารู้สึกรักคนอื่นๆได้มากกว่าเดิม...
รักในรูปแบบที่ไม่เคยปฏิบัติหรือรู้สึกมาก่อน...
วัสลามค่ะ