กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 12
นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: al-azhary Date: ธ.ค. 26, 2006, 05:56 PM

بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين


การถือศีลอดสุนัต

การถือศีลอด  มีภาคผลคุณงามความดีมากมาย  ที่ไม่มีผู้ใดคณานับได้นอกจากอัลเลาะฮ์ ตะอาลา แต่เพียงผู้เดียว  ด้วยเหตุดังกล่าว  อัลเลาะฮ์ ตะอาลา ได้ทรงพาดพิงการถือศีลอดมายังพระองค์เอง  ได้มีระบุไว้ในหะดิษกุดซีย์ว่า

كل عمل ابن ادم له الا الصيام فانه لى و أنا أجزى به

"ทุกการปฏิบัติความดีของลูกหลานอาดำนั้น มีให้สำหรับเขา  นอกจาก การถือศีลอด  เพราะแท้จริงมันเป็นของเราและเราจะตอบแทนด้วยกับมัน"

เนื่องจากการถือศีลอดนั้น  ไม่สามารถแสดงออกทางภายนอกได้  ดังนั้น  การถือศีลอดจึงเป็นอิบาดะฮ์ระหว่างเรากับอัลเลาะฮ์ ตะอาลา 

ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า

من صام يوما في سبيل الله باعد الله بينه وبين النار سبعين خريفا

"ผู้ใดทำการถือศีลอดในวิถีทางของอัลเลาะฮ์  อัลเลาะฮ์จะทรงให้เขาห่างไกลจากไฟนรกถึง 70 ปี"  รายงานโดย บุคอรีย์และมุสลิม

การถือศีลอดสุนัตเป็นเป็นสิ่งที่เพิ่มความใกล้ชิดระหว่างเรากับอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  เนื่องจากการทำอิบาดะฮ์ที่สุนัตนั้น จะทำให้เรามีความใกล้ชิดกับพระองค์จนกระทั้งพระองค์ทรงรักเราและเป็นความประสงค์ที่พระองค์ทรงเรามีความรักต่อพระองค์ยิ่งขึ้น  ได้มีระบุไว้ใน หะดิษกุดซีย์ว่า

ولا يزال عبدي يتقرب إلي بالنوافل حتى أحبه

"บ่าวของเราจะยังคงใกล้ชิดเรา  ด้วยการปฏิบัติสิ่งที่เป็นสุนัตต่าง ๆ จนกระทั้งเรารักเขา"
ท่านอัลบุคอรีย์และท่านอบูดาวูด ได้กล่าวว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

ما من أَيَّامٍ الْعَمَلُ الصَّالِحُ فيها أَحَبُّ إلى اللَّهِ من هذه الأَيَّامِ قالوا: يا رَسُولَ اللَّهِ ولا الْجِهَادُ في سَبِيلِ اللَّهِ؟ قال: ولا الْجِهَادُ في سَبِيلِ اللَّهِ إلا رَجُلٌ خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فلم يَرْجِعْ من ذلك بِشَيْءٍ

"ไม่มีบรรดาวันต่าง ๆ ที่การปฏิบัติคุณงามความดี จะเป็นที่รักยิ่งยังอัลเลาะฮ์มากไปว่าบรรดาวันเหล่านี้ (คือสิบวันของซุลฮิจญะฮ์) บรรดาซอฮาบะฮ์กล่าวว่า โอ้ ร่อซูลุลเลาะฮ์ การรบในหนทางของอัลเลาะฮ์ไม่(เป็นที่รักยิ่งกว่า)หรือ? ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวตอบว่า การรบในวิถีทางของอัลเลาะฮ์ก็ไม่(ประเสริฐ)เท่า นอกจาก ชายคนหนึ่งได้ออกรบด้วย(การเสียสละ)ชีวิตและทรัพย์สินของเขา แล้วเขาก็ไม่หวนกลับมาด้วยสิ่งใดเลยจากสิ่งดังกล่าว" รายงานโดยอัลบุคอรีย์ หะดิษที่ 2438 และถ้อยคำหะดิษเป็นของท่านอบูดาวูด

การปฏิบัติคุณงามความดีในสิบวันของเดือนซุลฮิจญะฮ์นั้น เป็นที่รักยิ่งสำหรับอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถือศีลอดในวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์  ซึ่งเป็นวันวุกูฟที่อะรอฟะฮ์ 

ความประเสริฐการถือศีลอดวันอะร่อฟะฮ์

ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า

صيام يوم عرفة أحتسب على الله أنه يكفر السنة التي قبله والسنة التي بعده

"การถือศีลอดในวันอะร่อฟะฮ์นั้น  ข้าพเจ้าหวังว่า อัลเลาะฮ์ จะทรงลบล้างความผิดในปีที่ก่อนวันอะรอฟะฮ์และในปีหลังจากวันอะร่อฟะฮ์"  รายงานโดยมุสลิม

ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวเช่นกันว่า

ما من يوم أكثر من أن يعتق فيه عبدا من النار  من يوم عرفة

"ไม่มีวันใดที่อัลเลาะฮ์จะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จากไฟนรก ที่จะมากไปกว่าวันอะร่อฟะฮ์"  รายงานโดยมุสลิม

การลบล้างความผิด

นักปราชญ์ได้มีความเห็นที่แตกต่างกัน 

ท่านอิมามอัลญุวัยนีย์กล่าวว่า "บาปที่จะได้รับการลบล้างนั้น  คือบรรดาบาปเล็ก"  แต่ท่าน อิมามอิบนุ อัลมุนซิร , อิมามรอมลี , และเจ้าของหนังสือ อัซซะคออิร  กล่าวว่า "การลบล้างบาปนั้น  รวมถึงบาปใหญ่ด้วย  เนื่องจากหะดิษนั้นมีความหมายที่ครอบคลุม(อาม) และความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์นั้นกว้างขวาง" ดู หนังสือ มุฆนีย์ อัลมั๊วะตาจญฺ เล่ม 2 หน้า 196 , ดู  หะวาชีย์ อัชชัรวานีย์ วะ อิบนุ กอซิม อัลอับบาดีย์ อะลา ตั๊วะฟะฮ์  อัลมั๊วะหฺตาจญ์  เล่ม 3 หน้า 454

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า "บรรดาบาปของผู้ถือศีลอดในวันอะร่อฟะฮ์นั้น  จะถูกลบล้างใน 2 ปี บรรดานักปราชญ์กล่าวว่า  จุดมุ่งหมายของบาปนั้นคือ บรรดาบาปเล็ก  และถ้าหากว่าไม่มีบาปเล็ก  หวังว่าบรรดาบาปใหญ่จะได้รับการผ่อนปรน  และหากเขาไม่มีบาปเล็กและบาปใหญ่  เขาจะได้รับการยกหลายระดับขั้นให้สูงขึ้น"  คัดสรุป จาก ชัรหฺ มุสลิม เล่ม 4 หน้า 308 
 
สุนัตให้ถือศีลอดก่อนวันอะร่อฟะฮ์

ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลฮัยตะมีย์ กล่าวว่า "สุนัตให้ทำการถือศีลอดในวันที่ 8 ของซุลฮิจญะฮ์ ดังนั้น  วันที่ 8 สมควรทำการถืออดในแง่ของการเผื่อป้องกันไว้ให้กับวันอะร่อฟะฮ์ (เพราะว่าบางครั้งความจริงวันที่ 8 อาจจะเป็นวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์) และไม่แง่ทีว่า  วันที่ 8 นั้นผนวกอยู่ใน 10 วันของซุลฮิจญะฮ์  ซึ่งเฉกเช่นเดียวกันกับการถือศีลอดวันอะร่อฟะฮ์(วันที่ 9)  ที่ถูกส่งเสริมให้ถือศีลอดเพราะเป็นหนึ่งใน 10 วันของซุลฮิจญะฮ์และเป็นวันอะรอฟะฮ์" ดู  หะวาชีย์ อัชชัรวานีย์ วะ อิบนุ กอซิม อัลอับบาดีย์ อะลา ตั๊วะฟะฮ์  อัลมั๊วะหฺตาจญ์  เล่ม 3 หน้า 455  วัลลอฮุอะลา วะ อะลัม

والله أعلى وأعلم


Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: musalmarn Date: ธ.ค. 27, 2006, 05:33 AM
ญาซากัลลอฮ ฮุ ค็อยร็อนครับ

 :)
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: الأزاهرة Date: ธ.ค. 12, 2007, 04:06 AM
ท่านอัลบุคอรีย์และท่านอบูดาวูด ได้กล่าวว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

ما من أَيَّامٍ الْعَمَلُ الصَّالِحُ فيها أَحَبُّ إلى اللَّهِ من هذه الأَيَّامِ قالوا: يا رَسُولَ اللَّهِ ولا الْجِهَادُ في سَبِيلِ اللَّهِ؟ قال: ولا الْجِهَادُ في سَبِيلِ اللَّهِ إلا رَجُلٌ خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فلم يَرْجِعْ من ذلك بِشَيْءٍ

"ไม่มีบรรดาวันต่าง ๆ ที่การปฏิบัติคุณงามความดี จะเป็นที่รักยิ่งยังอัลเลาะฮ์มากไปว่าบรรดาวันเหล่านี้ (คือสิบวันของซุลฮิจญะฮ์) บรรดาซอฮาบะฮ์กล่าวว่า โอ้ ร่อซูลุลเลาะฮ์ การรบในหนทางของอัลเลาะฮ์ไม่(เป็นที่รักยิ่งกว่า)หรือ? ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวตอบว่า การรบในวิถีทางของอัลเลาะฮ์ก็ไม่(ประเสริฐ)เท่า นอกจาก ชายคนหนึ่งได้ออกรบด้วย(การเสียสละ)ชีวิตและทรัพย์สินของเขา แล้วเขาก็ไม่หวนกลับมาด้วยสิ่งใดเลยจากสิ่งดังกล่าว" รายงานโดยอัลบุคอรีย์ หะดิษที่ 2438 และถ้อยคำหะดิษเป็นของท่านอบูดาวูด

การปฏิบัติคุณงามความดีในสิบวันของเดือนซุลฮิจญะฮ์นั้น เป็นที่รักยิ่งสำหรับอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถือศีลอดในวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์  ซึ่งเป็นวันวุกูฟที่อะรอฟะฮ์ 

ช่วงนี้ 10 ซุลฮิจญะฮ์แล้วมิใช่หรือพี่น้องมุสลิม
ทำอะไรกันเป็นพิเศษบ้างหรือปล่าว
อะไรที่เป็นความดีก็รีบๆทำครับ

Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: SAIFULLOH Date: ธ.ค. 12, 2007, 06:29 AM
เริ่มวันที่เท่าไหร่อ่ะ............ของปฏิทินไทย............ถือศีลอดกี่วันถึงจะดี
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: pineapple Date: ธ.ค. 12, 2007, 04:50 PM
อัสสลามมุอะลัยกุม
เข้ามาอ่าน
ญาซากัลลอฮฺคะ
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: al-azhary Date: ธ.ค. 12, 2007, 05:06 PM
เริ่มวันที่เท่าไหร่อ่ะ............ของปฏิทินไทย............ถือศีลอดกี่วันถึงจะดี

ช่วงนี้ก็เริ่มได้แล้วล่ะครับ  ในช่วง 10 วันนั้น  สุนัตให้ทำความดีเป็นพิเศษอีกในวาระหนึ่ง
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: IamCrying Date: ธ.ค. 12, 2007, 09:17 PM
หมายความว่าให้ถือศีลอดในสิบวันนั้นเหรอคับหรือเฉพาะวันที่ เก้า
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: พ.ย. 20, 2009, 10:10 AM
ขุดมาเพื่อให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวเรา
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: Al Fatoni Date: พ.ย. 20, 2009, 09:00 PM
หวังว่าปีนี้ เราคงจะได้รายอวันเดียวกันนครับ ไม่ว่าจะสายไหนก็ตาม อามีน ยาร็อบบัลอาละมีน - วัสสลามุอลัยกุม
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: ILHAM Date: พ.ย. 20, 2009, 09:07 PM
แว่วๆว่าวัฮฮาบีจะหลังเรานิ 5555 ปีนี้มาแปลก
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: rayes Date: พ.ย. 20, 2009, 09:12 PM
อ้างจากเว็ปมูรีด
ศาลซาอุฯ"ประกาศว่า 1 ซุลฮิจญะฮฺ 1430 ตรงกับวันพุธที่ 18 พ.ย. 52
และวันอารอฟะฮฺ(วันวุกูฟ) ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย.
วันอีดิ้ลอัฎฮา ตรงกับวันศุกร์ที่ 27 พ.ย. นี้   


Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: JawhaR Date: พ.ย. 21, 2009, 05:00 PM
มีพี่น้อง กล่าวว่า
สุนัต ให้ถือศิลอด 9 วันแรกของเดือน ซุลฮิจญะฮ์
ผม ขอข้อมูลเพิ่มเติมด้วยนะครับ
ญาซากัลลอฮ ล่วงหน้าครับ    party:

คือผมได้อ่านบทความ เรื่องนี้จากเว็บอื่น
แต่ก็ไม่อยากจะเชื่ออย่างสนิทใจกับสิ่งที่เขากล่าว และยกมาให้อ่าน
จึงอยากฟัง จากพี่น้องจากเว็บนี่
เพราะพี่น้องเว็บนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าปลอดภัย   
  loveit:
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: ILHAM Date: พ.ย. 21, 2009, 07:59 PM
ซูนัตปอซอต้นเดือน12วันที่1ถึง8 แล้วก็วันอารอฟัตที่9ด้วย เป็น9วันครับ
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: JawhaR Date: พ.ย. 22, 2009, 08:42 AM

بسم الله الرحمن الرحيم

ما من أَيَّامٍ الْعَمَلُ الصَّالِحُ فيها أَحَبُّ إلى اللَّهِ من هذه الأَيَّامِ قالوا: يا رَسُولَ اللَّهِ ولا الْجِهَادُ في سَبِيلِ اللَّهِ؟ قال: ولا الْجِهَادُ في سَبِيلِ اللَّهِ إلا رَجُلٌ خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فلم يَرْجِعْ من ذلك بِشَيْءٍ

"ไม่มีบรรดาวันต่าง ๆ ที่การปฏิบัติคุณงามความดี จะเป็นที่รักยิ่งยังอัลเลาะฮ์มากไปว่าบรรดาวันเหล่านี้ (คือสิบวันของซุลฮิจญะฮ์) บรรดาซอฮาบะฮ์กล่าวว่า โอ้ ร่อซูลุลเลาะฮ์ การรบในหนทางของอัลเลาะฮ์ไม่(เป็นที่รักยิ่งกว่า)หรือ? ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวตอบว่า การรบในวิถีทางของอัลเลาะฮ์ก็ไม่(ประเสริฐ)เท่า นอกจาก ชายคนหนึ่งได้ออกรบด้วย(การเสียสละ)ชีวิตและทรัพย์สินของเขา แล้วเขาก็ไม่หวนกลับมาด้วยสิ่งใดเลยจากสิ่งดังกล่าว" รายงานโดยอัลบุคอรีย์ หะดิษที่ 2438 และถ้อยคำหะดิษเป็นของท่านอบูดาวูด

การปฏิบัติคุณงามความดีในสิบวันของเดือนซุลฮิจญะฮ์นั้น เป็นที่รักยิ่งสำหรับอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถือศีลอดในวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์  ซึ่งเป็นวันวุกูฟที่อะรอฟะฮ์ 
ฮาดิสนี้น่าจะเพียงพอกับการส่งเสริมการทำอะม้าลต่างๆ รวมถึงการถือศีลอดด้วย...วัลลอฮูอะอฺลัม


แต่บทความที่ผมได้ไปอ่านนั้น เขายกฮาดิษมาอย่างชัดเจนเลยครับว่า
สุนัต ให้ถือศีลอด 9 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์  อย่างที่อิลฮัมบอก
ไม่ใช่แค่วันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์วันเดียว

คือแค่อยากรู้ว่า ฮะดิษอย่างที่เขากล่าวนั้น เชื้อถือได้มากน้อยเพียงใดอะครับ
Re: นบีส่งเสริมให้เราถือศีลอดวันวุกูฟ... หรือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ By: JawhaR Date: พ.ย. 22, 2009, 08:51 AM
เอาเป็นว่า ผมยกคำกล่าวของเขามาเลยละกันนะครับ
หากทางเว็บมาสเตอร์ เห็นว่าไม่สมควรที่จำนำบทความของคนที่ อคติกับเว็บเรานี้ มาลง
ก็สามารถ ลบออกได้เลยนะครับ


อีกอย่างคือ ผมยังได้รับ ฟอเวิดเมลล์ของบทความนี้ จากเพื่อนผมด้วย
หากว่าพี่น้องในเว็บเห็นว่า มันผิดถูกอย่างไร ผมจะได้ไปบอกเพื่อนๆที่ฟอเวิดเมลล์นี้ให้ผม
ญาซากัลลอฮุค็อยร็อน ล่วงหน้านะครับ


ความประเสริฐของสิบวันแรกในเดือนซุลฮิจญะฮฺ

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า


افْعَلُوْا الخَيْرَ دَهْرَكُمْ ، وَ تَعَرَّضُوْا لِنَفَحَاتِ رَحْمَةِ اللهِ ، فَإِنَّ للهِ نَفَحَاتٌ مِنْ رَحْمَتِهِ ، يُصِيْبُ بِهَا مَنْ يَشَاءُ مِنْ عِبَادِهِ ، وَسَلُوْا اللهَ أَنْ يَسْتُرَ عَوْرَاتِكُمْ ، وَأَنْ يُؤَمِّنَ رَوْعَاتِكِمْ

الراوي: أنس بن مالك  -  خلاصة الدرجة: حسن  -رواه البغوي في شرح السنة  المحدث: الألباني  -  المصدر: السلسلة الصحيحة  -  الصفحة أو الرقم: 1890

 
ความหมาย  “พวกท่านทั้งหลายจงกระทำความดีตลอดชีวิต จงเสนอตัวแสวงหาพระเมตตาของอัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺทรงให้บางช่วงมีความจำเริญด้วยพระเมตตาของพระองค์ อัลลอฮฺจะทรงประทานให้แก่บ่าวของพระองค์ที่พระองค์ทรงประสงค์ จงขอจากอัลลอฮฺให้อัลลอฮฺทรงปกปิดสิ่งที่ชั่วร้ายของพวกท่าน และให้พวกท่านได้รับความมั่นคง(สวัสดิภาพ)ในชีวิตของพวกท่าน”

ความประเสริฐของสิบวันแรกซุลฮิจญะฮฺจากอัลกุรอาน
 

 في القرآن الكريم :
وردت الإشارة إلى ضل هذه الأيام العشرة في بعض آيات القرآن الكريم ، ومنها قوله تعالى :  وَأَذِّنْ فِي النَّاسِ بِالْحَجِّ يَأْتُوكَ رِجَالاً وَعَلَى كُلِّ ضَامِرٍ يَأْتِينَ مِنْ كُلِّ فَجٍّ عَمِيقٍ * لِيَشْهَدُوا مَنَافِعَ لَهُمْ وَيَذْكُرُوا اسْمَ اللَّهِ فِي أَيَّامٍ مَعْلُومَاتٍ   ( سورة الحج : الآيتان 27 -28 ) . حيث أورد ابن كثير في تفسير هذه الآية قوله : " عن ابن عباس رضي الله عنهما : الأيام المعلومات أيام العشر " ابن كثير ، 1413هـ ، ج 3 ، ص 239 .


ในซูเราะฮฺอัลฮัจญฺ อายะฮฺ 27-28 อัลลอฮฺตรัสกับท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม ว่า 

“และจงประกาศแก่มนุษย์ทั่วไปเพื่อการทำฮัจญฺ พวกเขาจะมาหาเจ้าโดยทางเท้าและโดยทางอูฐเพรียวทุกตัว จะมาจากทางไกลทุกทิศทาง * เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมเป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา(ด้านโลกและด้านศาสนา) และกล่าวพระนามอัลลอฮฺในวันที่รู้กันอยู่แล้ว ตามที่พระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากสัตว์สี่เท้า ดังนั้นพวกเจ้าจงกินเนื้อของมัน และจงให้อาหารแก่ผู้ยากจนขัดสน”   
 
อิบนุอับบาสกล่าวว่า “ในวันที่รู้กัน” คือ สิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ


                كما جاء قول الحق تبارك وتعالى : { وَالْفَجْرِ * وَلَيَالٍ عَشْرٍ } ( سورة الفجر : الآيتان 1 – 2 ) . وقد أورد الإمام الطبري في تفسيره لهذه الآية قوله : " وقوله : " وَلَيَالٍ عَشْرٍ " ، هي ليالي عشر ذي الحجة ، لإجماع الحُجة من أهل التأويل عليه " الطبري ، 1415هـ ، ج 7 ، ص 514 .أكد ذلك ابن كثير في تفسير  7; لهذه الآية بقوله : " والليالي العشر المراد بها عشر ذي الحجة كما قاله ابن عباسٍ وابن الزبير ومُجاهد وغير واحدٍ من السلف والخلف " ابن كثير ، 1414هـ ، ج 4 ، ص 535 .
وهنا يُمكن القول : إن فضل الأيام العشر من شهر ذي الحجة قد جاء صريحاً في القرآن الكريم الذي سماها بالأيام المعلومات لعظيم فضلها وشريف منزلتها.
 
 
อัลลอฮฺได้สาบานด้วยสิบวันแรกแห่งซุลฮิจญะฮฺ ในซูเราะฮฺอัลฟัจรฺ โดยพระองค์ได้ตรัสไว้ว่า“ขอสาบานด้วยยามรุ่งอรุณ และด้วยค่ำคืนทั้งสิบ”

 
ท่านอิมามฏ๊อบรียฺได้กล่าวว่า เป็นความเห็นเอกฉันท์ระหว่างผู้อธิบายความหมายอัลกุรอานว่า “ค่ำคืนทั้งสิบ” คือสิบคืนของซุลฮิจญะฮฺ

อิบนุกะษีรได้รายงานจากท่านอิบนุอับบาส อิบนุสุบัยรฺ มุญาฮิด และบรรดาสะลัฟอื่นๆ ว่า “ค่ำคืนทั้งสิบ” คือสิบคืนของซุลฮิจญะฮฺ
 

ความประเสริฐของสิบวันแรกซุลฮิจญะฮฺจากซุนนะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
 

ثانياً في السنة النبوية :
ورد ذكر الأيام العشر من ذي الحجة في بعض أحاديث الرسول  صلى الله عليه وسلم  التي منها :
الحديث الأول : عن ابن عباس – رضي الله عنهما – أنه قال : يقول رسول الله  صلى الله عليه وسلم  : " ما من أيامٍ العمل الصالح فيها أحبُّ إلى الله من هذه الأيامِ ( يعني أيامَ العشر ) . قالوا : يا رسول الله ، ولا الجهادُ في سبيل الله ؟ قال : ولا الجهادُ في سبيل الله إلا رجلٌ خرج بنفسه وماله فلم يرجعْ من ذلك بشيء " ( أبو داود ، الحديث رقم 2438 ، ص 370 .
 


จากการบันทึกของอิมามบุคอรียฺและอบูดาวู้ด รายงานโดยท่านอิบนุอับบาสจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ไม่มีวันใดๆ การกระทำอันดีงามที่อัลลอฮฺทรงโปรดจะถูกกระทำในวันนั้นดีกว่าการกระทำสิ่งดีๆในบรรดาวันนี้(คือสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ)” เศาะฮาบะฮฺได้กล่าวว่า “แม้กระทั่ง(ดีกว่า)การทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ” ท่านนบีตอบว่า “แม้ กระทั่งการทำญิฮาด(หมายถึงจะไม่ดีกว่าการทำความดีในสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ) เว้นแต่ชายคนหนึ่งออก(จากบ้าน)ด้วยชีวิตและทรัพย์สิน(เพื่อทำญิฮาดในหนทาง ของอัลลอฮฺ) และไม่มีสิ่งใดจากนั้น(ชีวิตและทรัพย์สิน)ได้กลับมาเลย” (คือ เสียทรัพย์สมบัติและชีวิตของเขาไปในการญิฮาดเพื่ออัลลอฮฺตะอาลา แต่การญิฮาดอื่นๆจากนี้ก็ไม่ประเสริฐกว่าการปฏิบัติอิบาดะฮฺในสิบวันแรกของ ซุลฮิจญะฮฺ)



อีกสำนวนหนึ่งท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า 


    عن ابن عباس – رضي الله عنهما – عن النبي  صلى الله عليه وسلم  أنه قال : " ما من عملٍ أزكى عند الله ولا أعظم أجراً من خيرٍ  يعمله في عشر الأضحى . قيل : ولا الجهادُ في سبيل الله ؟ . قال : "  ولا الجهادُ في سبيل الله إلا رجلٌ خرج بنفسه وماله فلم يرجعْ من ذلك بشيء .  قال وكان سعيد بن جُبيرٍ إذا دخل أيام العشر اجتهد اجتهاداً شديداً حتى ما يكاد يُقدرُ عليه " ( رواه الدارمي ، ج 2 ، الحديث رقم 1774 ، ص 41


"ไม่มีอะมั้ลใดๆที่มีความประเสริฐ(มีความสง่างาม มีผลบุญยิ่งใหญ่มหาศาล) ดีกว่าการทำความดีในสิบวันของ(อีด)อัฎฮา



                أن الأعمال الصالحة في هذه الأيام أحب إلى الله تعالى منها في غيرها؛ فعن عبد الله بن عمر  رضي الله عنه  أنه قال : قال رسول الله  صلى الله عليه وسلم  : " ما من أيام أعظم عند الله ، ولا أحب إليه العمل فيهن من هذه الأيام العشر أكثروا فيهن من التكبير والتهليل والتحميد " رواه أحمد ، مج 2 ، ص 131 ، الحديث رقم 6154


ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิอุมัร รายงานจากท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
 

“ไม่มีวันใดๆที่ทรงเกียรติ ณ ที่อัลลอฮฺ และการทำความดีเป็นที่โปรดปราน ณ อัลลอฮฺในวันนั้นๆ ดีกว่าสิบวันแรก(ของซุลฮิจญะฮฺ) ดังนั้นพวกท่านจงขะมักเขม้นในการตักบีร ตะหฺลี้ล และตะหฺมี้ด (หมายถึงกล่าวถึงความเกรียงไกรและสรรเสริญสดุดีต่อพระองค์ด้วยคำว่า อัลลอฮุอักบัร ลาอิลาหะอิ้ลลัลลอฮฺ และ อัลฮัมดุลิลลาฮฺ)” บันทึกโดยอิมามอะหมัด



หะดีษนี้บ่งบอกถึงความประเสริฐของการปฏิบัติอิบาดะฮฺในสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ ซึ่งบรรดาอุละมาอฺได้ระบุไว้ว่า สิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺนั้นเป็นสิบวันอันประเสริฐที่สุดในระยะหนึ่งปี และมีอีกสิบคืนอันประเสริฐที่สุดคือสิบคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ปรากฏว่าจะมีสิบคืนและมีสิบวัน ส่วนความประเสริฐของกลางวันคือสิบวันของต้นเดือนซุลฮิจญะฮฺ และสิบคืนที่ประเสริฐคือสิบคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอน และเราจะสังเกตว่าเมื่อสิ้นสิบคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอนเราจะเฉลิมฉลองอีดุ้ลฟิฏริ เป็นการแสดงความยิ่งใหญ่ การขอบคุณต่ออัลลอฮฺตะอาลาที่พระองค์ประทานความเตาฟีกให้แก่บ่าวของพระองค์เพื่อให้ขยันทำอิบาดะฮฺตลอดเดือนรอมฎอน เฉพาะอย่างยิ่งสิบคืนสุดท้ายอันประเสริฐ เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งคืนลัยละตุ้ลก๊อดรฺที่ท่านนบีให้เราค้นหา


สิบคืนสุดท้ายของรอมฎอนประเสริฐกว่า หรือสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺประเสริฐกว่า ?


ทัศนะ 1 สิบคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอนประเสริฐกว่า เพราะมีลัยละตุ้ลก็อดรฺ
ทัศนะ 2 สิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺประเสริฐกว่า เพราะท่านนบียืนยันไว้ในหะดีษข้างต้นที่ว่า “ไม่มีวันใดๆ การกระทำอันดีงามที่อัลลอฮฺทรงโปรดจะถูกกระทำในวันนั้นดีกว่าการกระทำสิ่ง ดีๆในบรรดาวันนี้(คือสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ)”
ทัศนะที่ 3 ซึ่งเป็นทัศนะของอิมามอิบนุตัยมียะฮฺคือ สิบคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอนประเสริฐกว่าสิบคืนแรกของซุลฮิจญะฮฺ และ(ช่วงกลางวันของ)สิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺประเสริฐกว่า(ช่วงกลางวัน)ของสิบ วันสุดท้ายในเดือนรอมฎอน - เพราะในหะดีษที่กล่าวถึงความประเสริฐของสิบวันแรกซุลฮิจญะฮฺ ท่านนบีใช้คำว่า "อัยยาม أيام" ซึ่งในสำนวนภาษาอาหรับหมายถึงช่วงกลางวัน ส่วนความประเสริฐของลัยละตุ้ลก็อดรฺก็อยู่ในช่วงกลางคืน เพราะลัยละตุ้ลก็อดรฺไม่มีในตอนกลางวัน


และเมื่อสิ้นสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺเราก็จะมีการฉลองอีดุ้ลอัฎฮา ซึ่งเราจะเฉลิมฉลองเพื่อแสดงความขอบคุณต่ออัลลอฮฺตะอาลาด้วยคำว่า "อัลลอฮุอักบะรุ้ลลอฮุอักบัร ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮุ วัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร วะลิลลาฮิลฮัมดฺ" ที่เราเรียกกันว่า ตักบีร ซึ่งหมายถึง การแสดงความเกรียงไกรต่อพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือให้บรรดาผู้ศรัทธานั้นเคารพภักดีต่อพระองค์ แสดงการยืนยันว่าไม่มีสิ่งหนึ่งใดในชีวิตของผู้ศรัทธาที่ยิ่งใหญ่กว่าอัล ลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และความหมายเหล่านี้เป็นความหมายที่เราต้องระลึกตลอดกาล เพราะเป็นสิ่งที่จะกระตุ้นอีมานของเราไม่ให้หลงกับดุนยา


ความประเสริฐของวันอะรอฟะฮฺ
 

                فعن أم المؤمنين عائشة رضي الله عنها-أنها قالت : عن رسول الله  صلى الله عليه وسلم  ق ;ال : " ما من يومٍ أكثر من أن يُعتق الله عز وجل فيع عبداً من النار ، من يوم عرفة ، وإنه ليدنو ثم يُباهي بهم الملائكة ، فيقول : ما أراد هؤلاء ؟ " رواه مسلم ، الحديث رقم 3288 ، ص 568. 
 

ท่านหญิงอาอิชะฮฺรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า 

“ไม่มีวันใดที่อัลลอฮฺทรงปลดปล่อยบรรดาบ่าวของพระองค์จากนรกมากกว่าวันอะรอฟะฮฺ และแท้จริงพระองค์จะทรงอยู่ใกล้ชิดและทรงภูมิใจ(ด้วยการขยันทำความดีของบ่าว ของพระองค์)ต่อมลาอิกะฮฺ โดยพระองค์จะตรัส(ด้วยความภูมิใจ)ว่า คนเหล่านี้ประสงค์อะไรกัน(หมายถึงกล่าวถึงความปรารถนาอันทรงเกียรติของบ่าว ของอัลลอฮฺที่แสวงบุญในวันอะรอฟะฮฺ)” บันทึกโดยอิมามมุสลิม

 
 عن النبي صلى الله عليه وسلم أنه قال :" صيام يوم عرفه أحتسب على الله أنه يكفر السنة التي قبله والسنة التي بعده " [ رواه مسلم ] .


ในหะดีษบันทึกโดยอิมามมุสลิม ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "การถือศีลอดวันอะเราะฟะฮฺ หวังว่าอัลลอฮฺจะลบล้างความผิดปีก่อนหน้าและปีหลังจากนั้น"
 

จากแบบอย่างของบรรดาสะลัฟ
 

ท่านสะอี๊ด อิบนุญุบัยรฺ เมื่อถึงสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺท่านจะขยันทำอิบาดะฮฺอย่างมากมาย โดยไม่มีใครสามารถแข่งขันความดีกับเขาได้ (บันทึกโดยอิมามดาริมียฺ)


การทำความดีในสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถือว่าสิบวันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮฺเป็นฤดูแห่งการปฏิบัติอิบาดะฮฺที่ดีงามต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา คำว่า อิบาดะฮฺ เป็นคำนามที่รวบรวมทุกกิจกรรมที่เป็นการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ อย่าคิดว่าคำว่า "อิบาดะฮฺ" นั้นเกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจเท่านั้น ทฤษฎีของอัลอิสลามในการทำอิบาดะฮฺไม่เหมือนศาสนาอื่น ซึ่งศาสนาอื่นนั้นการปฏิบัติศาสนกิจนั้นเป็นพิธีต้องมีสถานที่มีอาคารที่ทำพิธี แต่อิสลามไม่ใช่อย่างนั้น
 
คำว่า "อิบาดะฮฺ" ในศาสนาอิสลามนั้นชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮฺอธิบายไว้ว่า เป็นคำที่มีความหมายรวมถึงการกระทำและคำกล่าวคำพูดที่เป็นที่รักที่โปรดของอัลลอฮฺ ถึงแม้ว่าการกระทำหรือคำพูดนั้นเราจะปฏิบัติโดยทางลับหรือเปิดเผยก็ตาม แสดงว่าคำว่าอิบาดะฮฺนั้นมันจะครอบคลุมกิจกรรมในชีวิตของเรา เช่น การละหมาด การแต่งงาน การเลี้ยงลูกหลาน การศึกษา การรักษาความสะอาดในอิสลามก็ถือว่าเป็นอิบาดะฮฺ(คือเป็นส่วนหนึ่งของอีมาน) อิบาดะฮฺนั้นมิใช่จะเกี่ยวกับเรื่องละหมาด ถือศีลอด อ่านอัลกุรอาน เท่านั้น ความเข้าใจแบบนี้เราต้องละทิ้งและต่อต้านด้วย เพราะเป็นความเข้าใจที่จะทำให้มุสลิมีนเชื่อว่าการปฏิบัติอิบาดะฮฺอยู่ในมัสยิดเท่านั้น ส่วนชีวิตของเขานอกมัสยิดนั้นเป็นของเขาเองไม่เกี่ยวกับศาสนา นั่นเป็นความเข้าใจของมนุษย์บางคนที่เข้าใจว่านั่นคืออิสลาม ฉะนั้นเราจะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องอิบาดะฮฺเพื่อปฏิบัติในทุกฤดูที่มีความประเสริฐ เราต้องเข้าใจว่าทุกสิ่งที่เป็นคุณธรรมความดี เป็นประโยชน์ต่อชาวโลกต่อสังคมต่อมนุษย์ทุกคน นั่นถือว่าเป็นอะมั้ลเป็นการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา กิจกรรมที่แนะนำให้ปฏิบัติในช่วงสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺคือ

การสรรเสริญสดุดีต่ออัลลอฮฺ : บรรดาสะละฟุศศอลิหฺจะขยันในการรำลึกถึงอัลลอฮฺด้วยเสียงเบาและเสียงดัง

การละหมาดซุนนะฮฺให้มากๆ

การเชือดกุรบาน(อุฎฮิยะฮฺ)

การบริจาคทานให้มากมาย

การถือศีลอด : ในการบันทึกของท่านอิมามดาวู้ดจากภรรยานบีบางท่าน กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มักจะถือศีลอด 9 วันของซุลฮิจญะฮฺ และวันอาชูรออฺ และสามวันจากทุกเดือน

การละหมาดกลางคืน (กิยามุลลัยลฺ)

การกลับเนื้อกลับตัวและสำรวมตนให้อยู่ในกรอบหลักการของอัลอิสลามอย่างสม่ำเสมอ
 
อ้างอิง
http://www.islaminthailand.org/dp6/?q=node/83