กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ มุมตะเซาวุฟอิสลาม
Pages: 1
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราบริสุทธิ์ใจ ? By: Beechern Date: พ.ย. 24, 2012, 10:46 AM
 :salam:

เป็นคำถามที่ผมเองยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน
เคยได้คำตอบว่าตัวคนทำจะรู้เองว่าัตัวเองนั้นบริสุทธิ์ใจแค่ไหน ?
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรกันว่าเราบริสุทธิ์ใจแล้ว ?

การทำอาม้าลมากมายแล้วอาจทำให้เราเกิดความรู้สึกทะนงตัว คิดไปว่าเรานั้นอยู่ในกลุ่มหรือเป็นคนที่เหนือกว่าคนอื่น และทำให้มืดบอดไม่เห็นในความผิดพลาดของตัวเอง พอมีคนมาบอกความผิดพลาดของตัวเองก็ไม่ยอมรับ เพราะคิดว่าตัวเราเองนั้นดีพออยู่แล้ว อย่างนี้คือความบริสุทธิ์ใจหรือไม่ ?

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเรามีความบริสุทธิ์ใจ ?
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราบริสุทธิ์ใจ ? By: nada-yoru Date: ก.ค. 19, 2013, 07:21 PM
อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

แวะเข้ามาอ่านเจอ...พออ่านที่ท่าน beechern เขียนมาด้านบน
ก็ให้งงนิดนึงค่ะ...

คำว่า "ความบริสุทธิ์ใจ"นั้น...ท่านให้นิยามว่าอย่างไรหรือคะ...

อย่างเช่น...ถ้าเราทำละหมาด 5 เวลานัั้น เราเหนียตว่าเพื่ออัลลอฮฺ
แล้วลึกลงไปข้างในนั้น เราทำเพื่อพระองค์จริงๆหรือไม่...
เรานั้นแหล่ะค่ะที่จะตอบได้...

บางคนทำเพราะว่าคนอื่นเขาทำกันหมด
เราจะไม่ทำด้วยก็อายคนอื่นเขา เช่น เห็นคนอื่นละหมาดสุนัตตะรอเวียะกันถ้วนหน้า
เราจะไม่ทำก็อายชาวบ้านเขา เดี๋ยวจะโดนชาวบ้านประณามได้ว่า
เรานั้นไม่ดี เรานั้นแย่...เรานั้นไม่เคร่งเลย...
เราก็เลยต้องเดินทางไปมัสยิดเพื่อร่วมทำละหมาดดังกล่าว...
การเดินทางไปละหมาดดังกล่าวด้วยหัวใจเช่นนั้น เราจะมองว่ามัน
มีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮฺหรือไม่...

คำว่า "บริสุทธิ์ใจ"ถ้าแปลตามตัวเลย ก็คือใจที่ไม่มีอะไรเจือปน
หากเราตั้งใจทำเพื่ออัลลอฮฺ ก็ย่อมต้องไม่มีอะไรเจือปน
ถึงจะเรียกว่า"บริสุทธิ์ใจ"

คือไม่ว่ามนุษย์จะมองเราเป็นลิงหรือเป็นแพะ
จะยกย่องหรือประณาม
แต่การที่เราเดินอยู่บนหนทางของอัลลอฮฺ
มันก็ไม่ได้ทำให้การมองหรือคำพูดร้ายๆจากผู้อื่น
หรือแม้แต่คำชื่นชมจากผู้อื่นทำให้เราไขว้เขวหรือเดินปัดเป่

เพราะเราตั้งใจว่าเราจะพยายามทำทุกอย่างตามที่อัลลอฮฺสั่งใช้
และพยายามละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามนั้น
ก็เพื่อน้อมรับบัญชาจากพระองค์...มนุษย์จะจับเราลงกองไฟ
เราก็ไม่หวั่นเกรง...
หรือมนุษย์จะยกย่องเราให้ยิ่งใหญ่เหนือชนทั้งหล้า
เราก็มิได้หลงลืมอัลลอฮฺ...เพราะเรารู้ว่า...

แท้จริงแล้ว...เราเกิดมามีฐานะเป็นบ่าวของใคร...


ไม่ว่าจะถูกยกย่องหรือถูกทำให้ต่ำต้อย
ในสายตามนุษย์สักแค่ไหน
แต่ใจเรานั้นรู้มาตลอดว่าเราคือบ่าวของใคร...
และเรากำลังทำเพื่อผู้ใด...

เพราะการจะทำให้มนุษย์ทุกคนพึงพอใจในตัวเราทั้งหมด
คงเป็นสิ่งที่ทำได้ยากยิ่ง

แต่เมื่อเราเลือกที่จะทำเพื่อให้อัลลอฮฺ
และศาสนทูตของพระองค์พึงพอใจแล้ว...
หนทางดังกล่าวย่อมเดินทางไปได้ง่าย
กว่าการต้องเดินไปตามเส้นทางตามความ
พึงพอใจของมนุษย์ทั้งหมด...ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงตรงไหน
ซ้ำอาจทำเอาเราสับสนอีกด้วย...


และทุกอย่างจะบริสุทธิ์ได้นั้น...
เราต้องกำจัดสิ่งที่ทำให้ขุ่นมัวออกไป
หรือต้องกำจัดสิ่งที่เข้ามาเจือปนให้ออกไปให้ได้ค่ะ...


มันจึงไม่ง่ายที่จะทำให้ใจบริสุทธิ์จากสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ...
แต่หากเราพยายาม...อินชาอัลลอฮฺ...
พระองค์คือทีี่พึ่งของบ่าวของพระองค์เสมอ...

พระองค์ทรงอยู่กับเรา
พระองค์ทรงมองเราอยู่
และพระองค์ทรงเป็นสักขีพยานให้กับเรา...

3 ประโยคสำคัญที่เราควรจะท่องไว้ให้ขึ้นใจค่ะ...^^



วัสลามค่ะ


Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราบริสุทธิ์ใจ ? By: ผ้าขาวม้า ลายสก๊อต Date: ก.ค. 20, 2013, 08:45 AM
ชัยคุลอิสลาม ซาการียา อัลอันศอรีย์ شيخ الإسلام زكريا الأنصاري  กล่าวว่า
ความอิคลาศมีสามระดับด้วยกัน
1.สูงสุด
2.กลาง
3.ต่ำ

1.ระดับสูงสุดนั้นคือ การที่บ่าวผู้หนึ่งได้ปฏิบัติอะม้าลเพื่ออัลลอฮ
เพื่อที่จะเชิดชูคำสั่งของพระองค์และยืนหยัดอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยกับความที่เขานั้นเป็นแค่บ่าวของพระองค์โดยไม่หวังกับสวรรค์ของพระองค์
หรือเพียงการหลีกหนีนรกของพระองค์ เพราะสิ่งนั้นอัลลอฮเป็นผู้กำหนดไว้แล้ว

ด้วยเหตุนี้ท่านรอบีอะฮ์กล่าวว่า
"การเป็นบ่าวของฉันนั้น ไม่เคยหวังที่จะได้รับสวรรค์หรือให้พ้นจากนรกเลย
แท้จริงแล้ว ที่ฉันปฏิบัติทุกคำสั่งของอัลลอฮนั้นเพียงเพื่อสิ่งนั้นเป็นคำสั่งของพระองค์เท่านั้น"

2.ระดับกลางนั้นคือ การที่บ่าวคนหนึ่งปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์เพื่อผลตอบแทนในวันอาคีเราะฮฺเท่านั้น
เช่นเพื่อห่างไกลจากไฟนรกและเพื่อพระองค์มอบสวรรค์ให้กับเขา
และเพื่อจะได้รับอรรถรสที่แสนอร่อยในนิอฺมัตต่างๆในสวรรค์ เป็นต้น

3.ระดับต่ำสุดนั้นคือ บ่าวผู่หนึ่งปฏิบัติอาม้าลเพียงเพื่อที่จะได้รับเกียรติจากอัลลอฮในดุนยาและเพื่อให้พ้นภัยอันตรายต่างๆ

และ ผู้ใดที่ปฏิบัติอาม้าลอื่นจากสามระดับนี้แล้ว
ย่อมหนีไม่พ้นจากรียาอฺ رياء โอ้อวด อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเหลื่อมล้ำในเรื่องนั้นๆก็ตาม

แปลจากเฟสบุคของ เช็ค ซัยยิด ชัลตูต