https://www.facebook.com/ThaiCuteGirlBoy?ref=stream
หน้าเพจด้านบน เอารูปผู้หญิงมาโชว์กับสาธารณะ ทำให้เกิดฟิตนะ ทำให้เกิดสิ่งไม่ดี นี่มันเป็นการตามสังคมตะวันตก ที่ให้ความสัมคัญกับเรื่องภายนอกมากกว่าเรื่องจิตใจ แท้จริงสังคมอย่างนี้ เป็นสังคมที่ล้าหลังที่สุด สังคมยาฮิลียะห์ ก่อนอิสลามจะมา ถึงแม้พวกเขาจะอ้างว่ามีความทันสมัยก็ตาม , เป็นสังคมที่มีอารยะธรรมก็ตาม แต่ที่จริงพวกเขาหารู้ไม่ว่า พวกเขานั้นแหละที่ล้าหลัง, ผู้หญิงในสายตาของพวกเขาเป็นแค่เครื่องมือทางเพศเท่านั้น, ในเมื่อผู้หญิงเป็นแค่เครื่องมือทางเพศ มันก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ ที่สัตว์นั้นมันก็มีชะฮวะเหมือนกับมนุษย์เหมือนกัน . แน่นอนการทำแบบนี้มันเป็นการยั่วยุอารมณ์ ของเพศตรงข้าม ที่เขาจะทำอิบาดัตต่ออัลลอฮ กลับต้องมาถูกยั่วยุโดยอารมณ์่ใฝ่ต่ำ... สังคมต่อเมื่อมีสิ่งยั่วยุเหล่านี้ จะเป็นสังคมอิสลามที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ จะเป็นสังคมในสมัยรอซูลลุลเลาะห์ไม่ได้ แน่นอนว่าพวกเรานั้นปราถนาที่จะได้อยู่ในสังคมอย่างนั้น.
Re: สังคมที่ล้าหลัง!! By: Bangmud Date: ธ.ค. 17, 2012, 09:26 AM
เห็นด้วยโดยไม่มีข้อแม้ อย่างนี้แหละที่เรียกว่า ตะบัรรุจ (การอวดโฉม) โดยชัดแจ้ง
จะส่งคำเตือนไปถึงใครเขาถึงจะยอมเลิกกระทำ
Re: สังคมที่ล้าหลัง!! By: multi Date: ธ.ค. 17, 2012, 10:39 AM
มีหนักกว่านี้ อีกครับ มีเวอร์ชั่น แบบคลุมฮิญาบแบบเรียบร้อย กับอีกเวอร์ชั้น คือ นุ่งกระโปรสั้น เกือบเห็นก้น เสื้อสายเดี่ยวแบบรัดทรง โชว์ร่องนม ย้ำว่าร่องนม ไม่ไช่ร่องอก เที่ยวกลางคืน ถ้าไม่เคยเห็น เวอร์ชั่นคลุมฮิญาบ ผมจะนึกว่า คง เป็นเด้กเสริฟ เด้กนั่งดริ้ง ให้อาเฮียมาลูบๆคลำๆ แน่ๆ
บังเอิญ เห็นในเฟส เพื่อนแนะนำให้ดูบอกว่าเด็กแถวบ้านเขา เห็นแล้ว เสียความรู้สึก จิงๆ
Re: สังคมที่ล้าหลัง!! By: comel sokmo Date: ธ.ค. 17, 2012, 06:27 PM
เราช่วยกันส่งข้อความไปบอกให้เขาปิดหน้าเพจนี้
Re: สังคมที่ล้าหลัง!! By: chocolatesunday Date: ธ.ค. 18, 2012, 05:01 PM
เจ็บหัวใจจัง นี้เราตกต่ำกันถึงขนาดนี้แล้วหรอ
Re: สังคมที่ล้าหลัง!! By: abiatiya Date: ธ.ค. 19, 2012, 02:57 PM
เห็นด้วยตาม Bangmud ครับ..
ร่วมกัน report page->should not be on facebook ครับ... คนละครั้ง 2 ครั้ง ครับ
Re: สังคมที่ล้าหลัง!! By: nada-yoru Date: ก.ย. 22, 2013, 11:55 PM
ตามชื่อหัวข้อมา ไม่ได้เข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ได้อ่านอะไรๆที่พี่น้องโพสต์เลยสะกิดอะไรบางอย่างขึ้นมา...
เพราะเมื่อไม่นานมานี้โดนตำหนิอย่างรุนแรงว่าเป็นประเภท
"มนุษย์โบราณ" "คิดล้าหลัง" "ไม่ทันสมัย"
คนพูดนั้นหากไม่ใช่คนเคยรู้จักกันมานาน ข้าน้อยอาจจะโกรธไปแล้ว
แต่เพราะรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร และมีเจตนาอย่างไรที่พูดแบบนั้นออกมา
เลยโกรธไม่ลง แน่นอนว่าคนต่างศาสนาไม่ได้มองว่าอะไรแบบนี้
เป็นสิ่งที่น่าเสียหายอย่างรุนแรงเหมือนมุสลิมเรา...
เขามองว่ามันเป็นสิทธิส่วนบุคคล...ใครจะทำไม่ทำก็ได้...
ไม่เห็นว่าจะเป็นการทำบาปกรรมอะไร...
และเมื่อเราคิด เขาก็คิดว่าเรานั้นหัวโบราณ
โดยจะมีคำว่า
"นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ใครเขาจะมาคิดอะไรกันแบบเธออีกล่ะ...
อิสลามนั้นล้าหลัง...คนที่นับถือก็เลยพาลล้าหลังเพราะยึดอะไรเดิมๆแบบนั้น..."
ตอนได้ฟังนั้น แปลกใจตัวเองที่ไม่ได้โกรธคนพูด แต่ให้ได้นึกว่า
คนเรานั้น เมื่อเวลาผ่านไป ความคิดคนก็สามารถเปลี่ยนไปได้ด้วย
เมื่อก่อนคนที่พูดประโยคนี้จะชื่นชอบอิสลามมาก แม้จะไม่ใช่มุสลิม
แต่เขาก็ชื่นชมและชื่นชอบอิสลามและผู้นับถือศาสนาอิสลาม
เขายังบอกอีกว่า
"ก็พี่เห็นอยู่ว่าพวกมุสลิมนั่นแหล่ะที่ทำ ไม่เห็นใครเขาจะซีเรียตเหมือนแกเลยนะ
มันต้องรู้จักหยวนๆบ้าง"
ข้าน้อยก็บอกไปว่า
"ก็อยากจะหยวนๆอยู่หรอก แต่บางเรื่องก็หยวนให้ไม่ไหวจริงๆ
ที่สำคัญ การคิดแบบนี้ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครเสียด้วย
หนูก็มีศาสนาให้ยึดแล้ว แล้วจะไปยึดอย่างอื่นให้มันมามั่วกับศาสนาอีกเพื่ออะไร
ก็ในเมื่อเลือกแล้ว หนูก็เลือกเอาอย่างนึง ไม่อยากสับสนทางความคิด
ไปมากกว่านี้อีก...เอาอะไรก็เอามันไปสักอย่าง
หนูไม่คิดว่าอะไรจะเชยหรอก ตราบเท่าที่โลกมันยังกลมและยังหมุนไปหมุนมา
อยู่อย่างนี้...หนูก็ไม่เห็นว่าโลกใบนี้มันจะหมุนไปนอกวงโคจรสักที
ก็ยังหมุนเวียนเปลี่ยนฤดูกาลอยู่แบบเดิมๆ ซ้ำๆซากๆ
เหมือนแฟชั่นที่ผลัดเปลี่ยนไปมาแบบเดิมๆซ้ำๆซากๆ
คนที่ไม่ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ก็จะมาน่ั่งพูดว่าอิสลามล้าหลัง
แต่คนที่ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง
เขาก็จะรู้ว่า อิสลามไม่ได้ล้าหลัง...เพราะหากจะหาว่าอะไรล้าหลัง
คงยาก ในเมื่อโลกมันหมุนไปมาอยู่อย่างนี้...
แต่ถ้าถามว่าอะไรคือความงดงาม หนูว่าหนูตอบได้
อิสลามคือความงดงามสำหรับหนู และมันงดงามเสมอมาไม่เปลี่ยนแปลง
พี่ก็รู้หนูชอบสิ่งสวยงาม อะไรไม่สวยไม่งามหนูไม่ชอบ
และหนูมองเห็นแล้วว่า อิสลามคือความสวยงาม
และหนูก็อยากให้อิสลามเป็นอาภรณ์ของตัวเอง...
ใครมองมาว่ามันเชย หนูไม่แคร์ เพราะหนูรู้แค่เพียงว่า
หนูได้สวมใส่อาภรณ์ที่สวยงามที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะค้นหาเจอแล้ว...
ต่อให้ผ่านไปอีกสักสี่สิบปี อาภรณ์นี้ก็ยังคงสวยงามอยู่เช่นเดิม...
เพราะของสวยงามมันก็ย่อมสวยงามในตัวของมันเอง...
และมันคือ ความสวยงามที่สมบูรณ์แบบแล้ว...เราไม่ต้องไปพยายามแก้ไข
หรือเพิ่มเติมมันอีกแล้ว..."
ถ้าพี่บอกว่าหนูเป็นศิลปิน...หนูก็จะบอกว่าหนูชอบสิ่งสวยงาม
ถ้าพี่บอกว่าหนูเป็นนักออกแบบ...หนูก็จะบอกว่า
อิสลามถูกออกแบบมาด้วยนักออกแบบที่ยิ่งใหญ่
ไม่สามารถหาใครที่เทียบเทียมได้เลย...
ถ้าพี่บอกว่าหนูหัวโบราณ ไม่ทะเยอทะยานทั้งที่มีความสามารถ
หนูก็จะบอกว่า สิ่งที่หนูแสวงหาอยู่มันแตกต่างจากที่พีี่อยากให้
แสวงหา...เป้าหมายเราไม่เหมือนกัน หนูจึงเลือกเดินเส้นทางนี้
ก็เพื่อจะได้เดินไปสู่เป้าหมายที่ต้องการจะไป...
หากใครบอกว่า...
การอวดโฉมคือสิ่งสวยงามและมันคือความสวยงาม
คือศิลปะ...
จึงอยากบอกคนที่คิดเช่นนั้นว่า...
ร่างกายมนุษย์นั้นสวยงามอย่างแท้จริง
เพราะเป็นฝีมือการสร้างสรรของอัลลอฮฺ
จะไม่สวยงามได้อย่างไร...
แต่สิ่งสวยงามที่ว่ามานั้น
ไม่ได้มีเอาไว้อวดสายตาแก่ผู้คนโดยทั่วกัน
เพราะมันอาจจะบอบช้ำ อาจจะแปดเปื้อน
ซ้ำอาจจะถูกทำร้ายได้จากผู้ที่จิตใจเป็นโรค...
เราจึงต้องมีอาภรณ์ให้กับตัวเอง...
เพื่อห่มให้กายและใจของเรามิต้องแปดเปื้อนมลทิน...
อัลลอฮฺส่งอิสลามมาให้กับเรา...
เพื่อที่เราจะได้นำมันมาห่มกายและใจของเรา...
ใครได้ห่มก็จะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นกายและอบอุ่นใจ
ไร้กังวล...อินชาอัลลอฮฺ...
Re: สังคมที่ล้าหลัง!! By: nada-yoru Date: ก.ย. 23, 2013, 12:27 AM
ใครจะรู้ว่า แท้จริงแล้ว...ความสวยงามนั้นเป็นภัย...
เพราะสิ่งสวยงามจะถูกหมายปอง ถูกหมายตา
และถูกร้องหาจากหมู่ชน...
ข้าน้อยยังเคยพูดกับน้องทีี่รู้จักตอนที่เขาถามข้าน้อยว่า
เขานั้นสวยมั้ย...
ข้าน้อยบอกไปว่า...ทุกคนเกิดมาสวยทั้งนั้นแหล่ะ
อยู่ที่ว่าสวยประมาณไหน แค่ไหน และแบบใด...
สวยมากสวยน้อย แต่พี่นั้นพอใจกับความสวยงามแค่ที่พี่ได้มา
เพราะว่า มันสามารถทำให้พี่เดินไปไหนมาไหนได้โดยไม่เป็นที่จับตา
ของผู้คน มันไม่ได้โดดเด่นสวยงามชวนให้คนหลงใหล
และไม่หน้าแปลกจนคนเหลียวหลังมอง...
เพราะที่พี่สามารถไปไหนมาไหน และใช้ชีวิตสงบๆแบบนี้ได้นั้น
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพี่มีหน้าตาเรียบๆแบบนี้แหล่ะ...
พี่จึงสามารถใช้ชีวิตที่สะดวกได้ ไร้แมวมองที่คิดจะหาผลประโยชน์
จากหน้าตาของเรา ถ้าจะมีก็มีเพียงคนที่พยายามมองหาประโยชน์
ด้านสมองและสติปัญญาของเรา ซึ่งไม่ใช่ปัญหา
เพราะพี่พร้อมเสมอที่จะให้ความรู้ความสามารถที่พี่มีแก่คนที่ปรารถนา...
ต่อให้เขาเดินเข้ามาแล้วทำดีเพื่อหลอกใช้เรา พี่ก็ไม่ถือสา...
หากให้ได้ก็ให้ ให้ไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้...หลอกเอาความรู้หลอกใช้พี่ได้เท่าไหร่
ก็หลอกไป ไม่มีปัญหา...เพราะพี่ไม่เคยรู้สึกสูญเสียเลย...
ใครจะมองว่าพี่โง่ให้เขาหลอกใช้อยู่ได้ ก็ให้เขาคิดไป
หรือใครคิดว่าตัวเองเก่งที่หลอกใช้ชาวบ้านได้สำเร็จ ก็ไม่ว่ากัน
จะยกตำแหน่งคนโง่ในรอบปีให้พี่...พี่ก็ไม่เคือง...
หากว่าเขาคิดแบบนั้นแล้วเขามีความสุข...ทำให้เขายิ้มได้...
ซึ่งอาจมองได้ว่า มันคือความโชคดีของพี่ก็ว่าได้ที่เกิดมาหน้าตาประมาณนี้...
ทุกอย่างที่พี่ได้มา พี่จึงพอใจ เพราะพี่พอใจชีวิตที่เป็นมาและที่เป็นอยู่
ก็เลยพอใจในทุกสิ่งที่มีมา...
อยากโชว์ความสวยที่ได้รับมาบ้างมั้ย?
ไม่นะ เพราะว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ควรโชว์ให้ใครๆเห็น...
แต่ถ้าถามว่า อยากโชว์ความสามารถให้ชาวบ้านเห็นมั้ย?
อันนี้ ชัวร์...เพราะว่า สำหรับพี่ สิ่งนี้ควรโชว์สุดๆ...
ผลงานมันน่าโชว์ให้โลกเห็นยิ่งกว่าเรือนร่างของเราเสียอีก...
ไม่ใช่พี่ดูถูกเรือนร่างตัวเองว่าสวยไม่สู้ผลงาน
แต่เรือนร่างของพี่นั้น มันมีค่าเกินกว่าจะไปตากหน้าโชว์ตามงานต่างๆ...
ให้ผลงานออกหน้าแทนดีกว่า...
พี่พอใจให้คนรู้จักผลงาน มากกว่ารู้จักตัวของพี่...
อยากเก็บกายอยู่ในที่ที่สงบๆ และให้ผลงานออกรบแทน...
นั่นคือการสนทนากับน้องสาวในที่ทำงาน...
เขาเป็นคนสวยที่ขาดความมั่นใจในความสวยของตัวเอง
และเป็นคนมีความสามารถที่ยังขาดความมุ่งหวังและจุดยืน...
เลยไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะจัดการอย่างไรกับสิ่งที่มีอยู่กับตัว...
จะใช้ความสวยหรือใช้ความสามารถที่มีในการขับเคลื่อนชีวิตดี...
บางคนอัลลอฮฺให้เขามาเยอะกว่าเรา ให้มาทั้งความสวย
และความสามารถ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะมานั่งอิจฉาชาวบ้าน
กับสิ่งทีี่เขาได้รับมา เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ว่า
เราจะบริหารจัดการกับสิ่งที่ได้มาอย่างไรมากกว่า...
บริหารได้ดีก็เอาดีไป บริหารได้ไม่ดี ก็เอาไม่ดีไป...
บางคนก็ผิดพลาด บางคนก็ประสบความสำเร็จ...
ขึ้นอยู่กับว่าคนๆนั้น ใช้หลักการอะไรในการบริหารชีวิตตัวเอง...
หากเราคิดเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะมีใครว่ามันล้าหลัง
และเชยหรือเปล่า ^^