กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ สนทนาศาสนธรรม
Pages: 12345678910
Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: admin Date: ต.ค. 01, 2007, 06:14 PM
 salam
ความจิงก็ใช่ว่าจะไม่มีนะครับ แต่มองถึงความรุนแรงของสาเหตุต่างกันกระมัง
เราจะเห็นได้จากการเสียสละของท่านอบูบักร ท่านละทิ้งไม่เหลืออะไรไว้ในยามที่ท่านต้องทิ้ง

ท่านนบีอิริมฮีม ท่านก็ทิ้งเมื่อต้องทิ้ง ให้ภรรยาและลูกชายอยู่กลางทะเลทรายเมื่อขณะจะคลอด
ก็ตอนที่มีน้ำ ซัมซัม และที่เราไปทำ ฮัจย์ ส่วนนึงก็เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นั้น


แต่ติดตรงคำว่า ต้องทิ้ง นี้แหละครับที่เรามองต่างการ ท่านอบูบักร ท่านไปร่วมสงคราม
นบีอิมรอฮีม ท่านได้รับคำสั่งจากพระองค์อัลลอฮ (ซบ.) โดยตรง

แล้วพี่น้องบางท่านการมองว่าทิ้งเมื่อนำมาเทียบแล้วยังห่างไกลใน "สาเหตุ" แต่เขาอาจมองว่าใกล้
เขามองว่าวันนี้มันเป็นเวลาที่เราต้องสละ ในยุคสุดท้าย ยุคฟิตนะย์ ถ้ามีสงครามจริงวันพรุ่งนี้
เรากี่คนที่พร้อมจะทิ้ง หากเราไม่เคยสละเลย แม้แต่เล็กน้อย

แต่พี่น้องโปรดเข้าใจในรูปแบบการทิ้ง มื่อนำมาเทียบแล้วยังห่างไกลใน "รูปแบบ" ซอฮาบะฮ์
การเสียสละของท่านไม่เหลืออะไรไว้เลย นบีอิรอฮีมเล่าท่านก็ไม่เหลือแม้แต่ที่พักพิง ทิ้งไว้ก็แต่อัลลอฮ์
เพียงเท่านั้นด้วยการมอบหมาย เชื่อมั่น แต่วันนี้พี่น้องมองการทิ้งโดยเหลือ บ้าน ตู้เย็น เฟอร์นิเจอร์ ข้าว
ปัจจัยยังชีพ  สวน รถ นา ไร่ สาระพัดจะนับ และเดือนนึง 3 วัน ปีนึง 40 วัน ช่างห่างไกลในการเสียสละ
จนเทียบไม่ได้เลยแม้แต่เสี้ยว เพียงแต่หวังว่าทั้งคนที่ออกไป คนที่รออยู่ที่บ้านจะดุอาร์ มอบหมาย ยากีน
อีหม่านต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) เพิ่มขึ้นมาสักเสี้ยวก็ยังดี ดุอาร์ให้ด้วย

 waalaikumussalam

Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: บาชีร Date: ต.ค. 02, 2007, 03:05 AM
ปอเนาะก็สอน อิหม่าน เหมือนกันครับ
หรือว่าแถมหลักการถูกต้องด้วย
ทั้งหลักปฏิบัติ และอิหม่าน
หลายคน เคยเห็นไหมครับ ละหมาดตามอย่างเดียว
แต่ไม่รู้หลักปฏิบัติ
สงสัยผมเคยเห็น คนเดียวอีกมั้ง
ใช่ครับปอเนาะสอนเรื่องอีหม่าน
แต่จะทำยังไงละครับให้อีหม่านที่ครูสอนนั้นมาฝังลึกอยู่ในหัวใจของเรา
วิธีที่จะทำให้อีหม่านมั่นคง คือการลำบากในงานศาสนา
การออกดะวะฮฺตับลีฆก็เช่นกัน เป็นวิธีหนึ่งในนั้น

ซอฮาบะฮฺนั้นอีหม่านของเขามั่นเพราะพวกเขาได้รับศาสนาด้วยความยากลำบาก
บางละหมาดยังต้องสับเปลี่ยนกันไปเฝ้ายามเลย
ที่ศาสนาเรียกว่า ศอลาตุลเคาฟฺ
คุณเคยเรียนเรื่องศอลาตุลเคาฟฺมั้ยครับ

เห็นมั้ยครับว่าศอฮาบะเสียสละ ลำบากกับศาสนาขนาดไหน
แต่ถึงแม้พวกเขาจะลำบากขนาดไหน
พวกเขาก็ยินดีมีความสุขที่จะรับใช้ศาสนาของพระองค์

เหมือนคนกินแกงส้มที่เผ็ดนะครับ
กินไปเหงื่อไหลไป หน้าแดง แสบปาก
ถ้าถามว่าชอบมั้ย เขาก็ตอบว่าชอบ
อร่อยมั้ย            อร่อย

เห้ย กินไปได้ไง
มันจะอร่อยเราะ

นายก็ลองชิมดูเองสิ จะได้รู้ว่าอร่อยขนาดไหน
ถ้ากินแล้วไม่ชอบ ก็ไม่ต้องกิน ไปกินอย่างอื่นเถอะ

แต่จะมาว่าพวกข้าไม่ได้นะ
เพราะถ้าหากนายว่าพวกข้า
นายนั้นไม่เข้าใจความอร่อยแกงนี้หรอก

Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: al-adalah 1 Date: ต.ค. 02, 2007, 05:21 AM
สลาม...ครับ

ฟัตวาแห่งประเทศอียิปต์  ก็รับรองแล้วครับว่ากลุ่มญะมาอะฮ์ตับลีฆนั้น  ไม่มีปัญหาอะไรและสามารถดำเนินการได้ตามเงื่อนไขและหลักการ  ส่วนโต๊ะครูบางคนที่ต้านดะวะฮ์นั้นถือว่าไร้น้ำหนัก  เพราะฟัตวาแห่งประเทศอียิปต์ได้ให้การยอมรับ myGreat:
Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ต.ค. 02, 2007, 12:03 PM
แนะนำครับ 40 วัน 4 เดือนนี่ถ้าตั้งใจเรียนจริงได้เยอะนะครับ
ไปเรียน ปอเนาะ ได้เนื้อ ๆ มากกว่าครับ

    คุณ pareet  อย่าเอาการศึกษาปอเนาะมาเทียบกับการออกดะวะฮ์เลยครับ  เพราะการเรียนปอเนาะนั้นคนที่จบออกมา  ประสบผลสองด้านคือมีทั้งคนได้ความรู้ และคนที่ไม่ได้ความรู้เกเร  เสียคนก็เยอะ  กระผมเองก็เป็นเด็กปอเนาะจึงรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร  คุณชอบผู้ในแง่ลบของตับลีฆ  แล้ววันนี้คุณก็ยกตัวอย่างของปอเนาะมาเป็นทางเลือก  แต่กระผมเกรงว่าพี่น้องตับลีฆเขาจะแฉพฤติกรรมเด็กปอเนาะกันจริงๆ แล้ว  กระผมอายแทนครับ.....ดังนั้นผมว่าคุณอย่าเอาปอเนาะมาเทียบดีกว่า  อย่างน้อยผู้นำเสนอวิชาการแห่งเวปไซท์ก็เด็กปอเนาะกันเกือบทั้งนั้น 

    จะปอเนาะหรือไม่ปอเนาะก็มีข้อดีและข้อเสีย  หากเป็นข้อเสียก็ปรับปรุงกันไป  mycool:
Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: บาชีร Date: ต.ค. 02, 2007, 06:00 PM
ผมก็เด็กปอเนาะเหมือนกัน
แต่ไม่ใช่ปอเนาะที่ไทยนะ
(ไม่ได้จะยกว่าตัวเองเป็นเด็กปอเนาะ
แต่จะชี้ให้เห็นว่าชาวตับลีฆนั้นก็เรียนศาสนานะครับ)

แล้วดะอฺวะฮฺตับลีฆก็ยังสนับสนุนให้ศึกษาหาความรู้ในศาสนาด้วย
ในศิฟะฮฺข้อที่3ของศอฮาบะฮฺ ที่ถูกกล่าวถึงบ่อยๆคือ
ให้เราพยายาม ศึกษาหาความรู้ในเรื่องของ
มะศาอีล และฟาดออีล
มะศาอีลคือ ปัญหาศาสนาต่างๆ (เช่น วิธีการละหมาด)( หุกุมหะลาล หะรอม )

ฟะดออีล ผมบุญคุณค่าในการอะมัล(ปฏิบัติ)ศาสนา
 จะทำให้เราเกิดความรู้สึกที่อยากจะปฏิบัติศาสนา


นี่แหละครับคืองานที่ยะมาอะฮฺ ดะอฺวะฮฺ ตับลีฆ สอนผู้คน

Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ต.ค. 04, 2007, 01:53 PM
แนะนำครับ 40 วัน 4 เดือนนี่ถ้าตั้งใจเรียนจริงได้เยอะนะครับ
ไปเรียน ปอเนาะ ได้เนื้อ ๆ มากกว่าครับ

    คุณ pareet  อย่าเอาการศึกษาปอเนาะมาเทียบกับการออกดะวะฮ์เลยครับ  เพราะการเรียนปอเนาะนั้นคนที่จบออกมา  ประสบผลสองด้านคือมีทั้งคนได้ความรู้ และคนที่ไม่ได้ความรู้เกเร  เสียคนก็เยอะ  กระผมเองก็เป็นเด็กปอเนาะจึงรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร  คุณชอบผู้ในแง่ลบของตับลีฆ  แล้ววันนี้คุณก็ยกตัวอย่างของปอเนาะมาเป็นทางเลือก  แต่กระผมเกรงว่าพี่น้องตับลีฆเขาจะแฉพฤติกรรมเด็กปอเนาะกันจริงๆ แล้ว  กระผมอายแทนครับ.....ดังนั้นผมว่าคุณอย่าเอาปอเนาะมาเทียบดีกว่า  อย่างน้อยผู้นำเสนอวิชาการแห่งเวปไซท์ก็เด็กปอเนาะกันเกือบทั้งนั้น 

    จะปอเนาะหรือไม่ปอเนาะก็มีข้อดีและข้อเสีย  หากเป็นข้อเสียก็ปรับปรุงกันไป  mycool:

เอาซะเด็กปอเนอะช้ำเลย  mycry mycry mycry
Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: คนเดินดิน Date: ต.ค. 04, 2007, 03:33 PM
ก่อนแต่ง ไม่ได้ออกดะวะห์ ครับ ก็ทำอิบาดะห์ ทางศาสนาปกติ
ไม่ใช่คนเหลวไหล ทางด้านศาสนา ไม่ใช่คนไม่ดี แล้วกลับตัวเป็นคนดี

:) :) :)

ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่านและครอบครัว

ก็น่าเห็นใจพี่สาวของคุณนะคะ

ที่เลือกคู่ครองทั้งที

ก็ถูกทดสอบหลาย ๆ ประการ


(หลังจากนี้คงต้องไตร่ตรองกันให้ดีก่อนเลือกคู่ครอง

หรือทำตัวเองให้ดีก่อนแล้วอัลลอฮ์จะประทานคู่ครองที่ดีให้

อินชาอัลลอฮ์  ก็แล้วแต่มุมมองของพี่น้องกัน)


คิดว่าคุณ pareet  คงจะกลุ้มกับปัญหานี้มาก

หาทางแก้ยากจึงจำเป็นต้องมาขอความคิดเห็นจากพี่น้องที่นี่

ไหน ๆ ก็อุตส่าห์มาขอความคิดเห็นแล้ว

พี่น้องท่านอื่น ๆ คิดว่ามีวิธีแก้ปัญหากรณีอย่างพี่ของคุณ pareet  เค้ายังไงดีคะ


ช่วยคนได้บุญนะคะพี่น้อง


 ;) ;) ;)

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง


 salam

ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะคะปัญหาที่เกิดกับครอบครัวของพี่คุณนั้น


คงต้องให้พี่สาวของคุณคุยกับพี่เขยของคุณอย่างเปิดใจแล้วหล่ะค่ะ

ถามถึงสาเหตุที่แท้จริงของการออกดะวะห์จนละเลยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

เพราะถ้าโดยพื้นฐานของตัวพี่เขยคุณแล้วคุณบอกว่าเป็นคนดี

ก็น่าจะเปิดใจคุยกันด้วยเหตุและผลได้

บางทีที่มาของปัญหาอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นจากการออกดะวะห์ก็เป็นได้นะคะ

อาจจะมาจากองค์ประกอบย่อยหลาย ๆ ประการที่ทับถมกันจนเกิดเป็นปัญหา

แล้วหาทางออกของปัญหาด้วยการออกดะวะห์

เพราะว่าทำให้เจ้าตัวรู้สึกดี
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะคิดว่า

ถ้าบุคคลใดบุคคลหนึ่งมีความสุขทั้งกายและใจในที่ที่ตนเองพำนักอยู่แล้ว

คงไม่มีใครอยากจะออกไปจากสถานที่ที่ตนเองพำนักอยู่นั้น

(วัลลอฮูอะลัม)

เพราะถ้าไม่เช่นนั้นท่านนบีคงไม่ฮิจเราะห์จากมักกะห์ยังมาดีนะห์

คงไม่มีผู้อพยพทั้งหลายเกิดขึ้น

(วัลลอฮูอะลัม)

ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของคนเดินดินทั้งสิ้น

อัสตัฆฟิรุลลอฮัลอาซีม  หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้น  และ

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง

Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: pareet Date: ต.ค. 04, 2007, 03:55 PM
อัสลามูอาลัยกุม
ตกลงว่าเป็นการสาวใส้ให้กากินอีกหรือเปล่า
หรือเป็นการนินทา ว่าบุคคลที่ 3 ไม่อยู่อีกหรือเปล่าครับ
แล้วสิ่งที่คุณกล่าวมา คุณว่ากลุ่มนั้นไม่มีเหรอครับหรือคุณอยู่ในกลุ่มที่ดีแล้วไม่เคยเห็น คุณดีแล้วไม่มีใครทำให้เห็น
คุณอยู่ที่กับกลุ่มอามีร กับคนที่มีความรู้ แล้วพวกงู ๆ ปลา ๆ ละครับ พอกลับมาบ้านหลายคนเป็นไง
พื้นฐานดี กับงูๆ ปลา ๆ นะมันต่างกันครับ
ทุกอย่างหากไม่มีมูล ผมคงนั่งเทียนพิมพ์มั่ง ผมไม่ได้ว่าการออกดะวะห์ มันไม่ดีอะไรขนาดนั้น
คุณรู้ในสิ่งดีแล้ว แล้วเวลาใครบอกในสิ่งที่ไม่ดี คุณจะรับฟังแล้วไปหาความจริงแก้ไขหรือเปล่า
หรือจะแก้ตัวอยู่แต่ในนี้อย่างเดียว ไร้ประโยชน์ครับ คุณเคยได้ยินไหม
ลูกเรานะ เวลาอยู่กับเราก็ดี แต่เวลาอยู่นอกบ้านอีกเรื่องหนึ่ง แล้วชาวบ้านก็นำสิ่งไม่ดีมาบอก
เราไม่ยอมรับฟังเขา แถมไปว่าเขาอีก แล้วต่อไปจะมีชาวบ้านที่ไหนมาบอกเราละครับ
หากไม่ปรับปรุงแก้ไข ส่วนน้อยอาจเป็นส่วนมากก็ได้นะครับ
ไม่ได้มีแต่พี่ชาย และพีเขยผมเท่านั้น
วัสลาม

แนะนำครับ 40 วัน 4 เดือนนี่ถ้าตั้งใจเรียนจริงได้เยอะนะครับ
ไปเรียน ปอเนาะ ได้เนื้อ ๆ มากกว่าครับ

    คุณ pareet  อย่าเอาการศึกษาปอเนาะมาเทียบกับการออกดะวะฮ์เลยครับ  เพราะการเรียนปอเนาะนั้นคนที่จบออกมา  ประสบผลสองด้านคือมีทั้งคนได้ความรู้ และคนที่ไม่ได้ความรู้เกเร  เสียคนก็เยอะ  กระผมเองก็เป็นเด็กปอเนาะจึงรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร  คุณชอบผู้ในแง่ลบของตับลีฆ  แล้ววันนี้คุณก็ยกตัวอย่างของปอเนาะมาเป็นทางเลือก  แต่กระผมเกรงว่าพี่น้องตับลีฆเขาจะแฉพฤติกรรมเด็กปอเนาะกันจริงๆ แล้ว  กระผมอายแทนครับ  เช่น  เด็กปอเนาะนัดผู้หญิงเที่ยว  เที่ยวไปเรื่อยๆ ท้องป่อง  เด็กปอเนาะก็มีดูดเนื้อดูกัญชาก็มีให้เห็น  เด็กปอเนาะไม่เอาถ่านก็เยอะ  เด็กปอเนาะติดยาก็มีให้เห็นถมไป  เด็กปอเนาะนี่แหละเที่ชอบทุกสาวท้ายมอเตอร์ไซท์ และยังอีกเยอะแยะ  ดังนั้นผมว่าคุณอย่าเอาปอเนาะมาเทียบดีกว่า  อย่างน้อยผู้นำเสนอวิชาการแห่งเวปไซท์ก็เด็กปอเนาะกันเกือบทั้งนั้น 

    จะปอเนาะหรือไม่ปอเนาะก็มีข้อดีและข้อเสีย  หากเป็นข้อเสียก็ปรับปรุงกันไป  mycool:

Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: คนเดินดิน Date: ต.ค. 06, 2007, 01:22 PM
ก่อนแต่ง ไม่ได้ออกดะวะห์ ครับ ก็ทำอิบาดะห์ ทางศาสนาปกติ
ไม่ใช่คนเหลวไหล ทางด้านศาสนา ไม่ใช่คนไม่ดี แล้วกลับตัวเป็นคนดี

:) :) :)

ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่านและครอบครัว

ก็น่าเห็นใจพี่สาวของคุณนะคะ

ที่เลือกคู่ครองทั้งที

ก็ถูกทดสอบหลาย ๆ ประการ


(หลังจากนี้คงต้องไตร่ตรองกันให้ดีก่อนเลือกคู่ครอง

หรือทำตัวเองให้ดีก่อนแล้วอัลลอฮ์จะประทานคู่ครองที่ดีให้

อินชาอัลลอฮ์  ก็แล้วแต่มุมมองของพี่น้องกัน)


คิดว่าคุณ pareet  คงจะกลุ้มกับปัญหานี้มาก

หาทางแก้ยากจึงจำเป็นต้องมาขอความคิดเห็นจากพี่น้องที่นี่

ไหน ๆ ก็อุตส่าห์มาขอความคิดเห็นแล้ว

พี่น้องท่านอื่น ๆ คิดว่ามีวิธีแก้ปัญหากรณีอย่างพี่ของคุณ pareet  เค้ายังไงดีคะ


ช่วยคนได้บุญนะคะพี่น้อง


 ;) ;) ;)

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง


 salam

ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะคะปัญหาที่เกิดกับครอบครัวของพี่คุณนั้น


คงต้องให้พี่สาวของคุณคุยกับพี่เขยของคุณอย่างเปิดใจแล้วหล่ะค่ะ

ถามถึงสาเหตุที่แท้จริงของการออกดะวะห์จนละเลยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

เพราะถ้าโดยพื้นฐานของตัวพี่เขยคุณแล้วคุณบอกว่าเป็นคนดี

ก็น่าจะเปิดใจคุยกันด้วยเหตุและผลได้

บางทีที่มาของปัญหาอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นจากการออกดะวะห์ก็เป็นได้นะคะ

อาจจะมาจากองค์ประกอบย่อยหลาย ๆ ประการที่ทับถมกันจนเกิดเป็นปัญหา

แล้วหาทางออกของปัญหาด้วยการออกดะวะห์

เพราะว่าทำให้เจ้าตัวรู้สึกดี
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะคิดว่า

ถ้าบุคคลใดบุคคลหนึ่งมีความสุขทั้งกายและใจในที่ที่ตนเองพำนักอยู่แล้ว

คงไม่มีใครอยากจะออกไปจากสถานที่ที่ตนเองพำนักอยู่นั้น

(วัลลอฮูอะลัม)

เพราะถ้าไม่เช่นนั้นท่านนบีคงไม่ฮิจเราะห์จากมักกะห์ยังมาดีนะห์

คงไม่มีผู้อพยพทั้งหลายเกิดขึ้น

(วัลลอฮูอะลัม)

ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของคนเดินดินทั้งสิ้น

อัสตัฆฟิรุลลอฮัลอาซีม  หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้น  และ

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง


 salam

สงกะสัยว่าความคิดของเราคงจะยังไม่เวิร์ค

 mycry mycry mycry

มันดูซอเฮร ๆ เกินไปไม่สามารถเข้าถึงบาเตนของคุณได้กระมัง

จึงยังเห็นกระทู้ที่คุณ pareet  โพสต์ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกร้าวรานกับการออกดะวะห์ฯ

มาอัฟด้วยนะคะที่กล่าวพาดพิง


 mycry mycry mycry

          ช่วยพิจารณาโองการต่อไปนี้สักนิดนะคะ  เผื่อว่าจะสบายใจขึ้นได้บ้าง

                    ลาเฮาลาวาลา  กูวาตาอิ้ลลา  บิลลาฮิลอาลียิลอาซีม



 lahaolawalaqu

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง

เรื่องเล่าของเพื่อน By: คนเดินดิน Date: ต.ค. 06, 2007, 02:48 PM
 salam

มีเพื่อนคนนึงของคนเดินดินเอง

เค้าเล่าเรื่องเรื่องนึงให้คนเดินดินฟัง

เรื่องจะประมาณว่า

มีเมืองอยู่เมืองนึง  มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำนมมาก

ในค่ำคืนนึงกษัตริย์ของเมือง ๆ นี้ได้ฝันว่า

บ้านเมืองของตนจะขาดแคลนน้ำนมเป็นอย่างมาก

รุ่งเช้าจึงสั่งให้ลูกเมืองทุกหลังคาเรือนนำน้ำนมมาเทใส่ถังใหญ่

ที่ทางเจ้าเมืองจัดไว้ให้สำหรับใช้ในยามขาดแคลน

หลังคาเรือนละ 1 ถัง

ตัวแทนของแต่ละหลังคาเรือนก็นำมาเทใส่ถังทุกวัน ๆ

แต่มีชายอยู่คนนึงเกิดความคิดขึ้นว่าแทนที่ตนจะนำน้ำนมลงไปเท

เปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าซะคงไม่เป็นไร  ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาได้เทน้ำเปล่าลงไปในถัง

ทำอย่างนี้ทุกวัน  ๆ  ๆ

เมื่อยามที่น้ำนมขาดแคลนมาถึง

เจ้าเมืองได้สั่งให้ทหารเปิดถึงใหญ่เพื่อนำน้ำนมที่เก็บไว้มาแจกจ่ายให้กับลูกเมือง



พี่น้องทราบไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น

ลองเดากันดูนะคะ

แล้วจะมาเฉลย

อินชาอัลลอฮ์

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: บาชีร Date: ต.ค. 07, 2007, 03:54 AM
นมบูดหรอครับ

หรือนมมันเยอะขึ้น
อยากทราบประวัติความเป็นมาของกลุ่ม "ญะมะอะฮฺ ตับลีฆ" ครับ By: Al Fatoni Date: ต.ค. 07, 2007, 04:10 AM
 salam

                 ระยะหลังๆ นี้ ผมได้ข่าวเกี่ยวกับกลุ่มญะมะอะฮิตับลีฆในแง่ไม่ดีมากๆ ถึงกับมีผู้รู้ท่านหนึ่งจากประเทศไทย ได้ทำการต่อต้านกลุ่มอย่างเอาจริงเอาจัง  ถึงกับออกเดินสาย เพื่อแฉเบื้องหลังที่ไม่ค่อยจะสู้ดีของกลุ่มนี้  ทำให้ผมไม่สบายใจมากๆ เพราะผู้รู้ท่านนี้บอกว่า เขาเคยไปดูศูนย์กลางฯ ของดะอฺวะฮฺด้วยที่นิศอมุดดีน  และได้แฉว่า  เขาเห็นบรรดาแกนนำของกลุ่มตับลีฆกำลังสุญูดต่อกุบุรฺของอุลามาอฺซูฟีย์ท่านหนึ่งอยู่ และเขาบอกว่า ตระกูลของท่านเมาลานาทั้งโครตเป็นพวกซูฟีย์ตอรีกัต  และคำใส่ใคร่อื่นๆ ที่ผมฟังแล้ว  ต้องร้อง อัลเลาะฮุอักบัรฺ ซุบฮานั้ลเลาะฮฺ เลย ช่วยชี้แจงเรื่องนี้หน่อยครับ  ผมไม่สบายใจเลย  แค่นี้ก่อนนะครับ ไปทานซะฮุรฺก่อนนะ

วัสสลามุ อะลา มะนิตตะบะอั้ลฮุดา


Re: อยากทราบประวัติความเป็นมาของกลุ่ม "ญะมะอะฮฺ ตับลีฆ" ครับ By: al-azhary Date: ต.ค. 07, 2007, 07:30 AM
salam

   และได้แฉว่า  เขาเห็นบรรดาแกนนำของกลุ่มตับลีฆกำลังสุญูดต่อกุบุรฺของอุลามาอฺซูฟีย์ท่านหนึ่งอยู่ และเขาบอกว่า ตระกูลของท่านเมาลานาทั้งโครตเป็นพวกซูฟีย์ตอรีกัต  และคำใส่ใคร่อื่นๆ ที่ผมฟังแล้ว  ต้องร้อง อัลเลาะฮุอักบัรฺ ซุบฮานั้ลเลาะฮฺ เลย ช่วยชี้แจงเรื่องนี้หน่อยครับ 

แม้การบอกเล่าฮะดิษอ้างไปยังท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยังมีการกุอุปโลกน์ขึ้นมา  จะนับประสาอะไรกับสิ่งที่วะฮาบีย์เล่าเรื่องของแนวทางอื่น ๆ  การกล่าวว่าแนวนั้น กำลังสุยูดต่อกุบุร์นั้น  ไม่ใครพูดคำแบบนี้หรอกนอกว่าวะฮาบีย์  ซึ่งหมายความว่าวะฮาบีย์กำลังฮุกุ่มผู้อื่นเป็นการเฟรโดยนัย   ผมคนหนึ่งละครับที่ไม่เชื่อคำบอกเล่าและการอ้างอิงของวะฮาบีย์  นอกจากต้องทำการกลั่นกรองเสียก่อน  เนื่องจากการโกหกต่อผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่กระทำได้โดยนัยเชิงปฏิบัติตามแนวทางของวะฮาบีย์
Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: บาชีร Date: ต.ค. 07, 2007, 08:00 AM
นี่ละครับที่ใส่ร้ายให้แนวทางซูฟี
ไปเห็นคนนั้งใกล้กุบูรไปดุอาใกล้ๆ
กลับใส่ร้ายว่าคนเหล่านี้ไปทำอิบาดัตต่อกุโบร

ขนาดไปเห็นว่าเขาสุยูดกุโบรเรายังไปหุกุมว่าเขาทำอิบาดะฮฺต่อกุโบรยังไม่ได้เลย

เราจะต้องถามเขาก่อนที่ท่านสุหยูดนั้นเพื่ออะไร
ถ้าเขาตอบว่าสุหยูดให้เกียตรแม่
ก็ถือว่าแค่บาปแต่ไม่ได้เรียกว่าชิริกแต่อย่างใด

แต่ถ้าเขาบอกว่าที่สุหยูดนี่ เพราะฉันทำอิบาดะฮฺต่อกุโบรนี้
นี่เหละที่เราพึ่งจะหุกุมว่าเขาชิริกได้

เพราะฉะนั้นพวกนี้ใส่ร้ายให้แนวทางซูฟีต่างๆนาว่าแนวทางซูฟีทำอิบาดะฮฺต่อกุโบร
เห็นคนดุอาที่กุโบร
แล้วบอกว่าคนเหล่านี้ไปทำอิบาดัตต่อกุโบร
(อยากจะแฉหลายเรื่องแต่พิมพ์ไม่ไหว)
หรือเรื่องตะวัศศุล อีก
 ขออัลลอฮฺให้ฮิดายะฮฺต่อพวกเขาด้วยเทิด
Re: ดะวะฮฺตับลีฆ(น้องชาย) By: al-azhary Date: ต.ค. 07, 2007, 08:08 AM
ฟีไปเห็นคนนั้งใกล้กุบูรไปดุอาใกล้ๆ
กลับใส่ร้ายว่าคนเหล่านี้ไปทำอิบาดัตต่อกุโบร

อิบาดะฮ์กุบูรก็เป็นกาเฟรน่ะซิครับ  แต่แบบนี้แสดงว่าซอฮาบะฮ์บางคนก็เป็นกาเฟรไปด้วย  no: