ทำไมศาสนาอิสลามถึงได้ห้ามการเผาศพ ?? By: Muftee Date: เม.ย. 03, 2014, 10:40 PM
ทำไมศาสนาอิสลามถึงได้ห้ามการเผาศพ ?? โดย สถาบันชี้ขาดปัญหาศาสนา ดารุลอิฟตาอฺ แห่งอียิปต์
ตอบ ..
การเผาร่างไร้วิญญาณ หรือการเผาศพนั้น ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักการอิสลาม เพื่อเป็นการให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ และเพื่อปกป้องไม่ให้ศพเกิดความเจ็บปวด เพราะแท้จริงแล้วผู้เสียชีวิตนั้น เขาจะได้รับความเจ็บปวดจาการกระทำของคนที่มีชีวิตอยู่ ดังที่ท่านรสูล(ซ.ล.) ได้เคยบอกกล่าวเอาไว้
แท้จริงแล้ว “การตาย” นั้น มิใช่หมายถึงการสูญสลายหายไป แต่มันหมายถึง การย้ายจากวิถีชีวิตรูปแบบหนึ่ง ไปสู่วิถีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง
ดังนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทว่าเกียรติและศักดิ์ศรีของเขา จะยังคงมีอยู่เหมือนกับตอนที่เขายังมีชีวิต แท้จริงท่านรสูล(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า ..
كَسْرُ عَظْمِ الْمَيِّتِ كَكَسْرِهِ حَيًّا
“การหักกระดูกของผู้ตาย ก็เหมือนกับการหักกระดูกของเขาในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่(คือ ห้ามกระทำเพราะเป็นบาป)” (บันทึกโดย ท่านอิมาม อะหฺมัด ,ท่านอะบู ดาวูด และท่านอิบนุ มาญะฮฺ)
วัลลอฮุ ตะอาลา อะลัม
ดู ตำรา سؤالات الأقليات โดย สถาบันชี้ขาดปัญหาศาสนา ดารุลอิฟตาอฺ แห่งอียิปต์ หน้าที่ 190 สำนักพิมพ์ ดารุล กุตุบ วัล วะษาอิก อัล-เกามียะฮฺ ไคโร
Re: ทำไมศาสนาอิสลามถึงได้ห้ามการเผาศพ ?? By: nada-yoru Date: เม.ย. 04, 2014, 04:42 PM
ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะสำหรับความรู้ค่ะ...
พอได้อ่านบทความนี้ก็ทำให้นึกถึงฝันเมื่อหลายเดือนก่อนขึ้นมา...
เคยฝันว่าคนที่เรารักถูกหามไปเพื่อทำพิธีเผา...ตอนนั้นรู้สึกสงสารศพ
สงสารวิญญาณเจ้าของร่าง...จิตใต้สำนึกบอกว่า...
ใครจะเอามนุษย์ไปเผาไม่ได้...เพราะไฟมันร้อนแค่ไหน เราที่ยังเป็นๆอยู่ย่อมรู้ดี...
การเผาร่างคนตายที่เจ้าของร่างไม่อาจปริปากบอกได้อีกแล้วนั้น
ช่างไม่ยุติธรรมกับเจ้าของร่างเอาซะเลย...
เขาต้องฝังเท่านั้น เพราะการฝังคือการรักษาเกียรติ
และศักดิ์ศรีที่แท้จริงให้กับคนที่ตายไปแล้ว...เพราะคนที่ตายไม่ได้หายไปไหน...
แค่เปลี่ยนสถานะไปเท่านั้นเอง...เขาจะรับรู้ในสิ่งที่เรากำลังทำกับร่างของเขาได้...
ตอนตื่นมา ยังรู้สึกอินกับความฝันนั้นอยู่...
จนแล้วจนรอดก็รู้สึกอยากให้เพื่อนๆต่างศาสนิกได้เข้ารับอิสลามกันให้หมดเลย
แต่เรื่องทางนำนั้นอยู่ที่อัลลอฮฺ...ก็เลยได้แต่ขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺเปิดใจ
ให้พวกเขาเหล่านั้นได้รับทางนำ...จะได้ไม่มีใครเอาร่างของพวกเขาไปเผาเมื่อพวกเขา
เสียชีวิตไปแล้ว...
Re: ทำไมศาสนาอิสลามถึงได้ห้ามการเผาศพ ?? By: alkiyamah Date: เม.ย. 04, 2014, 06:36 PM
เคยตั้งคำถาม ถามตัวเองว่า
1. ใครคือผู้คิดริเริ่มวิธีการจัดการศพของแต่ละศาสนา
อิสลาม --- ฝัง (พื้นที่นำกลับมาใช้ได้ใหม่ -- ฝังซ้ำได้)
คริสต์ --- ฝัง (ต่างจากอิสลาม?)
พุทธ --- เผา
พราหมณ์ ฮินดู ---

2) ทำไมอิสลาม จึงจัดการกับศพ ด้วยวิธีการ "ฝัง"
ได้คำตอบจากการคิดเล่นๆ ว่า...
อัลลอฮุอักบักร!!!อัลลอฮฺทรงสร้างทุกอย่างเป็นระบบและสมดุลยิ่ง
จาก...ดิน สู่...ดิน
ธาตุคาร์บอน เป็นองค์ประกอบ พบในร่างกายของมนุษย์ ในสิ่งแวดล้อม ในดิน ในอาหารที่เรากินเข้าสู่ร่างกาย
เกิดการหมุนเวียน เป็น "วัฏจักรคาร์บอน"
อิสลามเป็นศาสนาเดียวเท่านั้น ที่อนุรักษ์และสร้างสมดุลต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ตั้งแต่ ศพแรก ของโลกดุนยา ตราบจนวันกิยามะฮฺ
ฝังแล้ว สามารถ ฝังซ้ำ ได้อีก (ใช้พื้นที่ดินอย่างคุ้มค่า - ใช้ซ้ำได้)
เอ...การฝังของชาวคริสต์ / ชาวจีน--- ฝังซ้ำได้ไหม??
ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า วันหนึ่ง จะเกิด ภาวะโลกร้อน
ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์จะปล่อยสารพิษสู่สิ่งแวดล้อม (อากาศ) เช่น ไดออกซิน PCB เกิดเป็นมลพิษทางอากาศ
แล้วก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทั้งมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
---------------------
ในบรรยากาศมี ก๊าซออกซิเจน ประมาณ 21%, ไนโตรเจน 78%, อีกประมาณ 1% เป็นก๊าซชนิดอื่นๆ
ถ้ามี ออกซิเจน ในปริมาณที่ สูง หรือ ต่ำ กว่านี้ จะเกิดอะไรขึ้น กับโลกใบนี้
เมื่อ องค์ประกอบของการเกิดไฟ (ลุกไหม้) มี 3 อย่าง
1) ออกซิเจน (Oxygen) หรือ อากาศ ไม่ต่ำกว่า 16%
2) เชื้อเพลิง (Fuel) --- ในดุนยามีอยู่มากมาย
3) ความร้อน (Heat) เพียงพอทำให้เกิดการลุกไหม้
เมื่อครบองค์ประกอบ 3 อย่างพอเหมาะพอดี ไฟจะติดและลุกไหม้
---------------------
เพื่อนชาวพุทธ บอกว่า เวลาที่ฝนตกลงมา
เธอรู้สึกว่าพืชพรรณนานาชนิด แม้แต่หญ้าในสนามหญ้า รู้สึกกระปี้กระเปร่า เขียวขจี สดชื่น
เหมือนฟื้นคืนชีพ จากความเหี่ยวเฉา มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีทันใด
ต่างจาก เวลาที่เรารดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน กว่าจะฟื้นขึ้นมา สดใส ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่
อยากบอกเธอดังๆ จะแปลกอะไร
ในเมื่อผู้สร้างเธอและฉันนั้น ทรงยิ่งใหญ่ และรอบรู้ยิ่งเหนือสิิ่งใด ไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมพระองค์ได้
ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ ฝนตก ...ฮ่า ๆ ๆ
ไนโตรเจน (ในวัฏจักรไนโตรเจน) ถูกเปลี่ยนรูป กลายเป็น สารอาหารสำเร็จรูป ที่พืชสามารถนำไปใช้ได้โดยตรง รวดเร็ว
พืชพรรณเหล่านั้น จึงดูสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ทันทีทันใด
ซุบฮานัลลอฮฺ