เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: al-azhary Date: ส.ค. 23, 2007, 09:33 PM
بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
เดือนชะอฺบานนั้น ยังเป็นเดือนที่มีความประเสริฐและมีความโดดเด่นกว่าเดือนอื่น ๆ เดือนนี้ถือเป็นเดือนที่บรรดาอะมัลถูกยกนำเสนอต่ออัลเลาะฮ์ ตาอาลา เป็นเดือนที่อัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงเมตตาต่อบรรดาผู้ขอความเมตตาต่อพระองค์ เป็นเดือนที่พระองค์ทรงอภัยโทษแก่บรดาผู้ขออภัยโทษกับพระองค์ และยังเป็นเดือนที่อัลเลาะฮ์ ตาอาลา ทรงปลดปล่อยปวงบ่าวของพระองค์ออกจากไฟนรก
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ มารดาแห่งศรัทธาชน กล่าวว่า "ฉันไม่เคยเห็นท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถือศีลอดสมบูรณ์ในเดือนหนึ่งนอกจากเดือนร่อมะฏอน และฉันไม่เคยเห็นท่านร่อซูลุลเลาะฮ์จะทำการถือศีลอดจากเดือนหนึ่งมากไปว่าเดือนชะอฺบาน" รายงานโดยบุคอรีย์
ท่านอุซามะฮ์ บิน เซด กล่าวว่า "ฉันได้กล่าวว่า โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ฉันไม่เคยเห็นท่านทำการถือศีลอดในเดือนหนึ่งจากบรรดาเดือนทั้งหลายเหมือนกับการถือศีลอดในเดือนชะอฺบานเลย
ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ดังกล่าวเป็นเดือนที่ผู้คนทั้งหลายลืม ซึ่งมันอยู่ระหว่างเดือนร่อญับและเดือนร่อมะฏอน และ(เดือนชะอฺบานนั้น)มันเป็นเดือนที่บรรดาอะมัลทั้งหลายถูกรายงานสู่พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ดังนั้นท่านจึงชอบที่จะให้อะมัลของฉันถูกรายงานในสภาพที่ฉันถือศีลอด" รายงานโดยอันนะซาอี
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวหะดิษนี้ให้แก่เรา
เพื่อผลักดันให้ทุกคนมีสายใยแห่งอีหม่านเกิดขึ้นระหว่างเขากับอัลเลาะฮ์ด้วยการทำอิบาดะฮ์ เพื่อให้ทุกคนหวนกลับไปยังพระองค์โดยทำการเตาบะฮ์จากบาปต่าง ๆ ของเขา เพื่อให้ทุกคนทุ่มเทกระทำความดีงามในทุกรูปแบบเพื่อบรรดาอะมัลของเขาจะถูกนำเสนอไปยังอัลเลาะฮ์ในเดือนชะอฺบานนี้
และหวังว่าบรรดาอะมัลคุณงามดีต่าง ๆ ที่ได้กระทำในเดือนนี้จะได้ลบล้างความชั่วต่าง ๆ ที่เราได้กระทำผ่านพ้นมา แม้จะเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาแล้วก็ตาม อินชาอัลเลาะฮ์
รายงานจากท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ ท่านกล่าวว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) "เมื่อถึงคืนนิสฟูชะอฺบาน พวกท่านจงละหมาด(ทำอิบาดะฮ์)ในช่วงกลางคืนและทำการถือศีลอดในช่วงกลางวัน เพราะหลังจากดวงอาทิตย์ลับ อัลเลาะฮ์ทรงลง(ความจำเริญ) มาสู่ฟากฟ้าชั้นล่างสุด และพระองค์กล่าวว่า ไม่มีผู้ขออภัยโทษกับข้าฯดอกหรือ เพื่อข้าฯจะอภัยให้แก่เขา ไม่มีผู้วอนขอริสกีดอกหรือ เพื่อข้าฯจะประทานริสกีให้แก่เขา ไม่มีผู้ได้รับบาลออฺการทดสอบดอกหรือ เพื่อข้าฯจะให้เขาหาย ไม่มีผู้เป็นเช่นนั้น เช่นนี้ดอกหรือ จนกระทั่งแสงอรุณขึ้น" รายงานโดย อิบนุมาญะฮ์ และ ท่านอัลบัยฮะกีย์
รายงานจากอับดุลเลาะฮ์ บิน อัมร์ ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "อัลเลาะฮ์จะทรงมองมาจากมัคโลคของท่านในค่ำคืนนิสฟูชะอฺบาน ดังนั้นพระองค์ทรงอภัยให้แก่บรรดาปวงบ่าวนอกจากสองบุคคลเท่านั้น คือผู้ที่สร้างความรังเกียจต่อกันและผู้ที่ฆ่ากับชีวิตหนึ่ง" รายงานโดยท่านอิมามอะห์มัด
รายงานจากมุอาซฺ บิน ญะบัล ว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "อัลเลาะฮ์จะมองมายังมัคโลคของพระองค์ในคืนนิสฟูชะอฺบาน แล้วพระองค์ก็จะทรงอภัยให้บรรดามัคโลคทั้งหมดนอกจากผู้ตั้งภาคีหรือผู้ที่สร้างความรังเกียจต่อกัน" รายงานโดยท่านอิบนุฮิบาน
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย! เรามีความจำเป็นที่จะต้องฉวยโอกาสในยามที่อัลเลาะฮ์ทรงสำแดงความเมตตาที่มีต่อปวงบ่าวของพระองค์ ซึ่งเราก็ทราบดีว่าเรานั้นมีบาปที่ไม่สามารถรอดพ้นจากมันได้เลย นอกจากเสียว่าเราจะทำการเก็บเกี่ยวช่วงเวลาต่าง ๆ นี้ที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้บอกเล่าให้เราทราบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานความเมตตาต่อปวงบ่าวของพระองค์ และไม่มีหนทางใดอีกแล้วนอกจากโอกาสเหล่านี้ที่เราจะวอนขอความเมตตาต่ออัลเลาะฮ์ ขออภัยโทษต่อพระองค์ ทำการแผ่ฝ่ามือวอนขอต่อพระองค์อย่างนอบน้อมเพื่อให้พระองค์ทรงบรรเทาลดบาปต่าง ๆ ให้ออกไปจากเรา และให้พระองค์ทรงอภัยและประทานสุขภาพที่ดีแก่เรา
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย! เดือนชะอฺบานนี้ เป็นเดือนที่ผู้คนมากมายต่างหลงลืมถึงความสำคัญที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวไว้ ดังนั้น หากเราจะมองและพิจารณาถึงความเมตตาของอัลเลาะฮ์ตาอาลา นั้น สมมุติว่ามีบ่าวคนหนึ่งที่มีความอธรรมต่อตัวเขาเองอีกทั้งยังมีบาปหนา ได้รุดไปยังประตูของอัลเลาะฮ์แล้วทำการเคาะประตูนั้นเพื่อขออภัยโทษจากพระองค์ แต่ความจริงแล้วกลับตรงกันข้าม เพราะอัลเลาะฮ์ตาอาลาจะทรงเชื่อมสัมพันธ์กับปวงบ่าวของพระองค์ด้วยการเรียกร้องให้พวกเขาหวนกลับไปปรับปรุงตนเองกับพระองค์ เรียกร้องพวกเขาให้เข้าไปสู่ปกเกล้าของพระองค์เพื่อจะทรงประทานความเมตตาและอภัยโทษให้กับพวกเขา อีกทั้งยังปลดเปลื้องบาปให้ออกไป ซึ่งนั่นคือรูปแบบหนึ่งจากรูปแบบต่าง ๆ แห่งความเมตตาของอัลเลาะฮ์ที่มีต่อปวงบ่าว มันเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้มนุษย์มีความละอายต่อพระองค์ กล่าวคือความละอายของมนุษย์ที่ไม่ทำการเตาบัตขออภัยโทษและขอความเมตตาต่อพระองค์ ทั้งที่พระองค์ทรงเปิดโอกาสเป็นพิเศษให้ในเดือนชะอฺบานนี้แล้ว
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย!
เดือนชะอฺบานนี้ อัลเลาะฮ์ทรงเรียกร้องพวกเราไปสู่พระองค์ในทุกโมงยามเพื่อพระองค์จะทรงประทานความเมตตาและอภัยโทษ แต่เรากลับทำเพิกเฉย หันหลังให้ ทำไม่รู้ไม่ชี้อย่างไม่ละอาย ทั้งที่พระองค์กำลังกล่าวแก่เราว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่เราได้อนุญาตให้พวกเจ้ากลับมายังเราก่อนที่โอกาสอันดีจะสิ้นสุดลง ซึ่งมันถึงเวลาแล้ว
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า
أَلَمْ يَأْنِ لِلَّذِينَ آمَنُوا أَنْ تَخْشَعَ قُلُوبُهُمْ لِذِكْرِ اللَّهِ وَما نَزَلَ مِنَ الْحَقِّ وَلا يَكُونُوا كَالَّذِينَ أُوتُوا الْكِتابَ مِنْ قَبْلُ فَطالَ عَلَيْهِمُ الأَمَدُ فَقَسَتْ قُلُوبُهُمْ
"
ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือ สำหรับบรรดาผู้มีศรัทธาที่หัวใจของพวกเขาจะนอบน้อมเพื่อการรำลึกถึงอัลเลาะฮ์ และระลึกถึงสัจธรรมที่ประทานลงมา(สู่พวกเขา)? และพวกเขาจงอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้ที่เคยถูกประทานคัมภีร์ให้เมื่อยุคก่อน ๆ แต่แล้วเมื่อกาลเวลาได้ผ่านพวกเขาไปอย่างยาวนาน หัวใจของพวกเขาก็แข็งกระด้างและส่วนมากของพวกเขาล้วนเป็นผู้ฝ่าฝืน" อัลหะดีด 16
นั่นคือรูปแบบหนึ่งจากรูปแบบต่าง ๆ จากความเมตตาของอัลเลาะฮ์ที่มีเกียรติยิ่ง
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นมิใช่หมายความว่า เป็นความเพียงพอสำหรับมุสลิมคนหนึ่งที่ได้หวนกลับไปหาอัลเลาะฮ์เพื่อขอเพิ่มพูนความเมตตาและขออภัยต่ออัลเลาะฮ์ให้กับตัวเขาเองเพียงแค่โอกาสนี้เพียงเท่านั้น พอโอกาสนี้หมดไปเขาก็กลับมาทำการฝ่าฝืนเหมือนเดิม ท่านผู้ศรัทธาทั้งหลายโปรดเข้าใจว่า โอกาสต่าง ๆ ที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานให้นั้นมีอย่างต่อเนื่องและไม่ขาดตอน ซึ่งมันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความเมตตาของอัลเลาะฮ์ที่เราต้องตระหนักว่า เราต้องมุ่งสู่พระองค์อย่างสม่ำเสมอ
พระองค์ทรงตรัสความว่า
وَاعْبُدْ رَبَّكَ حَتَّى يَأْتِيَكَ الْيَقِينُ
"เจ้าจงอิบาดะฮ์ต่อองค์อภิบาลของเจ้าจนกว่า (ความตายอันเป็นสิ่งที่เจ้ามี) ความมั่นใจมาประสบแก่ตัวเจ้า" อัลฮิจริ์ 99
พระองค์ทรงตรัสเช่นกันว่า
قُلْ إِنَّ صَلاتِي وَنُسُكِي وَمَحْيايَ وَمَماتِي لِلَّهِ رَبِّ الْعالَمِينَ
"จงประกาศเถิด แท้จริงการละหมาดของฉัน , การทำอิบาดะฮ์ของฉัน , การมีชีวิตของฉัน , และการตายของฉัน เพื่ออัลเลาะฮ์ ผู้ทรงอภิบาลแห่งโลกทั้งมวล" อัลอันอาม 162
ดังนั้น เราจำเป็นต้องทำอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา จนกระทั่งตาย แต่เดือนชะอฺบานถือเป็นโอกาสหนึ่งที่สำคัญในการหวนกลับไปสู่การขอการอภัยโทษที่เราต้องฉวยเก็บเกี่ยวมันไว้
อย่ารอไว้โอกาสหน้า เพราะบางครั้งท่านอาจจะไม่มีโอกาสหน้าอีกแล้ว เนื่องจากความตายอาจจะมาเยือนท่านได้ทุกเวลาพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย สมควรที่เราจำต้องทราบว่า ความเป็นทาสบ่าวของเราที่มีต่ออัลเลาะฮ์นั้น เป็นสิ่งที่ซ้อนเร้นอยู่ภายใน ความเป็นทาสบ่าวของเรานั้นยังเป็นตัวตนอยู่ภายในตัวเราที่ไม่มีวันเปลี่ยนผัน ดังนั้น การทำอะบาดะฮ์ของเราจึงต้องคงมีอยู่ตลอดไป อิบาดะฮ์นั้นมีปลายประเภท ซึ่งอิบาดะฮ์ลำดับแรก ๆ ที่ประเสริฐยิ่งคือการมุ่งวอนขอดุอาอ์อันนอบน้อมต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา
เพราะฉะนั้น ตราบใดที่มนุษย์ยังคงเป็นบ่าวที่เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์ เขาก็ยังต้องการที่จะให้พระองค์ทรงคุ้มครองดูแล เหตุดังกล่าวนี้ เราจึงต้องวอนขอความช่วยเหลือและขอดุอาอ์ต่อพระองค์ในทุกเวลา คืนนิสฟูชะอฺบาน เราจงขอให้อภัยโทษต่ออัลเลาะฮ์ ขอให้พระองค์ทรงประทานริสกีที่ดี และขอความช่วยเหลือจากพระองค์ให้พ้นจากภัยบะลอกันเถิด
أقول قولى هذا وأستغفر الله العظيم لى ولكم
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: sufriyan Date: ส.ค. 23, 2007, 10:48 PM
ขอบคุณครับ
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: เด็กท่าเรือ Date: ส.ค. 23, 2007, 11:08 PM
:)ขอบคุณครับ

Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 24, 2007, 09:59 AM
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย สมควรที่เราจำต้องทราบว่า ความเป็นทาสบ่าวของเราที่มีต่ออัลเลาะฮ์นั้น เป็นสิ่งที่ซ้อนเร้นอยู่ภายใน ความเป็นทาสบ่าวของเรานั้นยังเป็นตัวตนอยู่ภายในตัวเราที่ไม่มีวันเปลี่ยนผัน ดังนั้น การทำอะบาดะฮ์ของเราจึงต้องคงมีอยู่ตลอดไป อิบาดะฮ์นั้นมีปลายประเภท ซึ่งอิบาดะฮ์ลำดับแรก ๆ ที่ประเสริฐยิ่งคือการมุ่งวอนขอดุอาอ์อันนอบน้อมต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา เพราะฉะนั้น ตราบใดที่มนุษย์ยังคงเป็นบ่าวที่เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์ เขาก็ยังต้องการที่จะให้พระองค์ทรงคุ้มครองดูแล เหตุดังกล่าวนี้ เราจึงต้องวอนขอความช่วยเหลือและขอดุอาอ์ต่อพระองค์ในทุกเวลา คืนนิสฟูชะอฺบาน เราจงขอให้อภัยโทษต่ออัลเลาะฮ์ ขอให้พระองค์ทรงประทานริสกีที่ดี และขอความช่วยเหลือจากพระองค์ให้พ้นจากภัยบะลอกันเถิด
แสดงว่าความเป็นทาสบ่าวอันต่ำต้อยของมนุษย์ไม่ได้แสดงออกกันมาทางภายนอก บางคนทำท่าเดินนอบน้อมถ่อมตน แต่จิตใจยะโสมองคนอื่นชั่วไปเสียทั้งหมดและตนเองดีกว่าคนอื่นไปเสียหมด นั่นเป็นเพราะว่าลักษณะความทาสบ่าวภายในมันชักจะสั่นคลอน
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ส.ค. 27, 2007, 03:02 PM
ขอน่ะครับ

Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: del_dangerous Date: ส.ค. 27, 2007, 06:41 PM
อายะฮฺของอัลกุรอ่านที่ว่า "อัลลอฮฺ จะทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงคงไว้ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์) และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งบันทึก" (อัรเราะอฺดุ /39)
ได้ทราบมาว่าเป็นส่วนหนึ่งในดุอาในคืนนิสฟูชะอฺบานที่ใช้กันในประเทศไทย
ช่วยชี้แจงด้วยครับ ว่าเป็นยังไงกันแน่
วัสลาม
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: almadany Date: ส.ค. 28, 2007, 02:20 PM
อายะฮฺของอัลกุรอ่านที่ว่า "อัลลอฮฺ จะทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงคงไว้ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์) และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งบันทึก" (อัรเราะอฺดุ /39)
ได้ทราบมาว่าเป็นส่วนหนึ่งในดุอาในคืนนิสฟูชะอฺบานที่ใช้กันในประเทศไทย
ช่วยชี้แจงด้วยครับ ว่าเป็นยังไงกันแน่
วัสลาม
ก็คืนนั้น...อัลเลาะฮ์จะทรงอธิบายความผิดให้แก่มัคโลค...การอภัยผิดก็คือการลบความผิดให้หมดไป...จึงไม่แปลกอะไรที่จะเอาอัลกุรอานมาอยู่ในส่วนประกอบของดุอาอ์เพื่อขออภัยโทษต่ออัลเลาะฮ์ให้ลบล้างบาปออกไป...
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: del_dangerous Date: ส.ค. 28, 2007, 07:57 PM
อายะฮฺของอัลกุรอ่านที่ว่า "อัลลอฮฺ จะทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงคงไว้ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์) และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งบันทึก" (อัรเราะอฺดุ /39)
อายะฮฺนี้ได้ถูกนำไปบรรจุอยู่ในดุอาอฺ ของคืนนิสฟุชะอฺบาน โดยเข้าใจว่าอัลลอฮฺทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ เป็นการเปลี่ยนแปลงให้อายุยืนยาว ริสกีเพิ่มพูน และความทุกข์ยากให้เป็นความผาสุก และพระองค์จะทรงคงไว้ ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะเป้าหมายของอายะฮฺนี้คือ พระองค์อัลลออฺทรงตอบโต้ ต่อคำพูดของบรรดาผู้ปฏิเสธ ที่ขอให้ท่านนบีมุฮัมมัด นำเอามัวะอฺญิซาต (อภินิหาร) ของนบีก่อน ๆ มาเสนอ เช่นมัวะอฺญิซาตของท่านนบีอิบรอฮีม มูซา อีซา เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงการเป็นศาสดา ของนบีมุฮัมมัด อัลลออฺจึงได้ทรงประทานอายะฮฺนี้มา
โดย อาจารย์มุนีร มุฮัมมัด
ถูกผิดยังไง
บัง kowee หรือใครก็ได้นะครับ ช่วยอธิบายหน่อย
พอดีไม่เคยใช้ อยากใช้ แต่ไม่มั่นใจครับ
วัสลาม
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: al-azhary Date: ส.ค. 28, 2007, 08:49 PM
อายะฮฺของอัลกุรอ่านที่ว่า "อัลลอฮฺ จะทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงคงไว้ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์) และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งบันทึก" (อัรเราะอฺดุ /39)
อายะฮฺนี้ได้ถูกนำไปบรรจุอยู่ในดุอาอฺ ของคืนนิสฟุชะอฺบาน โดยเข้าใจว่าอัลลอฮฺทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ เป็นการเปลี่ยนแปลงให้อายุยืนยาว ริสกีเพิ่มพูน และความทุกข์ยากให้เป็นความผาสุก และพระองค์จะทรงคงไว้ ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะเป้าหมายของอายะฮฺนี้คือ พระองค์อัลลออฺทรงตอบโต้ ต่อคำพูดของบรรดาผู้ปฏิเสธ ที่ขอให้ท่านนบีมุฮัมมัด นำเอามัวะอฺญิซาต (อภินิหาร) ของนบีก่อน ๆ มาเสนอ เช่นมัวะอฺญิซาตของท่านนบีอิบรอฮีม มูซา อีซา เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงการเป็นศาสดา ของนบีมุฮัมมัด อัลลออฺจึงได้ทรงประทานอายะฮฺนี้มา
โดย อาจารย์มุนีร มุฮัมมัด
ถูกผิดยังไง
เป็นการตั้งประเด็นขึ้นมาน่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียวครับ ญะซากัลลอฮ์ เราจะทำการชี้แจงต่อไปครับ อินชาอัลเลาะฮุตาอาลา
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: al-azhary Date: ส.ค. 30, 2007, 07:49 AM
อายะฮฺของอัลกุรอ่านที่ว่า "อัลลอฮฺ จะทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงคงไว้ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์) และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งบันทึก" (อัรเราะอฺดุ /39)
อายะฮฺนี้ได้ถูกนำไปบรรจุอยู่ในดุอาอฺ ของคืนนิสฟุชะอฺบาน โดยเข้าใจว่าอัลลอฮฺทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ เป็นการเปลี่ยนแปลงให้อายุยืนยาว ริสกีเพิ่มพูน และความทุกข์ยากให้เป็นความผาสุก และพระองค์จะทรงคงไว้ ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะเป้าหมายของอายะฮฺนี้คือ พระองค์อัลลออฺทรงตอบโต้ ต่อคำพูดของบรรดาผู้ปฏิเสธ ที่ขอให้ท่านนบีมุฮัมมัด นำเอามัวะอฺญิซาต (อภินิหาร) ของนบีก่อน ๆ มาเสนอ เช่นมัวะอฺญิซาตของท่านนบีอิบรอฮีม มูซา อีซา เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงการเป็นศาสดา ของนบีมุฮัมมัด อัลลออฺจึงได้ทรงประทานอายะฮฺนี้มา
โดย อาจารย์มุนีร มุฮัมมัด
ถูกผิดยังไง
อายะฮฺของอัลกุรอ่านที่ว่า "อัลลอฮฺ จะทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงคงไว้ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์) และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งบันทึก" (อัรเราะอฺดุ /39)
อายะฮ์นี้หากเราไม่เข้าใจ ก็ไม่สมควรแช่แข็งเพียงแค่มูลเหตุของอายะฮ์ (อัสบาบุนนุซูล) และการกล่าว "ว่าอัลลอฮฺทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ เป็นการเปลี่ยนแปลงให้อายุยืนยาว ริสกีเพิ่มพูน และความทุกข์ยากให้เป็นความผาสุก และพระองค์จะทรงคงไว้ ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด" นั้น คือได้ยึดมาจากสายรายงานที่ฏออีฟเป็นอย่างยิ่งจากท่านอิบนุอับบาส โดยการรายงานของอัลกะลิบีย์ ท่านอิมามอัลกุรฏูบีย์ ได้กล่าวว่า "หากรายงานไม่ซอฮิห์ ดังนั้นที่ชัดเจนยิ่งกว่า คืออายะฮ์นี้มีความหมายครอบคลุมในประการทั้งหมด วัลลอฮุอะลัม" ตัฟซีรอัลกุรฏุบีย์ ซูเราะฮ์อัลอัรเราะอฺดุ/39
ประเด็นปัญหาอันสำคัญที่ผู้คนทั่วไปอาจจะคุ้นคิดกันก็คือ กรณีที่อัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงตรัส ความว่า
"อัลลอฮฺ จะทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงคงไว้ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์) และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งบันทึก" (อัรเราะอฺดุ /39)
และหะดิษที่ท่านอิบนุอับบาสได้รายงานว่า ".....บรรดาปากกาถูกยกแล้วและบันทึกได้แห้งแล้ว" รายงานโดยติรมีซีย์ ท่านอัตติรมีซ๊ย์กล่าวว่า เป็นหะดิษหะซันซอฮิห์
หากดูผิวเผินแล้วนั้น เหมือนกับว่าอัลกุรอานและหะดิษจะขัดแย้งกัน เพราะอัลกุรอานได้ระบุว่า อัลเลาะฮ์ทรงลบตามที่พระองค์ทรงประสงค์ แต่หะดิษได้บอกว่าการบันทึกได้เหือดแห้งไปแล้ว บรรดาการงานได้ถูกบันทึกไว้เสร็จสรรพจากอดีตจวบจนถึงอนาคตต่อไปข้างหน้า
เราขอชี้แจงว่า การกำหนดสภาวะของอัลเลาะฮ์นั้น ได้ถูกบันทึกไว้ 2 ที่
1. บันทึกไว้ใน แม่บทแห่งบันทึก (อุมุลกิตาบ)
2. บันทึกไว้ในเลาฮิลมะห์ฟูซฺ
สิ่งที่ได้ยืนยันเกี่ยวกับการกำหนดสภาวะของอัลเลาะฮ์ไว้ในเลาฮิลมะห์ฟูซฺนั้น เพื่อเสนอให้บรรดามะลาอิกะฮ์ บรรดานบี และบรรดาร่อซูล ได้แลเห็นและรับรู้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เร้นลับที่อัลเลาะฮ์ทรงรอบรู้ได้เพียงพระองค์ แต่พระองค์ทรงให้ผู้อื่นรับรู้ในบางส่วนด้วย
ซึ่งส่วนมากจากสิ่งที่ได้ถูกบันทึกไว้ในเลาฮิลมะห์ฟูซฺจะเป็น กอฏอมุอัลลัก (ไม่ใช่กอฏอมุบร๊อมที่มีการกำหนดตายตัว) ซึ่งกอฏอมุอัลลักนั้น ต้องขึ้นอยู่กับสถานะภาพของมนุษย์ที่ประพฤติปฏิบัติและดุอาอ์วอนขอ แม้กระทั่งบรรดามะลาอิกะฮ์และบรรดาร่อซูลเองก็ยังไม่มั่นใจในสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนไปเสียทีเดียว เนื่องจากพวกเขาไม่ทราบว่า มันเป็นกอฏอมุบร๊อมหรือว่ากอฏอมุอัลลัก
ดังนั้นประเด็นต่าง ๆ ที่ได้ถูกบันทึกไว้ในเลาฮิลมะห์ฟูซฺ ย่อมรับการเปลี่ยนแปลงด้วยมูลเหตุต่าง ๆ เช่นบางครั้งมนุษย์ทำการพึ่งพาต่ออัลเลาะฮ์ด้วยการวอนขอดุอาอ์แต่บางคนไม่ยอมขอดุอาอ์ ผลจึงได้รับต่าง ๆ กัน และบางคนผลักบะลอให้การทำทานซอดาเกาะฮ์แต่บางคนไม่ทำงาน ผลที่ได้รับจึงต่างกัน และบางคนเจ็บป่วยก็ไปรักษาแต่บางคนไม่ยอมไป ผลย่อมได้รับต่างกัน คือหากป่วยก็ต้องกินยารักษาถึงจะหาย เขาเรียกว่า กอฏอมุอัลลัก (การกำหนดที่ถูกวางข้อแม้จากสิ่งที่เราได้กระทำ)
ส่วน อุมมุลกิตาบ (แม่บทบันทึก) ซึ่งเป็นการกำหนดทั้งหมดของอัลเลาะฮ์ และพระองค์องค์เดียวเท่านั้นที่รู้ มันเป็นความเร้นลับที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ได้เลย และยังเป็นการรู้ของพระองค์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่มีการลบ และเลาฮิลมะห์ฟูซฺนั้น ได้รับการถ่ายทอดบันทึกมาจากอุมมุลกิตาบมาอีกทีหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเราพูดถึงคำว่า กอฏอ(การกำหนดสภาวะของอัลเลาะฮ์นั้น) ย่อมหมายถึง อุมุลกิตาบเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นการกำหนดที่ไม่เปลี่ยนแปลงไม่มีการลบ ดังกล่าว ท่านอิมามอัลกุรฏูบีย์จึงกล่าวว่า "ตามหลักอะกีดะฮ์นั้น คือไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้กับการกำหนดของอัลเลาะฮ์ การทรงลบและทรงคงอยู่ไว้นั้นได้ถูกกำหนดมาก่อน(ไว้ในอุมมุลกิตาบ)แล้ว" ตัฟซีรอัลกุรฏุบีย์ ซูเราะฮ์อัลอัรเราะอฺดุ/39
ตัวอย่างเช่น ในเลาฮิลมะห์ฟูซฺบันทึกว่าเขาจะได้ริสกีเท่านี้เท่านั้น แต่เขาได้กระทำความดีของดุอาอ์ต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา ริสกีในเลาฮิลมะห์ฟูซฺจึงถูกเพิ่มพูนให้แก่เขา แต่ในอุมมุลกิตาบนั้นที่อยู่ ณ อัลเลาะฮ์นั้น พระองค์ได้รู้มาแต่เดิมแล้วว่า "บ่าวคนนี้ได้รับริสกีเท่านี้เท่านั้น" และพระองค์ก็ทรงรู้มาแล้วว่า "บ่าวคนนี้จะกระทำความดีและขอดุอาอ์ให้เพิ่มริสกี" และพระองค์ก็รู้มาแต่เดิมว่า "พระองค์จะทรงเพิ่มพูนริสกีให้" ดังนั้น การบันทึกไว้ในเลาฮิลมะห์ฟูซฺจึงมีการลบและมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนในอุมุลกิตาบนั้น จะไม่มีการลบและไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ตามความหมายนี้ ท่านอะลีบินอบีฏ๊อลหะฮ์ ได้รายงานจากท่านอิบนุอับบาส ในความหมายของคำตรัสของอัลเลาะฮ์ที่ว่า "อัลลอฮฺ จะทรงลบสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงคงไว้ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์)" หมายถึง พระองค์จะทรงเปลี่ยนสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และจะทรงลบกับสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์จะยังคงอยู่กับสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง "และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งบันทึก" หมายถึง ประมวลสิ่งดังกล่าว(ทั้งหมด)นั้น อยู่ ณ ที่พระองค์ ที่อยู่ในอุมมุลกิตาบที่ได้บันทึกไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่ถูกให้คงอยู่ ซึ่งทั้งหมดดังกล่าวอยู่ในบันทึก" ดู ตัฟซีรอิบนุกะษีร 2/520
ท่านอิมามอะห์มัดและอิมามอันนะซาอีได้รายงานจาก เษาบาน เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "แท้จริงผู้ชายคนหนึ่งจะถูกห้ามริสกีด้วยเหตุของบาปที่มาประสบกับเขา และการกำหนดจากไม่ถูกโต้กลับนอกจากการดุอาอ์ และจะไม่เพิ่มพูนในอายุไขนอกจากกระทำความดีงาม" ดังกล่าวหมายถึง กอฏอมุอัลลักในเลาฮิลมะห์ฟูซฺ คือเขาจะได้ริสกีเท่านี้ แต่เขาทำความชั่วเยอะ ริสกีจึงถูกลบออกไปให้เหลือน้อยลง
ท่านอิมามบุคอรีและอิมามมุสลิม ได้รายงานจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ความว่า "ผู้ใดที่ชอบที่จะให้ริสกีแผ่กว้างสำหรับเขาและความตายถูกประวิงสำหรับเขา ดังนั้น เขาก็จะเชื่อมสัมพันธไมตรีเครื่องญาติ" หมายถึงการที่อายุไขและริสกีของเขานั้นถูกบันทึกโดยเปลี่ยนแปลงให้อายุยืนและเพิ่มพูนริสกีไว้ในเลาหิลมะห์ฟูซฺ ซึ่งเรียกว่ากอฏอมุอัลลัก และการที่เขาได้ทำการเชื่อมสัมพันธไมตรีแล้วมีอายุยืนริสกีเพิ่มพูนนั้น อัลเลาะฮ์ทรงรู้มาแล้วในแม่บทแห่งบันทึก(อุมมุลกิตาบ) ที่อยู่ ณ พระองค์
ดังนั้น ทัศนะที่ถูกต้องก็คือ ทุก ๆ สิ่งได้ถูกบันทึกไว้ในเลาฮิลมะห์ฟูซฺ โดยสามารถมีการลบและทำให้คงอยู่ จนกระทั่งระยะเวลาการตาย ริสกี ความสุข ความทุก เพราะอายะฮ์ได้ให้ความหมายโดยครอบคลุมในสิ่งดังกล่าวแล้ว ส่วนสายรายงานต่าง ๆ ที่ระบุยกเว้นว่า กำหนดเวลาตาย ริสกี ความทุกข์(บะลา)ความสุข จะไม่เปลี่ยนแปลง ถือว่าเป็นสายรายงานที่ฏออีฟและโมฆะไม่สามารถนำมายึดเป็นหลักยึดมั่นได้เลย
เพราะฉะนั้น ในคืนนิสฟูชะอฺบานนั้น หากเราได้ขอดุอาอ์ ให้อายุยืนยาว ให้ได้ริสกีที่ดี และให้พ้นจากภัยบะลา นั้น อัลเลาะฮ์สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงมันในเลาฮิลมะห์ฟูซฺได้ครับ โดยพระองค์ได้บันทึกไว้ในอุมุลกิตาบแล้วว่า เราจะทำการขอดุอาอ์และเราจะถูกตอบรับจากดุอาอ์นั้นโดยเพิ่มพูดริสกี อายุไข และให้พ้นบะลาอฺ
วัลลอฮุอะลัม
โปรดติดตามต่อไป......อินชาอัลเลาะฮุตะอาลา
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: vrallbrothers Date: ส.ค. 16, 2008, 07:49 PM
salam
วันนี้ได้มีโอกาสหากระทู้เกี่ยวกับอะมัลในเดือนชะอฺบาน ก็เจอหลายกระทู้ และมาสะดุดกับกระทู้นี้
ในกระทู้นี้มีเรื่องการกำหนดสภาวะที่อาจารย์อัลอัซฮารี ได้นำมาให้อ่านกัน ซึ่งอ.อธิบายเรื่องนี้ได้ละเอียดทีเดียวครับ

เหมาะสำหรับคนความรู้น้อยอย่างผมเป็นอย่างยิ่ง

ร่ายมายืดยาว...เหอๆ

โปรดติดตามต่อไป......อินชาอัลเลาะฮุตะอาลา
คือว่า... ถ้าอ.ว่าง ช่วยนำเสนอต่อนะครับ รออ่านขอรับ

ญะซากัลลอฮ์ อาจารย์ฯ ล่วงหน้าครับ
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: al-firdaus~* Date: ก.ค. 03, 2011, 10:01 PM
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย! เดือนชะอฺบานนี้ อัลเลาะฮ์ทรงเรียกร้องพวกเราไปสู่พระองค์ในทุกโมงยามเพื่อพระองค์จะทรงประทานความเมตตาและอภัยโทษ แต่เรากลับทำเพิกเฉย หันหลังให้ ทำไม่รู้ไม่ชี้อย่างไม่ละอาย ทั้งที่พระองค์กำลังกล่าวแก่เราว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่เราได้อนุญาตให้พวกเจ้ากลับมายังเราก่อนที่โอกาสอันดีจะสิ้นสุดลง ซึ่งมันถึงเวลาแล้ว
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า
أَلَمْ يَأْنِ لِلَّذِينَ آمَنُوا أَنْ تَخْشَعَ قُلُوبُهُمْ لِذِكْرِ اللَّهِ وَما نَزَلَ مِنَ الْحَقِّ وَلا يَكُونُوا كَالَّذِينَ أُوتُوا الْكِتابَ مِنْ قَبْلُ فَطالَ عَلَيْهِمُ الأَمَدُ فَقَسَتْ قُلُوبُهُمْ
"ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือ สำหรับบรรดาผู้มีศรัทธาที่หัวใจของพวกเขาจะนอบน้อมเพื่อการรำลึกถึงอัลเลาะฮ์ และระลึกถึงสัจธรรมที่ประทานลงมา(สู่พวกเขา)? และพวกเขาจงอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้ที่เคยถูกประทานคัมภีร์ให้เมื่อยุคก่อน ๆ แต่แล้วเมื่อกาลเวลาได้ผ่านพวกเขาไปอย่างยาวนาน หัวใจของพวกเขาก็แข็งกระด้างและส่วนมากของพวกเขาล้วนเป็นผู้ฝ่าฝืน" อัลหะดีด 16
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: Bangmud Date: มิ.ย. 12, 2013, 11:04 AM

ขุดมาทบทวน
วัสสลาม
Re: เดือนชะอฺบานเดือนที่ถูกลืม(คุฏบะฮ์วันศุกร์2) By: nada-yoru Date: มิ.ย. 12, 2013, 10:46 PM
วะอะลัยกุมมุสลาม
ญะซากัลลอฮุคอยรอนแชค่ะ
ที่ขุดมาให้อ่านก่อนนอน...
ตอนที่พ่อพาไปเยี่ยมลุงและญาติๆที่อยู่ห่างไกล
ระหว่างทางพ่อจะสอนและพูดประโยคนึงให้ฟังบ่อยๆตั้งแต่เด็ก
และเพิ่งได้เห็นหลักฐานที่มาของประโยคดังกล่าวก็วันนี้ค่ะ
ประโยคนั้นคือ
ท่านอิมามบุคอรีและอิมามมุสลิม
ได้รายงานจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ความว่า
"ผู้ใดที่ชอบที่จะให้ริสกีแผ่กว้างสำหรับเขาและความตายถูกประวิงสำหรับเขา
ดังนั้น เขาก็จะเชื่อมสัมพันธไมตรีเครือญาติ"
หมายถึงการที่อายุไขและริสกีของเขานั้นถูกบันทึก
โดยเปลี่ยนแปลงให้อายุยืนและเพิ่มพูนริสกีไว้ในเลาหิลมะห์ฟูซฺ
ซึ่งเรียกว่ากอฏอมุอัลลัก
และการที่เขาได้ทำการเชื่อมสัมพันธไมตรีแล้วมีอายุยืนริสกีเพิ่มพูนนั้น
อัลเลาะฮ์ทรงรู้มาแล้วในแม่บทแห่งบันทึก(อุมมุลกิตาบ) ที่อยู่ ณ พระองค์
และยังมีอีกบทนึงคือ
และยังบอกว่า...การเปลี่ยนแปลงการกำหนดในสมุดบันทึก
เลาหิลมะฮฺฟูซฺนั้น คือ ดุอา
ดุอาฮฺจึงเป็นอาวุธของเรา...เพราะเลาหิลมะฮฺฟูซฺคือสิ่งหนึ่งที่อัลลอฮฺ
สร้างขึ้นมา พระองค์จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น
ขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของพระองค์...
เรามีหน้าที่ขอ เราก็ขอ...ส่วนผลลัพธ์ต่างๆ
เราก็มอบหมายไปยังพระองค์...
พอได้มาอ่านบทความที่อ.อารีฟีนเขียนไว้ จึงทำให้นึกถึง
สิ่งที่พ่อบอกเอาไว้ขึ้นมา...
วัสลามค่ะ