Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: zaki Date: ก.ย. 28, 2007, 09:28 PM

สลามครับ ขอแจมด้วยคนคับ ดังนั้นสิ่งสำคัญสำหรับท่านมุสลีมะที่ดีนั้น ควรเป็นสตรีที่ดีนั้นแหละดีแล้ว ดังวจนะท่านศาสดาที่ว่า
الدنيامتاع وخيرمتاعها المرءةالصالحة
หมายความว่า โลกนี้นั้นคือสิ่งภิรมย์ และสิ่งภิรมย์ที่ดีที่สุดในโลกนี้นั้นคือกุลสตรีที่ซอลีฮะ
ดังนั้น ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องมุสลีมะทุกท่านคับ วัสลาม........
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: บาชีร Date: ก.ย. 29, 2007, 11:19 AM
ร๊อบบะนาอาตินาฟิดดุนยาหะสะนะฮฺ วะฟิลอาคิเราะติหะสะนะ วะกินาอะซาบันนาร
อิบนุอับบาสถือว่า หะสะนะฮฺ ตรงนี้หมายถึง ผู้หญิงที่ศอลิฮะฮฺ
ผมเลยขอบ่อยเลย
-----
มันเป็นดุอาที่รอซูลขอมากที่สุดด้วย
(จำไม่ได้แล้วว่าหะดีษอ่านเจอที่ไหนรึสึกอยู่ในศอฮีฮฺมุสลิม)
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: قطوف من أزاهير النور Date: ก.ย. 30, 2007, 01:39 AM
บางทีเราก็ตีความคำว่าเท่าเทียมผิด
คนยุคเสรีนิยมจะตีความตื้น ๆ ว่า ความเท่าเทียมคือการรทำอะไรได้เหมือนกันหมด
ในความเป็นจริงอัลลอฮฺ ให้สิทธิเรามาเท่า ๆ กัน
ผู้หญิงได้สิทธิอย่างหนึ่ง ขณะที่ผู้ชายได้สิทธิอีกอย่าง
เรื่องการเป็นผู้นำของผู้หญิง มันไม่ดีก็จริง แต่ในสภาพปัจจุบันเราต้องเรียกว่าเป็นโลกสีเทา
ที่ประเทศอะไรไม่รุ้ จำไม่ได้ประสบปัญาเรื่องการเลือกระหว่าง ผู้นำที่เป็นมุสลิมะฮฺ กับ ผู้นำชายที่ไม่ดี
จำได่ว่าท่านเชคยูซุฟก็สนับสนุนให้เลือกผู้นำที่เป็นมุสลิมะฮฺ
แต่สำหรับกรณีที่ไม่จำเป็นอย่างข้างบน มุสลิมะฮฺก็คงต้องถามตัวเองว่า ความสามารถเรามีจริงหรือ ? เราทำได้แน่หรือ ? ไม่มีผู้ชายอื่นทำได้ดีกว่าเราแน่หรือ ? คำตอบอยู่ที่ตัวเอง ไม่มีใครตอบได้ดีที่สุด
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โลกสีเทา ^^
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ก.ย. 30, 2007, 11:04 AM
สถานภาพของสตรีในอิสลาม
ขบวนการปลดปล่อยสตรีในโลกตะวันตก มีกำเนิดขึ้นมาจากความผิดหวังซึ่งเกิดขึ้นไม่รู้จักจบสิ้นจากความไม่มั่นคงทางการเงิน ศีลธรรมและทางร่างกาย และยังเป็นผลมาจากการไม่มีวิถีแห่งชีวิตที่ประทานมาจากพระผู้เป็นเจ้า ขบวนการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและยังแปลกประหลาดสำหรับสังคมอิสลามอีกด้วย เป็นเวลาสิบสี่ศตวรรษมาแล้ว ที่อิสลามประกาศให้ทั้งบุรุษและสตรีมีส่วนร่วมกันรับผิดชอบในพันธะของการเป็นบ่าวผู้ซื่อสัตย์ และแท้จริงของพระองค์อัลลอฮ. ศุบหฯ และทั้งบุรุษและและสตรีจะได้รับการตอบแทนจากพระองค์ตามพฤติกรรมแห่งตน ในอิสลามสตรีเพศดำรงอยู่ในฐานะแห่งเกียรติยศและความสูงศักดิ์ ซึ่ง ณ ที่นี้ย่อมหมายความว่าเธอมีฐานะที่สูงกว่าบุรุษเพศเสียอีก อิสลามได้บัญญัติระเบียบกฎเกณฑ์ว่าด้วยเรื่องสตรีเพศเอาไว้ โดยไม่จำกัดว่าเธอเหล่านั้นจะเป็นมารดา บุตรสาว พี่น้องหญิงหรือเป็นภรรยา อิสลามได้กำหนดหน้าที่บางประการไว้ให้บุรุษปฏิบัติต่อสตรี และให้สตรีปฏิบัติต่อบุรุษด้วยเช่นเดียวกัน
สิ่งที่อิสลามให้กับสตรีเพศนั้นแตกต่างจากศาสนาอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง อิสลามได้เข้ามาขจัดมลทินที่พวกเธอได้รับมานมนานหลายศตวรรษ นานมาแล้วที่เธอถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายและความสกปรก แต่อิสลามกลับประกาศว่าบุรุษและสตรีมาจากเนื้อเดียวกัน ท่านรสูล ศ็อลฯ เป็นผู้ที่ให้เกียรติและยกย่องสตรีเพศ ดังเช่นที่ปรากฏในหะดีษต่อไปนี้ "ิส่งมีค่าสูงสุดในโลกนี้ได้แก่สตรีที่มีคุณความดี? (หะดีษมุสลิม)
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ก.ย. 30, 2007, 11:12 AM
ท่านยังสั่งให้บรรดาสาวกของท่านปฏิบัติต่อสตรีเพศด้วยความเห็นอกเห็นใจคำสอนของท่าน เราจะพบเห็นได้จากรายงานต่อไปนี้
1. ?ผู้ที่สมบูรณ์พร้อมในหมู่ผู้ศรัทธาได้แก่ บุคคลที่ลักษณะทางศีลธรรมของเขาประเสริฐที่สุด และที่ประเสริฐที่สุดในหมู่พวกท่านได้แก่บรรดาผู้ที่ให้ความกรุณาต่อครอบครัวของตน? (หะดีษติรมีซี.)
2. ?มุสลิมคนหนึ่งจะต้องไม่รังเกียจภรรยาของตนเอง ถ้าหากว่าเขาไม่พอใจในสิ่งหนึ่งที่ไม่ดีในตัวเธอ ขอให้เขาพอใจกับสิ่งที่ดีอีกอย่างหนึ่งในตัวเธอ? (หะดีษมุสลิม)
กฎเกณฑ์ข้อนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุก ๆ กรณี กล่าวคือ เราควรจะมองภาพจากด้านสว่าง มิใช้การมองจากด้านมืด นั่นก็เพราะว่ามนุษย์นั้นไม่มีใครที่ปลอดจากข้อบกพร่องในแง่ต่าง ๆ เช่นเดียวกันภรรยาผู้มีศรัทธาย่อมจะไม่ไร้คุณลักษณะที่ดีไปเสียทุกคน เกี่ยวกับเรื่องนี้ อัลกุร.อานได้กล่าวว่า ?ในทางตรงกันข้ามจงอยู่ร่วมกับพวกนางบนพื้นฐานของความกรุณาและความเที่ยงธรรม ถ้าหากท่านเกลียดพวกนางก็อาจเป็นไปได้ว่าพวกท่านเกลียดสิ่งหนึ่ง ขณะที่อัลลอฮ. ได้ทรงทำให้มีความดีมากมายเกิดขึ้นในสิ่งนั้น? (4:19)
3. ?บุคคลที่พยายามช่วยเหลือหญิงม่าย หรือคนจนเปรียบได้กับมุญาฮิตที่ดินรนต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ .หรือเปรียบได้กับบุคคลที่ยืนละหมาดในเวลากลางคืน และถือศีลอดในเวลากลางวัน? (หะดีษบุคอรี)
ในทัศนะของอิสลาม หญิงม่ายสามารถแต่งงานใหม่ได้อีก และบุคคลใดก็ตามที่ดูแลทุกข์สุขของหญิงม่าย เขาจะได้รับรางวัลตอบแทนเสมอด้วยรางวัลของผู้ที่ดิ้นรนต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ. (ญิฮาด) หรือเสมอด้วยรางวัลของผู้ที่ยืนขึ้นละหมาดในเวลากลางคืน และถือศีลอดในเวลากลางวัน
4. ท่านสะหล์ บิน สะด. รายงานว่าท่านรสูล ศ็อลฯ กล่าวว่า "ฉันและบุคคลที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้าจะเป็นเช่นนี้? แล้วท่านก็ชี้ไปที่สองนิ้วของท่าน คือนิ้วชี้กับนิ้วกลาง (หะดีษบุคอรี) ด้วยเหตุผลดังกล่าว รางวัลของการเลี้ยงดูเด็กกำพร้าจึงเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ นั่นคือการได้อยู่ร่วมกับท่านรสูล ศ็อลฯ อย่างมีความสุขในสวนสวรรค์ตลอดไป แต่พวกเราจะมีสักเท่าไรที่สมควรได้รับรางวัลดังกล่าว คำตอบเรื่องนี้อาจจะเป็นที่ผิดหวังก็ได้
5. ?จงปฏิบัติต่อสตรีด้วยความกรุณา เพราะเหตุว่าพวกเธอถูกสร้างขึ้นมาจากกระดูกซี่โครงและกระดูกซี่โครงที่โค้งที่สุด ได้แก่ซี่ที่อยู่บนสุด ถ้าท่านพยายามดัดมันให้ตรง มันก็จะหัก แต่ถ้าท่านปล่อยมันไว้ มันก็จะยังคงโค้งอยู่อย่างนั้น เพราะฉะนั้นจงปฏิบัติต่อบรรดาสตรีด้วยความกรุณา? (หะดีษบุคอรี และมุสลิม)
ที่พูดว่า ?สร้างขึ้นมาจากกระดูกซี่โครง? นั้นเป็นคำพูดในเชิงเปรียบเทียบ ซึ่งมีความหมายถึงความดื้อรั้น ซึ่งมักพบเห็นได้ทั่วไปในอารมณ์ของสตรีเพศ เนื่องมาจากร่างกายและโครงสร้างทางจิตวิทยาในจิตใจของพวกเธอ ตลอดจนธรรมชาติของงานที่พวกเธอได้รับมอบหมายให้ทำ เมื่อพิจารณาในแง่ร่างกาย สตรีอ่อนแอกว่าบุรุษ เพราะฉะนั้นพวกเธอจึงไม่สามารถพิทักษ์ปกป้องตัวเองได้โดยอาศัยความแข็งแรงทางร่างกายเข้าช่วย ธรรมชาติมอบคุณลักษณะสองประการให้แก่สตรีเพศ คือความดื้อรั้นและความเอียงอาย ธรรมชาติจึงให้เธอใช้สิ่งทั้งสองพิทักษ์ปกป้องตัวเองเป็นการเฉพาะรายไป
ที่ว่าระหว่างอารมณ์ของบุรุษและสตรีเพศมีความแตกต่างกันอยู่นั้นเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ อิสลามยังเคี่ยวเข็ญให้มุสลิมปฏิบัติต่อสตรีด้วยความกรุณาและให้อดทนต่อารมณ์ที่เข้ากันไม่ได้ดังกล่าว กระดูกซี่โครงมีความโค้งงอตามที่ถูกสร้างขึ้นมาและไม่ได้ตรงแต่ประการใด กระดูกซี่โครงจึงให้ประโยชน์ได้ดีที่สุดตามภาวะที่มันถูกสร้างขึ้นมา กรณีของสตรีก็เป็นเช่นกันเธอถูกสร้างขึ้นมาพร้อมด้วยคุณลักษณะพิเศษทางร่างกายและจิตใจบางประการ เพราะฉะนั้นเธอจึงเป็นผู้มีประโยชน์ดีที่สุดตามภาวะที่เธอเป็นอยู่ การดัดเธอให้ตรง เช่น ให้เธอทำงานตามที่บุรุษเพศต้องการ หรือทำให้เธอเข้ากันได้กับอารมณ์ของสามีโดยสมบูรณ์ จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด ฉะนั้นบุรุษจะต้องปฏิบัติต่อเธอด้วยความอดทน และให้เกียรติต่อความรู้สึกนึกคิดของเธอด้วย จะเป็นการฉลาดกว่าถ้าเราจะถือปฏิบัติเช่นนั้น นั่นก็เพราะว่าสตรีเพศไม่มีวันอยู่กับร่องกับรอย เธอมักจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บางขณะจะพบว่าพวกเธอสนใจ และบางขณะก็ไม่สนใจโดยขาดเหตุผลอันควร ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าจะมีความอ่อนแอและปมด้อยอยู่ด้วยก็ตาม คนฉลาดจะต้องหาประโยชน์จากคุณลักษณะเหล่านี้ และชี้นำพวกเธอด้วยความระมัดระวังอย่างชาญฉลาดและด้วยความสนใจ
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ก.ย. 30, 2007, 11:18 AM
6. ?หนุ่ม ๆ ทั้งหลาย บุคคลใดในพวกท่านที่สามารถเลี้ยงดูภรรยาได้ควรจะแต่งงานเสีย เพราะการแต่งงานจะช่วยยับยั้งสายตาจากการทอดสายตา (ที่เป็นอกุศล) และจะช่วยปกป้องบุคคลนั้นให้พ้นจากการทำผิดทำนองคลองธรรม แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ควรถือศีลอดเป็นวิธีการหนึ่งในการควบคุมความปรารถนาทางเพศได้? (หะดีษมุสลิม)
ในเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติมนุษย์ในด้านโลกีย์วิสัย อิสลามไม่ได้บอกว่า จะต้องระงับอย่างเด็ดขาด เพราะฉะนั้นความคิดเรื่องชีวิตอันบริสุทธิ์ผุดผ่องเยี่ยงนักบุญของอิสลาม จึงไม่ได้รวมถึงการทำลายแรงผลักดันทางกามแต่เป็นการควบคุมดูแลให้แรงผลักดันเหล่านั้น อยู่ภายในขอบเขตอันดีงาม การควบคุมความปรารถนาทางเพศโดยการถือศีลอดจึงมีความสำคัญในความหมายที่ว่า มันไม่ใช่การกำจัดสัญชาติญาณทางเพศออกไปโดยสิ้นเชิงแต่เป็นการควบคุมที่อาศัย ?อิบาดะฮ. ? เข้าช่วยเป็นอย่างดี ฉะนั้นมันจึงไม่ใช่การละเว้นจากเรื่องเพศ แต่เป็นการใช้การข่มใจโดยอาศัยความยำเกรงและความรักในพระองค์อัลลอฮ. ศุบหฯ
7. ?เมื่อชายคนหนึ่งแต่งงานเท่ากับเขาได้ทำให้ศาสนาสมบูรณ์ไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นให้เขายำเกรงต่อพระองค์อัลลฮ.สำหรับครึ่งที่เหลือ? (หะดิษบัยหะกี)
สิ่งพึงสงวนและท้องเป็นประตูบาปที่สำคัญที่สุด สิ่งแรกปกป้องได้ด้วยการแต่งงาน สิ่งที่สองปกป้องได้ด้วยการหาเสบียงอาหารที่หะลาลสำหรับชีวิต ท่านรสูล ศ็อลฯ ครั้งหนึ่งเคยถูกถามถึงเรื่องนี้ ท่านกล่าวตอบว่า ?ในชายคนหนึ่งสิ่งแรกที่จะทำให้เกิดความชั่วร้ายก็คือท้องของเขา เพราะฉะนั้นถ้าผู้ใดก็ตามที่สามารถบริโภคเพียงสิ่งที่ดีได้ (เช่นของหะลาล) เขาก็ควรทำเช่นนั้น? (หะดีษบุคอรี)
8. ?สวรรค์นั้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา? (หะดีษนะสาอี)
นี่ก็หมายความว่าเงื่อนไขหนึ่งของการเข้าสวรรค์ คนเราจะต้องทำให้มารดาของตนพึงพอใจ ด้วยการแสดงออกซึ่งความเคารพเชื่อฟัง ความถ่อมตน การรักษาหน้าที่และการประพฤติตัวดี
ในทัศนะอิสลามนั้น สตรีเป็นเสาหลักของความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ตรงกันข้ามกับคริสตศาสนา สตรีกลับถูกมองว่าเป็นที่มาแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง ภายใต้คำสอนของคริสตศาสนา ถ้ามารดาคนแรกเป็นผู้นำมาซึ่งนรกที่ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ ในอิสลามเธอนั่นแหละคือผู้เปิดประตูสวรรค์
ในทางตรงกันข้าม อิสลามยังรังเกียจแนวโน้มเกี่ยวกับสตรีปัจจุบันในโลกตะวันตกซึ่งเต็มไปด้วยหลุมพรางกับดักมากมาย คุณค่าที่แท้จริงของสตรีมิได้อยู่ที่เครื่องแต่งกายอันหรูหรา หรือการแต่งหน้าที่ดุมีเสน่ห์ หรือการเปิดเผยเนื้อหนังมังสาครึ่งหนึ่งของร่างกาย แต่ที่จริงคุณค่านั้น ประกอบด้วยความสงบเสงี่ยม การมีสมบัติผู้ดี ความเอียงอายและการไม่ใช้สายตายั่วยวน สิ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติอันล้ำค่าที่เปรียบเสมือนเกราะสำหรับปกป้องเกียรติยศและความสูงศักดิ์ของสตรีผู้หนึ่งเอาไว้ เพราะฉะนั้นความก้าวหน้าจึงไม่อาจตัดสินได้ด้วยมาตรฐานจอมปลอมอันเป็นที่ยอมรับของสตรีในโลกตะวันตก ณ ที่นั้นความบริสุทธิ์หรือพรหมจรรย์กลายเป็นเรื่องน่าขบขัน ประหนึ่งว่าเป็นแฟชั่นเก่าแก่ล้าสมัยอย่างร้ายแรง เซ๊กส์และการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นเข้าเกาะกุมจิตใจของคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ พวกเขาพากันละทิ้งข้อห้ามทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับศีลธรรมทางเพศ สตรีจะถูกถือว่า ?ก้าวหน้า? ก็ต่อเมื่อเธอสามารถผสมพันธ์ได้อย่างเสรี สามารถยั่วยวนเพศตรงข้ามที่อยู่ในมหาวิทยาลัย สำนักงาน สโมสรและที่สาธารณะต่าง ๆ ให้หลงไหลคลั่งไคล้เสน่ห์ของเธอได้
ทุกวันนี้เราได้เห็นความหายนะนานับประการเกิดขึ้นในโลกตะวันตก โลกซึ่งยากที่จะพบเห็นคู่บ่าวสาวที่ยังคงความบริสุทธิ์เข้าพิธีแต่งงาน นี่แหละคือวัฒนธรรมและอารยธรรมของตะวันตก ที่มุสลิมชายหญิงกำลังพยายามเดินตามก้นพวกเขาไปสู่ความพินาศเบ็ดเสร็จโดยไม่รู้ตัว ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของตะวันตก ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมันทำให้วงการปัญญาชนมุสลิมต้องถึงกับหลงใหลอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น
คงไม่ตาลายกันน่ะ
[/color]
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: nada-yoru Date: ต.ค. 03, 2009, 12:53 AM
salam
ขอบคุณสำหรับผู้นำเสนอบทความอันมีค่าทุกท่านค่ะ

ปล.กว่าจะอ่านหมดก็ตาลายเหมือนกันค่ะ

เพิ่งเจอบทความนี้โดยบังเอิญ เลยขอใช้จอบสีชมพู อาวุธคู่ใจขุดและโกยนะคะ...

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
^_________^
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: waeel Date: พ.ย. 22, 2010, 05:04 PM
สภานภาพสตรีในอิสลามเป็นอย่างไร
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: hiddenmin Date: พ.ย. 22, 2010, 06:56 PM
^
^
อ่านแล้วรึยัง
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: ILHAM Date: พ.ย. 22, 2010, 09:39 PM
ย้อนกลับไปอ่าน
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: ... Date: พ.ย. 22, 2010, 10:43 PM
ลองอ่านดู

Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: napa Date: พ.ย. 24, 2010, 09:34 AM
ยังไงผู้หญิงก็ต้องตั้งท้อง เป็นแม่ ไม่ต้องเสียดายเลยว่าตนองไม่ได้เป็นผู้่นำ เพราะสถานภาพของความเป็นแม่ของผู้หญิง อยู่เหนือชายทั้งมวลในโลกนี้ เพราะผู้ชายทุกคนต้องมีแม่ครับ

Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: ILHAM Date: พ.ย. 24, 2010, 09:54 AM
ยกเว้นนบีอาดัม
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: พ.ย. 24, 2010, 10:34 AM
ไปได้น่ะ
Re: สถานภาพสตรีในอิสลาม By: khata Date: พ.ย. 24, 2010, 11:04 AM

ญาซากัลลอฮฺฮุคอยร๊อน ค่ะ
เป็นบทความที่ดีมาก ๆ มีหลักฐานจกาอัลกรุอ่านและอัลหะดีษ..

ขอแจมด้วยคนค่ะ..จากเว็บอิสลามมอร์
ถึงภรรยา และว่าที่ภรรยาทั้งหลาย..** ท่านร่อซู้ล - صلى الله عليه وسلم กล่าวว่า :
“ หากว่าฉันสามารถสั่งให้ใครสุญูดให้แก่ใครได้ แน่นอนว่า ฉันจะสั่งให้สตรีสุญูดให้แก่สามีของเธอ ” (บันทึกโดย อิมาม ติรมีซียฺ)
** “ จงพินิจดูจากเขาเถิด ว่าเธออยู่ตรงไหน ?เพราะความจริงแล้ว เขาคือสวรรค์ของเธอ และ คือนรกของเธอ ” (บันทึกโดย อิมาม นะซาอียฺ)
** “ อัลลอฮ์จะไม่ทรงทอดพระเนตรยังสตรีที่ไม่ขอบคุณ กตัญญู ต่อสามี ทั้งๆ ที่เธอไม่อาจเพียงพอจากเขาได้ ”
(บันทึกโดย อิมาม นะซาอียฺ อัล-ฮากิม และ อัล-บัรรอศ)
** “ สตรีคนใดก็ตามที่จบชีวิตลง และสามีพอใจในตัวเธอ เธอได้เข้าสวรรค์แล้ว ” (บันทึกโดย อิมาม ติรมีซียฺ)
** ท่านหญิง อาอิชะฮฺ -ضي الله عنها ر - กล่าวว่า:
“ สตรีทั้งหลาย .. หากเธอได้รู้ถึงสิทธิของสามีของพวกเธอที่มีต่อพวกเธอแล้ว แน่นอนว่า คนหนึ่งในหมู่พวกเธอ จะยอมลูบฝุ่นบนเท้าทั้งสองของสามี ด้วยใบหน้าของเธอเอง!!
** ท่านร่อซู้ล - صلى الله عليه وسلم กล่าวว่า :
“ ภรรยาอันเป็นที่รักของพวกท่านในสรวงสวรรค์นั้น คือ คนที่เมื่อเธอทำร้ายหรือถูกทำร้าย เธอจะเข้ามาหาสามีจนได้วางมือของเธอบนฝ่ามือของเขา
และบอกเขาว่า “ ฉันคงหลับตาลงไม่ได้ จนกว่าเธอจะพอใจ ”
(บันทึกโดย อิมาม อัด-ดารุ้ลกุฏนียฺ)
** รายงานจากท่านมุอ๊าซ -ضي الله عنه ر - ว่า: ท่านร่อซู้ล - صلى الله عليه وسلم กล่าวว่า :
“ในดุนยานี้ไม่มีภรรยาที่ทำร้ายสามี นอกเสียจากว่า ภรรยาของเขาจากนางสวรรค์ (ฮูรุ้ลอัยน) จะกล่าวว่า
“ อย่าได้ทำร้ายเขาเลย ขออัลลอฮให้เธอวิบัติเถิด แท้จริงเขาจะอยู่กับเธอเพียงชั่วยาม และใกล้แล้วที่เขาจะจากเธอมาหาเรา !!”
(บันทึกโดย อิมามอะฮฺมัด และ อัตติรมีซียฺ)