อธิบายฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: al-azhary Date: ส.ค. 26, 2007, 03:02 AM
بسم الله الرحمن الرحيم
บทนำเป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันวิกฤตทางด้านจิตวิญญาณอันมีทิฐิที่กำลังพัดโหมกระหน่ำความรู้สึกของมนุษย์
ได้เป็นปัจจัยทำให้จิตสามัญสำนึก มีการเน้นถึงเรื่อง จิตแพทย์ จิตวิทยา การบำบัดจิตใจ และเป็นปัจจัยเสริมให้มนุษย์หันไปสนใจวิถีทางใหม่ๆ ในการเผชิญกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
เมื่อเราพิจารณาถึงประวัติศาสตร์ประชาชาติอิสลาม เราจะพบว่า การบำบัดจิตใจ ขัดเกลาจิตวิญญาณ และการทำให้จิตใจมีความผูกพันอยู่กับอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ได้เป็นผลงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่มาจากความคิดของบรรดาปวงปราชญ์ของโลกอิสลาม ที่ได้มาจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ จึงไม่เป็นที่สงสัยว่า สิ่งดังกล่าวนี้เป็นเป้าหมายของชาริอะฮ์ที่มีความสุนทรียภาพในตัวของมัน
สิ่งที่กระผมจะนำเสนอแก่ท่านผู้อ่านที่เคารพนี้ คือหนังสือ อัล- ฮิกัม ของท่าน ปรมาจารย์ อิมาม อิบนุ อะฏออิลและฮ์ อัลอิสกันดะรีย์ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮ์) ปราชญ์ผู้เรื่องนาม และมีความโดดเด่นในศาสตร์ตะเซาวุฟ หนังสือ อัล- ฮิกัม เป็นตำราเล่มหนึ่งที่บรรดานักปราชญ์ของ อัล- อัซฮัร ได้ทำการพื้นฟู อธิบาย และทำการสอนจวบจนถึงปัจจุบัน
คำว่า "อัล- ฮิกัม" เป็นพหูพจน์จากคำว่า "อัลฮิกมะฮ์" ซึ่งหมายถึง "วิทยปัญญา หรือ องค์ความรู้ที่ทรงคุณประโยชน์อันมากมาย" ท่านฮาญีย์ ค่อลิฟะฮ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ กัชฟุ อัซซุนูน ว่า "หนังสือ อัล- ฮิกัม เป็นหนังสือที่รวมไว้ซึ่งบรรดาวิทยปัญญาหรือองค์ความรู้อันลึกซึ้ง ที่ถูกร้อยเรียงมาจากถ้อยคำของนักปราชญ์ตะเซาวุฟ(ซูฟีย์) ในขณะที่ท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์ได้ประพันธ์เสร็จ ท่านก็ได้นำเสนอแก่อาจารย์ คือ ท่านอบุลอับบาส อัลมุรซีย์ ซึ่งอาจารย์ของท่านได้ทำการพิจารณาและกล่าวว่า "โอ้ ลูกเอ๋ย ในแผ่นกระดาษนี้ เธอได้นำมาซึ่งจุดมุ่งหมายของหนังสืออัลเอี๊ยะหฺยาอ์(หมายถึง หนังสือเอี๊ยะหฺยาอฺ อุลูมิดดีน ของท่านอิมาม อัลฆ่อซาลีย์) หรือมากกว่านั้น"
วัลลอฮุอะลัม
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: al-azhary Date: ส.ค. 26, 2007, 03:09 AM
ฮิกัมที่หนึ่ง ท่านอิมาม อิบนุอะฏออิลแหละฮ์ กล่าวว่า
مِنْ عَلاَمَاتِ اْلِإعْتِمَادِ عَليَ الْعَمَلِ نُقْصَانُ الرَّجَاءِ عِنْدَ وُجُوْدِ الزَّلَلِ
"ส่วนหนึ่งจากบรรดาเครื่องหมายการยึดเพียงแค่การปฏิบัติ คือความหวังจะลดลง ในขณะที่มีบรรดาสิ่งที่ผิดพลาด"
หมายถึง : ท่านอิบนุอะฏออิลและห์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ต้องการที่จะตักเตือนแก่เรา ถึงการระวังในเรื่องการแสวงหาความพึงพอพระทัยและผลการตอบแทนจากอัลเลาะฮ์ ด้วยการยึดอะมัลที่เราทำ เช่นการละหมาด การถือศีลอด การบริจาคทาน ป็นต้น แต่ทว่าให้เรายึดความเมตตา ความโปรดปราน ของอัลเลาะฮ์ตาอาลา
หลักฐานในสิ่งดังกล่าว คือ หะดิษของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า :
لن يدخل أحدا منكم عمله الجنة قالوا ولا أنت يا رسول الله قال ولا أنا إلا أن يتغمدني الله منه بفضل ورحمة
"จะไม่ทำให้คนใดจากพวกท่านได้เข้าสวรรค์ด้วยกับอะมัลของเขา ซอฮาบะฮ์กล่าวถามว่า "ท่านก็ไม่ได้เข้าหรือ โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ?" ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ตอบว่า "ไม่แม้กระทั่งฉัน นอกจากอัลเลาะฮ์ทรงปกคลุมกับฉันด้วยความเมตตาและความโปรดจากพระองค์" รายงานโดย บุคอรีและมุสลิม
ดังนั้น อะมัลจึงไม่มีค่าอันใดที่จะทำให้ได้เข้าสวรรค์หรอกครับ แต่ให้ท่านปฏิบัติอะมัลต่าง ๆ เพื่อแสวงหาความพึงพอพระทัยจากอัลเลาะฮ์ โดยหวังให้พระองค์ทรงประทานความโปรดปราน , การอภัยโทษ แก่เรา ไม่ใช่หวังผลการตอบแทนจากตัวของอะมัลนั้น
เพราะฉะนั้น บุคคลใดที่ยึดติดกับตัวอะมัลดังกล่าว เขาก็จะสิ้นหวังต่ออัลเลาะฮ์หรือความหวังของเขาจะลดหลั่นลงไปเมื่อเขาพลาดทำความชั่วขึ้นมา นั่นก็เพราะเขายึดติดกับตัวอะมัล แต่หากเขายึดติดกับความหวังในความโปรดปรานต่อพระองค์นั้น ความหวังของเขาจะไม่ลดลงอย่างแน่นอน
วัลลอฮุอะลัม
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: al-azhary Date: ส.ค. 26, 2007, 05:12 AM
ฮิกัมที่สอง ท่านอิมาม อิบนุอะฏออิลแหละฮ์ กล่าวว่า
إِرَادَتُكَ التَّجْرِيْدَ مَعَ إِقَامَةِ اللهِ إِيَّاكَ فِى الَأسْبَابَ مِنَ الشَّهْوَةِ الْخَفِيَّةِ ، وَإِرَادَتُكَ اْلَأسْبَابَ مَعَ إِقَامَةِ اللهِ إِيَّاكَ فِى التَّجْرِيْدِ اِنْحِطَاطٌ عَنِ اْلهِمَّةِ اْلعَلِيَّةِ
"ท่านต้องการปลดเปลื้องตน(ออกจากมูลเหตุการกระทำ)พร้อมกันนั้นอัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านอยู่ในมูลเหตุการกระทำต่าง ๆ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งจากกิเลิสที่แฝงอยู่ และท่านต้องการบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ ซึ่งพร้อมกันนั้นอัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านอยู่ในสภาวะการปลดเปลื้อง(ตนเองจากบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ )ย่อมเป็นการลดปณิธานอันสูงส่ง"
คำว่า اْلَأسْبَابَ หมายถึง บรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ กล่าวคือ ท่านจะพบว่าตนเองนั้นไม่ว่าจะเคลื่อนไหวไปใหนก็จะอยู่ในโลกแห่งการทำงานแสวงหาปัจจัยต่าง ๆ โดยหลีกหนีไม่พ้น
คำว่า التَّجْرِيْدِ หมายถึง การปลดเปลื้องตนเอง กล่าวคือ ท่านพบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในโลกแห่งการทำงานแสวงหาปัจจัยต่าง ๆ และท่านไม่มีหนทางใดที่จะไปสู่การกระทำนั้นได้ เพราะจะท่านอยู่ในสถานะภาพที่อัลเลาะฮ์ทรงให้มีความสะดวกสบายเกี่ยวกับปัจจัยยังชีพและมีความสามารถที่จะมุ่งทำอิบาดะฮ์และรับใช้ศาสนาของพระองค์
"ท่านต้องการปลดเปลื้องตน(ออกจากมูลเหตุการกระทำ)พร้อมกันนั้นอัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านอยู่ในมูลเหตุการกระทำต่าง ๆ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งจากกิเลิสที่แฝงอยู่"
เช่น ผู้ชายหนึ่ง อัลเลาะฮ์ได้ทรงให้เขามีภาระหน้าที่รับผิดชอบครอบครัว มีภรรยาและมีบุตร แน่นอนว่า เขาต้องมีมูลเหตุต่าง ๆ ที่ชักนำให้ไปสู่การแสวงหาปัจจัยยังชีพ มีความขยันขันแข็งในการทำงาน แต่ชายคนนั้น (มีความพยายามที่จะยกระดับตนเองให้มีความยำเกรง มีการยึดมั่นในเตาฮีดต่ออัลเลาะฮ์ และยกระดับตนเองให้มีการตะวักกัลมอบหมายต่อพระองค์) เขาได้กล่าวกับตนเองว่า "ฉันไม่ต้องการที่จะไปตลาดและขยันขันแข็งทำงานแสวงหาปัจจัยยังชีพแล้ว เพราะฉันมั่นใจในคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตาอาลาที่ว่า "ดังนั้นพวกท่านทั้งหลายจงแสวงหาปัจจัยยังชีพ(ริสกี)จากอัลเลาะฮ์เถิด" อัลอังกะบูต 17 และฉันมั่นใจว่าปัจจัยยังชีพต่าง ๆ ทั้งหมดอยู่ในอำนาจของอัลเลาะฮ์ ดังนั้นฉันจึงละทิ้งจากเรื่องดุนยาและงดการทำงานที่ตลาดเพื่อไปสู่การทำอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา โดยอ้างอัลเลาะฮ์ตาอาลาเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่จะทรงประทานให้ โดยที่พร้อมกันนั้นจิตใจของเขาก็ยังปรารถนาที่จะได้ริสกีแบบลึก ๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาพยายามให้ผู้คนเห็นว่าตัวเขาเองสมถะละทิ้งดุนยาเพื่อไปสู่อัลเลาะฮ์ ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงตามมาตรฐานของหลักศาสนา เพราะว่าเขากำลังเสียมารยาทต่ออัลเลาะฮ์ เนื่องจากพระองค์ทรงให้อยู่ในสภาวะของการมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลครอบครัว โดยท่านมอบความไว้วางใจให้กับอัลเลาะฮ์และนำมันมาใช้กับครอบครัวด้วย ดังนั้น เมื่อเขามอบความไว้วางใจต่ออัลเลาะฮ์โดยไม่ทำงานแสวงหาริสกี แล้วเขาจะทำให้ภรรยาและครอบครัวมีความไว้วางใจต่ออัลเลาะฮ์เหมือนกันเขาได้อย่างไร เพราะครอบครัวต้องการปัจจัยยังชีพ
ดังนั้น แนวทางที่ถูกต้องการคือให้ทำขยันทำงานเลี้ยงดูครอบครัวและเมื่อเสร็จจากงาน ก็ทำอิบาดะฮ์ ทำการซิกรุลลอฮ์ อ่านอัลกุรอาน ในช่วงเวลาที่อำนวยให้
"และท่านต้องการบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ พร้อมกันนั้นอัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านอยู่ในสภาวะการปลดเปลื้อง(ตนเองจากบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ )ย่อมเป็นการลดปณิธานอันสูงส่ง"
แต่ยังมีบุคคลบางส่วนที่อัลเลาะฮ์ทรงให้เขาปราศจากการทำงานหรือแสวงหาปัจจัยยังชีพหรือยังไม่พร้อมที่จะทำงาน กล่าวคือ นาย ก. เป็นชายคนหนึ่งที่ไม่มีภาระต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับภรรยาและบุตรของตน และที่เขาเองนั้นก็มีค่าใช้จ่ายเพียงพอในการดำรงชีวิต แต่มีปัจจัยสองประการที่มาชักนำในจิตใจของเขา
ปัจจัยแรกกล่าวกับเขาว่า : ท่านยังจะต้องบากบั่นทำงานเพื่อให้มีปัจจัยเพียงพอกับท่านอยู่อีกหรือ? เหตุใดค่าใช้จ่ายที่มีอยู่นั้นท่านยังไม่เพียงพอ ? เหตุใดท่านจึงไม่สละเวลาไปแสวงหาวิชาความในหลักการของศาสนา ทุ่มเทเวลาเพื่อทำอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์และรับใช้ศาสนาของพระองค์?
ปัจจัยที่สองกล่าวกับเขาว่า : ท่านจงลุกขึ้นแล้วไปแสวงหาริสกีเพิ่มเติมเถิด จงบากบั่นตรากตรำทำงานและทำการค้าขาย และท่านจงแสวงหามูลเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ท่านมีความร่ำรวยและสุขสำราญ เพราะอัลเลาะฮ์ทรงไม่โปรดปรานบ่าวผู้ที่ว่างงาน และท่านอุมัรได้เข้าไปหาบรรดาบุคคลที่ไม่ทำงานในมัสยิดแล้วตีพวกเขาด้วยกับไม้เรียว
ตอนนี้ท่านกำลังดูว่า ชายคนนี้สมควรทำอย่างไร และการเรียกร้องอันใดที่เขาสมควรจะตอบรับ? ท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์ กล่าวตอบว่า :
"และท่านต้องการบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ พร้อมกันนั้นอัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านอยู่ในสภาวะการปลดเปลื้อง(ตนเองจากบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ )ย่อมเป็นการลดปณิธานอันสูงส่ง"
หมายถึง เมื่อท่านต้องการที่จะพึ่งพาความเกียจคร้าน โดยอาศัยทรัพย์สินที่ตนเองมีอยู่มากมายอย่างเพียงพออยู่แล้ว ท่านก็กิน ดื่ม ละเล่นอย่างเพลิดเพลิน และมุ่งแต่จะนอนพักผ่อนจนตาย ดังนั้น ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า นี้มันเป็นการดำเนินชีวิตของสัตว์เดรัจฉาน
แต่หากว่าท่านมีเป้าหมายที่มุ่งสู่การศึกษาเล่าเรียนในเรื่องของหลักการศาสนาของอัลเลาะฮ์และรับใช้เกี่ยวกับเรื่องศาสนาของพระองค์ โดยไม่สนใจตำแหน่งในทางดุนยาและไม่สนใจหนทางต่าง ๆ เพื่อให้ได้ริสกีเพิ่มพูนขึ้นเท่าทวีคูณ ดังนั้น เป้าหมายนี้แหละ คือหนทางที่ถูกต้องและเป็นพฤติกรรมที่เป็นแบบอย่าง ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปณิธานอันสูงส่ง และพระองค์ก็ประสงค์ให้ท่านทำงานนี้
วัลลอฮุอะลัม
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 26, 2007, 08:31 AM
อัสลามุอะลัยกุ้มพี่น้อง
ในที่สุดฮิกัมฉบับย่อ ก็ได้รับการตอบรับ และทำให้พี่น้องเข้าใจง่ายแบบพอสังเขป ขออัลเลาะฮ์ทรงตอบแทนน้องเว๊บมาสเตอร์ของเราครับ ;)
วัสลามพี่น้อง
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 26, 2007, 08:43 AM
ฮิกัมที่สอง
ท่านอิมาม อิบนุอะฏออิลแหละฮ์ กล่าวว่า
وَإِرَادَتُكَ اْلَأسْبَابَ مَعَ إِقَامَةِ اللهِ إِيَّاكَ فِى التَّجْرِيْدِ اِنْحِطَاطٌ عَنِ اْلهِمَّةِ اْلعَلِيَّةِ
" และท่านต้องการบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ ซึ่งพร้อมกันนั้นอัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านอยู่ในสภาวะการปลดเปลื้อง(ตนเองจากบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ )ย่อมเป็นการลดปณิธานอันสูงส่ง"
ผมขอบอกว่า ฮิกัมนี้มีตัวอย่างอื่นอีกที่เห็นได้ชัด เรื่องชีวิตของคนกำลังเรียน ประสบการณ์ 30 กว่าปีที่ผมเคยเห็น คนเรียนที่แต่งงานนั้นส่วนมากจะถูกลดและถูกริดรอนเรื่องการเรียน
ท่อนหนึ่งของฮิกัมนี้ คืออัลเลาะฮ์ได้ทรงให้เรามีได้มีโอกาสเรียน โดยพ่อแม่ส่งเงินมาให้ และเราก็ไม่ได้ต้องไปทำงานเลี้ยงชีพ ถือว่าอัลเลาะฮ์ทรงให้เราตัจญ์รีด มีเวลาศึกษาหาวิชาความรู้เกี่ยวหลักการศาสนาของอัลเลาะฮ์ได้เต็มที่ สิ้นเดือนพ่อแม่ก็ส่งเงินมาให้ ถือว่าเป็นสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงอำนวจความสะดวกแก่เราในการ ตัจญ์รีด แต่เราดันไปต้องการอัลอัสบาบ คือต้องการจะแต่งงานด้วย ซึ่งหากแต่งงานแล้วก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว หรือปล่อยให้ภรรยาอยู่ที่เมืองไทย คิดหนักในภาระหน้าที่ของตน ดังกล่าว จึงทำให้ปณิธานความตั้งใจในเรื่องการร่ำเรียนหลักการศาสนาจึงต่ำลง บางคนอยู่ปีสี่ ยอมเลิกเรียนกลับเมืองไทยไปอยู่กับภรรยา อันนี้เขาเรียกว่าปณิธานการเล่าเรียนล่มสลาย

ชอบทวนกระแสที่อัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ให้เราเป็น
ดังนั้น พี่น้องอย่าว่ายน้ำโต้คลื่นเลยครับเดี๋ยวแรงมันจะหมด

Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 26, 2007, 09:47 AM
หลักฐานในสิ่งดังกล่าว คือ หะดิษของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า :
لن يدخل أحدا منكم عمله الجنة قالوا ولا أنت يا رسول الله قال ولا أنا إلا أن يتغمدني الله منه بفضل ورحمة
"จะไม่ทำให้คนใดจากพวกท่านได้เข้าสวรรค์ด้วยกับอะมัลของเขา ซอฮาบะฮ์กล่าวถามว่า "ท่านก็ไม่ได้เข้าหรือ โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ?" ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ตอบว่า "ไม่แม้กระทั่งฉัน นอกจากอัลเลาะฮ์ทรงปกคลุมกับฉันด้วยความเมตตาและความโปรดจากพระองค์" รายงานโดย บุคอรีและมุสลิม
ดังนั้น อะมัลจึงไม่มีค่าอันใดที่จะทำให้ได้เข้าสวรรค์หรอกครับ แต่ให้ท่านปฏิบัติอะมัลต่าง ๆ เพื่อแสวงหาความพึงพอพระทัยจากอัลเลาะฮ์ โดยหวังให้พระองค์ทรงประทานความโปรดปราน , การอภัยโทษ แก่เรา ไม่ใช่หวังผลการตอบแทนจากตัวของอะมัลนั้น
ฮิกัมที่หนึ่งนี้ ได้ทำการตอบโต้พวกมั๊วตะซิละฮ์ ที่เชื่อว่าคนเราจะได้เข้าสวรรค์ก็เพราะอะมัล ที่อัลเลาะฮ์จำเป็นต้องตอบแทนแก่บรรดาผู้ศรัทธา ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่มีอะไรมาเป็นกฏบังคับให้อัลเลาะฮ์ต้องตอบแทนผู้ใด แต่พระองค์จะตอบแทนเพราะพระองค์ได้ทรงสัญญาบอกไว้ในอัลกุรอานแล้วพระองค์ก็จะให้บรรดาผู้กระทำได้เข้าสวรรค์ด้วยความโปรดปรานและความเมตตาของพระองค์
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: almadany Date: ส.ค. 26, 2007, 12:50 PM
อัสลามุอะไลกุ้ม....
ขอให้กระทู้นี้...เป็นกระทู้เชิงวิชาการที่ดีที่สุดแห่งเว๊บไซต์แห่งนี้ครับ.....
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 27, 2007, 12:37 PM
ฮิกัมที่สอง
ท่านอิมาม อิบนุอะฏออิลแหละฮ์ กล่าวว่า
إِرَادَتُكَ التَّجْرِيْدَ مَعَ إِقَامَةِ اللهِ إِيَّاكَ فِى الَأسْبَابَ مِنَ الشَّهْوَةِ الْخَفِيَّةِ ، وَإِرَادَتُكَ اْلَأسْبَابَ مَعَ إِقَامَةِ اللهِ إِيَّاكَ فِى التَّجْرِيْدِ اِنْحِطَاطٌ عَنِ اْلهِمَّةِ اْلعَلِيَّةِ
"ท่านต้องการปลดเปลื้องตน(ออกจากมูลเหตุการกระทำ)พร้อมกันนั้นอัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านอยู่ในมูลเหตุการกระทำต่าง ๆ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งจากกิเลิสที่แฝงอยู่ และท่านต้องการบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ ซึ่งพร้อมกันนั้นอัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านอยู่ในสภาวะการปลดเปลื้อง(ตนเองจากบรรดามูลเหตุการกระทำต่าง ๆ )ย่อมเป็นการลดปณิธานอันสูงส่ง"
ความจริงฮิกัมนี้ต้องการจะบอกว่า ให้จิตใจของเรามีมารยาทต่ออัลเลาะฮ์ พร้อมยอมจำนนท์ในสิ่งที่พระองค์ทรงให้เป็นและให้เราเป็นอยู่ตามความเหมาะสมที่พระองค์ทรงประทานให้แก่เรา
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: al-azhary Date: ส.ค. 28, 2007, 06:50 PM
อัสลามุอะไลกุ้ม....
ขอให้กระทู้นี้...เป็นกระทู้เชิงวิชาการที่ดีที่สุดแห่งเว๊บไซต์แห่งนี้ครับ.....
อินชาอัลเลาะฮ์ครับ ช่วย ๆ กันขอดุอาอ์กันครับ
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: al-azhary Date: ส.ค. 28, 2007, 06:52 PM
ฮิกัมที่สามท่านอิมาม อิบนุอะฏออิลแหละฮ์ กล่าวว่า
سَوَابِقُ اْلهِمَمِ لَا تَخْرِقُ أَسْوَارَ اْلَأقْدَارِ
"ปณิธานที่มีอยู่ก่อนนั้น ไม่สามารถเจาะ(ทำลาย)บรรดากำแพงแห่งการกำหนดสภาวะได้หรอก"
اْلهِمَمِ (อัลฮิมัม) หมายถึง ความมุ่งมั่นตั้งใจที่อัลเลาะฮ์ทรงเปิดโอกาสให้แก่มนุษย์ในการย่างก้าวเข้าไปทำกิจการต่าง ๆ ของพวกเขา เช่นการค้าขาย , อุตสาหะกรรม , การศึกษา , และอื่น ๆ ซึ่งบรรดาความมุ่งมั่นตั้งใจนี้ แม้ว่าจะมีความเอาจริงเอาจังอยู่ในหัวใจสักแค่ใหน มันก็ไม่สามารถเจาะทำลายบรรดากำแพงแห่งการกำหนดสภาวะไปไม่ได้หรอก
เป้าหมายของท่านอิมามอิบนุอะฏออิลและฮ์นั้น ท่านได้กล่าวว่า โอ้ลูกหลานของอาดัม ท่านจงบากบั่นทำงานตามที่ท่านชอบและจงแสวงหาผลได้ที่จะได้รับตามที่ท่านต้องการ และจงทำงานต่าง ๆ ตามที่อัลเลาะฮ์ให้ท่านกระทำอยู่ให้สุดความสามารถ แต่ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า การงานต่าง ๆ ที่ท่านได้กระทำนั้น ไม่ว่าจะทุ่มเทมากน้อยแค่ใหนอย่างไร มันย่อมไร้ผล หากไปค้านกับการกำหนดสภาวะของอัลเลาะฮ์ตาอาลา
กอฏออฺของอัลเลาะฮ์ คือ การรู้ของพระองค์ที่มีมาแต่เดิมกับทุก ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนกอดัร คือ การดำเนินไปหรือการเกิดขึ้นของสรรพสิ่งต่าง ๆ โดยสอดคล้องกับการรู้ของอัลเลาะฮ์ที่มีมาตั้งแต่เดิม ดังนั้น การที่อัลเลาะฮ์ทรงรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ของจักรวาลก่อนที่มันจะเกิดขึ้นนั้น เขาเรียกว่า กอฏออฺ และเมื่อเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้น (โดยที่มันจะไม่เกิดขึ้นนอกจากสอดคล้องกับการรู้ของอัลเลาะฮ์) นั่นแหละเขาเรียกว่า กอดัร
เช่น เราป่วย แล้วเราจะทำอย่างไร? ทั้งที่เรารู้ว่าไม่สามารถจะฝืนการกำหนดสภาวะกอฏออฺและกอดัรของอัลเลาะฮ์ไม่ได้ หรือว่าไม่ต้องทานยา เพื่อการกำหนดของอัลเลาะฮ์ที่จะให้หาย? ขอตอบว่า : การที่เราจะกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งพร้อมกับเชื่อมั่นในอัลเลาะฮ์นั้น ต้องเกี่ยวพันกับคำบัญชาใช้ของพระองค์และต้องปฏิบัติตามระเบียบที่อัลเลาะฮ์ทรงวางไว้ให้กับจักรวาลแห่งนี้ หมายถึง พระองค์ทรงบัญชาใช้แก่เราว่า หากเราหิวก็ต้องกิน เมื่อเรากระหายก็ต้องดื่ม หากเราป่วยก็ต้องหายามารับประทาน และพระองค์ทรงบัญชาใช้ให้เราปกป้องรักษาและระวังจากสิ่งที่ทำให้เกิดโรค ความเจ็บป่วย และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ตัวเรา หลังจากนั้นพระองค์ทรงบัญชาใช้ให้เรายาเกนมั่นใจว่าพระองค์ทรงสร้างทุก ๆ สิ่ง และทรงใช้ให้เราปฏิบัติตามหน้าที่ที่พระองค์ทรงบัญชาใช้ "พึงทราบเถิด! พระองค์ทรงสิทธิ์บันดาลและบัญชา(บริหาร)" อัลอะอฺร๊อฟ : 54
ดังนั้น ถ้าหากเราป่วยแล้วทานยา แสดงว่าเราได้ทำตามกฏระเบียบที่อัลเลาะฮ์ทรงวางไว้ให้แก่มนุษย์ หากพระองค์ทรงรู้มาก่อนแล้วว่าไม่หายป่วย (กอฏออฺ) โรคก็จะไม่หายตามนั้น(กอดัร) แต่เราให้ริฏอพอใจต่อสิ่งที่พระองค์กอฏออฺกอดัร และให้มีความอดทน พระองค์จะตอบแทนผู้ที่อดทนอย่างคณานับไม่ได้ แต่หากพระองค์ทรงให้หายจากป่วย หัวใจของเราก็จงยาเกนมั่นใจว่ามันเป็นกอฏออฺกอดัรที่พระองค์ทรงประทานความโปรดปรานแก่เราหลังจากลิ้นของเราก็จำเป็นต้องทำการสรรเสริญและชุโกรต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา
วัลลอฮุอะลัม
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: al-azhary Date: ส.ค. 28, 2007, 06:54 PM
ฮิกัมที่สี่ท่านอิมาม อิบนุอะฏออิลแหละฮ์ กล่าวว่า
أَرِحْ نَفْسَكَ مِنَ الْتَدْبِيْرِ ، فَمَا قَامَ بِهِ غَيْرُكَ عَنْكَ لاَ تَقُمْ بِهِ لِنَفْسِكَ
"ท่านจงพักผ่อนจิตใจของท่านจากการวางแผนเถิด ดังนั้นสิ่งที่ผู้อื่นจากท่าน(คืออัลเลาะฮ์)ได้ดำเนินการแทนท่านแล้วนั้น ท่านก็อย่าดำเนินการให้กับจิตใจของท่านเอง"
ก่อนอื่นผมขอกล่าวเรื่องการวางแผนก่อน กล่าวคือการวางแผนมี 2 ประเภท
1. การวางแผนที่ถูกสรรเสริญ คือการวางแผนชีวิต กล่าวคือวางแผนกระทำสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงมอบภาระตกหนักแก่เรา เช่นวางแผนที่จะทำละหมาดและทำอิบาดะฮ์ฟัรดูและสุนัตต่าง ๆ วางแผนการทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว เป็นต้น เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "การวางแผนคือครึ่งหนึ่งของการดำเนินชีวิต" ดังนั้น ท่านอิบนุอะฏออิลและห์จึงกล่าวว่า "ท่านจงพักผ่อนจิตใจของท่าน" ไม่ได้กล่าวว่า "ท่านจงพักผ่อนร่างกายของท่าน" เพราะการทำงานทุ่มเทแรงกายนั้นนักปราชญ์ตะเซาวุฟให้การส่งเสริมเป็นอย่างยิ่ง
2. การวางแผนที่ถูกตำหนิ คือการวางแผนผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการวางแผนที่ค้านกับความเป็นทาสบ่าว เช่นเขาทำการค้าขาย เขาวางแผนว่าต้องได้กำไรเท่านั้นเท่านี้ , หากฉันทำสิ่งนี้ฉันต้องได้เท่านั้น , หากฉันไม่ทำมันแบบนั้นมันก็จะไม่เกิดแบบนี้หรอก , หากฉันสอบก็ต้องได้คะแนนเท่านั้นเท่านี้ เป็นต้น ซึ่งการวางแผนเช่นนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกตำหนิ เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามที่เราได้วางแผนนั้น เป็นสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์ผู้ทรงรู้ตั้งแต่เดิมแล้ว(กอฏออฺ) ว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างไร และผลก็เกิดขึ้นมาตาม(ที่อัลเลาะฮ์ทรงรู้มาแล้ว)นั้น(กอดัร) เราจะไปกำหนดให้เป็นไปตามที่เราคาดวางแผนไว้นั้น ถือเป็นการคิดวางแผนล้ำหน้าอัลเลาะฮ์ตาอาลา ซึ่งขัดกับคุณลักษณะของการเป็นทาสบ่าวผู้ต่ำต้อย
ดังนั้น หากเราวางแผนทำการค้าขายว่าต้องได้กำไรเท่านั้นเท่านี้ แต่ผลลัพธ์ออกไม่ตรงตามเป้าที่เราได้หวังไว้ จิตใจของเราก็จะผิดหวังเป็นทุกข์ที่ไม่ได้ตามที่เราคาดการณ์ไว้ และอย่างเช่นเราทำการสอบ หากเราคาดหวังตามที่เราจะเอา แต่ผลออกมาไม่ได้ตามนั้น เราก็จะคิดมากไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ออก (เช่นมีนักศึกษาบางคนฆ่าตัวตายเพราะสอบไม่ผ่านตามข่าว) ทั้งที่ทั้งหมดนั้น อัลเลาะฮ์ผู้ทรงกำหนดสภาวะมันมาแล้ว ดังนั้น หากเราได้มอบการวางแผนนี้ให้กับอัลเลาะฮ์ เราก็จะสบายใจ ได้แค่ใหนเราก็ริฏอพอใจสิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้ หากได้น้อยก็จงอดทนพยายามอุตสาหะมันต่อไป แต่หากอัลเลาะฮ์ทรงผลลัพธ์ออกมาดี เราก็ทำการชุโกรต่ออัลเลาะฮ์ เพราะฉะนั้น ความอดทนกับการชุโกร จึงเป็นความดีงามทั้งสิ้น
ท่านจงทุ่มเทแรงกายเพื่อกระทำสิ่งที่พระองค์ทรงใช้โดยพักผ่อนจิตใจโดยฝากผลลัพธ์ให้แก่อัลเลาะฮ์ตาอาลา
วัลลอฮุอะลัม
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: al-azhary Date: ส.ค. 28, 2007, 07:42 PM
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
พี่น้องท่านใหนอ่านฮิกัมแล้วไม่ค่อยเข้าใจหรือต้องการถามเพิ่มเติม ก็อย่าได้เกรงใจนะครับ เพราะจะพยายามอธิบายฮิกัมให้ร่วมสมัยและให้เห็นภาพในปัจจุบันกันมากที่สุด อินชาอัลเลาะฮ์
والسلام
al-azhary
Re: อธิบายฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: al-azhary Date: ส.ค. 29, 2007, 09:25 AM
ฮิกัมที่ห้าท่านอิมาม อิบนุอะฏออิลแหละฮ์ กล่าวว่า
إِجْتِهَادُكَ فِيْمَا ضُمِنَ لَكَ ، وَتَقْصِيْرُكَ فِيْمَا طُلِبَ مِنْكَ ، دَلِيْلٌ عَلىَ إِنْطِمَاسِ الْبَصِيْرَةِ مِنْكَ
"การพากเพียรบากบั่น(จิตใจ)ของท่านในสิ่งที่ถูกประกันให้แก่ท่านแล้ว , และการทำให้บกพร่องของท่านในสิ่งที่ท่านถูกใช้ ย่อมเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึง ความบอดของตาใจจากท่าน"
อัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงตรัสความว่า
وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ مَا أُرِيدُ مِنْهُم مِّن رِّزْقٍ وَمَا أُرِيدُ أَن يُطْعِمُونِ
"และข้ามิได้บันดาลญินและมนุษย์ขึ้นมา นอกจากพวกเขาต้องทำการนมัสการ ต่อข้าเป็นที่สุด และข้ามิพึงปรารถนาโชคผลใด ๆ จากพวกเขาและข้ามิหวัง ที่จะให้พวกเขาต้องให้อาหารแก่ข้า" อัซซาริยาต : 56-57
พระองค์ทรงตรัสเช่นกันว่า
وَأْمُرْ أَهْلَكَ بِالصَّلَاةِ وَاصْطَبِرْ عَلَيْهَا لَا نَسْأَلُكَ رِزْقاً نَّحْنُ نَرْزُقُكَ وَالْعَاقِبَةُ لِلتَّقْوَى
"และเจ้าจงใช้ให้ครอบครัวของเจ้าทำละหมาด และจงมีความอดทนเพื่อการนั้น เราไม่ขอ(ริสกี)ปัจจัยใด ๆ จากพวกเจ้า เราต่างหากที่ให้(ริสกี)ปัจจัยแก่พวกเจ้า และความสุขบั่นปลายย่อมเป็นของผู้ยำเกรง" ฏอฮา : 132
สองอายะฮ์นี้ได้บอกแก่เราว่า อัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงให้มนุษย์อยู่บนภาระหน้าที่ที่เขาต้องกระทำเพื่ออัลเลาะฮ์ กล่าวคือ เขาต้องกระทำการที่แสดงความเป็นบ่าวด้วยการทำอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ และอัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงมีหน้าที่แห่งความโปรดปรานต่อมนุษย์ ในการประกันริสกีปัจจัยยังชีพต่าง ๆ ให้แก่พวกเขาได้อำนวยสุข กล่าวคือ พระองค์ทรงใช้ให้เราทำอิบาดะฮ์ , ใช้ให้เรากระชับให้ครอบครัวทำการละหมาด โดยที่พระองค์จะทรงประกันและประทานริสกีปัจจัยยังชีพให้
สรุปคือ มีสองประการที่เราสมควรพิจารณา กล่าวคือ มีประการหนึ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงสั่งใช้เรา เช่นการงานเกี่ยวกับเรื่องอิบาดะฮ์ และยังมีอีกประการหนึ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงประกันให้แก่เราแล้วนั่นคือริสกี เมื่อเราอ่านฮิกัมนี้แล้ว จึงดูเหมือนว่าไม่ส่งเสริมให้เราทำงานเลี้ยงชีพ ซึ่งความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะความจริงแล้วก็คือ จำเป็นบนเราต้องทุ่มเทแรงกายแรงความคิดเพื่อปฏิบัติภาระหน้าที่ที่ถูกมอบให้แก่เรา โดยให้เราเชื่อต่อหลักประกันต่าง ๆ ที่อัลเลาะฮ์ทรงจะประทานให้แก่เรา ดังนั้น สิ่งดังกล่าวจึงไม่ทำให้เราต้องคิดหนักหรือทำให้จิตใจของเราต้องแบกรับความยากลำบากต่อสิ่งดังกล่าวเลย คือ ทุ่มเทแรงกายให้เต็มที่ แต่แรงใจต้องคิดว่า ผลที่ได้มานั้น ไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใด อัลเลาะฮ์ก็ทรงประกันริสกีให้แก่เราตามที่พระองค์ทรงประสงค์ หากได้มากก็ทำการชุโกร หากได้น้อยก็จงอดทนบากบั่นพากเพียรทุ่มเทการทำงานต่อไปโดยไม่ละหมาดทิ้งอิบาดะฮ์ต่อพระองค์
แต่ก็ยังมีมนุษย์บางคนที่ทุ่มเทบากบั่นพากเพียรอย่างหนักในสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงประกันให้แก่พวกเขาแล้ว จนทำให้พวกเขาต้องละทิ้งอิบาดะฮ์ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงใช้กับพวกเขา ซึ่งดังกล่าวนี้ เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า พวกเขาเหล่านั้นมีตาใจที่มือบอด ตามที่ท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์ได้กล่าวไว้ เพราะสิ่งดังกล่าว ได้บ่งถึงว่า พวกเขาไม่ไว้ใจในคำสัญญาต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา ที่ว่า "เราต่างหากที่ให้(ริสกี)ปัจจัยแก่พวกเจ้า" ดังนั้น การบากบั่นเพียงพยายามทำงานแสวงหาปัจจัยยังชีพในสิ่งที่พระองค์ทรงประกันให้แล้วจนทำให้ละเลยบกพร่องในอิบาดะฮ์ เป็นการบากบั่นเพียรพยายามที่ถูกตำหนิตามเป้าหมายของฮิกัมที่ท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์กล่าวไว้ในที่นี้ครับ
แต่ถ้าหากพวกเพียรทำงานโดยมีเจตนาที่ดี ย่อมเป็นอิบาดะฮ์ เป็นนัยยะหนึ่งของการญิฮาดในหนทางของอัลเลาะฮ์ตาอาลา
ท่านอัฏฏ๊อบรอนีย์ได้รายงานไว้ในหนังสือ มั๊วะญัมอัลกะบีร จากหะดิษของกะอับ บิน อัจญเราะฮ์ ว่า "แท้จริงท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ออกมาข้างนอกพร้อมกับกลุ่มหนึ่งจากซอฮาบะฮ์ ดังนั้น พวกเขาจึงเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ได้ออกไปทำงานตั้งแต่เช้า และพวกเขาได้เห็นเขาขมักขเม้นในการทำงานจนทำให้พวกเขาต้องฉงนใจ ซอฮาบะฮ์คนหนึ่งจึงกล่าวว่า : โอ้ อนิจฉาเอ๋ย หากเขาคนนี้ได้(ทำงานทุ่มเท)ในหนทางของอัลเลาะฮ์(ก็จะเป็นการดี) ดังนั้น ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า หากเขาได้ออกไปทำงานเพื่อ(เลี้ยงดู)บุตรของเขาที่ยังเล็กอยู่ เขาย่อมอยู่ในหนทางของอัลเลาะฮ์ (ฟีซะบีลิลลาฮ์) และหากเขาออกไปทำงานเพื่อ(เลี้ยงดู)บิดามารดาที่แก่ชรา เขาย่อมอยู่ในหนทางของอัลเลาะฮ์ และหากเขาได้ออกไปทำงานเพื่อครอบครัว เขาย่อมอยู่ในหนทางของอัลเลาะฮ์ และหากเขาได้ออกไปทำงานเพื่อให้มีความโอ่อ่าภาคภูมิและมีทรัพย์สินสะสมมาก ๆ เขาย่อมอยู่ในหนทางของชัยฏอน" ซุบฮานัลลอฮ์!!
วัลลอฮุอะลัม
Re: ฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ย. 01, 2007, 12:57 PM
1. การวางแผนที่ถูกสรรเสริญ คือการวางแผนชีวิต กล่าวคือวางแผนกระทำสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงมอบภาระตกหนักแก่เรา เช่นวางแผนที่จะทำละหมาดและทำอิบาดะฮ์ฟัรดูและสุนัตต่าง ๆ วางแผนการทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว เป็นต้น เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "การวางแผนคือครึ่งหนึ่งของการดำเนินชีวิต" ดังนั้น ท่านอิบนุอะฏออิลและห์จึงกล่าวว่า "ท่านจงพักผ่อนจิตใจของท่าน" ไม่ได้กล่าวว่า "ท่านจงพักผ่อนร่างกายของท่าน" เพราะการทำงานทุ่มเทแรงกายนั้นนักปราชญ์ตะเซาวุฟให้การส่งเสริมเป็นอย่างยิ่ง
แสดงว่าคนเรานั้นจะมีความสุขมันอยู่ที่จิตใจ มีหัวใจที่ได้พักใจต่ออัลเลาะฮ์
คนที่ทำงานหนักและไม่พักใจกลุ่มกลัวขาดทุน ย่อมเป็นทุกข์หนัก
คนรวยมีกินมีใช้แต่จิตใจยังยึดติดกับทรัพย์สินกลัวกิจการไม่รุ่ง ย่อมเป็นทุกข์หนักพอสมควร
ทำงานหนักและพักใจด้วยการมอบหมายต่ออัลเลาะฮ์ ย่อมเป็นความสุขและได้ผลบุญเยอะ
เพราะว่า : -
ท่านอิบนุอะฏออิลและห์จึงกล่าวว่า "
ท่านจงพักผ่อนจิตใจของท่าน" ไม่ได้กล่าวว่า "
ท่านจงพักผ่อนร่างกายของท่าน" เพราะการทำงานทุ่มเทแรงกายนั้นนักปราชญ์ตะเซาวุฟให้การส่งเสริมเป็นอย่างยิ่ง ;)
Re: อธิบายฮิกัมอิบนุอะฏออิลและฮ์ฉบับย่อ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ย. 01, 2007, 01:06 PM
พระองค์ทรงตรัสเช่นกันว่า
وَأْمُرْ أَهْلَكَ بِالصَّلَاةِ وَاصْطَبِرْ عَلَيْهَا لَا نَسْأَلُكَ رِزْقاً نَّحْنُ نَرْزُقُكَ وَالْعَاقِبَةُ لِلتَّقْوَى
"และเจ้าจงใช้ให้ครอบครัวของเจ้าทำละหมาด และจงมีความอดทนเพื่อการนั้น เราไม่ขอ(ริสกี)ปัจจัยใด ๆ จากพวกเจ้า เราต่างหากที่ให้(ริสกี)ปัจจัยแก่พวกเจ้า และความสุขบั่นปลายย่อมเป็นของผู้ยำเกรง" ฏอฮา : 132
อายะฮ์นี้แบ่งออกเป็นสองประเด็น คือ ทำให้อิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์อย่างไม่ขาดตกบกพร่องตออัตต่ออัลเลาะฮ์จริงๆ แล้วพระองค์ก็จะทรงประทานริสกีให้ นั่นคือสัญญาของอัลเลาะฮ์ ใครไม่เชื่อก็ต้อง...??
