กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ชี้แจงแนวทางอะฮฺลิสสุนนะฮ์ฯ
Pages: 1
กลุ่มผู้คลั่งไคล้หะนาบิละฮฺ ได้อธรรมต่อท่านอิมาม อิบนุ ญะรีร อัต-ตอบะรีย์ !! By: Muftee Date: ส.ค. 13, 2020, 10:06 PM
กลุ่มผู้คลั่งไคล้หะนาบิละฮฺ ได้อธรรมต่อท่านอิมาม อิบนุ ญะรีร อัต-ตอบะรีย์ เจ้าของตำราตัฟซีร อัต-ตอบะรีย์ !!!!!!




     ในช่วงสองศตวรรษ ปี ฮ.ศ.300-400 มัซฮับหัมบะลีย์ ถือเป็นมัซฮับที่มีผู้คนยึดถือกันมากในประเทศอิรัก อันเนื่องมาจากความประเสริฐและชื่อเสียงของท่านอิมาม อะห์มัด บิน หัมบัล ในการต่อสู้กับกลุ่มแนวคิดที่กล่าวว่าอัล-กุรอานเป็นสิ่งที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้ผู้คนอิรักในยุคนั้นต่างเลื่อมใสในทัศนคติของท่าน จนทำให้มัซฮับของท่านเป็นที่เลื่องลือและถูกยึดถือกันมากที่สุดในยุคนั้น และปราชญ์มัซฮับหัมบะลีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น คือ ท่าน อะบี บักรฺ มุหัมมัด ซึ่งเป็นลูกชายท่านอิมาม อะบี ดาวูด เจ้าของตำรา สุนัน อะบี ดาวูด นั่นเอง เพราะท่านอิมาม อะบี ดาวูด ผู้เป็นพ่อนั้น ถือว่าเป็นศิษย์เอกคนหนึ่งของท่านอิมาม อะห์มัด บิน หัมบัล เราะหิมะฮุมุลลอฮฺ


ต่อมาไม่นานก็เกิดข้อพิพาทไม่ลงรอยกันระหว่างท่านอะบี บักร มุหัมมัด อัล-หัมบะลีย์ กับท่านอิมาม อิบนุ ญะรีร อัต-ตอบะรีย์ ทำให้ผู้คนในอิรักส่วนใหญ่ที่ยึดมัซฮับหัมบะลีย์ต่อต้านท่านอิมาม อัต-ตอบะรีย์ไปโดยปริยาย โดยฝ่ายของผู้ที่คลั่งไคล้นิยมชมชอบในตัวของท่านอะบี บักร มุหัมมัด อัล-หัมบะลีย์ ได้ทำการโจมตีท่านอิมาม อัต-ตอบะรีย์ ต่างๆ นานา บ้างก็กล่าวหาว่าท่านเป็นชีอะฮฺบ้าง บ้างก็กล่าวหาว่าท่านเป็นพวกนอกศาสนาบ้าง


ท่านอิมาม อิบนุ อะษีร ได้กล่าวไว้ในตำรา อัล-กามิล เล่มที่ 7 หน้าที่ 8 ของท่านว่า ส่วนหนึ่งจากสาเหตุที่ทำให้กลุ่มหะนาบิละฮฺไม่พอใจท่านอิมาม อัต-ตอบะรีย์ ก็เนื่องจากว่า ท่านอิมามอัต-ตอบะรีย์ ได้แต่งตำราขึ้นเล่มหนึ่ง โดยในตำราเล่มนี้ได้รวบรวมทัศนวินิจฉัยของบรรดาฟุกอฮาอฺและประเด็นความเห็นต่างของบรรดาปวงปราชญ์นิติศาสตร์ในหัวเมืองต่างๆ โดยเป็นตำราที่โดดเด่นและไม่เคยมีปราชญ์ท่านใดเคยรวบรวมได้แบบนี้มาก่อน แต่ทว่าในตำราเล่มนี้ของท่านอิมาม อัต-ตอบะรีย์ กลับไม่ได้กล่าวถึงทัศนะใดๆ ของท่านอิมาม อะห์มัด บิน หัมบัล เนื่องจากท่านอิมามอัต-ตอบะรีย์ มองว่าท่านอิมาม อะห์มัด บิน หัมบัล เป็นนักหะดีษ ไม่ใช่นักฟุกอฮาอฺ(นักนิติศาสตร์)


และจุดนี้เองที่กลุ่มคลั่งไคล้ในมัซฮับหัมบะลีย์ในอิรักได้ใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีท่านอิมามอัต-ตอบะรีย์ ว่าเป็นพวกมุอ์ตะซิละฮฺ หรือไม่ก็ชีอะฮฺ เพราะพวกเขาอ้างว่าท่านอิมามอัต-ตอบะรีย์นั้น รังเกียจท่านอิมามอะห์มัด บิน หัมบัล และนี่ก็เป็นข้ออ้างที่เพียงพอแล้วที่จะทำให้อิมามอัต-ตอบะรีย์ หมดความน่าเชื่อถือในยุคนั้น


ท่านอิมาม อิบนุ อะษีร ได้กล่าวไว้ในตำรา อัล-กามิล เล่มที่ 7 หน้าที่ 8 ของท่านว่า

وفي هذه السنة –يقصد 310 هـ -توفي محمد بن جرير الطبري صاحب التاريخ ببغداد، ومولده سنة أربع وعشرين ومائتين، ودفن ليلًا بداره؛ لأن العامة -يعني الحنابلة- اجتمعت ومنعت من دفنه نهارًا وادعوا عليه الرفض، ثم ادعوا عليه الإلحاد، وكان علي بن عيسى –الوزير- يقول : "والله لو سُئل هؤلاء عن معنى الرفض والإلحاد ما عرفوه ولا فهموه

และในปี ฮ.ศ.310 ท่านอิมาม มุหัมมัด บิน ญะรีร อัต-ตอบะรีย์ เจ้าของตำรา ตารีค อัต-ตอบะรีย์ ก็ได้เสียชีวิตลงในกรุงแบกแดด โดยท่านกำเนิดในปี ฮ.ศ.224 ซึ่งศพของท่านถูกฝังเอาไว้ในบ้านของท่านเองในช่วงกลางคืน เพราะว่าผู้คนทั่วไปในกรุงแบกแดดที่ส่วนใหญ่ที่คลั่งไคล้ในมัซฮับหัมบะลีย์ ต่างรวมตัวกันและห้ามไม่ให้ฝั่งศพของท่านอิมามอัต-ตอบะรีย์ ในตอนกลางวันจนทำให้การฝังศพของท่านล่าช้าไปจนถึงตอนกลางคืน เนื่องจากผู้คนเหล่านั้นใส่ร้ายว่าท่านอิมาม อัต-ตอบะรีย์ เป็นชีอะฮฺ และหลังจากนั้นก็ใส่ร้ายว่าท่านเป็นพวกนอกศาสนา


โดยท่านเชค อะลีย์ บิน อีซา ซึ่งเป็นรัฐมนตรีแห่งกรุงแบกแดดในขณะนั้นรู้สึกไม่พอใจ และกล่าวว่า "ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ หากว่าคนเหล่านั้น(ที่รังเกียจอิมามอัต-ตอบะรีย์) ถูกถามถึงความหมายของรอฟิฎ(ชีอะฮฺ) และการออกนอกศาสนาแล้วละก็ แน่นอนว่าคนเหล่านั้นคงไม่รู้ และไม่เข้าใจมันหรอก !!??!!"


ดู ตำรา อัล-กามิล ฟี อัต-ตารีค เขียนโดย ท่านอิมาม อิบนุ อะษีร เล่มที่ 7 หน้าที่ 8

ที่มา : https://www.facebook.com/kay.linnurisahin/posts/3352173651511936