ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: พ.ย. 20, 2007, 02:36 PM
อัสลามุอะลัยกุ้มครับท่านพี่น้อง
เจอบทความดีๆ เรื่องความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ ที่สมควรนำเสนอในหมวดกระทู้นี้ เพื่อปลุกจิตสำนึกตัวของเราและพี่น้องกันครับ
คำนิยาม ตักวาตามหลักภาษาอาหรับ อัตตักวาตามหลักภาษาอาหรับ : มาจากคำว่า وَقَى (วะกอ) หมายถึง "การหักห้ามหรือป้องกัน" หรือมีความหมายอีกนัยหนึ่งว่า "ความยำเกรง" ดังนั้น คำว่าตักวาตามหลักภาษาอาหรับ ย่อมหมายถึง "การรักษาป้องกันจากสิ่งที่น่ารังเกียจและควรหลีกห่าง"
ท่านอิบนุกะษีร ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า "รากศัพท์เดิมของคำว่า ตักวา นั้น หมายถึง การรักษาป้องกันจากสิ่งที่น่ารังเกียจ"
ท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้ถามท่านอุบัย บิน กะอับ ถึงเรื่อง ตักวา ? ท่านอุบัย ตอบว่า "ท่านไม่เคยเดินบนทางที่มีขวากหนามกระนั้นหรือ?" ท่านอุมัรตอบว่า "หามิได้" ท่านอุบัยกล่าวว่า "แล้วท่านปฏิบัติสิ่งอันใดหรือ?" ท่านอุมัรตอบว่า "ฉันได้ทุ่มเทและมีความพากเพียรในการทำอิบาดะฮ์" ท่านอุบัยกล่าวว่า "ดังกล่าวนั่นแหละคือการตักวา"
ท่านอิบนุมันซูร กล่าวว่า "ตักวานั้นมาจากคำว่า وِقَايَة (วิกอยะฮ์) หมายถึงการปกป้อง เช่นกล่าวว่า "อัลเลาะฮ์ทรงปกป้องท่านจากความชั่วของชายคนหนึ่ง"
ในอัลกุรอานระบุว่า "และไม่มีผู้ใด(วิกอยะฮ์)ปกป้องพวกเขาให้พ้นจาก(การลงโทษ)ของอัลเลาะฮ์ได้" (40:21)
คำว่า ตักวา เป็นอาการนาม ซึ่งอัลกุรอานได้ระบุความว่า "และพระองค์ทรงประทานแก่พวกเขาซึ่งความตักวาของพวกเขา" (47:17) หมายถึง พระองค์ทรงตอบแทนความยำเกรงของพวกเขา บางทัศนะกล่าวว่า หมายถึง อัลเลาะฮ์ทรงดลใจให้พวกเขามีความยำเกรง
และคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตะอาลา ความว่า " พระองค์เท่านั้นคือพระเจ้าแห่งการตักวาและพระเจ้าแห่งการให้อภัย" (74:56) หมายถึง พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งการปกป้องผู้ยำเกรงจาการลงโทษของพระองค์และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงกระทำสิ่งที่นำไปสู่การอภัยโทษต่อผู้ที่ทำการขออภัยโทษต่อพระองค์
และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า "โอ้ นบีเอ๋ย เจ้าจงตักวาต่ออัลเลาะฮ์" (33:1) หมายถึง เจ้าจงยืนหยัดและมั่นคงต่อการยำเกรงอัลเลาะฮ์"
ตักวาตามหลักศาสนาตักวาตามหลักศาสนา หมายถึง "การป้องกันตนเองจากการฝ่าฝืน ละทิ้งการตั้งภาคี การกระทำสิ่งที่น่าเกียจ และบาปใหญ่ทั้งหลาย และปฏิบัติตามครรลองของชะรีอัต" ดังนั้น การตักวา ย่อมหมายถึง "กระทำการภักดีต่าง ๆ และหลีกห่างจากบรรดาความชั่ว"
ท่านอัลมุนาวีย์ กล่าวว่า "ตักวา คือ การห่างไกลจากสิ่งที่น่ารังเกียจ เพราะเกรงกลัวอัลเลาะฮ์หรือการป้องกันตนเองจากการลงโทษของอัลเลาะฮ์ด้วยการภักดีซึ่งก็คือการรักษาจิตใจให้พ้นจากสิ่งที่น่ารังเกียจ"
บางทัศนะให้คำนิยามว่า "ตักวา คือ การห่างไกลจากทุก ๆ สิ่งที่ทำให้ท่านห่างไกลจากอัลเลาะฮ์"
บางทัศนะให้คำนิยามว่า "ตักวา คือ การที่ท่านไม่เคยเห็นว่าตนเองนั้นดีเลิศกว่าคนอื่น"
ท่านอัลกุรตุบีย์ กล่าวว่า "ตักวา คือ การประมวลไว้ซึ่งคุณงามความดีทั้งหมด ซึ่งดังกล่าวคือการกำชับของอัลเลาะฮ์ที่มีต่อบรรพชนยุคแรกและยุคสุดท้าย ตักวา คือ ความดีงามอันเลอเลิศที่มนุษย์ได้รับผลประโยชน์จากมัน"
http://deen2do.com/taqwa/archives/29
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: พ.ย. 20, 2007, 02:38 PM
คำกล่าวของนักปราชญ์เกี่ยวกับตักวาท่านอะลี ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "ตักวาคือ การเกรงกลัวอัลเลาะฮ์ผู้ทรงเกียรติ การปฏิบัติตามบทบัญญัติที่ประทานลงมา มีความพอเพียง และมีการเตรียมพร้อมสำหรับวันที่ลาจากโลกนี้ไป"
ท่านอิบนุอับบาส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "บรรดาผู้มีความตักวานั้น คือบุคคลซึ่งมีความระวังการลงโทษของอัลเลาะฮ์จากการละทิ้งสิ่งที่พวกเขาทราบว่ามันเป็นทางนำและการที่พวกเขาหวังในความเมตตาของพระองค์ด้วยการเชื่อมั่นในสิ่งที่พระองค์ทรงประทานมา"
ท่านอบีดัรดาอ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "การตักวาที่สมบูรณ์นั้น คือการที่บ่าวคนหนึ่งได้มีความยำเกรงต่ออัลเลาะฮ์ จนกระทั่งพระองค์ทรงปกป้องเขาจากทุกอณูความผิด และจนกระทั่งเขาละทิ้งบางสิ่งบางอย่างที่เขาเห็นว่าอนุมัติ เพราะกลัวว่ามันจะกลับกลายเป็นสิ่งที่ต้องห้าม"
ท่านอบีดัรดาอ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวเช่นกันว่า "บุคคลหนึ่งต้องการได้รับสิ่งที่มุ่งหวัง ทว่าอัลเลาะฮ์ทรงปฏิเสธจะให้นอกจากสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์เท่านั้น บุคลลหนึ่งกล่าวว่า นี้คือผลประโยชน์ของฉันและนี้คือทรัพย์สินของฉัน ทั้งที่การตักวาต่ออัลเลาะฮ์นั้นย่อมเลอเลิศกว่าสิ่งที่เขาได้รับประโยชน์"
ท่านอัลหะซัน อัลบะซ่อรีย์ กล่าวว่า "บรรดาผู้มีความตักวา คือบุคคลที่ปกป้องตนเองจากสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงบัญญัติห้ามแก่พวกเขาและบุคคลที่ปฏิบัติตามสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงกำหนดเหนือพวกเขา"
ท่านฏ่อลิก บิน หะบีบ กล่าวว่า "ตักวาคือการที่ท่านได้ปฏิบัติการภักดีต่ออัลเลาะฮ์ที่อยู่บนรัศมีทางนำของพระองค์ โดยมุ่งหวังในผลบุญ และการที่ท่านได้ละทิ้งการฝ่าฝืนต่ออัลเลาะฮ์ด้วยรัศมีทางนำจากอัลเลาะฮ์ โดยมีความเกรงกลัวต่อการลงโทษ"
ท่านอิบนุมัสอูด ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "ตักวาคือการที่อัลเลาะฮ์ได้รับการภักดี ดังนั้นพระองค์จะไม่ถูกฝ่าฝืน พระองค์จะถูกรำลึกถึง ดังนั้นพระองค์จะไม่ถูกลืม พระองค์ทรงได้รับการกตัญญูรู้คุณ ดังนั้นพระองค์จะไม่ถูกเนรคุณ"
ท่านอิบนุมุอฺตะมิร กล่าวว่า "ท่านจงละทิ้งบาปไม่ว่าบาปเล็กหรือบาปใหญ่ เขาย่อมเป็นผู้ตักวา ท่านจะทำงานเสมือนผู้ที่เดินอยู่บนผืนดินที่มีขวากหนามซึ่งเขาจะระวังขวากหนามที่เขามองเห็นและท่านอย่ามองข้ามบาปเล็กเนื่องจากบรรดาขุนเขานั้นก็มาจากก้อนหิน"
ดังนั้น จากคำกล่าวของปวงปราชญ์เกี่ยวกับเรื่องตักวา เน้นความหมายของการทำให้หัวใจมีความตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ มีความรู้สึกความน่าเกรงขามและความทรงเกียรติของพระองค์ และมีความเกรงกลัวถึงการสอบสวนและการลงโทษของพระองค์อีกด้วย พวกเขามิได้จำกัดความหมายของการตักวาเพียงแค่ห่างไกลจากบาปใหญ่เท่านั้น แต่ทว่ายังรวมถึงบาปเล็กด้วยเช่นกัน และยิ่งกว่านั้นพวกเขาได้ทำให้ความหมายของการตักวามีความสมบูรณ์ด้วยการหลีกจากสิ่งอนุมัติที่อาจจะนำไปสู่สิ่งต้องห้าม
http://deen2do.com/taqwa/archives/30
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: พ.ย. 20, 2007, 02:42 PM
ผลประโยชน์จากการตักวาในโลกดุนยา1. การตักวา เป็นเหตุให้กิจการงานต่าง ๆ มีความง่ายดาย อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และผู้ใดตักวาต่ออัลลอฮ์ พระองค์จะทรงทำให้กิจการของเขาสะดวกง่ายดายแก่เขา" 65:4
2. การตักวา เป็นสาเหตุในการปกป้องโทษต่าง ๆ ของชัยฏอน อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "แท้จริงบรรดาผู้ที่มีความตักวานั้น เมื่อมีคำชี้นำใด ๆ จากชัยฏอนประสบแก่พวกเขา พวกเขาก็รำลึกได้แล้วทันใดพวกเขาก็มองเห็น" 7:201
3. การตักวา เป็นเหตุให้ความจำเริญได้เปิดและเพิ่มพูนริสกีจากฟากฟ้าและแผ่นดิน อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และหากว่าชาวเมืองนั้นได้ศรัทธากันและมีความตักวาแล้วไซร้ แน่นอนเราก็เปิดให้แก่พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาความเพิ่มพูนจากฟากฟ้าและแผ่นดิน" 7:96
4. การตักวา เป็นเหตุให้บ่าวได้รับทางนำในการจำแนกความจริงและความเท็จได้ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! หากพวกเจ้ายำเกรงอัลลอฮ์ พระองค์ก็จงทรงให้มีแก่พวกเจ้าซึ่งสิ่งที่จำแนกความจริงและความเท็จ" 8:29
5. การตักวา เป็นเหตุทำให้รอดพ้นจากความยากลำบาก ได้รับริสกีและมีความสะดวกสบายสำหรับผู้ที่มีความตักวาอย่างไม่สามารถคำนวนได้ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และผู้ใดมีความตักวาต่ออัลลอฮ์ พระองค์ก็จะทรงหาทางออกให้แก่เขาและจะทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่เขาจากที่ที่เขามิได้คาดคิด และผู้ใดมอบหมายแด่อัลลอฮ์ พระองค์ก็จะทรงเป็นผู้พอเพียงแก่เขา แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงบรรลุในกิจการของพระองค์ โดยแน่นอนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนั้น อัลลอฮ์ทรงกำหนดกฎสภาวะไว้แล้ว" 65:2-3
6. การตักวา เป็นเหตุทำให้เขาเป็นคนรักของอัลเลาะฮ์ตาอาลา พระองค์ทรงตรัสความว่า "บรรดาผู้เป็นที่รักของอัลเลาะฮ์นั้น มิใช่ใครอื่น นอกจากบรรดาผู้มีความตักวา" 8:34
7. การตักวา เป็นสาเหตุให้อะมัลมีคุณค่าและถูกตอบรับและทำให้ได้รับการอภัยโทษ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! จงตักวาต่ออัลลอฮ์ และจงกล่าวถ้อยคำที่เที่ยงธรรมเถิด พระองค์จะทรงปรับปรุงการงานของพวกเจ้าให้ดีขึ้นสำหรับพวกเจ้า และจะทรงอภัยโทษความผิดของพวกเจ้าให้แก่พวกเจ้าและผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์แล่ะร่อซู้ลของพระองค์ แน่นอนเขาได้รับความสำเร็จใหญ่หลวง" 33:70-71
8. การตักวา เป็นสาเหตุทำให้ได้รับความรักต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา ซึ่งความรักนี้จะได้รับทั้งในโลกนี้เฉกเช่นเดียวกับโลกหน้า อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "มิใช่เช่นนั้นดอก ผู้ใดที่รักสัญญาของเขาโดยครบถ้วน และตักวา (อัลลอฮ์) แล้วแน่นอนอัลลอฮ์ทรงรักผู้ที่มีความตักวานั้น" 3:76
9. การตักวา เป็นเหตุให้เราได้รับความรู้ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และพวกเจ้าจงตักวาต่ออัลลอฮ์เถิด และอัลเลาะฮ์จะทรงสอนพวกเจ้า" 2:282
10. การตักวา เป็นสาเหตุให้ได้รับข่าวดีในโลกนี้ ไม่ว่าจะได้รับการฝันเห็นสิ่งดี ๆ บรรดาผู้คนให้ความชื่นชอบ มอบความรักและให้การสรรเสริญต่อเขา อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "คือบรรดาผู้ศรัทธา และพวกเขามีความตักวา สำหรับพวกเขาจะได้รับข่าวดีในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ (เช่นการฝันเห็นสิ่งดีงาม) และในโลกหน้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในลิขิตของอัลลอฮ์ นั่นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่" 10:63-64
http://deen2do.com/taqwa/archives/31
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: พ.ย. 20, 2007, 02:45 PM
หากมีเพิ่มเติมอีกก็จะนำมาเสนออีกนะขอรับท่านพี่น้อง

วัสลามขอรับ
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: hasanah Date: พ.ย. 20, 2007, 05:04 PM
:jazakallah
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: นูรุ้ลอิสลาม Date: พ.ย. 21, 2007, 12:11 PM
ตอนต่อล่าสุดมาแล้ว แต่ก๊อบยากส์ เลยนำลิงค์มาอ้างอิงไว้ก่อน ใครที่ก๊อบมาได้ก็จัดการนำเสนอได้ล่ะกัน
http://deen2do.com/taqwa/archives/32#comments
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: قطوف من أزاهير النور Date: พ.ย. 21, 2007, 12:23 PM
ผลประโยชน์ที่ได้รับในโลกอาคิเราะฮ์ 1. การตักวา ทำให้ได้รับข่าวดีทั้งโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮ์
กล่าวคือความน่าสะพึงกลัวครั้งยิ่งใหญ่ในวันนั้นไม่ทำให้พวกเขาโศกเศร้า และบรรดามะลาอิกะฮ์จะยินดีต้อนรับพวกเขา อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "พึงสังวรณ์ ! แท้จริงบรรดาผู้เป็นที่รักของอัลเลาะฮ์นั้น พวกเขาย่อมไม่ประสบความหวั่นกลัวใด ๆ และพวกเขาจะไม่มีความโศกเศร้า (พวกเขาเหล่านั้น) เป็นพวกที่มีความศรัทธาและพวกเขามีความตักวา พวกเขาได้รับข่าวดีในชีวิตทางโลกนี้และในโลกหน้า" 10: 62-63-64
ท่านอิมามอะห์มัด รายงานจากท่านอบีอัรดาอฺว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวถึงคำตรัสของอัลเลาะฮ์ที่ว่า "พวกเขาได้รับข่าวดีในชีวิตทางโลกนี้" ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "มันคือความฝันที่ดีงามที่มุสลิมคนหนึ่งได้ฝันเห็น"
รายงานจากอบูซัรร์ รอฏิยัลลอฮุอันฮุ เขากล่าวว่า "โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ บุรุษคนหนึ่งได้ปฏิบัติการงานหนึ่ง แล้วบรรดาผู้คนได้การสรรเสริญและยกย่องเขา ดังนั้นท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ดังกล่าวนั้นคือกล่าวข่าวดีของมุอฺมินที่ได้รับในโลกนี้"
ท่านอิบนุกะษีรได้กล่าวไว้ในตัฟซีรของท่านว่า "ข่าวดีของพวกเขาในโลกหน้านั้น ดังที่อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า "ความวิกฤติอันใหญ่หลวง (ของวันกิยามะฮ์) ไม่ทำความโศกเศร้าแก่พวกเขาเลยและมวลมะลาอิกะฮ์ต่างก็ต้อนรับพวกเขาว่า นี้คือวันของพวกท่าน ตามที่พวกท่านได้ถูกสัญญาไว้(จากอัลเลาะฮ์)" 21:103
2. การตักวา เป็นเหตุทำให้เขาเป็นผู้มีเกียรติ ณ ที่อัลเลาะฮ์ตาอาลา
พระองค์ทรงตรัสความว่า "แท้จริงผู้มีเกียรติที่สุดในหมู่พวกเจ้า ณ อัลเลาะฮ์คือผู้มีความยำเกรงอัลเลาะฮ์ที่สุดในหมู่พวกเจ้า" 49:13
3. การตักวา เป็นเหตุให้พวกเขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์ โดยได้ขี่พาหนะไปยังอัลเลาะฮ์ตาอาลา
พระองค์ทรงตรัสว่า "ในวันซึ่งเราจะชุมนุมมวลชนที่มีความตักวา สู่พระองค์ผู้ทรงเมตตา โดยพวกเขาขี่พาหนะมา" 19:85
ท่านอิบนุกะษีร กล่าวว่า "รายงานจากนั๊วะอฺมาน บิน สะอีด ซึ่งเขากล่าวว่า เราได้นั่งอยู่กับท่านอะลี ดังนั้นได้อ่านอายะฮ์หนึ่งความว่า "ในวันซึ่งเราจะชุมนุมมวลชนที่มีความตักวา สู่พระองค์ผู้ทรงเมตตา โดยพวกเขาขี่พาหนะมา"
ท่านอะลีกล่าวว่า บรรดาผู้มีความตักวามิได้ชุมกันโดยยืนด้วยเท้า ผู้ที่ได้ขี่พาหนะจะไม่ต้องยืนบนเท้าของพวกเขา แต่ทว่าพวกเขาจะได้ขี่อูฐที่บรรดามนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ซึ่งอานสำหรับนั่งบนอูฐทำมาจากทองคำ แล้วพวกเขาก็ทำการขี่จนกระทั่งได้เคาะบรรดาประตูสวรรค์"
4. การตักวา เป็นเหตุให้มีธารน้ำหลายสายที่แตกต่างกัน
คือมีธารน้ำจืดที่รสชาติจืดสนิท ธารน้ำนมที่รสชาติไม่เปลี่ยนแปลง และธารน้ำสุราที่มีรสชาติโอชา อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ลักษณะของสวรรค์ที่ถูกสัญญาไว้แก่บรรดาผู้มีความตักวานั้น คือในนั้นมีธารน้ำหลายสายมีน้ำซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงสภาพ และธารน้ำอีกหลายสายที่เต็มไปด้วยน้ำนมซึ่งรสชาดไม่เคยเปลี่ยนแปลง อีกทั้งธานน้ำหลายสาย สายที่มีสุราอันยังความโอชาแก่ผู้ดื่มกิน และธานน้ำอีกหลายสายที่มีน้ำผึ้งอันสะอาดบริสุทธิ์ และพวกเขามีผลไม้ทุกชนิดในสวรรค์ และได้รับนิรโทษจากองค์อภิบาลของพวกเขา" 47:15
มีฮะดิษรายงานว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "เมื่อพวกท่านทำการขอต่ออัลเลาะฮ์ ดังนั้นพวกท่านจงขอสวรรค์ฟิรเดาซ์ต่อพระองค์เถิด เพราะมันเป็นสรวงสวรรค์ชั้นสูงที่สุด ธานน้ำในสวรรค์จะผุดออกมาจากมัน และเบื้องบนของมันนั้นมีบัลลังก์ของพระองค์ผู้มีความเมตตา"
5. การตักวา เป็นเหตุให้พวกเขาเป็นมิตรสหายซึ่งกันและกัน
ดังที่อัลเลาะฮ์ทรงตรัสไว้ความว่า "บรรดามิตรสหายในวันนั้นต่างเป็นศัตรูซึ่งกันและกัน ยกเว้นบรรดาผู้มีความตักวาเท่านั้น" 43:67
(ก๊อบยากงัยอ่ะ เง้อ ไม่เป็นไรตานี้ชาได้บุญ ฮุฮุ)

Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: al-azhary Date: พ.ย. 23, 2007, 12:36 AM
6. การตักวา เป็นเหตุให้พวกเขาได้รับปราสาทที่มีปราสาทอีกหลายหลังถูกสร้างไว้ข้างบนของมัน อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "แต่บรรดาผู้มีความตักวาต่อองค์อภิบาลของพวกเขานั้น พวกเขาจะได้รับปราสาทหลายหลัง ซึ่งมีปราสาทอีกหลายหลังที่ถูกก่อสร้างไว้ด้านบนของมัน มีธานน้ำไหลอยู่จากเบื้องใต้ของมันเป็นสัญญาแห่งอัลเลาะฮ์! ซึ่งพระองค์ย่อมไม่ผิดสัญญา" 39:20
7. การตักวา เป็นเหตุให้พวกเขาได้อยู่พี่พำนักอันปลอดภัย ได้อยู่ในบรรดสร้างสวรรค์ที่มีแหล่งน้ำอันมากมายและอื่น ๆ อีกมากมาย อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "แท้จริงบรรดาผู้มีความตักวา ย่อมได้อยู่ในที่อยู่อันปลอดภัย ในสวนสวรรค์ และแหล่งน้ำอันมากมาย พวกเขาจะสวมใส่อาภรณ์จากผ้าไหมทั้งหยาบและละเอียด พวกเขาต่างหันหน้าเข้าหากัน เช่นนั้น! และเราได้จัดสมรสพวกเขากับนางสวรรค์ผู้มีร่างกายขาวผ่อง มีดวงตากลมโต พวกเขาจะวอนขอผลไม้ทุกชนิดในนั้น อีกทั้งได้อยู่โดยปลอดภัย พวกเขาจะไม่ลิ้มรสความตายในนั้นอีกต่อไป นอกจากความตายครั้งแรกเท่านั้นและพระองค์ทรงป้องกันพวกเขาไว้จากการลงโทษในนรก" 44:51-56
8. การตักวา เป็นเหตุให้เขาได้รับสิ่งที่อารมณ์ของเขาปรารถนาและบรรดาสายตามีความชื่นชอบ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และได้มีผู้พูดถามกับบรรดาผู้มีความตักวาว่า "องค์อภิบาลของพวกท่านได้ประทานสิ่งใดลงมาบ้างเล่า?" พวกเขาก็ตอบว่า "(พระองค์ประทานแต่) ความดี! ปวงชนผู้ประกอบความดีงามในพื้นพิภพนี้ ย่อมได้รับความดีเป็นสิ่งตอบแทน และที่จริงโลกหน้าย่อมจะดีกว่า และเป็นที่อยู่อันเยี่ยมยอดที่สุด ของบรรดาผู้มีความตักวาทั้งมวล นั่นคือ บรรดาสวรรค์อันนิรันดร์ ซึ่งพวกเขาจะได้เข้าไปในนั้น มีธานน้ำหลายสายไหลอยู่ ณ เบื้องใต้ของมัน พวกเขาได้ทุกสิ่งที่พวกเขาประสงค์ในนั้น เช่นนั้น! อัลเลาะฮ์ทรงตอบแทน แก่บรรดาผู้มีความตักวาทั้งมวล" 16:30-31
9. การตักวา เป็นเหตุให้พวกเขาได้มีโอกาสเดินบรรดาใต้ต้นไม้ในสรวงสวรรค์ และได้รับความสุขสำราญด้วยกับรมเงาของมัน อัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงตรัสความว่า "แท้จริงบรรดาผู้มีความตักวา(ต่ออัลเลาะฮ์) ย่อมได้อยู่ในร่มเงา และ(ใกล้) ธานน้ำ และมีผลไม้ต่าง ๆ จากสิ่งที่พวกเขาใคร่รัปทาน (และมีผู้ประกาศว่า) "พวกเจ้าจงรัปทาน และจงดื่มให้สุขสำราญเถิด อันเนื่องมาจากความดีที่พวกเจ้าได้ประพฤติมา" 77:41-43
10. การตักวา เป็นเหตุให้พวกเขาได้รับผลการตอบแทนความดีงามเป็นสองเท่า อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "โอ้บรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลาย จงตักวาต่ออัลเลาะฮ์ และจงศรัทธาต่อศาสนทูตของพระองค์เถิด แน่นอนที่สุด พระองค์จักประทานความเมตตาของพระองค์แก่พวกเจ้าเป็นสองเท่า และจักทรงบันดาลแก่พวกเจ้าให้มีรัศมี ซึ่งพวกเจ้าเดินไปกับรัศมีนั้น และทรงอภัยให้พวกเจ้า" 57:28
http://deen2do.com/taqwa/archives/32#comments
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: al-azhary Date: พ.ย. 23, 2007, 01:37 AM
اّللّهُمَّ اجْعَلْنَا مِنَ الْمُتَّقِيْنَ
"โอ้ อัลเลาะฮ์ โปรดทรงทำให้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งจากผู้มีความตักวายำเกรง" ยาร๊อบ
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: nada-yoru Date: ก.ย. 30, 2009, 09:35 PM
salam
อามีน ยาร็อบ
ญะซากัลลอฮุคอยรอน
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
^____________^
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์ By: nada-yoru Date: ก.ค. 20, 2013, 11:44 AM
อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ
ท่านวะฮฺล์ อิบนุ อับดิลลาฮ์ อัตตุสฺตะรีย์ (มรณะ ฮ.ศ.283/ค.ศ.896) ได้เล่าว่า
ขณะที่ฉันมีอายุ 3 ขวบ ฉันได้ลุกขึ้นยามกลางคืนและเฝ้ามองการละหมาด
ของท่านมุฮัมหมัด อิบนุ เซาว๊ารฺ ผู้เป็นน้าชายของฉันเสมอ
อยู่มาวันหนึ่ง ท่านอิบนุ เซาว๊ารฺ ได้กล่าวแก่ฉันว่า "เจ้าจะไม่ระลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ
พระผู้สร้างเจ้ากระนั้นหรือ?" ฉันจึงถามท่านว่า "ฉันจะระลึกถึงพระองค์อย่างไร?"
ท่านตอบว่า "เจ้าจงกล่าวขึ้นในหัวใจของเจ้าขณะพลิกกายลงนอนในที่นอนของเจ้า
3 ครั้ง โดยไม่ต้องกระดิกลิ้นว่า อัลลอฮฺทรงอยู่กับฉัน อัลลอฮฺทรงมองดูฉัน
อัลลอฮฺทรงเป็นสักขีพยานของฉัน" ฉันได้กล่าวสิ่งนั้นในทุกค่ำคืน
ภายหลังฉันได้บอกสิ่งนั้นให้ท่านทราบ ท่านก็กล่าวว่า
"จงกล่าว 7 ครั้งในทุกค่ำคืน" ฉันก็ได้ปฏิบัติตามนั้น
ต่อมาฉันได้บอกให้ท่านทราบ ท่านก็บอกแก่ฉันว่า
"เจ้าจงกล่าวสิ่งดังกล่าวด้วยหัวใจของเจ้า 11 ครั้งในทุกค่ำคืน"
ฉันก็กล่าวตามนั้นจวบจนความหวานซึ้งของถ้อยคำดังกล่าวเกิดขึ้นในหัวใจของฉัน
ต่อมาหลังจากนั้น 1 ปี น้าชายของฉันได้กล่าวแก่ฉันว่า
เจ้าจงจดจำรักษาสิ่งที่เราสอนให้กับเจ้า และจงกระทำเป็นนิจศีล
จวบจนกระทั่งเจ้าได้เข้าสู่หลุมฝังศพ(จนตาย) เพราะนั่นจะยังประโยชน์
แก่เจ้าทั้งในโลกนี้และโลกหน้า"ฉันก็คงปฏิิบัติเช่นนั้นเป็นเวลาหลายปี
จนฉันพบว่าสิ่งนั้นมีความหวานซึ้งในเบื้องลึกของฉัน อยู่มาวันหนึ่ง
น้าชายของฉันได้กล่าวแก่ฉันว่า "โอ้ สะฮฺล์ เอ๋ย! บุคคลใดที่พระองค์อัลลอฮฺ
อยู่กับเขา และมองดูเขานั้น อีกทั้งเป็นสักขีพยานต่อเขาด้วยนั้น
บุคคลผู้นั้นจักกระทำการฝ่าฝืนต่อพระองค์ได้อีกหรือไร? ฉะนั้นเจ้าพึงระวัง
การฝ่าฝืนเถิด..."
และแล้ว ในที่สุด สะฮฺล์ อิบนุ อับดิลลาฮฺผู้นี้ ได้กลายเป็นนักศูฟีย์ผู้ยิ่งใหญ่
และดำรงมั่นในศีลธรรมด้วยคุณงามความดีของผู้เป็นน้าชายซึ่งฝึกฝน
และสั่งสอนเขาตั้งแต่เยาว์วัย ตลอดจนปลูกฝังความหมายแห่งศรัทธา
และการรับรูุ้ถึงการสอดส่องของพระผู้เป็นเจ้าให้เกิดขึ้นในใจของเขา
ทั้งที่เขายังมีอายุน้อยอยู่...
(คัดจากหนังสือ ตัรฺบียะตุ้ลเอาลาด 1/171)
ที่มา: หนังสือ "คัดมาให้คิด" โดย อาจารย์ อาลี เสือสมิง
เรื่อง การฝึกฝนจิตสำนึกในการระลึกถึงอัลลอฮฺ หน้าที่ 51-52
ผู้ที่ระลึกถึงอัลลอฮฺ...จะทำให้หัวใจของเขาสงบนิ่ง
และไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์...
ทำให้มีความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลลอฮฺ
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล จำต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก...
และต้องหมั่นกระทำอยู่เสมอๆ...เป็นนิจศีล...
เรื่องราวนี้จึงเป็นตัวอย่างหนึึ่งซึ่งสอนให้เรารู้ว่า
ไม่มีอะไรจะได้มาง่ายดาย และการฝึกฝนตัวเอง
การหักห้ามอารมณ์ของตัวเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
ต่อการมุ่งสู่เป้าหมายแห่งการตักวา...
และการเป็นคนรักของอัลลอฮฺ...
วัสลามค่ะ