Re: อยากทราบประวัติของนบี By: Bangmud Date: ก.พ. 27, 2010, 06:03 PM
salam
ขอบคุณที่ติดตามครับ
แต่เนื่องจากมีหลายกระทู้ที่เจ้าของกระทู้ท่านไม่มีเวลามาต่อให้จบ
จึงได้พยายามไปต่อให้จบเป็นเรื่อง ๆ ไป ได้แก่ กระทู้"เล่าสู่เรียนรู้เรื่องซอฮาบะฮฺ"ได้เล่าประวัติท่านอะลี อิบนิอะบีฏอลิบจนจบ
และกำลังเริ่มประวัติ อะบูอุบัยดะฮฺ อิบนิอัลญัรรอหฺ ถ้าจบแล้วจะมาเริ่มประวัตินะบียฺอาดัมในกระทู้นี้ต่อ
กระทู้"ประชาชาติที่ถูกทำลาย" ได้เข้าไปเสริมเรื่องของนะบีลูฏจนจบกำลังมองหาเรื่องที่น่าสนใจอยู่
จะกินของอร่อยต้องใจเย็น ๆ ครับ
วัสสลาม
Re: อยากทราบประวัติของนบี By: nada-yoru Date: ก.พ. 27, 2010, 06:24 PM
วะอะลัยกุมมุสลาม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ
รอได้เสมอค่ะ นานแค่ไหนก็รอได้จริงๆค่ะแช...
เข้ามาบอกว่ายังติดตามอยู่เท่านั้นเองงิแช...

อยากกินของอร่อยต้องใจเย็นๆ...

ความรู้ที่อร่อยก็ต้องรอด้วยใจเย็นๆและจะไม่กินแบบมูมมาม
(สาว่่า ใครก็ไม่รู้เคยพูดในกระทู้นึง) หนูเองแหล่ะแช...

จะตามไปเก็บให้ครบค่ะ อินชาอัลลอฮฺ
เพราะเริ่มมีเวลาเก็บเรื่องวิชาการหนักๆแล้วค่ะ...
วัสลามค่ะ
Re: อยากทราบประวัติของนบี By: Bangmud Date: มี.ค. 03, 2010, 09:45 PM
salam
อาดัม อะลัยฮิสสลาม : บิดาแห่งมวลมนุษยชาติ
“มนุษยชาติทั้งหลาย ! จงยำเกรงพระเจ้าของพวกเจ้าที่ได้บังเกิดพวกเจ้ามาจากชีวิตหนึ่ง(คือท่านนะบีอาดัม ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรกที่ถูกบังเกิดขึ้นจากดิน) และได้ทรงบังเกิดจากชีวิตนั้นซึ่งคู่ครองของเขา(ได้ทรงให้พระนางเฮาวาอ์ คู่ครองของท่านนะบีอาดัมเกิดจากท่านนะบีอาดัมเอง) และได้ทรงให้แพร่สะพัดไปจากทั้งสองนั้น ซึ่งบรรดาชายและบรรดาหญิงอันมากมาย” อัลมาอิดะฮฺ 4:1
อัลลอฮฺได้ทรงกล่าวว่า
30. และ จงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่มะลาอิกะฮฺว่า แท้จริงข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่ง(คือนะบีอาดัม ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรก และเป็นบิดาของมนุษย์ชาติมิใช่คนใดคนหนึ่งที่ชื่ออาดัม ตามที่พวกก็อดยานีได้บิดเบือนไว้) ในพิภพ มะลาอิกะฮฺได้ทูลขึ้นว่า พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลาย และก่อการนองเลือด ในพิภพกระนั้นหรือ? (การที่มะลาอิกะฮฺกล่าวเช่นนั้น อาจเข้าใจได้ว่าเมื่อก่อนโน้นอัลลอฮฺเคยบังเกิดสิ่งที่มีชีวิต และมีปัญญามาในโลก แล้วพวกเขาเหล่านั้นประหัตประหารกัน จนกระทั่งสูญพันธุ์ ทั้งนี้ด้วยพระประสงค์ของพระองค์แล้วพระองค์ก็ทรงบังเกิดอาดัมขึ้นมาใหม่จากดิน เพื่อเป็นผู้แทนของพระองค์ในพิภพ ซึ่งจะมีลูกหลานแพร่สะพัดไปทั่วโลก ในการนี้ทำให้มะลาอิกะฮฺเข้าใจว่า ลูกหลานของอาดัมจะประหัตประหารกัน และหลั่งเลือด จึงได้ถามพระองค์เพื่อต้องการทราบ ใช่ว่าเป็นการคัดค้านแต่อย่างใดไม่) ทั้ง ๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์ และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์ พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้(อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่ง ถึงเป้าหมายในการบังเกิดท่านนะบีอาดัม แต่มะลาอิกะฮฺไม่รู้) 
31. และพระองค์ได้ทรงสอนบรรดานามของทั้งปวงให้แก่อาดัม(อัลลอฮฺทรงสอนบรรดาชื่อทั้งปวงของสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ในพิภพ ให้แก่นะบีอาดัมทราบ) ภายหลังได้ทรงแสดงสิ่งเหล่านั้นแก่มะลาอิกะฮฺ แล้วตรัสว่า จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่ข้า หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง 32. พวกเขา(บรรดามะลาอิกะฮฺ)ทูลว่า มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน ไม่มีความรู้ใด ๆ แก่พวกข้าพระองค์นอกจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกข้าพระองค์เท่านั้น แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ33. พระองค์ตรัสว่า โอ้อาดัม! จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขา (บรรดามะลาอิกะฮฺ)ที ครั้นเมื่ออาดัมได้บอกชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาแล้ว พระองค์จึงตรัสว่า ข้ามิได้บอกแก่พวกเจ้าดอกหรือว่า แท้จริงข้าเป็นผู้รู้ยิ่งซึ่งความเร้นลับแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและ เป็นผู้รู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผยและสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด34. และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มะลาอิกะฮฺว่า พวกเจ้าจงสุยูด(หมายถึงการโน้มศีรษะลงด้วยความนอบน้อม เป็นการคารวะและเคารพนับถือ มิใช่หมายถึงการวางใบหน้าลงบนพื้นแต่อย่างใด เพราะปฏิบัติการดังกล่าวนี้ จะกระทำได้เฉพาะแก่อัลลอฮฺเท่านั้น) แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุยูดกัน นอกจากอิบลีส(เป็นต้นตอแห่งเชื้อสายของชัยฏอน และชัยฏอนนั้นคือผู้ที่ฝ่าฝืนและดื้อดึงจากพวกญิน) โดยที่มันไม่ยอมสุยูด และแสดงโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา (กาฟิรฺ) 35. และเราได้กล่าวว่า โอ้ อาดัม ! เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์นั้นเถิดและเจ้าทั้งสองจง บริโภคจากสวนนั้นอย่างกว้างขวาง ณ ที่ที่เจ้าทั้งสองปรารถนา และอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้(ต้นไม้ต้นหนึ่งในสวนสวรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงระบุให้อาดัมและเฮาวาอ์ ดู) (มิเช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเอง 36. ภายหลังจากชัยฎอนได้ทำให้ทั้งสองนั้นพลั้งพลาดไป เนื่องจากต้นไม้ต้นนั้น(เนื่องจากเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้น และบริโภคผลของมัน) แล้วได้ทำให้ทั้งสองออกจากที่ที่เคยพำนักอยู่( ออกจากสวนสวรรค์) และเราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงออกไป โดยที่บางส่วนของพวกเจ้าต่างเป็นศัตรูต่อกัน(บางส่วนของลูกหลานอาดัม กับผู้ที่สืบเชื้อสายจากอิบลีสที่จะมีต่อไป) และ(สำหรับพวกเจ้าในผืนแผ่นดินนั้น) มีที่พำนัก และมีสิ่งอำนวยประโยชน์จนถึงระยะเวลาหนึ่ง(จนกว่าจะถึงวาระแห่งการสิ้นชีวิต)
37. ภายหลังอาดัมได้เรียนรู้คำวิงวอนจากพระเจ้าของเขา(แล้วได้วิงวอนขออภัยโทษต่อพระองค์) แล้วพระองค์อภัยโทษแก่เขา แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
38. เราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงออกไปทั้งหมด(ทั้งนะบีอาดัม เฮาวาอ์ และอิบลีส) จากสวนนั้น แล้วหากมีคำแนะนำจากข้ามายังพวกเจ้าแล้ว ผู้ใดที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้า ก็ไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขา(เมื่อพวกเขาฟื้นคืนชีพในวันปรโลก พวกเขาจะไม่มีความกลัวใด ๆ ที่จะถูกลงโทษ และจะไม่เสียใจในสิ่งตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับ) และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ 39. และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และไม่เชื่อบรรดาโองการของเรานั้น ชนเหล่านี้คือชาวนรก โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ 2:30-39นอกจากนั้น อัลลอฮฺยังได้ทรงกล่าวว่า ........................................
Re: อยากทราบประวัติของนบี By: Bangmud Date: มี.ค. 03, 2010, 10:51 PM
11. และแท้จริงเราได้บังเกิดพวกเจ้า(หมายถึงนะบีอาดัมเพราะการบังเกิดนะบีอาดัมก็คือการบังเกิดพวกเจ้านั้นเอง เนื่องจากพวกเจ้านั้นมาจากนะบีอาดัม) แล้วเราได้ให้พวกเจ้าเป็นรูปร่าง(คือต่อมาก็ได้ทรงให้พวกเจ้าสืบเชื้อสายจากนะบีอาดัมโดยให้พวกเจ้าเป็น รูปร่างขึ้นในครรภ์ของพระนางเฮาวาอ์ และในครรภ์ของผู้เป็นมารดาสืบต่อมา)แล้วเราได้กล่าวแก่มลาอิกะฮ์ว่า จงสุยูด(คำว่า “สุยูด” ตามความหมายทางภาษานั้นคือการก้มคำนับเพื่อแสงการเคารพนบนอบ และการกราบลงบนพื้น ในการนี้จึงทำให้มี 2 ทรรศนะด้วยกันคือ ทรรศนะแรกนั้นถือเอาการก้มคำนับ เพราะถือว่าการกราบนั้นจะกระทำแก่เฉพาะอัลลอฮฺเท่านั้น ส่วนอีกทรรศนะหนึ่งถือเอาการกราบลงพื้นโดยให้เหตุผลว่า การกราบนั้นถ้าเป็นคำสั่งของอัลลอฮฺให้กระทำแก่ผู้ใดก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่อย่างใด)แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุยูดกัน นอกจากอิบลีส(อิบลีสมิใช่มะลาอิกะฮ์ หากแต่เป็นหนึ่งจากญิน)เท่านั้น มิปรากฏว่ามันอยู่ในหมู่ผู้สุยูด 12. พระองค์ตรัสว่า อะไรที่ขัดขวางเจ้ามิให้เจ้าสุยูด ขณะที่ข้าได้ใช้เจ้า มันกล่าวว่า ข้าพระองค์ดีกว่าเขา โดยที่พระองค์ทรงบังเกิดข้าพระองค์จากไฟ และได้บังเกิดเขาจากดิน13. พระองค์ตรัสว่า จงลงจากสวน( หมายถึงสวนสวรรค์ที่พระองค์ทรงให้ท่านนะบีอาดัมพำนักอยู่)นั้นไปเสีย ไม่สมควรแก่เจ้าที่จะทำโอหังในนั้น จงออกไปให้พ้นแท้จริงเจ้านั้นอยู่ในหมู่ผู้ต่ำต้อย(คือเนื่องจากพระองค์จะทรงลงโทษมันที่ขัดคำสั่งของพระองค์) 14. มันกล่าวว่า โปรดผ่อนผันข้าพระองค์จนถึงวันที่พวกเขา (หมายถึงอาดัมและลูกหลานของท่าน)ถูกให้ฟื้นคืนชีพด้วยเถิด 15. พระองค์ตรัสว่า แท้จริงเจ้าอยู่ในหมู่ผู้ที่ได้รับการผ่อนผัน16. มันกล่าวว่า ด้วยเหตุที่พระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์ตกอยู่ในความหลงผิด (คือไม่ทรงอภัยโทษให้แก่มันและขับไล่มันให้ออกจากความกรุณาของพระองค์) แน่นอนข้าพระองค์จะนั่งขวางกั้นพวกเขา (หมายถึงทำหน้าที่ชักนำพวกเขาให้ออกจากทางอันเที่ยงตรงของพระองค์) ซึ่งทางอันเที่ยงตรงของพระองค์ 17. แล้วข้าพระองค์จะมายังพวกเขา จากเบื้องหน้าของพวกเขา และจากเบื้องหลังของพวกเขาและจากเบื้องขวาของพวกเขา และจากเบื้องซ้ายของพวก(หมายถึงการที่มันจะใช้เล่ห์เพทุบายทุกอย่างที่จะจูงใจให้มนุษย์กระทำ ชั่ว อันเป็นการฝ่าฝืนพระเจ้าของเขาหรือปฏิเสธศรัทธาในพระองค์ เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นเชื้อเพลิงแห่งนรกเช่นเดียวกับมัน ทั้งนี้เป็นการแก้แค้นที่ท่านนะบีอาดัมเป็นต้นเหตุให้มันได้รับความกริ้ว โกรธจากอัลลอฮ์ ในการที่พระองค์ทรงแจ้งให้มนุษย์ทราบปฏิบัติการของมันนั้นเพื่อว่าพวกเขาจะ ได้ตระหนักและระวังตัวไว้)เขา และพระองค์จะไม่พบว่าส่วนมากของพวกเขานั้น เป็นผู้ขอบคุณ 18. พระองค์ตรัสว่า จงออกจากสวนนั้น (หมายถึง สวนสวรรค์ที่อัลลอฮฺทรงให้นะบีอาดัมและพระของนางเฮาวาอ์พำนักอยู่ ความจริงมันมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่ในสวนนั้น หากแต่มันเล็ดลอดเข้าไปทำการหลอกลวงนะบีอาดัมให้กระทำการฝ่าฝืนอัลลอฮฺ แล้วพระองค์จึงได้ทรงขับไล่มันออก) ไปในฐานะผู้ถูกติเตียน และถูกขับไล่ ข้าสาบานว่า ผู้ใดในหมู่พวกเขาที่ปฏิบัติตามเจ้า ข้าจะบรรจุให้เต็มญะฮันนัมทั้งจากพวกเจ้าด้วยทั้งหมด 19. และพระองค์ตรัสว่า อาดัมเอ๋ย ! ทั้งเจ้าและคู่ครองเจ้าจงอยู่ในสวนสวรรค์นั้นเถิด แล้วจงบริโภค ณ ที่ใดก็ได้ที่เจ้าทั้งสองประสงค์และเจ้าทั้งสองอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้(มิ เช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อยู่ในหมู่ผู้ที่อธรรม
20. แล้วชัยฏอนก็ได้กระซิบกระซาบแก่ทั้งสองนั้น(คือการกระซิบกระซาบแก่นะบีอาดัมและพระนางเฮาวาอ์ ทั้งนี้หลังจากที่มันสามารถเข้าไปในสถานที่พำนักของท่านทั้งสอง)เพื่อที่จะเผย แก่เขาทั้งสองซึ่งสิ่งที่ถูกปิดบังแก่เขาทั้งสองไว้(หมายถึงว่าทั้งสองนั้นแม้ว่าจะอยู่ในสภาพเปลือยกาย แต่ก็ไม่รู้สึกมีความละอายแต่อย่างใด เนื่องจากอัลลอฮฺยังไม่ทรงเผยให้ทั้งสองได้ประจักษ์ซึ่งความละอาย ประหนึ่งว่าสิ่งที่น่าละอายของทั้งสองนั้นถูกปกปิดอยู่) อันได้แก่สิ่งอันพึงละอาย( หมายถึงอวัยวะเพศของทั้งสองอันถือเป็นสิ่งพึงละอาย)ของเขาทั้งสอง และมันได้กล่าวว่า พระเจ้าของท่านทั้งสองมิได้ทรงหวงห้ามท่านทั้งสอง ซึ่งต้นไม้ต้นนี้(เพราะอื่นใด) นอกจากการที่ท่านทั้งสองจะกลายเป็นมะลาอิกะฮฺ(ถือถ้าได้เข้าไปใกล้ต้นนี้และบริโภคผลของมันแล้วท่านทั้งสองก็จะกลายเป็นมะลาอิกะฮฺ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี) หรือไม่ก็กลายเป็นผู้อยู่ในหมู่ผู้ที่ยั่งยืนอยู่ตลอดกาลเท่านั้น(คือถ้าไม่เป็นมะลาอิกะฮฺก็จะมีชีวิตตลอดกาลโดยไม่มีการตาย ทั้งหมดที่มันกล่าวนั้นเป็นการเสกสรรขึ้นทั้งสิ้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด)
21. และมันได้สาบานแก่ทั้งสองนั้นว่าแท้จริงมันอยู่ในพวกที่แนะนำท่านทั้งสอง(คือเป็นผู้ปรารถนาดีจึงได้มาแนะนำท่านทั้งสอง) 
22. แล้วเราก็ทำให้ทั้งสองนั้นตกอยู่ในสิ่งที่มันต้องการ (คือเห็นดีเห็นชอบตามคำหลอกลวงของมัน) อันเนื่องจากการหลอกลวง ครั้นเมื่อทั้งสองได้ลิ้มรสต้นไม้ต้นนั้นแล้ว (หมายถึงลิ้มรสผลของมัน) สิ่งอันพึงละอายของเขาทั้งสอง (คืออวัยวะเพศของเขาทั้งสองก็ถูกเผยให้ประจักษ์แก่เขาทั้งสองว่าเป็นสิ่งที่น่าละอาย อันควรแก่การปกปิดเสียเพื่อมิให้ใครเห็น) ก็เผยให้ประจักษ์แก่เขาทั้งสอง และเขาทั้งสองก็เริ่มปกปิดบน(ส่วนที่น่าละอาย)ของเขาทั้งสองจากใบไม้แห่งสวน สวรรค์ (คือเก็บใบไม้กลัดติดกัน แล้วปิดร่างกายส่วนที่น่าละอายเสีย) นั้น และพระเจ้าของเขาทั้งสองจึงได้เรียกเขาทั้งสอง (โดยกล่าวว่า)ข้ามิได้ห้ามเจ้าทั้งสองเกี่ยวกับต้นไม้นั้นดอกหรือ? และข้ามิได้กล่าวแก่เจ้าทั้งสองดอกหรือว่า แท้จริงชัยฏอน (คำว่าชัยฏอนนั้นเป็นฉายาของผู้ประพฤติชั่ว และทำให้คนอื่นหลงผิดประพฤติชั่วด้วย ในฐานะที่อิบลีสประพฤติชั่วจึงถูกเรียกว่า ชัยฏอน มิใช่เพียงอิบลีสเท่านั้น พวกพ้องของมันทั้งหมดก็ถูกเรียกว่าชัยฏอนด้วย แม้แต่มนุษย์ถ้าประพฤติชั่วก็เรียกว่า ชัยฏอนเหมือนกัน) นั้นคือศัตรูที่ชัดแจ้งแก่เจ้าทั้งสอง
23. เขาทั้งสองได้กล่าวว่า โอ้พระเจ้าของพวกเข้าพระองค์ พวกข้าพระองค์ได้อธรรมแก่ตัวของพวกข้าพระองค์เอง และถ้าพระองค์ไม่ทรงอภัยโทษแก่พวกข้าพระองค์และเอ็นดูเมตตาแก่ข้าพระองค์แล้ว แน่นอนพวกข้าพระองค์ก็ต้องกลายเป็นพวกที่ขาดทุน
24. พระองค์ตรัสว่า พวกเจ้าจงลง(คืออัลลอฮ์ทรงใช้นะบีอาดัม, พระนางเฮาวาอ์ และอิบลีส ให้ออกจากสวนสวรรค์ลงไปสู่โลก ส่วนที่ว่าจะลงมาด้วยวิธีใดนั้นเป็นการง่ายแก่ระองค์จะทรงให้ลงมา)กันไปโดยที่บางส่วนของพวกเจ้า(หมายถึงลูกหลานของอาดัม และพวกพ้องของอิบลีสนั้นต่างเป็นศัตรูซึ่งกันและกันในการมีชีวิตอยู่ในโลก) คือ ศัตรูกับอีกบางส่วนและในแผ่นดินนั้นมีที่พำนัก และสิ่งอำนวยประโยชน์สำหรับพวกเจ้าจนถึงระยะเวลาหนึ่ง( คือจนกว่าจะสิ้นชีวิต)25. พระองค์ตรัสว่า ในแผ่นดินนั้นแหละพวกเจ้าจะมีชีวิตอยู่ และในแผ่นดินนั้นแหละพวกเจ้าจะตาย และจากแผ่นดินนั้นและพวกเจ้าจะถูกออกมาอีก( คือให้ออกมาจากดินในฐานะฟื้นคืนชีพ) สูเราะฮฺ อัลอะอฺรอฟ 7:11-25 ในอัลกุรอานได้กล่าวถึงท่านนะบียฺอาดัมเอาไว้ถึง 24 ครั้งด้วยกัน ในหลาย ๆ สูเราะฮฺ ทุก ๆ สูเราะฮฺนำไปสู่เป้าหมายเดียวเท่านั้น คือแจ้งให้ทราบถึงเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าและความยิ่งใหญ่ของพระผู้ทรงอภิบาลในการบังเกิดมนุษย์ ซึ่งอัลลอฮฺได้ทรงสร้างท่าน เป็นสุดยอดแห่งการสรรค์สร้ามาจากดิน ต่อมาพระองค์ได้ทรงทำให้เชื้อสายของเขากำเนิดมาจากน้ำที่ไหลริน(อสุจิจากฝ่ายชาย) ผสมกับไข่จากฝ่ายหญิง เกิดปฏิสนธิแล้วเปลี่ยนสภาพเป็นเลือดก้อน เนื้อก้อน และพระองค์ทรงเป่าวิญญาณเข้าไป และเจริญเติบโตเป็นชีวิต อินชาอัลลอฮฺ ติดตามต่อสัปดาห์หน้า..................
Re: อยากทราบประวัติของนบี By: Bangmud Date: มี.ค. 13, 2010, 04:35 PM
อินชาอัลลอฮฺ มีต่อ...............
Re: อยากทราบประวัติของนบี By: Bangmud Date: มี.ค. 16, 2010, 09:26 PM
salam
ต่อจากตอนที่แล้ว... อัลเลาะฮฺได้ทรงเปิดเผยให้ทราบว่า : และจงนึกถึงเมื่อตอนที่พระผู้อภิบาลของสูเจ้าได้ทรงนำผู้สืบพงศ์พันธุ์ของ
พวกเขาออกมาจากท้องของลูกหลานของอาดัมและได้ให้พวกเขายืนยันกับตัวเองโดยพระองค์ทรงกล่าวว่า “ฉัน
ไม่ใช่พระผู้อภิบาลของสูเจ้ากระนั้นหรือ?” พวกเขาตอบว่า “ใช่อย่างแน่นอน เราเป็นพยานยืนยันในเรื่องนี้” เราได้
ทำเช่นนี้ด้วยเกรงว่ามิฉะนั้นสูเจ้าจะกล่าวในวันฟื้นคืนชีพว่า “เราไม่รู้เรื่องนี้เลย”หรือมิฉะนั้นสูเจ้าอาจจะกล่าวว่า
“บรรพบุรุษของเราได้เริ่มการตั้งภาคีมาก่อนหน้าเราและเราเป็นลูกหลานภายหลังพวกเขา ดังนี้แล้วพระองค์จะ
ทรงลงโทษเราเพราะบาปที่ทำโดยผู้ทำความผิดกระนั้นหรือ” ดังนั้น เราจึงได้อฺบายอายะฮฺทั้งหลายของเราให้
เป็นที่แจ่มแจ้ง ทั้งนี้เพื่อที่พวกเขาจะได้หันหลับมายังแนวทางที่ถูกต้อง” (กุรฺอาน อัลอะอฺรอฟ 7:172-174)ลูกหลานของอาดัมได้ประกาศว่า : “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา เราขอยืนยันว่าพระองค์เป็นผู้อภิบาลของเรา เราไม่
มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ” อัลลอฮฺได้ทรงเลี้ยงดูอาดัมพ่อของพวกเขา และพระองค์ได้ทรงมองพวกเขาและ
เห็นพวกเขาบางคนรวย บางคนยากจน บางคนมีรูปร่างดีและบางคนมีรูปร่างไม่ดี อาดัมได้กล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ
ฉันอยากให้พระองค์ทำให้บ่าวของพระองค์เท่าเทียมกัน” อัลลอฮฺได้ทรงตอบว่า : “ฉันรักที่จะได้รับการขอบคุณ”
อาดัมได้เห็นนบีหลายคนเหมือนกับตะเกียงในหมู่ลูกหลานของเขา
อัลลอฮฺได้ทรงกล่าวว่า “และจงนึกถึงเมื่อตอนที่เราได้ให้บรรดานบีทั้งหลายทำสัญญากับเราและที่เราได้ให้เจ้า
และนูหฺและอิบรอฮีมและมูซาและอีซาบุตรของมัรฺยัมทำกับเรา เราได้ให้พวกเขาทุกคนทำสัญญาอย่างมั่นคงไว้กับ
เรา” (กุรฺอาน อัลอะหฺซาบ 33:7) และในอีกอายะฮฺหนึ่ง อัลลอฮฺได้ทรงบัญชาว่า “ดังนั้น (โอ้มุฮัมมัด) จงตั้งหน้าของเจ้าโดยสุจริตใจและแท้จริงต่อ
ศาสนานี้ (ไม่เคารพสักการะสิ่งใดนอกจากอัลลอฮฺ) และแน่วแน่ต่ออัลลอฮฺที่ธรรมชาติได้ทรงสร้างมนุษยชาติไว้
ตามนั้น ไม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติที่อัลลอฮฺทรงสร้างขึ้นมา นี่คือศาสนาที่ถูกต้องและแท้จริง แต่
มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้” (กุรอาน อัรฺรูม 30:30)ในอีกฉบับหนึ่งของเรื่องนี้กล่าวว่า อัลลอฮฺได้ทรงนำธุลีดินจากโลกนี้และเอาสีขาว สีดำ สีเหลืองและสีแดง ผสม
เข้ากับดินนั้น นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมมนุษย์จึงได้เกิดมามีสีผิวต่างกัน เมื่ออัลลอฮฺได้ทรงผสมธุลีดินกับน้ำซึ่งทำ
ให้มันกลายเป็นดินปั้นหม้อที่มีเสียง มันได้ถูกหมักไว้และมีกลิ่น เมื่อิบลีสผ่านมาจึงแปลกใจว่าดินนั้นจะถูกนำมา
ทำเป็นอะไร จากดินนั้นเองที่อัลลอฮฺได้ทรงสร้างอาดัม พระองค์ได้ทำรูปร่างของเขาด้วยอำนาจของพระองค์และ
ได้ทรงเป่าวิญญาณตามพระประสงค์เข้าไปในตัวเขา ร่างกายของอาดัมจึงได้สั่นไหวเพราะชีวิตได้ถูกเป่าเข้าไป “แท้จริง เมื่อพระองค์ทรงประสงค์สิ่งใด เพียงพระองค์บัญชาแก่มันว่า “จงเป็น” มันก็เป็นขึ้นมา (กุรอาน ยาสีน 36:82)
อัลลอฮฺได้ทรงประกาศว่า “แท้จริงอุปมาของอีซา ในสายตาของอัลลอฮฺก็คืออุปมาของอาดัม พระองค์ได้ทรงสร้าง
เขามาจากดิน หลังจากนั้นพระองค์ได้ตรัสแก่เขาว่า จงเป็น และเขาก็เป็นขึ้นมา” (กุรอาน อาละอิมรอน 3:59)
ยังมีเรื่องราวของนะบียฺ อาดัมอะลัยฮิสสะลามอีกมาก โปรดติดตาม
Re: อยากทราบประวัติของนบี By: park1234 Date: ก.พ. 21, 2012, 12:20 PM

ขอบคุนคับ