กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 12
Re: จากคำถามเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า By: yala Date: ม.ค. 27, 2008, 11:39 AM
 salam
ฮะดิษ ที่ว่า เมื่อคุณทำในสิ่งที่อยู่ระหว่าง ศอเฮียะกับเมาดุอ หรือมีความหมายว่า สิ่งที่ฮาลาลนั้นชัดเจนและสิ่งที่ฮารามนั้นก็ชัดเจนแต่สิ่งที่อญู่ระหว่างมันนั้น ถ้าคุณทำไปแล้วก็แสดงว่าคุณกำลังตกอยู่ในความหายนะและถ้าคุณละทิ้งมัน คุณก็รักษาศาสนาเกียรติยศของคุณ
ฮะดิษนี้ จะเอามาเป็นแนวทางสำหรับเราในการปฏิบัติในเรื่องนี้ได้ไมครับ
Re: จากคำถามเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า By: al-azhary Date: ม.ค. 27, 2008, 04:18 PM
salam
ฮะดิษ ที่ว่า เมื่อคุณทำในสิ่งที่อยู่ระหว่าง ศอเฮียะกับเมาดุอ หรือมีความหมายว่า สิ่งที่ฮาลาลนั้นชัดเจนและสิ่งที่ฮารามนั้นก็ชัดเจนแต่สิ่งที่อญู่ระหว่างมันนั้น ถ้าคุณทำไปแล้วก็แสดงว่าคุณกำลังตกอยู่ในความหายนะและถ้าคุณละทิ้งมัน คุณก็รักษาศาสนาเกียรติยศของคุณ
ฮะดิษนี้ จะเอามาเป็นแนวทางสำหรับเราในการปฏิบัติในเรื่องนี้ได้ไมครับ

สิ่งดังกล่าว  ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย  คำว่าการปฏิบัติคุณงามความดี  ไม่ได้อยู่ในความคลุมเครือที่จะตกไปอยู่ในความฮะรอมหรือไม่ฮะรอม  แต่อยู่ในมาตรฐานที่ว่า  การปฏิบัติคุณงามความดีี้  เช่นดุอาอ์นี้  จำเป็นต้องกระทำหรือไม่จำเป็นต้องกระทำ  ดังนั้น  การปฏิบัติคุณงามความดีด้วยฮะดิษฏออีฟ  ไม่ใช่เป็นความหายนะ    แต่อยู่ระดับที่ว่าไม่วายิบต้องกระทำ  เพราะฉะนั้นจึงไม่มีนักปราชญ์ผู้มีคุณธรรมสักคนเดียวที่กล่าวว่า  การปฏิบัติคุณงามความดีด้วยฮะดิษฏออีฟเป็นความหายนะ  โปรดอ่านทบทวน :  หลักการปฏิบัติด้วยกับหะดิษฏออีฟตามทัศนะของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์

วัลลอฮุอะลัม
Re: จากคำถามเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า By: yala Date: ม.ค. 28, 2008, 04:58 PM
 salam
ผมหมายถึ่งการลูบหน้าหลังละหมาที่ทำเป็นประจำจนบางคนเห็นว่ามันเป็นหนึ่งในรุกน ละหมาด ไม่ใช่ดุอา นะครับ

Re: จากคำถามเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า By: philosophy Date: ม.ค. 28, 2008, 05:27 PM
 salam
เท่าที่ทราบมาไม่มีสุนัตให้ลูบหน้าหลังละหมาดครับ
 myGreat:
Re: จากคำถามเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า By: al-azhary Date: ม.ค. 28, 2008, 07:05 PM
salam
ผมหมายถึ่งการลูบหน้าหลังละหมาที่ทำเป็นประจำจนบางคนเห็นว่ามันเป็นหนึ่งในรุกน ละหมาด ไม่ใช่ดุอา นะครับ


บางคนที่บอกว่าว่าเป็นรุ่กุ่นน่ะ  เป็นใครหรือครับ?  ช่วยบอกชื่อ  จังหวัด  ให้ผมทราบหน่อยได้ไหมครับ  มิเช่นนั้นผมคงไม่เชื่อหรอกว่า จะมีบุคคลหนึ่งพูดว่า การลูบหน้าเป็นรุกุ่น   และฮะดิษลูบหน้านั้นมามันมาพร้อมดุอา

salam
เท่าที่ทราบมาไม่มีสุนัตให้ลูบหน้าหลังละหมาดครับ
 myGreat:

โปรดดูจากตำราที่เราได้อ้างอิงไปครับ 

ความจริงเรื่องการลูบหน้า  เป็นสุนัตแบบค่อฟีฟ (สุนัตที่ไม่เน้นหนักอะไร)  แต่คนบ้านเราบางท่านเห็นพี่น้องไม่ทำการลูบหน้า  แล้วถือเป็นเรื่องใหญ่โต  ซึ่งไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง  ส่วนพี่น้องที่เห็นคนอื่นลูบหน้า  แล้วฮุกุ่มว่าเป็นความหายนะ  เป็นบิดอะฮ์ดกนรก  นี่ก็เลยเุถิด  ซึ่งทัศนะคติของคนทั้งสองประเภทนี้ไม่ได้อยู่ในความดีังามตามแบบฉบับสะละฟุศศอลิห์สักคน
Re: จากคำถามเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า By: yala Date: ม.ค. 29, 2008, 09:46 AM
 salam
ความจริงเรื่องการลูบหน้า  เป็นสุนัตแบบค่อฟีฟ (สุนัตที่ไม่เน้นหนักอะไร)  แต่คนบ้านเราบางท่านเห็นพี่น้องไม่ทำการลูบหน้า  แล้วถือเป็นเรื่องใหญ่โต 
............
พวกเขาจะเรียกว่า เป็น วาฮาบี นะครับ(แทนคำว่าเป็นเรื่องใหญ่โต)
Re: จากคำถามเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า By: al-ciddix Date: ม.ค. 29, 2008, 11:01 AM
ความจริงเรื่องการลูบหน้า  เป็นสุนัตแบบค่อฟีฟ (สุนัตที่ไม่เน้นหนักอะไร)  แต่คนบ้านเราบางท่านเห็นพี่น้องไม่ทำการลูบหน้า  แล้วถือเป็นเรื่องใหญ่โต 
............
พวกเขาจะเรียกว่า เป็น วาฮาบี นะครับ(แทนคำว่าเป็นเรื่องใหญ่โต)

"""""""""""""""
แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นนะบังยะลา  พี่น้องคณะเก่านั้นมักจะโดนตำหนิมากกว่า  ถ้ายกมือขอดุอาหลังละหมาดแล้วจะเปฌนพวกบิดอะ
เพื่อนผมยังโดนเลยครับ             

 เพราะในเรื่องการตำหนิเรื่องนี้นั้น ท่านมูฮำมัดบินอับดุลวาฮาบนั้นท่านรับหลัการมาจากครูของท่าน และเมื่อท่านมีโอกาสปกครองและเผยแพร่แนวทางของตนที่แคว้น ญิฮาด(ซาอุฯ)ท่านเลยเดินตามทัศนะใหม่นี้มาตลอด  จนการเผยแพร่มาถึงเมืองไทย   การตำหนิว่ายกมือลูบหน้าหลังขอพรนั้นเป็นบิดอะที่ล่มหลง      นี่คือที่ผมได้รับมาครับบังยะลา
Re: จากคำถามเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า By: มุคลิศ Date: ม.ค. 30, 2008, 01:41 AM
ปัญหาเรื่องลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า  เป็นเรื่องคิลาฟิยะฮ์  อุลามาอ์ที่เขาไม่ลูบหน้าเขาก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร  เนื่องจากอีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามฮะดิษเกี่ยวกับเรื่องฟะฏออิลอะอฺมาล  ดังนั้นอุลามาอ์ยุคก่อนๆ เขาไม่ได้เอาเป็นเอาตายกับเรื่องลูบหน้า  ซึ่งแตกต่างกับพวกที่เอาเเป็นเอาตายเกี่ยวกับเรื่องลูบหน้า  ใครลูบหน้าถือว่าหายนะ ตกนรก  ซึ่งทัศนะคติเช่นนี้แหละ  คือแนวทางของวะฮาบีย์  และเป็นแนวทางของฟิรอูนที่ชอบบอกว่า ต้องตามข้าเท่านั้น  ข้าถูกคนเดียวเท่านั้น  เลยเอาเป็นเอาตายกับเรื่องลูบหน้า