Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: قطوف من أزاهير النور Date: เม.ย. 18, 2008, 10:06 PM
คำถามต่อไปละ เด้ก ๆ

แต่ว่าคนตอบได้ต้องถามต่อนิ่ งิๆ
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: ILHAM Date: เม.ย. 18, 2008, 10:11 PM
ไม่เป็นไร ผมถามแต่เองครับ ง่ายโคตรๆ
ถาม : ต้นไม้ในสวรรค์ที่นบีอาดัมกินเข้าไป ชื่อว่าอะไร
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: มัคลูเกาะห์☆~ Date: พ.ค. 08, 2008, 07:53 PM
คำถามต่อไปละ เด้ก ๆ

แต่ว่าคนตอบได้ต้องถามต่อนิ่ งิๆ
^
พี่ไม่ถาม บ้าง หรอ ค่ะ

Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: มัคลูเกาะห์☆~ Date: พ.ค. 08, 2008, 07:54 PM
ถาม : ต้นไม้ในสวรรค์ที่นบีอาดัมกินเข้าไป ชื่อว่าอะไร
^
ขอตอบ จ่ะ
ใช่ ต้น คุลดี้ หรือป่าว (เขียนถูกปะเนี่ย )
.
.
.
คอยฟังเฉลย น่ะ

Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: ILHAM Date: พ.ค. 09, 2008, 12:15 AM
ถูกต้องคับ สงสัยง่ายไป งั้นเอาใหม่ครับ
ถาม: ถ้าแมลงวันตกในน้ำซุปแล้วต้องทำยังไง
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: - ครูจริงใจ- Date: พ.ค. 09, 2008, 03:22 PM
ถาม: ถ้าแมลงวันตกในน้ำซุปแล้วต้องทำยังไง
^
จะตอบแล้ว นะ
ถ้าหากมีแมลงวันตกลงไปในถ้วยซุป อย่าเพิ่งตักขึ้นมาเด็ดขาด ให้กดแมลงวันให้จม น้ำซุป เพราะ ปีกของแมลงวัน ข้างหนึ่งเป็นพิษ อีกข้างหนึ่งเป็นยารักษาโรค
เราไม่รู้ว่า ปีกที่จมลงไปเป็นพิษ หรือ ยารักษาโรค ดังนั้น จึงต้องกดลงไปทั้งตัว เพื่อ ล้างพิษดังกล่าว (<< มั่วเอา )
ถุกป่าวน๊า

Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: - ครูจริงใจ- Date: พ.ค. 09, 2008, 03:31 PM
^
น่า จะถูก นะ
ไปเจอฮาดิษ นี้มา สำทับซะหน่อย ฮุฮุ

ฮะดีษท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวว่า
( إِذَا وَقَعَ الذُّبَابُ فِيْ إِنَاءِ أَحَدِكُمْ فَلْيُغْمِسْهُ فَإِنَّ فِيْ أَحَدِ جَنَاحَيْهِ دَاءً وَفِي اْلآخَرِ شِفَاءً ) "เมื่อแมลงวันตกลงไปในภาชนะของใครคนหนึ่งของพวกท่าน ให้เขากดมันให้จม เพราะในปีกข้างหนึ่งของมันมีโรค และปีกอีกข้างหนึ่งของมันมียา"
ฮะดีษนี้เป็นฮะดีษซอเฮียะห์ รายงานโดยบุคอรี
หรือไปอ่านรายละเอียดได้ ลิงค์นี้เลย เจ้าค่ะ >>
http://www.miftahbandon.org/articles_003.htmlผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ เจ้า

Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: Bahebak Date: พ.ค. 09, 2008, 04:14 PM
salam
สำหรับคำถามนี้
ไปอ่านเจอข้อความหนึ่ง ลองอ่านดูนะคะ
...
ถาม / ฮะดีษท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวว่า
( إِذَا وَقَعَ الذُّبَابُ فِيْ إِنَاءِ أَحَدِكُمْ فَلْيُغْمِسْهُ فَإِنَّ فِيْ أَحَدِ جَنَاحَيْهِ دَاءً وَفِي اْلآخَرِ شِفَاءً )
"เมื่อแมลงวันตกลงไปในภาชนะของใครคนหนึ่งของพวกท่าน ให้เขากดมันให้จม เพราะในปีกข้างหนึ่งของมันมีโรค และปีกอีกข้างหนึ่งของมันมียา"
ฮะดีษนี้เป็นฮะดีษซอเฮียะห์หรือไม่ ? คนที่ปฏิเสธฮะดีษนี้หรือสงสัย จะหลุดพ้นไปจากศาสนาหรือไม่ ? นายแพทย์บางคนถึงกับดูหมิ่นดูแคลนผู้ที่เชื่อถือฮะดีษนี้ เพราะเป็นที่รู้กันดีในวิชาการแพทย์ว่า แมลงวันเป็นพาหะนำโรคและยังไม่มีใครนำแมลงวันมาเป็นยารักษาโรค แล้วทำไมฮะดีษนี้จึงกล่าวว่า และปีกอีกข้างหนึ่งของมันมียา
กรุณาอธิบายให้ทราบอย่างละเอียดด้วย เพราะมีการโต้เถียงกันมากเกี่ยวกับฮะดีษนี้
ตอบ / ขอตอบโดยสรุปดังต่อไปนี้
1. ฮะดีษนี้เป็นฮะดีษซอเฮียะห์ รายงานโดยบุคอรี แต่ไม่ใช่เป็นฮะดีษที่รายงานสอดคล้องกัน โดยบุคอรีและมุสลิม เป็นที่รู้กันดีว่า ฮะดีษที่รายงานโดยบุคอรี เป็นที่ยอมรับของประชาชาติอิสลามทุกยุคทุกสมัย และไม่พบว่ามีนัก วิชาการในยุคก่อนสงสัยฮะดีษนี้ หรือพูดตำหนิในสายรายงานและตัวบทฮะดีษนี้
2. ฮะดีษนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการอธิบายถึงหลักการศาสนา ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับพระเจ้าหรือนบี หรือเรื่องที่เร้นลับ และไม่ได้ระบุถึงหน้าที่พึงปฏิบัติทั้งส่วนบุคคลและส่วนรวม และไม่ได้ระบุถึงสิ่งอนุมัติ(ฮะลาล) และสิ่งต้องห้าม(ฮะรอม) แต่อย่างใด และไม่ใช่เป็นฮะดีษที่บัญญัติการจัดระเบียบครอบครัว สังคม ประเทศและความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องจริยธรรมและคุณธรรม
ถ้าหากมีมุสลิมคนใดที่ตลอดอายุขัยของเขา ไม่ได้อ่านฮะดีษนี้ หรือไม่เคยได้ยิน ศาสนาของเขาก็ไม่บกพร่องอะไร ทั้งในด้านหลักศรัทธาและด้านการปฏิบัติ ถ้าหากเราจะทำทีเป็นยอมจำนนต่อคำคัดค้านและทิ้งฮะดีษนี้ไปจากซอเฮียะห์บุคอรี ก็ไม่ทำให้ศาสนาของอัลเลาะห์ต้องเสียหายแต่ประการใด
ดังนั้นจึงไม่มีทางที่พวกปฏิเสธ จะเอาฮะดีษนี้มากล่าวหาศาสนาของอัลเลาะห์ได้ เพราะศาสนาอิสลามได้หยั่งรากลึก เกินกว่าจะถูกสั่นคลอนด้วยเรื่องเช่นนี้
3. ฮะดีษนี้แม้จะเป็นฮะดีษซอเฮียะห์ แต่ตามหลักวิชาฮะดีษเรียกว่า ฮะดีษอาฮาต (หมายถึงฮะดีษที่นักรายงานในแต่ละยุค รายงานจากกันด้วยจำนวนไม่มาก) ไม่ถึงขั้นเป็นฮะดีษมุตะวาติร (ซึ่งมีผู้รายงานในแต่ละยุคจำนวนมาก) ที่จำเป็น ต้องมั่นใจอย่างเต็มที่ และปฏิบัติตาม
ฮะดีษอาฮาด แม้จะรายงานโดยบุคอรีและมุสลิมหรือท่านใดท่านหนึ่งก็ตาม นักวิชาการมีทัศนะแตกต่างกันว่า จำเป็นต้องรับรู้อย่างมั่น ใจในฮะดีษนั้น (ก็อตอีย์) หรือรับรู้อย่าง (ซอนนีย์) หรือจำเป็นต้องรับรู้โดยมีเงื่อนไข ? การมีทัศนะที่แตกต่างกันนี้ ถือเป็นการเพียงพอแล้วที่จะกล่าวว่า ผู้ที่ปฏิเสธฮะดีษอา ฮาดนั้น เป็นผู้ที่เกิดความคลุมเครือในตัวเขา และสงสัยว่าเป็นฮะดาที่พาดพิงถึงท่านนบี (ซ.ล.) หรือไม่ ? จะไม่เป็นผู้ที่หลุดออกไปจากศาสนาอิสลาม เพราะไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่จำเป็นต้องรับรู้อย่างมั่นใจ (ก็อตอีย์) ที่นักวิชาการเรียกว่า เป็นเรื่องศาสนาที่รู้ได้โดยง่าย แต่ที่จะหลุดพ้นไปจากศาสนาก็คือ ผู้ที่นำเอาฮะดีษนี้มาเป็นเครื่องมือในการดูหมิ่น ศาสนา เพราะการทำเช่นนั้นถือว่าเป็นกุฟร์อย่างชัดเจน
4. สำหรับเนื้อหาของฮะดีษนี้ และความเกี่ยวพันกับวิชาการทางการแพทย์นั้น ได้มีนักวิชาการด้านการแพทย์และนักการศาสนา ได้ออกมาปกป้องฮะดีษนี้กันมากมายหลายท่าน ในโอกาสต่างๆ โดยอ้างอิงถึงบทวิจัยและการศึกษาค้นคว้าของนักวิชาการตะวันตก ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน และได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารอิสลามหลายเล่ม ในวาระต่างๆ กันมาบ้างแล้ว
และในที่นี้ข้าพเจ้าขอนำเอาการโต้ตอบครั้งล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร อัตเตาฮีด ของอียิปต์ ลำดับที่ 5 ฮ.ศ. 1367 หรือ ค.ศ. 1977 ซึ่งเป็นของอาจารย์ ดร.อะมีน ริดอ อาจารย์ศัลยกรรมกระดูก มหา วิทยาลัยอเล็กซานเดรีย หลังจากมีบทความของนายแพทย์บางคนที่สงสัยฮะดีษนี้
ดร.อะมีน ริดอ ได้กล่าวไว้ในนิตยสาร เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 1977 ว่า มีเพื่อนที่เป็นนายแพทย์คนหนึ่งปฏิเสธตัวบทฮะดีษที่กล่าวถึงเรื่องแมลงวัน โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์โดยไม่ได้ปฏิเสธสายรายงานฮะดีษ และโดยอาศัยการโต้ตอบกันอย่างสันติ ที่นิตยสารฉบับดังกล่าวได้เริ่มต้นข้าพเจ้าเห็นควรที่จะ คัดค้านนายแพทย์คนดังกล่าวดังต่อไปนี้
หนึ่ง / เขาไม่มีสิทธิปฏิเสธฮะดีษนี้ หรือฮะดีษอื่นๆของท่านนบี (ซ.ล.) เพียงเพราะไม่สอดคล้องกับวิชาการสมัยใหม่ วิชาการจะพัฒนาการและเปลี่ยนแปลงไป และอาจถึงขั้นพลิกทฤษฎี
ทฤษฎีทางวิชาการที่บอกถึงสิ่งหนึ่งว่า ถูกต้องแล้วในวันนี้ และอีกไม่กี่วันต่อมาก็บอกว่าไม่ถูกต้องหรือผิดพลาด ในเมื่อทฤษฎีทางวิชาการยังเป็นอย่างนี้ แล้วเราจะพูดได้อย่างไรว่าฮะดีษมีข้อผิดพลาด โดยนำไปเปรียบเทียบกับวิทยาการสมัยใหม่ และเราจะต้องกลับคำพูด แลพูดว่าฮะดีษถูกต้องแล้ว เมื่อทฤษฎีทางวิชาการ มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอย่างนั้นหรือ ?
สอง / เขาไม่มีสิทธิปฏิเสธฮะดีษนี้หรือฮะดีษอื่น เพราะไม่สอดคล้องกับความคิดของเขา ข้อบกพร่องของการไม่สอดคล้องนี้ ไม่ได้เกิดจากฮะดีษแต่เกิดจากความคิด คนที่ให้ความสำคัญกับวิทยาการสมัยใหม่ จะให้เกียรติแก่ความคิดอย่างมากมาย และการให้เกียรติความคิดก็คือ เราต้องนำเอาความรู้มาเปรียบเทียบกับ
ความไม่รู้ ความรู้คือประสบการณ์ที่สร้างสมกันมานาน หลายยุคหลายสมัย เพื่อหยั่งความลึกของสิ่งที่ไม่รู้ ความไม่รู้คือทุกสิ่งที่เราไม่รู้ และในทางทฤษฎีแล้วถือว่า ความรู้ยังไม่สิ้นสุด เพราะถ้ามิเช่นนั้นความก้าวหน้าของมนุษย์ก็จะต้องยุติลง และความไม่รู้ก็ไม่มีขอบเขต หลักฐานในเรื่องนี้ก็คือวิทยาการมีความเจริญก้าวหน้า และมีการค้นพบอยู่ตลอด เวลา ผู้ที่มีความคิดที่มีใจเป็นกลางจะรู้ว่า วิทยาการนั้นยิ่งใหญ่แต่ความไม่รู้นั้นมหาศาลกว่า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่เราจะปล่อยให้วิทยาการมาหลอกลวงเราและไม่จำเป็นที่จะปล่อยให้วิทยาการมาทำให้เรามองไม่เห็นความไม่รู้ที่เรากำลังแหวกว่ายอยู่ ถ้าเรากล่าว่าวิทยาการในปัจจุบันคือทุกสิ่ง ในที่สุดก็จะนำเราไปสู่การหลงตัวเอง และหยุดความก้าวหน้า และรบกวนความคิด ทั้งหมดนี้จะทำลายการตัดสินของเราในเรื่องต่างๆ และทำให้เรามืดบอดจากข้อเท็จจริง แม้จะอยู่เบื้องหน้าเราก็ตาม และทำให้เอาสิ่งที่ถูกเป็นผิด และสิ่งที่ผิดเป็นถูก
สาม / ไม่ถูกต้องที่กล่าวว่าในทางการแพทย์ ไม่มีการรักษาโดยใช้แมลงวัน ข้าพเจ้ามีหลักฐานเก่าแก่หลายชิ้น ที่อ้างถึงการรักษาโรคต่างๆ โดยใช้แมลงวันในยุคใหม่ ศัลยแพทย์ทั้งหมดที่อยู่ในยุคหลายสิบปี ก่อนที่จะค้นพบยาซัลฟา (คือประมาณ 70 ปีมาแล้ว) พวกเขาได้เห็นด้วยตาตนเองถึงการรักษากระดูกที่แตกแล้วแตกอีก และบาดแผลเรื้อรังด้วยแมลงวัน แมลงวันถูกเลี้ยงไว้เพื่อการนี้ โดยเฉพาะการรักษานี้ดำเนินไปเพราะมีการค้นพบไวรัสของแบคทีเรีย ที่สังหารเชื้อโรค (bacteriophage) โดยอาศัยพื้นฐานที่ว่าแมลงวัน จะเป็นพาหะนำเชื้อโรค ที่เป็นสมติุฐานของโรคในขณะเดียวกับที่มันจะนำไวรัสของแบคทีเรีย ที่จะจู่โจมเชื้อโรคเหล่านี้ คำว่า แบคทีเรียเฟก แปลว่า ตัวกินเชื้อโรค มีสิ่งที่ควรนำกล่าวในที่นี้ด้วยก็คือ การค้นคว้าเรื่องการรักษาบาดแผลด้วยแมลงวันที่ต้องยุติลงนั้น ไม่ใช่เพราะการรักษาด้วยวิธีการนี้ล้มเหลว แต่เป็นเพราะการค้นพบสารซัลฟา ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิชาการให้ความสำคัญเป็นอย่างมากนั่นเอง
สี่ / ในฮะดีษนี้เป็นการบอกให้รู้ถึงสิ่งเร้นลับว่า มีพิษอยู่ในแมลงวัน นี่เป็นสิ่งที่วิทยาการค้นไม่พบจนถึงสองศตวรรษท้ายนี้ และก่อนหน้านั้นนักวิชาการอาจกล่าวหาฮะดีษนบีว่าโกหก เพราะเห็นว่าไม่มีสิ่งที่เป็นพิษอยู่ในแมลงวัน
ห้า / ถ้าหากสิ่งที่เราจะเอามาจากแมลงวัน เป็นเชื้อโรคที่แมลงวันเป็นพาหะนำมา ก็จำเป็นต้องระมัดระวังสิ่งที่เรารู้ ที่จะกล่าวต่อไปนี้ไม่ถูกต้องที่ว่า เชื้อโรคที่แมลงวันเป็นพาหะนำมา เป็นเชื้อโรคที่มีอันตราย หรือเป็นเหตุให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ถูกต้องว่า ปริมาณเชื้อโรคที่แมลงวันหนึ่งตัวหรือสองตัว เพียงพอที่จะทำให้เกิดโรคแก่บุคคลที่ได้รับเชื้อโรคนี้เข้าไป ไม่ถูกต้องที่ว่า ร่างกายของคนเรามีฉนวนป้องกันเชื้อโรคที่เป็นอันตรายได้โดยเด็ดขาด เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะถ้าหากเป็นไปได้ ก็จะเป็นอันตรายใหญ่หลวงแก่มนุษย์เอง เนื่องจากร่างกาย จะไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ เพราะร่างกายมนุษย์เมื่อได้รับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายในปริมาณเล็กน้อยและบ่อยครั้ง จะทำให้เกิดภูมิต้านทานเชื้อโรคนี้ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
หก / ในฮะดีษนี้เป็นการบอกให้รู้ว่า มีสิ่งหนึ่งอยู่ในตัวของแมลงวัน ที่จะต่อสู้กับพิษที่มันเป็นพาหะนำมา วิทยาการสมัยใหม่บอกให้เรารู้ว่าสิ่งที่มีชีวิตที่ละเอียดอ่อน เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา มันจะจู่โจมกันอย่างไม่ปราณีมันจะสังหารอีกฝ่ายหนึ่งด้วยการปล่อยสารพิษ และสารพิษบางชนิดนี้สามารถนำมาใช้รักษาโรคได้ และนี่คือสิ่งที่เรียกว่า ปฏิชีวนะ เช่น เพนนิสลิน เป็นต้น
เจ็ด / สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่รู้ และยังไม่พบในวิทยาการที่เกี่ยวกับเชื้อโรค จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่อาจคาดเดาได้ เป็นไปได้ที่มันยังมีอีกมากยิ่งกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายไว้ ดังนั้นเราจะต้องหยุดพิจารณาสักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินลงไปว่า ฮะดีษนี้ไม่ถูกต้อง
แปด / ฮะดีษบทนี้ไม่ได้เชิญชวนผู้ใดให้จับแมลงวัน แล้วนำไปใส่ลงในภาชนะ และไม่ได้ส่งเสริมให้เปิดภาชนะทิ้งไว้ ไม่ได้ส่งเสริมให้ละเลยการทำความสะอาดบ้านเรือนและถนนหน ทางและไม่ดูแลบ้านโดยปล่อยให้แมลงวันเข้าไป
เก้า / ผู้ใดที่มีแมลงวันตกลงไปในภาชนะของเขา และเขารู้สึกขยะแขยง และไม่สามารถรับประทานสิ่งที่อยู่ในภาชนะนั้นได้ ศาสนาก็ไม่ได้บังคับเขาให้ต้องรับประทาน
สิบ / ฮะดีษนี้ไม่ได้ห้ามนายแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่จะขจัดและปราบแมลงวัน และคงไม่มีนักวิชาการศาสนาคนใดคิดว่า ฮะดีษนี้เชิญชวนผู้คนให้ตั้งฟาร์มเลี้ยงแมลงวัน หรือเชิญชวนให้ละเลยการปราบแมลงวัน ถ้าใครทำเช่นนั้นหรือเชื่อเช่นนั้น เขาจะตกอยู่ในความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของเชคยูซุฟ อัลกอรดอวีย์
แปลและเรียบเรียงโดย อบูมัจดี้
Ref ;
http://www.miftahbandon.orgคัดลอกจาก
ความมหัศจรรย์ของอัลหะดิสเรื่องแมลงวัน วัสลามุอะลัยกุม
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: ILHAM Date: ส.ค. 07, 2008, 05:05 PM
คำถามหายไปเยอะเลยครับ งั้นถามใหม่
ประโยคที่ว่า بسم الله الرحمن الرحيم ในอัลกุรอาน มีทั้งหมดเท่าไหร่
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: ILHAM Date: ส.ค. 10, 2008, 03:54 AM
สงสัยจะถามเกินไปมั้งครับ ไม่มีคนตอบเลย
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: JawhaR Date: ก.ย. 13, 2008, 09:25 AM
คำถามหายไปเยอะเลยครับ งั้นถามใหม่
ประโยคที่ว่า بسم الله الرحمن الرحيم ในอัลกุรอาน มีทั้งหมดเท่าไหร่
114 ป่ะ เดาอะ
เพราะมี 114 ซูเราะห์ เฮอๆ

คำถามยากๆ ทั้งนั้นเลย ผมตอบได้ 2-3 ข้อเองอะ
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: JawhaR Date: ก.ย. 13, 2008, 01:03 PM
salam
ยังค้างการนำเสนอ เด็กที่พูดได้ตั้งแต่ ยังเด็ก อีกคน ค่ะ
;D
นึกขึ้นได้ ก้อเลย เข้ามานำเสนอ ซะ
.........................................................................................
คนที่ 4
บุตรของผู้หวีเกศาของธิดาฟิรอูน
ขณะที่นางกำลังหวีพระเกศสของธิดากษัตริย์ฟิรอูน หวีบังเอิญพลัดตกจากมือของนางไปยังบนพื้น นางก้อร้องออกมาด้วยความตกใจ ว่า ด้วยพระนามของอัลลอฮ ( ซบ) ขอให้ฟิรอูนประสบความหายนะ ธิดาฟิรอูนได้ฟังก้อถามว่า
" เธอนะ มีพระเจ้าอื่นนอกจากบิดาของฉันอีกหรือ "
( ครั้งนั้น ฟิรอูนได้ตั้งตนเป็นพระเจ้า )
นางจึงตอบออกไปว่า
" มีพะยะค่ะ "
ธิดาฟิรอูนพูดขู่พร้อมล้อเล่น ว่า
" ถ้าอย่างนั้น ฉันจะไปฟ้องพระราชบิดา เธอจะยินดีหรือ ไม่ "
นางจึงทูลตอบไปว่า
" ไม่เป็นไร เชิญพระองค์ไปทูลเถิด "
ธิดาฟิรอูนจึงได้ไปทูลบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ แก่พระราชบิดาของเธอฟังทุกประการ ครั้นกษัตริย์ฟิรอูนได้ทราบเรื่องแล้วก้อบังเกิด ความโมโหเป็นอย่างมาก
จึงรับสั่งให้เรียกนางผู้มีหน้าที่ หวีพระเกศา มาเข้าเฝ้าและสอบถามนาง ว่า
" เธอมีพระเจ้าอื่นนอกจากฉันอีกหรือ "
นางจึงทูลตอบว่า
" มีพะยะค่ะ พระเจ้าของหม่อมฉันเป็นพระเจ้าของฝ่าพระบาทด้วย นั่น คือ อัลลอฮ (ซบ) ซึ่งเป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้ องค์เดียวเท่านั้น "
เดี๋ยวมาต่อให้น่ะค่ะ
salam
รออ่านต่อ อยู่นะคร๊าบบบบ

Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: ILHAM Date: ก.ย. 13, 2008, 04:08 PM
ต่อเรื่องบิสมิลลัฮครับ
ที่ว่าไปก็ถูกน่ะแหละ มี114ซูเราะห์ แล้วก็ซูเราะห์เตาบัฮไม่เริ่มด้วยบิสมิลลัฮ
ที่จริงซูเราะห์ที่เริ่มด้วยบิสมิลลัฮมีทั้งหมด113ซูเราะห์ยกเว้นซูเราะห์เตาบัฮ แต่มีอยู่อีกอัน อยู่ในซูเราะห์มด ดังนั้นซูเราะห์มดจึงมี2บิสมิลลัฮ รวมทั้งหมดก็ได้114พอดี
คำว่าบิสมิลลัฮนั้นหมายถึงบิสมิลลาฮิรรอฮมานิรรอฮีม นะครับ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ขี้เกียจพิมพ์ยาว
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: JawhaR Date: ก.ย. 13, 2008, 04:32 PM
ต่อเรื่องบิสมิลลัฮครับ
ที่ว่าไปก็ถูกน่ะแหละ มี114ซูเราะห์ แล้วก็ซูเราะห์เตาบัฮไม่เริ่มด้วยบิสมิลลัฮ
ที่จริงซูเราะห์ที่เริ่มด้วยบิสมิลลัฮมีทั้งหมด113ซูเราะห์ยกเว้นซูเราะห์เตาบัฮ แต่มีอยู่อีกอัน อยู่ในซูเราะห์มด ดังนั้นซูเราะห์มดจึงมี2บิสมิลลัฮ รวมทั้งหมดก็ได้114พอดี
คำว่าบิสมิลลัฮนั้นหมายถึงบิสมิลลาฮิรรอฮมานิรรอฮีม นะครับ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ขี้เกียจพิมพ์ยาว

55+ 1 แต้ม
งั้นผมถามนะครับ
ก็อตยานีย์ คืออะไร?ปล.จิงๆ แล้วไม่รู้เฉลยอะ พอดีอยากรู้ ตั้งกะทู้ไว้ก็ไม่มีใครตอบอะ
ผิดกฏ ป่ะเนี่ยะ
Re: มาเล่นถามตอบกันนะครับ (ทายปัญหาศาสนา) By: ILHAM Date: ก.ย. 13, 2008, 08:13 PM
ที่ผมเรียนมามีฮาเดสหนึ่งว่านบีกล่าวว่า ไม่มีนบีอีกหลังจากท่านนอกจากความประสงค์ของอัลลอฮ
เมื่อฟังดูแล้วก็เข้าท่าดีนะครับ แต่มันเป็นไปไม่ได้ และฮาเดสนี้ก็เป็นฮาเดสมอเดาะ