แปลหนังสืออัตตัซฮีบฟีอะดิลล่าติมัตนิลฆอยะฮ์วัตตักรีบ(เรื่องการฟอกหนัง) By: al-azhary Date: ธ.ค. 28, 2007, 09:02 PM
بسم الله الرحمن الرحيم
ีقال المصنف رحمه الله تعالي ونفعنا بعلومه فى الدارين
تَطْهِيْرُ جُلُوْدِ الْمَيْتَةِ
فَصْلٌ:وَجُلُوْدُ الْمَيْتََةِ تَطْهُر بِالدِّبَاغِ (1) إِلاَّ جِلْدَ الْكَلْبِ وَالْخِنْزِيْرِ (2) وَمَا تَوَّلَدَ مِنْهُمَا أَوْ مِنْ أَحَدِهِمَا.
وَعَظْمُ الْمَيْتَةِ وَشَعْرَهَا نَجِسٌ إلاَّ الآدَمِيَّ (3) .
การฟอกหนัง
บรรดาหนังสือของซากสัตว์ที่ตายเอง จะสะอาดได้ด้วยการฟอกหนัง (1) นอกจากหนังของสุนัขและสุกร (2) และสิ่งที่เกิดออกมาจากทั้งสองหรือตัวใดจากทั้งสอง และกระดูกและเส้นผมของซากสัตว์ที่ตายแล้ว เป็นนะยิส นอกจากของมนุษย์ (3)
---------------------------------------
(1) รายงานโดยมุสลิม (366) จากท่านอิบนุอับบาส รอฏิยัลลอฮุอันฮุมา เขากล่าวว่า ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "เมื่อหนังสัตว์ถูกฟอก แท้จริงมันก็สะอาด"
หมายถึงส่วนเกินที่ติดอยู่ที่หนังหรือส่วนที่เปียกซึ่งทำให้หนังสือเน่าเปลื่อย โดยหากนำไปแช่น้ำหลังจากฟอกแล้วจะไม่กลับไปมีกลิ่นเหม็น
(2) เพราะทุก ๆ จากทั้งสองนั้นเป็นนะยิสขณะที่มีชีวิตอยู่ ดังนั้นส่วนอวัยวะของมันจะไม่สะอาดยิ่งกว่าหลังจากที่มันตายแล้ว
(3) เพราะอัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงตรัสความว่า "ซากสัตว์นั้นถูกบัญญัติห้ามเหนือพวกเจ้า" อัลมาอิดะฮ์ 3
คำว่า "ซากสัตว์" คือ สัตว์ทุกชนิดที่ไม่มีชีวิตโดยปราศจากการเชือดตามหลักศาสนา ดังนั้นจึงกล่าวอยู่ภายใต้สิ่งดังกล่าว คือ สัตว์ที่รับประทานเนื้อมันไม่ได้ เมื่อถูกนำมาเชือด เช่น ลา และสัตว์ที่รับประทานเนื้อได้ แต่ไม่ครบเงื่อนไขของการเชือด เช่น สัตว์ที่เชือดโดยคนตกศาสนา ถึงหากแม้นว่าสัตว์ดังกล่าวจะไม่มีโทษต่อสุขภาพก็ตาม และเมื่อเราได้ยอมรับตามสิ่งดังกล่าวนี้ ดังนั้น การห้ามซากสัตว์ ย่อมเป็นหลักฐานว่ามันเป็นนะยิส เพราะการห้ามสิ่งที่ไม่มีโทษอันใดและไม่ต้องให้เกียรติแก่มันนั้น ย่อมชี้ถึงการที่มันเป็นนะยิส และการเป็นนะยิสของมันนั้น ส่วนอวัยวะต่าง ๆ ก็เป็นนะยิสติดตามมาด้วย
สำหรับมนุษย์ ศพของเขาไม่เป็นนะยิส และอวัยวะของเขาก็เช่นเดียวกัน เพราะอัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "แท้จริงเราได้ให้เกียรติลูกหลานอาดัม" อัลอิสรออฺ 70 และคำตรัสของพระองค์นี้ ได้ให้การปฏิเสธทัศนะที่กล่าวว่ามนุษย์เป็นนะยิสหลังจากตายไปแล้ว และการห้ามรับประทานเนื้อมนุษย์นั้นเพื่อมนุษย์นั้นมีเกียรติ
วัลลอฮุอะลัม
Re: แปลหนังสืออัตตัซฮีบฟีอะดิลล่าติมัตนิลฆอยะฮ์วัตตักรีบ(เรื่องการฟอกหนัง) By: al-azhary Date: ธ.ค. 29, 2007, 07:46 PM
อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะรอกาตุฮ์
พี่น้องท่านใดที่มีหนังสือฟิกห์ชาฟิอีย์ฉบับภาษาไทย ภาษามาลายู หรือภาษาอาหรับ โดยต้องการนำเสนออธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้ความรู้แก่พี่น้อง ก็เชิญนำเสนอโดยมีการอ้างอิงด้วยนะครับ
กล่าวคือ ผู้ใดมีหนังสือ อิอานะตุฏฏอลิบีน , หนังสือก๊อลยูบีย์ , หนังสือบุญัยรีมีย์ , หนังสือบาญูรี , หรือหนังสืออื่น ๆ ก็ทำการค้นคว้า และแปลลงในกระทู้นี้ที่เกี่ยวกับเรื่องของมัน และทำการอ้างอิงระบุเล่มและหน้าด้วย ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ
วัสลาม
Re: แปลหนังสืออัตตัซฮีบฟีอะดิลล่าติมัตนิลฆอยะฮ์วัตตักรีบ(เรื่องการฟอกหนัง) By: ILHAM Date: ธ.ค. 30, 2007, 10:16 PM
السلام عليكم
ผมไม่มีอะไรจะนำเสนอหรอกครับ
แต่ผมได้ยินมาว่าสัตว์ที่ถูกเชือดด้วยชาวคัมภีร์นั้นกินได้จริงหรือครับ
Re: แปลหนังสืออัตตัซฮีบฟีอะดิลล่าติมัตนิลฆอยะฮ์วัตตักรีบ(เรื่องการฟอกหนัง) By: al-azhary Date: ธ.ค. 30, 2007, 11:56 PM
แต่ผมได้ยินมาว่าสัตว์ที่ถูกเชือดด้วยชาวคัมภีร์นั้นกินได้จริงหรือครับ
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
จริงซิครับ เพราะอัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงตรัสไว้ความว่า
وَطَعَامُ الَّذِينَ أُوتُواْ الْكِتَابَ حِلٌّ لَّكُمْ وَطَعَامُكُمْ حِلُّ لَّهُمْ
"และอาหารของบรรดาคำภีร์นั้น อนุมัติสำหรับพวกเจ้า และอาหารของพวกเจ้า ก็เป็นที่อนุมัติสำหรับพวกเขา" อัลมาอิดะฮ์ 5
วัลลอฮุอะลัม
Re: แปลหนังสืออัตตัซฮีบฟีอะดิลล่าติมัตนิลฆอยะฮ์วัตตักรีบ(เรื่องการฟอกหนัง) By: abiatiya Date: ธ.ค. 31, 2007, 08:46 AM
وَطَعَامُ الَّذِينَ أُوتُواْ الْكِتَابَ حِلٌّ لَّكُمْ وَطَعَامُكُمْ حِلُّ لَّهُمْ
"และอาหารของบรรดาคำภีร์นั้น อนุมัติสำหรับพวกเจ้า และอาหารของพวกเจ้า ก็เป็นที่อนุมัติสำหรับพวกเขา" อัลมาอิดะฮ์ 5
วัลลอฮุอะลัม
Assalamualaikom ครับ...ท่าน อัล-อัซอารี
คืองี้ครับ ผมอ่านข้อความข้างต้นแล้วเกิดความสงสัยในส่วนของคำว่าชาวคัมภีร์น่ะครับ โดยชาวคัมภีร์ที่อ้างถึงนั้น จะหมายถึงว่า
1.
เฉพาะกลุ่มชนที่เป็นอูมัติ ของท่านนาบี อีซา (อ.ส.) และหรือ ท่านนบี มูซา (อ.ส.) ที่ยังศรัทธาต่อ กีตับอินญีล และ กีตับเตาร็อต (โดยดังเดิมที่ยังไม่มีการแก้ไข ซึ่งแทบจะหาไม่ได้ในปัจจุบันนี้) และ
2.
ไม่รวมไปถึงพวก นิกายแยกย่อยๆต่างๆมั้ย เช่นพวกออทอด็อก.. โปรแตสแต็น...ฯลฯ
เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ผิดถูกช่วยแนะนำ
:jazakallah
Re: แปลหนังสืออัตตัซฮีบฟีอะดิลล่าติมัตนิลฆอยะฮ์วัตตักรีบ(เรื่องการฟอกหนัง) By: al-azhary Date: ม.ค. 03, 2008, 10:02 AM
Assalamualaikom ครับ...ท่าน อัล-อัซอารี
คืองี้ครับ ผมอ่านข้อความข้างต้นแล้วเกิดความสงสัยในส่วนของคำว่าชาวคัมภีร์น่ะครับ โดยชาวคัมภีร์ที่อ้างถึงนั้น จะหมายถึงว่า
1. เฉพาะกลุ่มชนที่เป็นอูมัติ ของท่านนาบี อีซา (อ.ส.) และหรือ ท่านนบี มูซา (อ.ส.) ที่ยังศรัทธาต่อ กีตับอินญีล และ กีตับเตาร็อต (โดยดังเดิมที่ยังไม่มีการแก้ไข ซึ่งแทบจะหาไม่ได้ในปัจจุบันนี้) และ
2. ไม่รวมไปถึงพวก นิกายแยกย่อยๆต่างๆมั้ย เช่นพวกออทอด็อก.. โปรแตสแต็น...ฯลฯ
เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ผิดถูกช่วยแนะนำ
:jazakallah
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
ประเด็นของชาวอะฮ์ลุลกิตาบนี้ ผมเองก็เคยสงสัยมากเหมือนกันครับ เคยมีโอกาศได้เรียนและตั้งคำถามกับ ศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์ มุฮัมมัด กะม้าลุดดีน อิมาม ซึ่งเป็นอาจารย์สอนที่คณะนิติศาสตร์อิสลาม และเป็นคณะกรรมร่างรัฐธรรมนูญของอียิปต์ ซึ่งผมได้ถามท่านเกี่ยวกับเรื่องอะฮ์ลุลกิตาบหรือพวกชาวตริสต์ ในปัจจุบัน เพราะพวกเขาถือว่าเป็นพวกมุชริกีน เพราะมีพระเจ้าแบ่งเป็นภาค ซึ่ง ท่านตอบว่า
ประเด็นของอะฮ์ลุลกิตาบนั้น แบ่งออกเป็น 2 นัยยะ
1. อัลเอี๊ยะอฺติกอดีย์ (ด้านการยึดมั่น)
2. อัตตัชรีอีย์ (ด้านของนิติศาสตร์ - หลักปฏิบัติ)
ซึ่งหลักเอี๊ยะอฺติก๊อตนั้น อิสลามไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอะฮ์ลุลกิตาบ ส่วนหลักของอัตตัชรีอีย์ (หลักปฏิบัติ) มีความเกี่ยวข้องกันตามที่อัลกุรอานได้กล่าวไว้ เช่น มุสลิมสามารถแต่งงานกับสตรีอะฮ์ลุลกิตาบได้ และอาหารของอะฮ์ลุลกิตาบเป็นที่อนุัมัติสำหรับมุสลิม และอะฮ์ลุลกิตาบสมัยท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็อยู่ในฮุกุ่มเกี่ยวกับกันชาวคริสต์ในปัจจุบัน
และผมเองก็ตั้งคำถามขึ้นมาเหมือนกันว่า ตอนที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานอัลกุรอานลงมาเกี่ยวกับเรื่อง การแต่งงานที่มุสลิมอนุมัติให้แต่งงานสตรีของอะฮ์ลุลกิตาบและเรื่องอาหารของพวกเขาอนุมัติสำหรับมุสลิมนั้น พวกอะฮ์ลุลกิตาบในยุคนั้นก็มีหลักการที่บิดเบือนอยู่แล้ว แต่เหตุใดอัลเลาะฮ์ถึงอนุมัติในบางกรณีของหลักฟิกฮ์(ตัชรีอีย์)?
แต่เคยอ่านคำฟัตวาของท่าน ชัยค์ ด๊อกเตอร์ รอมะฏอน อัลบูฏีย์ ซึ่งระบุว่า ชาวคริสต์ในยุคปัจจุบัน ไม่เหมือนกับอะฮ์ลุลกิตาบยุคก่อน
สรุปว่า ความเข้าใจของอุลามาอ์ปัจจุบันเกี่ยวกับชาวคริสต์นั้น ก็มีความแตกต่างกันครับ
วัลลอฮุอะลัม