กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 12
ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: Al Fatoni Date: ม.ค. 07, 2008, 11:37 PM
อัสสลามุ อลัยกุม

                      พี่น้องทั้งหลายครับ ผมเชื่อว่าเกือบทุกคนที่ชอบฟังเพลงอนาชีด ไม่ว่าที่มีดนตรี หรือไม่ดนตรีก็ตาม แต่ปัญหาก็คือว่า ปัจจุบันเริ่มมีอุละมาอฺ...ออกมาต่อต้านเกี่ยวกับเพลงอนาชีด ว่ามักรูฮฺบ้าง บางท่านถึงกับหะรอม ก็ว่ากันไป แล้วพี่น้องละครับ เห็นด้วยหรือไม่กับคำตัดสินดังกล่าว พี่น้องมีความคิดอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใครมีหลักฐานยันยืนเรื่องนี้ หรือเหตุผลดีๆ เกี่ยวกับเพลงอนาชีด เชิญนำเสนอได้ครับ - ขอเน้นวิชาการนะครับ เพราะต้องการเรียบเรียงในภายหลัง และนำไปเผยแพร่ เพราะตอนนี้เริ่มเป็นปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะนักศึกษามุสลิมในมหาลัยวิทยาลัย ที่มักจะชอบฟังอนาชีดเป็นชีวิตจิตใจ มหาลัยที่ว่าก็มหาลัยผมเองนั่นแหละ เพื่อนชอบถามอะครับ ผมก็ไม่รู้จะตอบเขาว่าไง ก็ตอบเท่าที่ทราบอะ แต่ต้องการหลักฐานที่เข้มแข็งกว่านี้ ช่วยๆ กันนะครับ พี่น้อง - ญาซากั้ลลอฮุ ค็อยร็อน

วัสสลามุ อลัยกุม
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: GeT Date: ม.ค. 08, 2008, 06:25 AM
บทที่ 5
กลุ่มที่อนุญาตการร้องเพลงและดนตรี

      ท่านอิหม่ามมาลิก ท่านอิหม่ามญะอฺฟัรฺ ท่านอิหม่ามอัลฆอสะลียฺ และท่านอิหม่ามอบู ดาวูด อัซซอฮิรียฺได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการอนุญาตเสียงเพลงและการละเล่นเครื่องดนตรี เหตุผลต่างๆ ของท่านเหล่านี้ ดังนี้
      1. อัลลอฮทรงดำรัสว่า
 (...وَ اغْضُضْ مِنْ صَوْتِكَ إِنَّ أَنْكَرَ الأَصْوَاتِ لَصَوْتُ الْحَمِيْرِ) (لقمان:19).
“... และจงลดเสียงของเจ้าให้ต่ำลง แท้จริงเสียงที่น่ารังเกียจยิ่งคือเสียงลาร้อง" (31:19).
ท่านอิหม่ามอัลฆอสะลียฺได้เอาความหมายของอายะฮฺนี้จาก  ความเข้าใจที่ตรงข้าม (มัฟฮูม มุคอละฟะฮฺ) ว่า อัลลอฮฺทรงยกย่องเสียงที่ดี ด้วยเหตุนี้จึงอนุญาตให้ฟังบทเพลงที่ดี (ดู อัลฆอสาลียฺ อิหฺยา อุลูมุดดีน ส่วนที่ 4, เล่ม 2 หน้า 141)
2. หะดีษบุคอรียฺ ติรมีซียฺ อิบนุ มาญะฮฺ และท่านอื่นๆ จาก รุบัยยิอฺ บินติ มุเอาวิซ อัฟรออฺ
รุบัยยิอฺกล่าวว่า ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) ได้มายังบ้านในวันพิธีแต่งงานของหล่อน (พิธีที่หมายถึงนี้คือ พิธีการแต่งงาน ซึ่งในพิธีดังกล่าวมีผู้ชายและผู้หญิง แต่ระหว่างทั้งสองถูกแยกกันห่างพอสมควร ในอิสลามมี 3 พิธีการคือ พิธีการหมั้น พิธีการแต่งงาน และพิธีการอยู่ร่วมกัน) จากนั้นท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) นั่งลงบนเสื่อ จากนั้นไม่นานจึงมีเด็กผู้หญิง (ญาริยะฮฺ) ออกมาตีกลองรำมะนาพร้อมกับร่ำร้องยกย่องชมเชยบิดามารดาของเขาที่พลีชีพในสมรภูมิบะดัรฺ ทันใดเด็กญาริยะฮฺเอ่ยขึ้นว่า “ในบรรดาพวกเรานี้มีเราะซูล (ศ็อลฯ) ที่ล่วงรู้อะไรที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้” แต่ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) กล่าวโดยทันทีว่า (ดู ประวัติอัลกัรฺมานียฺ เล่ม  9 หน้า 108 – 109, สุนันติรมีซียฺ เล่ม 3 หน้า 398 – 399 และสุนันอัลมุสเตาะฟา หน้า 586)
(لاَ تَقُوْلِي هكَذَا وَ قُوْلِيْ كَمَا كُنْتِ تَقُوْلِيْنَ)
ความว่า “จงอย่าร้องเช่นนั้น แต่จงร้องในสิ่งที่พวกเจ้าได้ร้องไว้ก่อนหน้านั้นก็พอ“
3.   หะดีษรายงานโดยบุคอรียฺและมุสลิม จากอะอิชะฮฺ เล่าว่า (ดู เศาะหีหฺบุคอรียฺ, หะดีษหมายเลข 949, 952, และดู เศาะหีหฺมุสลิม, หะดีษหมายเลข 892 ด้วยสำนวนอื่น)

ครั้งหนึ่งท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) ได้เข้ามายังที่ของฉัน ขณะนั้นข้างๆ ฉันมีเด็กสาวอยู่จำนวนสองคนกำลังบรรเลงเพลง (เกี่ยวกับวันบุอาษ : เป็นชื่อกำแพงแห่งหนึ่งสำหรับเผ่าเอาศฺ ซึ่งระยะทางจากนครมะดีนะฮฺต้องใช้เวลาเดินทางถึงสองวัน ณ สถานที่ตรงนี้เคยปะทุการสงครามที่ดุเดือดระหว่างเผ่าเอาศ์และค็อซร็อจญฺ) ฉันเห็นท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) นอนโดยหันหน้าของท่าน ขณะนั้น อบูบักรฺจึงเข้ามา และโกรธฉันโดยกล่าวว่า “ที่บ้านของท่านเราะซูลมีขลุ่ยของชัยฏอนด้วยหรือ?” หลังจากที่ท่านเราะซูลได้ฟังคำพูดของอบูบักรฺ ท่านจึงหันหน้ามายังอบูบักรฺ และกล่าวว่า “
 (دَعْهُمَا يَا أَبَا بَكْرٍ)
ความว่า “ปล่อยเขาทั้งสองเถิด โอ้อบูบักรฺ”
      หลังจากที่อบูบักรฺไม่ได้ให้ความสนใจ ฉันจึงใช้ให้เด็กหญิงทั้งสองออกไป วันนั้นเป็นวันอีด ซึ่งชาวซูดานกำลังรำด้วยอาวุธและโลห์ของพวกเขา (ในมัสยิด)”

Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: GeT Date: ม.ค. 08, 2008, 06:26 AM
. หะดีษรายงานโดยท่านอิหม่ามอะหฺมัด บุคอรียฺ และมุสลิม จากท่านหญิงอะอีชะฮฺ (เราะฏิยัลลอฮุ อันฮา) เล่าว่า “ฉันเคยทำการแต่งงานระหว่างหญิงสาวคนหนึ่งกับชายผู้หนึ่งจากชาวอันศ็อรฺ ดังนั้น ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) กล่าวว่า
 (يَا عَائِشَةُ مَا كَانَ مَعَكُمْ مِنْ لَهْو فَإِنَّ الأَنْصَارَ يُعْجِبُهُمُ اللَّهْوُ)
ความว่า “โอ้อะอีชะฮฺ ไม่มีหรือจากเธอความบันเทิง (เพลง) เพราะแท้จริงแล้ว ชาวอันศ็อรฺชอบกับความบันเทิง (เพลง)”

   ในอีกหะดีษหนึ่งที่รายงานโดยท่านอิหม่ามอะหฺมัด ว่า (ดู อิหม่ามอัชเชาะกานียฺ, นัยลุล เอาฏ็อรฺ เล่ม 6 หน้า 187)
 (لَوْ بَعَثْتُمْ مَعَهَا مَنْ يُغَنِّيْهِمْ وَ يَقُوْلُ: أَتَيْنَاكُمْ أَتَيْنَاكُمْ فَحَيُّوْنَا نُحَيِّيْكُمْ فَإِنَّ الأَنْصَارَ قَوْمٌ فِيْهِمْ غَزَلٌ)
ความว่า “หากพวกเจ้าส่งกลุ่มผู้หญิงตามเจ้าสาวไปเพื่อร่ำร้องทำเพลงให้พวกเขาฟัง และพูดว่า “เรามายังท่าน จงให้เกียรติพวกเรา และพวกเราก็ให้เกียรติแด่ท่าน” เพราะชาวอันศ็อรฺชอบร้อง (เพลง) เกี่ยวกับผู้หญิง”

5. หะดีษรายงานโดยท่านอิหม่ามอะหฺมัดและติรมิซียฺ จากบุร็อยดะฮฺ กล่าวว่า “วันหนึ่งท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) ได้เดินทางสู่สมรภูมิสงคราม หลังจากที่ท่านเดินทางกับมาจากการทำสงครามแล้ว จึงมีหญิงรับใช้ (ญาริยะฮฺ) ผิวดำคนหนึ่งเข้ามา พลางเอ่ยว่า “โอ้ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) ฉันบนบานว่า หากท่านกลับมาด้วยความปลอดภัย ฉันจะตีกลองรำมะนาและร้องเพลงต่อหน้าท่าน“ หลังจากที่ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) ได้ฟังเช่นนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
 (إِنْ كُنْتِ نَذَرْتِ فَاضْرِبِيْ وَ إِلاَّ فَلاَ)
ความว่า “หากเจ้าได้บนบานเช่นนั้นแล้ว ก็จงตีกลองเถิด แต่ถ้าไม่แล้ว ก็อย่าได้ทำ”

   หลังจากที่ได้ฟังท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) กล่าวเช่นนั้น หญิงรับใช้ผู้นั้นจึงเริ่มตีกลองรำมะนาตามที่ท่านเราะซูลอนุญาต ขณะที่กำลังตีกลองอยู่นั้น อบูบักรฺก็เข้ามา หญิงรับใช้ผู้นั้นก็ยังคงตีกลองต่อไป จากนั้นไม่นานนักอุสมานก็เข้ามา หญิงรับใช้ผู้นั้นก็ยังคงตีกลองอย่างเพลิดเพลินต่อไป สักครู่อะลีเดินเข้ามา แต่ไม่นานนักอุมัรฺก็เข้ามา แต่ครั้นหญิงรับใช้ผู้นั้นเห็นอุมัรเข้ามา หล่อนจึงรีบซ่อนไว้โดยการนั่งทับกลองใบนั้น หลังจากที่เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) กล่าวว่า
 (إِنَّ الشَّيْطَانَ لَيَخَافُ مِنْكَ يَا عُمَرُ إِنِّيْ كُنْتُ جَالِسًا وَهِيَ تَضْرِبُ فَدَخَلَ أَبُوْ بَكْرٍ وَ هِيَ تَضْرِبُ ثُمَّ دَخَلَ عَلِيٌّ وَ هِيَ تَضْرِبُ ثُمَّ دَخَلَ عُثْمَانُ وَ هِيَ تَضْرِبُ فَلَمَّا دَخَلْتَ أَنْتَ يَا عُمَرُ أَلْقَتِ الدُّفَّ)
ความว่า “แท้จริงแล้ว ชัยฏอนเกรงกลัวต่อเจ้า โอ้อุมัรฺ เมื่อครู่ ขณะที่ฉันนั่งอยู่ตรงนี้ หญิงรับใช้คนนี้ยังคงตีกลองรำมะนาของหล่อน ตอนที่อบูบักรฺ อะลียฺ และอุสมานเข้ามา หล่อนก็ยังคงตีกลองอยู่ แต่เมื่อเจ้าเข้ามา โอ้อุมัร หล่อนจึงรีบโยนกลองทิ้งทันที" (ติรมิซียฺระบุว่า หะดีษบทนี้เป็นหะดีษเศาะหีหฺ, ดู อิหม่ามอัชเชาะกานียฺ นัยลุลเอาฏ็อรฺ เล่ม 7 หน้า 119)

   6. หะดีษรายงานโดยอันนะสาอียฺ จากอามิร บิน สะอัด (คนหนึ่งจากตาบิอีน) ที่เคยได้รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพิธีแต่งงานแห่งหนึ่ง อามิร พูดว่า (ดู สุนันอันนะสาอียฺ เล่ม 6 หน้า 135)
“ฉันได้เข้ามายังบ้านของกุรอเซาะฮฺ บิน กะอับ และอบูมัสอูด อัลอันศอรียฺ ทันใดนั้นมีเด็กๆ (ญะวารียฺ) ก็เริ่มออกมาร้องเพลง ฉันจึงพูดว่า
 (أَنْتُمَا صَاحِبَا رَسُوْلَ اللهِ (ص) وَ مِنْ أَهْلِ بَدْرٍ وَ يُفْعَلُ هذَا عِنْدَكُمْ فَقَالَ: اِجْلِسْ إِنْ شِئْتَ فَاسْمَعْ مَعَنَا وَ إِنْ شِئْتَ اذْهَبْ قَدْ رُخِّصَ لَنَا فِي اللَّهْوِ عِنْدَ الْعُرْسِ)
ความว่า “ท่านทั้งสองเป็นสหายของท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) และกลับมาจากสมรภูมิบะดัรฺ แล้วเรื่องนี้ทำไมท่านจึงทำได้?” กุรอเซาะฮฺจึงตอบว่า “เชิญนั่งก่อน หากท่านต้องการ เรามาฟังร่วมกัน หากไม่แล้ว เชิญท่านออกไป แท้จริงแล้ว เป็นที่อนุญาตสำหรับเราให้สิ่งบันเทิง (ร้องเพลง) เมื่อมีพิธีแต่งงานขึ้น” (ดู สุนัน อันนะสาอียฺ เล่ม 6 หน้า 127)

   7. หะดีษอับดุลลอฮ บิน อะหฺมัด บิน ฮัมบัล จากอัมรฺ บิน ยะหฺยา อัลมาซินียฺ จากอบู หะสัน ซึ่งเป็นปู่ของเขา กล่าวว่า หะดีษบทนี้ได้เล่าถึงการเกลียดชังของท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) ต่อการแต่งงานลับๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการตีกลองและมีการร่ำร้องทำเพลง (ดู อิหม่ามอัชเชาะกานียฺ นัยลุล เอาฏ็อรฺ เล่ม 6 หน้า 187) 
 (كَانَ يَكْرَهُ نِكَاحَ السِّرِّ حَتّى يُضْرَبَ بِدُفٍّ وَيُقَالُ: أَتَيْنَاكُمْ أَتَيْنَاكُمْ فَحَيُّوْنَا نُحَيِّيْكُمْ)
ความว่า “เรามายังท่าน เรามายังท่าน (ดังนั้น) จงให้เกียรติแก่พวกเราเถิด แล้วเราจะให้เกียรติท่าน”

8. หะดีษรายงานโดยอิบนุ มาญะฮฺ จากอนัส บิน มาลิก กล่าวว่า “แท้จริง ท่านนบี (ศ็อลฯ) ได้ผ่านมาหลายๆ สถานที่ในนครมะดีนะฮฺ ทันใดท่านได้พบกับหญิงรับใช้ (ญาริยะฮฺ) ที่กำลังตีกลองรำมะนาและร่ำร้องทำเพลง: พวกเราญาริยะฮฺเผ่านะญัร ช่างมีความสุขยิ่งที่ได้เป็นเพื่อนบ้านกับท่านเราะซูลผู้สูงส่ง” ทันทีที่ได้ยินการขับร้องดังกล่าว ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) จึงกล่าวว่า (ดู สุนันมุสตอฟา หน้า 586)
 (اللهُ يَعْلَمُ إِنِّيْ لأُحِبُّكُمْ)
“พระองค์อัลลอฮทรงรู้ว่าฉันรักพวกท่านจริงๆ”

Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: GeT Date: ม.ค. 08, 2008, 06:29 AM
บทที่ 4
กลุ่มที่ถือว่าการร้องเพลงและเล่นดนตรีเป็นสิ่งที่หะรอม

      อิบนุ อัลเญาซียฺ (ดู ตัลบีส อิบลีส หน้า 2321) ท่านอิหม่ามกุรฏุบียฺ (ดู ตัฟซีรกุรฏุบียฺ เล่ม 14 หน้า 51 – 54) อัชเชากานียฺ (ดู นัยลุลเอาฏ็อรฺ เล่ม 8 หน้า 442) ได้สรุปหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับหะรอมของการร้องเพลงและการใช้เครื่องดนตรี ดังนี้
1. คำดำรัสของอัลลอฮ
(وَ مِنَ النَّاسِ مَنْ يَشْتَرِيْ لَهْوَ الْحَدِيْثِ لِيُضِلَّ عَنْ سَبِيْلِ اللهِ بِغَيْرِ عِلْمٍ وَ يَتَّخِذَهَا هُزُوًا أُولئِكَ لَهُمْ عَذَابٌ مُهِيْنٌ) (لقمان:6)
ความว่า "และในหมู่มนุษย์มีผู้ซื้อเอาเรื่องไร้สาระเพื่อทำให้เขาหลงไปจากแนวทางของอัลลอฮ โดยปราศจากความรู้และถือเอามันเป็นเรื่องขบขัน ชนเหล่านี้พวกเขาจะได้รับการลงโทษอันอัปยศ”
(ซูเราะฮฺลุกมาน:6)
เศาะหาบะฮฺของท่านเราะซูล (ศ็อลฯ ) อย่างเช่น อิบนุ  อับบาส อิบนุ มัสอูด และตาบิอีน อย่างเช่น มุญาฮิด หะสัน อัลบัสรียฺ อิกริมะฮฺ สะอีด บิน ซุเบรฺ เกาะตาดะฮฺ และอิบรอฮีม อันนะคออียฺ ได้อรรถาธิบายคำว่า “ละฮฺวุล หะดีษ” เป็นการร้องเพลง หรือการซื้อขาย (เช่า) นักร้องหญิง (ดู ตัฟซีรอิบนุ กะษีรฺ เล่ม 3 หน้า 442) เช่นเดียวกับทัศนะของบรรดานักอรรถาธิบายอัลกุรานบางท่าน เช่นอิหม่ามอิบนุกะษีรได้กล่าวว่า (ดู ตัฟซีรอิบนุ กะษีรฺ เล่ม 3 หน้า 442)“บรรดาคนที่อัปยศได้หันเหจากการฟังคำดำรัสของอัลลอฮและรับประโยชน์จากคำดำรัส พวกเขามีความสนใจฟังเสียงขลุ่ย เสียงเพลง และเครื่องดนตรีที่สร้างความเพลิดเพลิน”
2.   คำดำรัสของอัลลอฮ
(أَفَمِنْ هذَا الْحَدِيْثِ تَعْجَبُوْنَ وَ تَضْحَكُوْنَ وَلاَ تَبْكُوْنَ وَ أَنْتُمْ سَامِدُوْنَ) (النجم:59 - 61)
ความว่า "พวกเจ้ายังคงแปลกใจต่อคำกล่าวนี้อีกหรือ? และพวกเจ้ายังคงหัวเราะ และยังไม่ร้องไห้ และพวกเจ้ายังคงหลงระเริงลืมตัว"
(ซูเราะฮฺอันนัจมฺ : 59-61)

   อิบนุอับบาสกล่าวว่า ความหมายของคำว่า  سَامِدُوْنَ  คือ อัลฆินาอฺ (เพลง) (ดู ตัฟซีร อิบนุ กะษีร เล่ม 3 หน้า 261) คำดังกล่าวมาจากภาษาของเผ่าฮิมยารฺ ซึ่งเผ่านี้มักจะกล่าวว่า “สะมะดา ละนา หมายถึง ฆ็อนนา ละนา” (พวกเขาได้ร้องเพลงให้พวกเราฟัง) ทัศนะของอิบนุ อับบาสนี้ได้รับการสนับสนุนจากทัศนะเดียวกันของมุญาฮิดและอิกริมะฮฺ (ดู อิบนุ อัลเญาซียฺ ตัลบิส   อิบลีส หน้า 234 และตัฟซีรอิบนุ กะษีร เล่ม 4 หน้า 261)

Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: GeT Date: ม.ค. 08, 2008, 06:30 AM
3. อัลลอฮทรงตรัสว่า
(وَاسْتَفْزِزْ مَنِ اسْتَطَعْتَ مِنْهُمْ بِصَوْتِكَ....) (الإسراء:64)
ความว่า "และเจ้าจงยั่วยวนผู้ที่เจ้าสามารถทำให้เขาหลงในหมู่พวกเขาด้วยเสียงของเจ้า...."
(ซูเราะฮฺอัลอิสรออฺ : 64)
คำว่า صَوْتِكَ (เสียงของเจ้า) ที่มุ่งไปยังอิบลีส พร้อมทั้งใช้เพื่อจูงใจมนุษย์ เป้าหมายก็คือ เพื่อให้มนุษย์กระทำสิ่งที่ชั่วร้าย ตามทัศนะของมุญาฮิดแล้ว สิ่งนี้มิใช่อื่นใดมันคือ เสียงเพลงและความบันเทิง (ดู ตัฟซีรอิบนุ กะษีร เล่ม 3 หน้า 50 และอิบนุ อัลเญาซียฺ ตัลบีส อิบลีส หน้า 232)
4. หะดีษบุคอรียฺที่รายงานจากอบู มาลิก อัลอัชอะรียฺ (ดู เศาะหีหฺบุคอรียฺ หะดีษหมายเลข 5590)
(لِيَكُوْنَنَّ مِنْ أُمَّتِيْ أَقْوَامٌ يَسْتَحِلُّوْنَ الْحِرَّ وَ الْحَرِيْرَ وَ الْخَمْرَ وَ الْمَعَازِفَ وَ لَيَنْزِلَنَّ أَقْوَامٌ إِلى جَنْبِ عَلَمٍ يَرُوْحُ عَلَيْهِمْ بِسَارِحَةٍ لَهُمْ يَأْتِيْهِمْ يَعْنِي الْفَقِيْرُ لِحَاجَةٍ فَيَقُوْلُوْا: ارْجِعْ إِلَيْنَا غَدًا فَيُبَيِّتُهُمُ اللهُ وَ يَضَعُ الْعَلَمَ وَ يَمْسَخُ الآخَرِيْنَ قِرَدَةً وَ خَنَازِيْرَ إِلى يَوْمِ الْقِيَامَةِ)
ความว่า "แท้จริงแล้วในหมู่ประชาชาติของฉันที่อนุญาตการผิดประเวณี ผ้าไหม เหล้า และเครื่องเล่น (ดนตรี) หลังจากนั้นมีกลุ่มหนึ่ง (จากชาวมุสลิม) จะเดินไปที่เชิงเขาสูง จากนั้นคนเลี้ยงแกะพร้อมๆ กับแกะของเขาได้มาหากลุ่มคนดังกล่าว แล้วมีคนยากจนคนหนึ่งได้มาขอสิ่งของบางอย่าง ขณะนั้นพวกเขาจึงพูดว่า “ขอให้มาหาเราในวันพรุ่งนี้” ภายในค่ำคืนนั้นอัลลอฮทรงทำลายพวกเขา และได้ถล่มภูเขาบนพวกเขา ส่วนคนที่เหลือจากพวกเขาที่ไม่ได้ถูกทำลายในคืนนั้นหน้าตาของพวกเขาถูกเปลี่ยนมาเป็นลิงและหมูจนวันกิยามัต”

   5.  หะดีษรายงานโดยอิหม่ามอะหฺมัด จากอบูอุมามะฮฺ (ดู ตัรตีบมุสนัดอิหม่ามอะหฺมัด เล่ม 5 หน้า 259 และอิหม่ามอัชเชากานียฺ นัยลุลเอาฏ็อร เล่ม 8 หน้า 98) ว่า
(تَبِيْتُ طَائِفَةٌ مِنْ أُمَّتِيْ عَلى أَكْلٍ وَ شُرْبٍ وَ لَهْوٍ وَلَعْبٍ ثُمَّ يُصْبِحُوْنَ قِرَدَةً وَخَنَازِيْرَ وَتُبْعَثُ عَلى أَحْيَاءٍ مِنْ أَحْيَائِهِمْ رِيْحٌ فَتَنْسِفُهُمْ كَمَا نُسِفَ مَنْ كَانَ قَبْلَكُمْ بِاسْتِحْلاَلِهِمْ الْخَمْرَ وَضَرْبِهِمْ بِالدُّفُوْفِ وَ اتِّخَاذِهِمِ الْقَيِّنَاتِ)
ความว่า "คนกลุ่มหนึ่งจากประชาชาติของฉันได้ใช้เวลาในยามค่ำคืนให้ผ่านไปด้วยการรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ความบันเทิง และการละเล่น ในวันรุ่งขึ้น (หน้าตา) ของพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นลิงและหมู สำหรับผู้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในหมู่พวกเขาได้ถูกพายุทำลายเหมือนคนก่อนหน้าพวกเขา เพราะพวกเขาได้อนุญาตเหล้า ตีกลองรำมะนา และผู้หญิง (ร้องเพลง) ให้พวกเขาฟัง”

6. หะดีษรายงานโดยอบูดาวูด (ดู สุนันอบูดาวูด เล่ม 4 หน้า 282 หะดีษหมายเลข 4927) หะดีษบทนี้มาจากสัลลาม บิน มิสกีน เขาได้ยินมาจากคนชราคนหนึ่งที่เห็นอบี วาอิลได้เข้ามาในพิธีแต่งงานแห่งหนึ่ง ในพิธีดังกล่าวมีการละเล่น และร่ำร้องทำเพลง ในขณะนั้นอบู วาอิลรู้สึกที่จะเข้าไปหักห้ามผู้คนดังกล่าว ขณะที่เขาได้สละผ้าซัรบาน พลางกล่าวว่า “ฉันได้ยินจากอับดุลลอฮ บิน มัสอูดว่า ท่านเคยได้ยินท่านเราะซูลกล่าวว่า
 (الْغِنَاءُ يُنْبِتُ النِّفَاقَ فِي الْقَلْبِ)
ความว่า “เพลง หรือการร้องเพลงจะปลูกนิสัยความมุนาฟิกให้งอกเงยขึ้นในจิตใจ”

Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: GeT Date: ม.ค. 08, 2008, 06:35 AM
7. หะดีษอิหม่ามติรมิซียฺที่รายงานด้วยสายรายงานของท่านจากอิมรอน บิน หุสัยนฺ ว่า ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) กล่าวว่า (ดู สุนันติรมิซียฺ หะดีษหมายเลข 2309 อิหม่ามอัชเชากานียฺ นัยลุล เอาฏ็อรฺ เล่ม 8 หน้า 98)
 (فِيْ هذِهِ الأُمَّةِ خَسْفٌ وَ مَسْخٌ وَ قَذْفٌ فَقَالَ رَجُلٌ مِنَ الْمُسْلِمِيْنَ: يَا رَسُوْلَ اللهِ وَ مَتَى ذلِكَ؟ قَالَ: إِذَا ظَهَرَتِ الْقِيَانُ وَ الْمَعَازِفُ    وَشُرِبَتِ الْخُمُوْرُ)
ความว่า “ประชาชาติแห่งนี้เกิดดินถล่ม เกิดการเปลี่ยนหน้า และความวุ่นวาย” คนหนึ่งจากมุสลิมจึงเอ่ยถามว่า “เมื่อไหร่หล่ะสิ่งเหล่านั้นจะอุบัติขึ้น โอ้ท่านเราะซูล?” ท่านจึงตอบว่า “เมื่อใดมีนักร้องหญิง เครื่องดนตรี และการดื่มสุราในท่ามกลางประชาชาติมุสลิม”

8. หะดีษรายงานโดยอิหม่ามติรมิซียฺ จากญาบิร บิน อับดุลลอฮ ด้วยสะนัดที่หะสัน เศาะหีหฺ (ดู สุนันติรมิซียฺ หะดีษหมายเลข 1011, มุศ็อนนัฟ อิบนุ อบีชัยบะฮฺ, มุสนัดอบูดาวูด อัตเฏาะยาลิซียฺ, มุสนัดอิสหาก บิน เราะฮะวัยฮฺ, สุนันอัลบัยฮะกียฺ, มุสนัดอัลบัซซารฺ และอัลมุหัลลา, ดู   อับดุลลอฮ บิน ยุซูฟ อัซซัยลาอียฺ นัศบุรฺรอยะฮฺ ลิ อะหาดีษ อัลฮิดายะฮฺ เล่ม 4 หน้า 84 และอิบนุเญาซียฺ ตัลบีส อิบลีส หน้า 233)

ครั้งหนึ่ง ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) ได้จับมือของอับดุลเราะหฺมาน บิน เอาฟฺ และชวนไปเยี่ยมดูอาการป่วยของอิบรอฮีม (บุตรชายของท่าน) ที่กำลังป่วยอยู่ ขณะนั้นท่านเห็นว่าบุตรชายของท่านกำลังอยู่ในอาการหนักใกล้สิ้นใจ ท่านจึงพยุงร่างของบุตรชายมานั่งตักของท่านพลางน้ำตาก็ไหลพราก ทันทีที่เห็นเหตุการณ์นั้น อับดุลเราะหฺมาน บิน เอาฟฺจึงพูดว่า “ท่านร้องไห้หรือ โอ้ท่านเราะซูล? ทั้งๆที่ท่านได้สั่งห้ามชาวมุสลิมกระทำเช่นนั้น”
หลังจากที่ท่านได้ยินคำพูดของอับดุลเราะหฺมาน ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) จึงกล่าวว่า
 (لاَوَ لَكِنْ نَهَيْتُ عَنْ صَوْتَيْنِ أَحْمَقَيْنِ فَاجِرَيْنِ: صَوْتٍ عِنْدَ مُصِيْبَةٍ خَمْشِ وُجُوْهٍ وَ شَقِّ جُيُوْبٍ وَ رَنَّةِ الشَّيْطَانِ) و في الحديث كَلام أكثر من هذا
ความว่า “เปล่า ฉันไม่เคยสั่งห้ามผู้ใดร้องไห้ แต่สิ่งที่ฉันห้ามคือ สองชนิดเสียงจากคนที่งี่เง่า นั่นคือ เสียงร้องไห้ของผู้คนที่ประสบกับการทดสอบที่ขูดข่วนใบหน้า และฉีกเสื้อผ้าของตนเอง และเสียงร้องครวณครางของชัยฏอน (คือเสียงของชัยฏอนที่ชวนให้ร้องไห้อย่างบ้าบิ่น)”

   9. หะดีษรายงานโดยอิบนุ ญะรีรฺ อัตเตาะบะรียฺเล่ามาจาก อบู อุมามะฮฺ อัลบาฮิลียฺ กล่าวว่า “ฉันได้ยินท่านเราะซูล (ศ็อลฯ) กล่าวว่า (ดู ตัฟซรฺ อัตเตาะบะรียฺ เล่ม 21 หน้า 39, อิบนุ เญาซียฺ ตัลบิส อิบลีส หน้า 232)
 (لاَ يَحِلُّ تَعْلِيْمُ الْمُغَنِّيَاتِ وَ لاَ بَيْعُهُنَّ وَ لاَ شِرَاؤُهُنَّ وَ ثَمَنُهُنَّ حَرَامٌ)
ความว่า “ไม่อนุญาต (หะลาล) สอนเหล่าสตรี (ร้องเพลง) ไม่อนุญาตซื้อขายพวกเขา เงินที่ได้จากการซื้อขายพวกเขาก็หะรอมเช่นเดียวกัน”
ท่านอิหม่ามอัตเตาะบะรียฺ กล่าวอีกว่า “อายะฮฺที่ 6 ซูเราะฮฺลุกมานอัลลอฮทรงประทานลงมาสำหรับพวกเขา”
10. หะดีษรายงานโดยฆ็อยลาน อัลบัซซาซ จากอะลี บินอบีฏอลิบ กล่าวว่า แท้จริงแล้วท่านเราะซูล (ศ็อลฯ ) กล่าวว่า (ดู อัชเชากานียฺ นัยลุลเอาฏ็อรฺ เล่ม 8 หน้า 226 และ  หะดีษหมายเลข 40689)
(بُعِثْتُ بِكَسْرِ الْمَزَامِيْرِ)
ความว่า “ฉันถูกอุบัติขึ้นเพื่อทำลายบรรดาขลุ่ย”
      อิบนุ ฆ็อยลานก็ได้รายงานว่า ท่านเราะซูล (ศ็อลฯ ) เคยกล่าวว่า
 (كَسْبُ الْمُغَنِّي وَ الْمُغَنِّيَةِ حَرَامٌ)
ความว่า “รายได้ของนักร้องชายและนักร้องหญิงเป็นสิ่งที่หะรอม”

หมายเหตุ
เนื้อหาโดยละเอียดสามารถหาซื้ออ่านในหนังสือ "ศิลปะในมุมมองอิสลาม: การร้องเพลง ดนตรี และการเต้นรำ" แปลโดย ฮาเร็ะ เจ๊ะโด พิมพ์ที่โรงพิมพ์มิตรภาพปัตตานี ราคา 80 บาท เนื้อหาประมาณ 130 กว่าหน้า
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: al-azhary Date: ม.ค. 09, 2008, 05:48 PM
ญะซากัลลอฮ์ค๊อยร๊อนครับ ท่าน GeT
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: Al Fatoni Date: ม.ค. 11, 2008, 11:55 AM
อัสสลามุ อลัยกุม

             ญาซากั้ลลอฮุ ค็อยร็อน มากๆ ครับ คุณ Get ชัดเจนดีครับ ที่จริงหนังสือดังกล่าวผมก็อยู่แล้วครับ แต่ที่ต้องมาตั้งกระทู้อีกนั้น ก็เพราะผมต้องการความคิดเห็นจากคนที่เรียนศาสนาโดยตรง เช่น อัซฮัรฺ อียิปต์ ซึ่งผมจะนำมาเปรียบเทียบกับหนังสืออีกที ผมค่อนข้างจะเชื่ออะไรยากหน่อยครับ ยิ่งหนังสือปัจจุบัน โดนเพื่อนที่ปอเนาะด่าว่าประจำ เวลาโต้อะไรกับเขา แล้วถามว่าเอาหลักฐานจากไหน ผมก็บอกว่า หนังสือนั้น หนังสือนี้ พอถามว่า ภาษาอะไร ผมตอบ ภาษาไทย เพื่อนยิ้มเชิงตำหนิ ส่ายหน้า ผมก็พยายามอธิบายแต่เพื่อนก็ไม่ฟัง บางกรณีเท่านั้นที่ฟัง ก็นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมต้องเข้มงวดในทุกๆ อย่างที่จะรับมาเกี่ยวกับศาสนาครับ โดยเฉพาะอะกีดะฮฺ ที่จริงไม่ใช่หน้าที่ของผมด้วยซ้ำนะครับเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของผู้นำเสนอมากกว่า แต่ในเมื่อสิ่งที่เรียกร้องค่อนข้างไม่สมใจเสียเท่าไร ผมจึงจำเป็นต้องลงมือเอง ภายใต้กฎที่ผมวางไว้เอง ซึ่งเข้มงวดมากๆ ไม่ได้ต้องการจะบอกว่าตัวเองอย่างนั้น อย่างนี้นะครับ แต่อยากให้ทุกที่จะนำเสนออะไรนั้น ขอให้เอาใส่ใจต่อข้อมูล และคำนึงไว้เสมอว่า คนที่จะอ่านในสิ่งที่เรานำเสนอนั้น เขาไม่รู้เรื่องอะไร เขาต้องการการอธิบายที่กระจ่าง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องพยายามทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้เขาเข้าใจให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม จะตามแบบอิสลาม หรือแบบอื่นๆ ก็แล้วแต่ แต่ต้องไม่ขัดกับอิสลาม ก็เป็นอันใช้ได้ อินชาอัลลอฮฺ ติชมผมได้นะ หากพูดอะไรให้ไม่พอใจ หรือยาวเกินไป อิอิ

วัสสลามุ อลัยกุม
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: GeT Date: ม.ค. 11, 2008, 07:11 PM
ลิ้งก์ต้นฉบับเดิม SENI MUSIC DALAM PANDANGAN ISLAM สำหรับผู้ที่สนใจ
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: Al Fatoni Date: ม.ค. 11, 2008, 07:32 PM
อัสสลามุ อลัยกุม

                    ญาซากั้ลลอฮุ ค็อยร็อน ครับ เนื้อหาที่นำเสนอนี้ แปลเอง หรือคัดลอกจากหนังสืออีกทีครับ หากแปล ผมคงต้องขอเป็นลูกศิษย์เรียนภาษามลายูแล้วกระมัง อยากรู้วิธีการแปลมลายูเป็นไทยอะครับ เพราะที่แปลผ่านๆ มานั้น แปลโดยอาศัยประสบการณ์มากกว่า หากได้เรียนให้เป็นระบบกว่านี้ คงจะได้รู้เทคนิค และแปลได้ดีกว่านี้อะครับ

วัสสลามุ อลัยกุม
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: ILHAM Date: ม.ค. 11, 2008, 08:32 PM
السلام عليكم
ขอเล่นด้วยคนนะครับ
จากหลักฐานที่พี่คนที่ชื่อGeTได้ยกมานั้น อาจจะสรุปได้ว่าเพลงที่ไม่ไร้สาระและไม่ขับร้องโดยนักร้องที่สามารถยั่วอารมณ์ได้นั้น เป็นสิ่งที่หะลาล และรายได้ที่มาจากสิ่งเมาะซียะเช่นเพลง เป็นสิ่งหะรอม
ผมไม่ได้เก่งอะไรมากนักหรอกครับ ได้แต่มั่วๆฟลุ๊คๆไปวันๆ ดังนั้นหากผิดพลาดประการใดก็ขอโทษอย่างสูงด้วยนะครับ
แน่นอนว่าالله أعلم
والسلام
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: ok Date: ม.ค. 13, 2008, 10:03 AM

โอ้ย...มาเครียดกับเรื่องเพลงอะนาชีดเนี้ยะนะ..........

คนมุสลิม ไม่ละหมาด  กินเหล้า  ถูกซอเหล็มอีกเยอะแยะ........

ไปเครียดเรื่องโน้นดีกว่ามั้ง..........อะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ;D
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: Amir mahmood Date: ม.ค. 13, 2008, 10:40 AM


   อย่ามองการแตกปัญหาเป็นเรื่องเครียดเลยครับ
ถาม ตอบ กันให้เกิดความรู้ ความชัดเจน
เรื่องไหน ๆ มันก็น่าห่วงทั้งนั้นเเหละครับ


Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: sufriyan Date: ม.ค. 13, 2008, 10:49 AM
 salam
ผมว่าอิสลามครอบคลุมทุกอย่างนะครับ และทุกอย่างก็อยู่ไม่หลุดไปจากอิสลามทั้งสิ้น  ใครที่เอาใจไส่ในเรื่องเล็กน้อยน่าจะส่งเสริมนะครับ เพราะเค้าก็ไม่เคยบอกว่า ไม่เคยไม่สนใจ
อ้างถึง
คนมุสลิม ไม่ละหมาด  กินเหล้า  ถูกซอเหล็มอีกเยอะแยะ..
..   
แม้เรื่องเล็กน้อย แต่เราก็ต้องมีคำตอบในเรื่องศาสนามิใช่หรือครับ
วัสลาม
Re: ท่านคิดอย่างไรกับเพลงอนาชีด By: ok Date: ม.ค. 13, 2008, 10:55 AM

โอ้โห .....  ออกมาชี้แจงกันเต็มเลยนะเนี้ยะ.....

น่าดีใจจัง เวปฯ นีบอดี้การ์ดเยอะดีนะ.....