กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ มุอัลลัฟและความเข้าใจเกี่ยวกับอิสลาม
Pages: 1
การยึดครองดินแดนโดยอิสลามถือเป็นการล่าอาณานิคมหรือไม่? By: الأزاهرة Date: ก.พ. 11, 2008, 03:39 AM
การยึดครองดินแดนโดยอิสลามถือเป็นการล่าอาณานิคมหรือไม่?

1. การยึดครองดินแดนโดยชาวมุสลิม  ไม่ถือว่าเป็นรูปแบบของการล่าอาณานิคมอย่างสิ้นเชิง  เพราะการล่าอาณานิคมนั้นเป็นการปกครอโดยการขูดรีดทรัพย์สมบัติ  และทรัพยาการทั้งด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม โดยังจะละเลยที่จะพัฒนาเศรษกิจ  วัฒนธรรม  และอาระธรรมในดินแดนที่ถูกยึดครองอีกด้วย  ประวัติศาสตร์เป็นที่ประจักษ์ทราบว่า  ผู้ยึดครองชาวมุสลิม  เป็นผู้ที่ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม  และการปกครองของชาวมุสลิมตั้งอยู่บนความยุติธรรม  และการปกครองของชาวมุสลิมตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเที่ยงธรรมและขันติธรรม  อันดาลุเซีย  ปัจจุบันคือ  ประเทศสเปน  เคยรุ่งเรื่องและเจริญในทุก ๆ ด้านในสมัยที่ชาวมุสลิมปกครอง  อีกทั้งเหนือกว่าประเทศยุโรปอื่น ๆ ในสมัยนั้น  เนื่องจากว่าได้รับวัฒณธรรม  และความกว้างหน้าทางวิชาการที่ชาวอาหรับเป็นผู้ริเริ่มมาใช้  โดยปัจจุบันยังสามารถเห็นได้จากสถาปัตยกรรม และอารยธรรมอิสลาม

2.  ในประเทศที่ชาวมุสลิมยึดครอง  มีการเรียกเก็บภาษีเพื่อใช้ในการป้องกันรัฐมุสลิมจากศัตรู  ดังนั้นทุกคนที่ได้ขึ้นทะเบียนในกองทัพจึงได้รับการยกเว้นจากการเสียภาษีดังกล่าว  Sir. Thomas W. Amold  ได้กล่าวว่า  ชนเผ่าชาวคริสต์ที่พำนักอยู่ใกล้ ๆ กับอัลตอกียะฮ์อยู่ร่วมกับชาวมุสลิมอย่างสันติ  ได้ประกาศว่า  ในกรณีที่มีสงครามชาวคริสต์เหล่านั้น  พร้อมที่จะสู้รบเคียงไหล่กับชาวมุสลิมหากได้รับการยกเว้นการเสียภาษี ( จากหนังสือ อัดดะวะฮ์ อิลัลอิสลาม  ของ เซอร์ โทมัส อาร์นอลด์ แปลโดยฮะซัน อิบรอฮีม และคนอื่น ๆ  ตีพิมพ์โดย มักตะบะฮ์ อันนะฮ์เฏาะฮ์ อัลมิสรียะฮ์ หน้า 79 - 80)

3.  การสู้รับในหนทางของอัลเลาะฮ์เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะปล้นสะดมทรัพย์สมบัติของเชลยในสงคราม  เป็นสิ่งที่อิสลามห้ามไว้  และถือเป็นอาชญากรรม  คร้งหนึ่งได้มีผู้เรียนนบีว่า  มีความคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้  ท่านได้ตอบย้ำถึง 3 ครั้งว่า "เขาจะได้ถูกปฏิเสธที่จะได้รับรางวัลจากอัลเลาะฮ์" (จากหนังสือ มิอะฮ์ ซุอาล อะนิลอิสลาม  ของท่านชัยค์ มุฮัมมัด ฆอซะลี หน้า 92)

4.  การยึดครองของอาณานิคมตะวันตกกับการยึดครองของชาวมุสลิมนั้น แตกต่างกันมาก  เพราะข้อกล่าวหาที่ว่า  การยึดครองของชาวมุสลิมนั้น มุ่งที่จะรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลโดยสิ้นเชิง  ผู้เขียนจึงขอยกตัวอย่างเพียงแต่ตัวอย่างเดียวในบรรดาหลาย ๆ ตัวอย่างว่า  การยึดครองของชาวมุสลิมนั้นไม่ได้มีจุดมุ่งหมายทางเศรษฐกิจ  หากแต่จุดมุ่งหมายนั้นอยู่ที่ศาสนาเป็นสำคัญ  มีสนธิสัญญาสันติภาพฉบับหนึ่ง  ลงนามโดย คอลิด บิน วาลิด  กับพวกประชาชนเมืองต่าง ๆ  ใกล้กับเมืองเฮิร์ท HIRD ซึ่งมีข้อความว่า "หากพวกเราชาวมุสลิมปกป้องท่านจากศัตรู  ท่านจะต้องชำระภาษี  แต่หากไม่ประสงค์ที่จะได้รับการคุ้มครอง  ก็ไม่ต้องชำระภาษี" สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ  ชาวมุสลิมได้คืนภาษีให้แก่ราษฏรที่อยู่ในเขตยึดครองที่ซีเรีย  เนื่อง  ว่าในสมัยนั้น  ท่านอุมัร อิบนุ ค๊อฏฏอบ  ไม่สมารถที่จะปกป้องดินแดนนั้นได้  เพราะเหตุว่าชาวมุสลิมต้องทำสงครามกับอีกฝ่ายหนึ่งในขณะเดียวกัน  ดังนั้น  ท่านคอลิด บิน วาลิด  จึงได้เขียนถึงราษฏรที่อยู่ในซีเรียว่า "พวกเราฝ่ายปกครองของคืนเงินให้แก่พวกท่าน  เนื่องการที่เคยเรียกเก็บเงินภาษีจากพวกท่านนั้น  ก็เพื่อต้องการที่จะคุ้มครองพวกท่าน  แต่เมื่อไม่สามารถให้การคุ้มครองพวกท่านได้  จึงขอคืนเงินดังกล่าวแก่ท่านที่ตกลงกันไว้ก็สำหรับเฉพาะกรณีที่เราชนะสงครามและสามารถคุ้มครองพวกท่านได้"  ( จากหนังสือ อัดดะวะฮ์ อิลัลอิสลาม  ของ เซอร์ โทมัส อาร์นอลด์ หน้า 79

อ้างอิงจากหนังสือ ฮะกออิก อิสลามียะฮ์  หน้า 47 - 49 ของท่าน ศาสตราจารย์ ดร. ฮัมดี ซักซูก
Re: การยึดครองดินแดนโดยอิสลามถือเป็นการล่าอาณานิคมหรือไม่? By: al-azhary Date: ก.พ. 11, 2008, 12:16 PM
ยุโรปและเมกา  ล่าอาณานิคม  แล้วเน้นกอบโกย  hihi:
Re: การยึดครองดินแดนโดยอิสลามถือเป็นการล่าอาณานิคมหรือไม่? By: ILHAM Date: ก.พ. 24, 2008, 12:24 AM
แล้ว"อัตตัยลันดี"กับ"อัสซียามี"เขาล่าเพื่ออะไรครับ