กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ สนทนาศาสนธรรม
Pages: 1
วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: قطوف من أزاهير النور Date: ก.พ. 29, 2008, 05:30 PM


“กริ๊ง .. “  เสียงโทรศัพท์มือถือหัวเตียงของผมดังขึ้นในตอนเช้าวันหนึ่งพร้อมกับข่าวคราวการจากไปของเพื่อนเก่า 


“อินนาลิลลาฮิวะอินนาอิลัยฮิรอยิอูน  ซอและฮฺ .. เอ็งจากไปเร็วเหลือเกิน “


ผมลุกขึ้น อาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วเพราะคอดียะฮฺย้ำว่าให้มาเร็ว ๆ อย่าชักช้าเหมือนที่เราเคยนัดกันเวลาไปเที่ยวกันเหมือนสมัยก่อนอีก  และที่สำคัญในวันนี้วันที่ซอและฮฺจากไปก็เป็นวันแรกหลังจากที่กลุ่มเราแยกย้ายกันไปตามทางหลังจากเป็นเพื่อนกันกว่า 10 ปีในสมัยที่เรายังเรียนปปอเนอะกันอยู่

ผม  ซอและฮฺ คอดียะฮฺ ซักรียา อานัส  อัสมา และตอเล็บ  เราเป็นเพื่อนร่วมก๊วนกันตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ   สมัยนั้นเราเรียนโรงเรียนปอเนาะด้วยกัน  โดยมีครูอิสมาแอล หรือครูแอลเป็นครูใหญ่คอยให้ความรู้  ขัดเกลา และสั่งสอนเราด้วยไม้เรียว   ผมจำได้ว่าสมัยนั้นเรา 7 คนโดนไม้เรียวจากครูแอลกันทุกวัน  ไม่ว่าจะเป็นเพราะมาสาย คุยเวลาเรียน หรืออ่านกุรอ่านออกเสียงไม่ถูกต้องก็เถอะ   แต่ไม่ว่าไม้เรียว (ซึ่งผมจำได้ว่ามันเรียวจริง ๆ) จะไม่เคยขาดจากการสัมผัสก้นพวกผมในแต่ละวัน มันก็ไม่ทำให้พวกเราไม่อยากไปเรียน  นั่นอาจเป็นเพราะความสนุกสนานเมื่อได้อยู่ร่วมกันกับเพื่อน ๆ หรือวิชาความรู้ที่ครูแอลไม่เคยย่อท้อในการสั่งสอนพวกผม

 

คอดียะฮฺเป็นสาวสวยในกลุ่ม  บ้านเธอฐานะดีที่สุดในกลุ่ม  แต่มันไม่เป็นอุปสรรคในการคบหากันระหว่างเรา  ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เธอเป็นหัวโจกนำพวกเราหนีเรียนจนโดนครูแอลตีก้นเรียงคนบ้างล่ะ  หรืออีกครั้งหนึ่งเธอก็เป็นคนนำอ่านกุรอ่าน หรือติวหนังสือให้พวกเราด้วยซ้ำ  ซึ่งอาจเป็นเพราะเธอล่ะมั้งที่ทำให้พวกเราสมานสามัคคีกันตลอดรอดฝั่งแม้จะมีเรื่องโต้เถียงกันตลอดเวลา

 

ซักรียา เพื่อนคนนี้มีแววออกมาดเซอตั้งแต่อายุเก้าขวบ  เจ้านี่เด็กที่สุดในกลุ่มตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม ทุกครั้งที่มีกิจกรรมโลดโผน .. เจ้านี่นี่ล่ะจะวิ่งนำหน้าเลยทีเดียว    วีรกรรมที่ผมไม่มีวันลืมของเจ้านี่คือ  วันหนึ่งที่เรามีนัดขี่จักรยานกันหลังเลิกเรียน  ขณะที่เรารอครูแอลเข้ามาในห้องเรียน  มันลากเก้าอี้เพื่อปีนไปหยิบนาฬิกาที่บอกเวลาอยู่หลังห้องแล้วจัดการเร่งเข็มยาวให้เร็วขึ้นกว่าเดิม  ซึ่งขณะนั้นเองครูแอลเดินเข้ามาในห้องพอดี  และเหตุผลที่มันบอกกับครูไปก็คือ .. “นาฬิกามันเดินช้าอ่ะครับผมกลัวว่าเราจะละหมาดมักริบไม่ทัน”  ผลกรรมของมันในวันนั้นก็คือถูกไม้เรียวสัมผัสก้นจนมันไปขี่จักรยานเล่นต่อไม่ได้เลยเชียว

 

อานัสกับอัสมาเป็นพี่น้องฝาแฝดคู่ที่ไม่ถูกกันมากที่สุด (ในโลกเลยมั้งผมว่า)  อัสมาแฝดผู้พี่ที่ดุน้องเก่งที่สุดเท่าที่ผมรู้จัก  เหมือนกันกับอานัสที่เป็นเด็กที่ซนที่สุดในโลก (ที่ผมเคยเห็นในเวลานั้น)  แต่บางทีเธอก็ทำเป็นลืมดุ เวลาที่เธอร่วมวงซนด้วยกันไม่ว่าจะเป็น ตอนนั้นที่หลบครูไปโดดคลองหลังสวนด้วยกัน  ทั้งที่ครูท่านคาดโทษไว้แล้วแท้ ๆ

 

ส่วนตอเล็บ หนุ่มหน้าหล่อ เรียนเก่งแต่ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดอะไร แต่ทุกคนก็รู้ว่าถ้าถึงเวลาเล่นก็ไม่มีทางที่จะไม่มีมันเด็ดขาด

ประมาณสิบเอ็ดโมงกว่า ๆ ผมมาถึงสถานีปลายทางทันเวลานัดพอดี   จากที่นี่ไปเดินไปหน่อยเดียวก็ถึงมัสยิดที่ตั้งศพของซอและฮฺ  ณ ตอนนี้ผมอยากให้ทางเดินมันยาวออกไปอีกหน่อย  ทั้งที่รู้ว่าเพื่อนจากไปแล้วแต่ในใจผมก็คล้ายกับจะไม่เชื่ออยู่ว่าเขายังไม่จากผมไปจริงๆ ถ้าผมไม่ได้เห็นกับตา

 

ซอและฮฺเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกับผม  แม้ว่าเขาจะดูอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม  แต่ท่ามกลางการประคบประหงมของพวกเราก็ทำให้ซอและฮฺร่วมหัวจมท้ายซุกซนกับพวกเราเรื่อยมา   ผมไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะพวกผมหรือเปล่าที่ทำให้เมื่อซอและฮฺเติบโตขึ้นมา  เขากลายเป็นคนที่ต่อสู้กับชีวิตมากกว่าพวกผมที่มีร่างกายแข็งแรงเสียอีก  ผมจำได้แม่นว่าเรานั่งติดกันเสมอในชั้นเรียน และโต้เถียงกันในแทบทุกคาบที่ครูแอลเอาเรื่องราวประวัติศาสตร์ นักต่อสู้ของบรรพชนตั้งแต่อดีต หรือขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามให้ฟัง

 

ครั้งหนึ่งครูแอลนำเรื่องขบวนการเคลื่อนไหวแห่งอิสลามมาเล่าให้ฟัง  ท่านเล่าว่าในปัจจุบันมีมากมายหลายกระแส ไม่ว่าจะเป็นญะมาอัตอิควานมุสลิมูนที่นำโดยท่านอีหม่าม หะสัน อัลบันนาซึ่งเริ่มต้นด้วยการให้สัตยาบันร่วมกันของกลุ่มคนงานชาวอียิปต์กลุ่มหนึ่งโดยสัญญามั่นว่าจะสนับสนุนการเรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ  ซึ่งปัจจุบันขบวนการนี้ขยายออกไปทั้งอียิปต์ ซูดาน จอร์แดน ตูนีเซีย ฯลฯ   หรือญะมาอัตตับลีฆที่นำโดยท่านเมาลานาอิลยาสผู้เริ่มงานดะอวะฮอย่างจริงจังในประเทศอินเดีย แนวคิดของท่านในการเผยแพร่คือ อิสลามควรไปถึงทุกคนอย่างทั่วถึงไม่ว่าบุคคลใดจะแสวงหาหรือไม่ดังเช่น “น้ำฝน” โดยความพยายามฟื้นฟูศาสนาต้องทำควบคู่กับการปรับปรุงสังคมไปด้วย  และจนกระทั่งปัจจุบันทั้งสมาชิกและผลงานของญะมาอัตนี้กว้างใหญ่ทั่วโลกทั้งประเทศมุสลิมและประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม 

 

อีกญะมาอัตหนึ่งที่ครูแอลยกตัวอย่างให้ฟังก็คือ ญะมาอัตอิสลามีย์ ที่มีผู้นำคนสำคัญคือท่านเมาลานา สัยยิด อบุล หะสัน อะลียฺ อัน-นัดวียฺ  ที่มีฐานะเป็นหัวหน้าของขบวนการปัญญาชน "นัดวะตุล อุลามาอฺ" ศูนย์กลางการให้วิชาความรู้อยู่ที่เมืองลัคเนาว์ เมืองหลวงของรัฐอุตรประเทศ อินเดีย ที่มีแนวคิดสมานฉันท์ในหมู่มุสลิม 

 

ท่านอบุล หะสัน อัน-นัดวียฺนั้นเคารพกับท่านเมาลานาอิลยาส และมีความสัมพันธ์อันดีท่านเมาลานา อบุล อะอฺลา อัล-เมาดูดี ถึงแม้ว่าจะมีความเห็นแตกต่างกันทางวิชาการในบางเรื่อง  แต่ปัจจุบันสานุศิษย์กลับมีการกระทบกระทั่งกันเอง

 

“ครูเองก็ได้แต่รอวันที่รอยแยกตรงนี้สมานกันสนิทเสียที  เพราะหลังจากนั้นอิสลามยังมีอะไรให้เราทำอีกมาก” ครูแอลสรุปไว้เพียงเท่านี้ ทิ้งให้ศิษย์เอกอย่างผมและซอและฮฺเถียงกันต่อไป

“ อัลลอฮฺสัญญาไว้แล้วว่าอิสลามจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง  ก่อนถึงวันนั้น ไม่ว่ากระแสไหน จะกลุ่มไหน มัสฮับไหน ทั้งชาฟีอีย์ ตับลีฆ สลาฟีย์ หรือ ฮัมบาลีย์  ก็ตามจะรวมตัวกันอย่างเป็นปึกแผ่นที่สุด อินชาอัลลอฮฺ “ ผมหันไปพูดกับซอและฮฺด้วยความมั่นใจ

“จะสมานกันได้ยังไงวะ เมื่อวานยังเห็นโต๊ะครูหมู่บ้านโน้นขึ้นเวทีว่าดะอฺวะฮฺอยู่เลย ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะรวมตัวกันได้ มาพนันกันไหมล่ะคนละ 200   ” ซอและฮฺพูดด้วยเสียงที่ได้ยินกันสองคนแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

ด้วยความกวนประสาทของมัน  ผมใช้ศอกกระทุ้งซี่โครงไปทีนึงแล้วจบบทสนทนาไว้แค่นั้น

 

หลังจากนั้นเมื่อเราต่างคนต่างเติบโตและแยกย้ายกันไป ขณะที่ผมทำงานเป็นนักข่าวอิสระ ส่วนซอและฮฺสมัครเป็นอาสาสมัครนักพัฒนาชุมชนเมื่อเรียนจบปริญญาตรี  ชีวิตทั้งชีวิตเขาทุ่มเทไปกับการเข้าไปสอนหนังสือเด็ก ๆ ในสามจังหวัด   แน่นอนว่าที่บ้านของเขาคงคัดค้าน  แม้กระทั่งพวกผมเองก็ทักท้วงด้วยความเป็นห่วง  แต่อะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เจ้านั่นดั้นด้นไปสอนหนังสือที่นั่นนานกว่า 5 ปี และเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า  ซอและฮฺไม่ได้เสียชีวิตที่นั่น  เขาสิ้นลมเมื่อกลับมาเยี่ยมบ้านได้ไม่กี่สัปดาห์  แม่ของซอและฮฺบอกว่าซอและฮฺบ่นอยากกลับมาที่นี่เหมือนรู้ตัวว่าคงไม่ได้กลับมาอีกถ้าไม่ได้กลับมาบ้านคราวนี้

 

ผมเดินเข้าไปในบริเวณมัสยิด  บรรยากาศคล้ายกับงานศพทั่วไป  เงียบเหงา เศร้าสร้อย  เพื่อนในกลุ่มผมมากันครบแล้ว ผมมาช้าอีกตามเคย  เพื่อนทุกคนร้องไห้  อานัส อัสมา ทักทายผมด้วยรอยยิ้มในคราบน้ำตา  คอดียะฮฺพยักหน้าให้ผมและหันหน้าไปทางอื่นราวกับว่าไม่อยากให้ผมเห็นน้ำตา  ส่วนซักรียาลุกขึ้นพาผมไปดูมะยัตพร้อม ๆ กัน  หลังจากนั้นผมก็จำได้ว่าน้ำตาผมไหลลงมามากกว่าที่เจ้าพวกนั้นรวมกันเสียอีก 

 

หลังจากละหมาดและฝังซอและฮฺเรียบร้อยแล้ว  เราจึงถือโอกาสไปกินเนื้อกระทะกันเพื่อถือเป็นการสังสรรค์เพื่อนรุ่นไปในตัวเพื่อถามสารทุกข์สุขดิบกัน 

คอดียะฮฺเธอเปลี่ยนไปมากตอนนี้เธอกลายเป็นแม่บ้านของซักรียาอย่างสมบูรณ์ เธอยังคงเป็นห่วงเป็นใยพวกเราเหมือนเดิม  ส่วนซักรียากลายเป็นหนุ่มดะวะฮฺเต็มตัววันนี้เจ้านี่มาในชุดโต๊บขาวยาวสะอาด  อาการซุกซนเมื่อตอนเด็ก ๆ ของมันหายไปหมดแล้ว คงเหลือไว้แต่ความสุขุม  ยิ้มแย้ม  มันถามถึงสถานการณ์ชีวิตผมอย่างอ่อนโยน และตักเตือนให้ผมหาญะมาอะฮฺไปอยู่ด้วย   เพราะการอยู่มุสลิมแบบไม่มีญะมาอะฮฺมันอันตราย  นี่ถ้าผมขุดเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมา .. มันจะหลุดจากอาการสุขุมนี่ไหมนะผมคิดในใจแล้วอดยิ้มออกมาเองไม่ได้

 

อัสมากลายเป็นพี่สาวที่เชื่อฟังน้องชายไปเสียแล้ว หลังจากที่อานัสสำเร็จการศึกษามาจากมะดีนะฮฺ โดยทุกวันนี้เขากลับมาฟื้นฟูสังคมในหมู่บ้านของเขาเองด้วยแนวคิดแบบสลาฟีย์   ส่วนตอเล็บกลายเป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ในวงการ เขาเติบโตขึ้นมาในสังคมธุรกิจพร้อมกับประกาศตัวว่าเป็นมุสลิมมาวันนี้เขามาขอคำปรึกษาจากอานัสในเรื่องดอกเบี้ยกับธุรกิจที่เขาจะลงทุน  ในขณะที่อัสมาขอคำแนะนำจากคอดียะฮฺเกี่ยวกับลูกคนเล็กของเธอที่ติดการ์ตูนมากกว่าอ่านอัลกุรอ่าน

 

เราร่ำลาและแยกย้ายจากกันเมื่อประมาณ 2 ทุ่มเศษ ภาพที่เห็นคือ ผม ซักรียา และตอเล็บสล่ามกอดและขอมาอัฟกันและกัน  เหมือนกันกับที่คอดียะฮฺสล่ามอัสมาแล้วสองคนนี้ก็ร้องไห้กันอีกแล้ว ..

ค่ำนั้นเราอิ่มหนำสำราญและยิ้มแย้มที่ได้มาเจอกันจนผมอดนึกถึงซอและฮฺเจ้าตัวต้นเหตุที่ทำให้เรามาเจอกันพร้อมกับนึกถึงเสียงมันขึ้นได้ “..มาพนันกันไหมล่ะคนละ 200 มุสลิมรวมตัวกันไม่ได้หรอก”

 

“ ซอและฮฺเอ็งตายหนีหนี้นา “ ผมได้แต่คิดในใจพร้อมกับตั้งใจแน่วแน่ “ไม่เป็นไร..ข้าจะไปตามทวงเอ็งถึงโลกหน้าเลยคอยดู .. ” 

 

 

 

ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรตีมะตะบะ เล่มที่เท่าไหร่ จำไม่ได้

Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: - ครูจริงใจ- Date: ก.พ. 29, 2008, 06:36 PM
طوف من أزاهير النور

เพิ่งสังเกตว่า  พี่ชาเปลี่ยนนิค อีกแล่ะ
แปลว่า ไรหรอพี่ชา  (  อยากรู้อ่ะ  )
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: قطوف من أزاهير النور Date: ก.พ. 29, 2008, 06:42 PM

ยื้ม เขามา
รอคนอื่นมาแปลให้อีกที  ;D ;D ;D
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: - ครูจริงใจ- Date: ก.พ. 29, 2008, 06:44 PM
แต่วววววววว

 hihi: hihi: hihi:
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: musalmarn Date: มี.ค. 17, 2008, 03:32 AM
ชอบบทความนี้มากๆ

จากใจจริง
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: قطوف من أزاهير النور Date: มี.ค. 17, 2008, 03:56 PM

มานเป็นเรื่องสั้น
มะช่ายบทความ  -____-'
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: خالد الأزهري Date: มี.ค. 18, 2008, 08:16 PM
จีบก่อนแต่งก่า....แน่นอง...อิอิ
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: قطوف من أزاهير النور Date: มี.ค. 18, 2008, 10:04 PM

อ้ะแน่นองซิฮ้า  hihi:  hihi:  hihi:
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: musalmarn Date: มี.ค. 20, 2008, 02:00 PM

มานเป็นเรื่องสั้น
มะช่ายบทความ  -____-'

กะลังอยู่ในช่วงสอบของโลกดุนยา มึนนิดหน่อย

หวังว่า อรูชาฮ คงเข้าใจ หุหุ ^^
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: มะฮฺ-คับ Date: มี.ค. 20, 2008, 05:25 PM
คงจะรวมตัวกันได้ก็วันงานศพแหละคับ

อ้อ อีกงาน ก็ เดินประท้วงเดนมาร์ก   hehe
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: قطوف من أزاهير النور Date: มี.ค. 21, 2008, 11:43 AM
 salam

ถ้าอ่านประเด็นดี ๆ จะรู้ว่าเราไม่ได้รวมตัวกันได้เพราะงานศพหรอกค่ะ เพราะ งานศพบางงานก็ยุ่งเหยิงไปอีก บางคนอ่านตัลกีน  บางคนไม่อ่าน  ฯลฯ  ประเด็นสำคัญคือเรารวมตัวกันเพราะมิตรภาพต่างหาก เพราะความเป็นพี่เป็นน้อง  เพราะการต้องความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สังคมหนึ่งย่อมเป็นส่วนช่วยเหลืออีกสังคมหนึ่ง  พระเจ้าบอกว่าเราเกิดมาเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อให้เรารุ้จักกันและช่วยเหลือกันและกันไม่ใช่หรือคะ ?

ผู้เขียนเองปรารถนาและหวังให้สังคมเป็นเช่นนี้ ซึ่งความจริงอาจจะเป็นอยู่แล้วแต่เราไม่เคยมองว่าความเป็นปึกแผ่นนั้นเกิดขึ้นได้
สังคมมุสลิมในอนาคตไม่ได้ขึ้นอยุ่กับโต๊ะครูวันนี้หรอกค่ะ    ขึ้นอยุ่กับเยาวชน ขึ้นอยุ่กับพวกเรา ๆ นี่ล่ะ ขอแค่พยายามมองสังคมด้วยความเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องที่พร้อมจะให้อภัย พร้อมจะนาซีฮัตกันด้วยความจริงใจต่อสังคม ต่ออิสลาม

ร่วมกันสร้างสรรสังคมนะคะ

อัสลามมุอะลัยกุม
Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: คนเดินดิน Date: มี.ค. 21, 2008, 11:55 AM

ยื้ม เขามา
รอคนอื่นมาแปลให้อีกที  ;D ;D ;D


salam

ไม่ได้เข้ามาแปลนะ

แต่นึกถึงงานสายใยฯ  ของ ม.เก่า

น้อง ๆ เค้าตั้งชื่อได้เท่ห์มั่ก ๆ ว่า

นูรุลอัสฮัร

ปาริฉัตรแห่งศรัทธา

กะเอามาตั้งเป็นนิคตัวเอง

แต่  it is  my  life  ดีก่า


หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง

Re: วันงานศพซอและฮฺ (เรื่องสั้น) By: nada-yoru Date: เม.ย. 19, 2013, 03:48 AM
อัสลามุอะลัยกุม

เป็นเรื่องสั้นที่สอดแทรกแง่คิดที่ดีๆเอาไว้ได้อย่างดีเลยทีเดียวค่ะ

เพราะบางครั้งเราก็ลืมบางอย่างไป แม้จะอยู่ใกล้แค่ตาก็ตาม...

วันสงกรานต์ที่ผ่านมา พี่ๆน้องๆได้พบปะพูดคุยกัน
ได้ปรึกษาปัญหาชีวิต ได้เล่าเรื่องราวต่างๆที่แต่ละคนได้พบเจอมา
ได้แชร์แง่คิดและแชร์ประสบการณ์กัน ได้ทำอะไรกินด้วยกัน
ได้ทำกิจกรรมดีๆด้วยกัน...
หลังจากที่ไม่เคยมีโอกาสได้รวมกลุ่มกันจนครบทีมมานานแล้ว...

เชื่อลึกๆว่า...ปะกับมะคงมีความสุขมาก เพราะสังเกตจากรอยยิ้ม
บนใบหน้าได้อย่างชัดเจน

ข้าน้อยเองมองว่า...ไม่ใช่เพราะวันสงกรานต์ท่ีทำให้เราพบกัน
แต่เป็นเพราะเราอยากไปพบกัน อยากเจอหน้ากัน
อยากอยู่พร้อมหน้ากัน เราจึงตกลงว่าจะพบเจอกันในวันนั้น...

มิตรภาพและความรักจะคงมีอยู่ในใจเสมอ
และมันจะแสดงออกมาเสมอเมื่อถึงเวลาของมัน...

ปล.คืนนี้ไม่ได้นอนดึกนะคะ...แต่นอนไปแล้วยกนึง
และก็ตื่นมาอีกรอบ...และก็กำลังจะกลับไปนอนต่อค่ะ...เฮะๆ

วัสลามค่ะ