ท่านอัตติรมีซีย์ ได้รายงานว่า
عُبَيْدُ اللهِ بْنُ عَلِيٍّ ، عَنْ جَدَّتِهِ سَلْمَى ، أَنَّ الْحَسَنَ بْنَ عَلِيٍّ ، وَابْنَ عَبَّاسٍ ، وَابْنَ جَعْفَرٍ أَتَوْهَا فَقَالُوا لَهَا : اصْنَعِي لَنَا طَعَامًا مِمَّا كَانَ يُعْجِبُ رَسُولَ اللهِ صلى الله عليه وسلم ، وَيُحْسِنُ أَكْلَهُ فَقَالَتْ : يَا بُنَيَّ لا تَشْتَهِيهِ الْيَوْمَ ، قَالَ : بَلَى اصْنَعِيهِ لَنَا قَالَ : فَقَامَتْ فَأَخَذَتْ مِنْ شَعِيرٍ فَطَحَنَتْهُ ، ثُمَّ جَعَلَتْهُ فِي قِدْرٍ ، وَصَبَّتْ عَلَيْهِ شَيْئًا مِنْ زَيْتٍ ، وَدَقَّتِ الْفُلْفُلَ ، وَالتَّوَابِلَ ، فَقَرَّبَتْهُ إِلَيْهِمْ ، فَقَالَتْ : هَذَا مِمَّا كَانَ يُعْجِبُ رَسُولَ اللهِ صلى الله عليه وسلم ، وَيُحْسِنُ أَكْلَهُ
อุบัยดุลลอฮ์ บุตร อะลี ได้รายงานจาก ย่าของเขา คือ ท่านนางซัลมา ว่า "ท่านอัลฮะซัน บุตร อะลี , ท่านอิบนุอับบาส , ท่านอิบนุญะฟัร , ได้มาหานาง แล้วกล่าวกับนางว่า "ท่านจงปรุงอาหารที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ประทับใจและชื่นชอบรับประทานให้แก่เราเถิด นางกล่าวว่า โอ้ลูกน้อย เรามิปรารถนามันในวันนี้ พวกเขากล่าวว่า ท่านจงปรุงให้แก่เราเถิด - อุบัยดุลลอฮ์ ผู้เป็นหลาน กล่าวว่า - นางได้เอาวัตถุดิบหนึ่งจากข้าวบาเล่ แล้วทำการโม่ให้แป้ง จากนั้นก็นำใส่ลงภาชนะ และทำการราดด้วยน้ำมัน(มะกอก) จากนั้นนางทำการบดพริกไทย(อาหรับเขาเอามาจากอินเดีย)และบดตะวาบิล(เครื่องเทศที่มีรสเผ็ดร้อนนำมาจากอินเดีย บ้างกล่าวว่า เป็นเครื่องเทศที่ประกอบด้วยเม็ดผักชี , ขิง , ยี่หร่า , เป็นต้น) แล้วนางก็นำไปวางใกล้พวกเขา และกล่าวว่า นี้คืออาหารที่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ประทับใจ และชอบรับประทาน" อัชชะมาอิล มุฮัมมะดียะฮ์ (171)
ท่านอัลฮะซัน บุตร ท่านอะลี , ท่านอิบนุอับบาส , และท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ ญะฟัร , ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุม ได้มาเยี่ยมเยือนท่านนาง ซัลมา แม่ครัวของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกเขาได้กล่าวแก่นางว่า ท่านจงปรุงอาหารรสเลิศที่นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมชื่นชอบ จากอาหารที่ท่านได้เคยปรุงให้แก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
นางกล่าวว่า โอ้หลาน ๆ เอ้ย...เราไม่ยากรับประทานมันในวันนี้ พวกเขาจึงกล่าวว่า เราอยากจะรับประทานเพื่อความศิริมงคล ชีวิตการเป็นอยู่ดังกล่าวนั้นได้มีความสะดวกสบายแล้วและความลำบากที่เคยมีมาก่อนนั้นได้หมดไปแล้ว ท่านจงปรุงอาหารให้แก่เราด้วยเถิด
ท่านนาง ซัลมา จึงหยิบข้าวบาเล่มาแล้วทำการโม่ให้เป็นแป้ง จากนั้นก็นำใส่ลงภาชนะ และทำการราดด้วยน้ำมันมะกอกและอื่น ๆ จากนั้นนางทำการบดพริกไทย ซึ่งอาหรับเขาเอามาจากอินเดีย หากเป็นพริกไทยขาวก็จะมีประโยชน์ยิ่งกว่า และทำการบดตะวาบิล ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่มีรสเผ็ดร้อนนำมาจากอินเดีย บ้างกล่าวว่า เป็นเครื่องเทศที่ประกอบด้วยเม็ดผักชี , ขิง , ยี่หร่า , เป็นต้น) แล้วนางก็นำไปวางใกล้พวกเขา และกล่าวว่า นี้คืออาหารที่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ประทับใจ และชอบรับประทาน
อ้างอิงจาก : หนังสือ อัชชะมาอิล อัลมุฮัมมะดียะฮ์ วัลคิซอลอัลมุสต่อฟะวียะฮ์ 1/274 - 276
Re: อาหารที่ท่านนบี(ซ.ล.)ชื่นชอบปรุงโดยนาง"ซัลมา"แม่ครัวประจำตัวของท่าน By: คะลัคคะลุย Date: มี.ค. 17, 2008, 11:48 AM
salam
หากใครถามว่า ชื่อซัลมา แปลว่าอะไร หากเราไม่รู้ ก็ตอบได้อีกอย่างหนึ่ง ซัลมา เป็นชื่อของแม่ครัวประจำของท่านนบี (ซ.ล.) ใช่ป่ะ
Re: อาหารที่ท่านนบี(ซ.ล.)ชื่นชอบปรุงโดยนาง"ซัลมา"แม่ครัวประจำตัวของท่าน By: ตอลิบุลอัสฮัร Date: มี.ค. 18, 2008, 12:00 PM
นำไปตั้งชื่อให้หลานๆๆดีกว่า..
Re: อาหารที่ท่านนบี(ซ.ล.)ชื่นชอบปรุงโดยนาง"ซัลมา"แม่ครัวประจำตัวของท่าน By: julee Date: มี.ค. 19, 2008, 01:48 AM
salam
หากเราดูวิธีการปรุงของนางซัลมาแม่ครัวของท่านนบี(ซ.ล.)แล้ว ปรากฏว่าอาหารที่นางได้ทำนั้นไม่น่าจะอร่อยอะไรมากมาย เราคิดว่าคงจะสู้อาหารที่บ้านเราทำกันไม่ได้ ซึ่งมีอาหารที่มีส่วนผสมหลากหลาย มีการกับเต็มสำรับ แต่ทว่าอาหารที่ท่านนบี(ซ.ล.)ชื่นชอบที่สุด ก็ยังเป็นอาหารทำธรรมดา ซึ่งชี้ถึงความสมถะของท่านอย่างแท้จริง ปกติท่านรับประทานขนมปังแห้งเนื้อหยาบแบบอิ่มมืออดมื้อเสียด้วยซ้ำไป ดังนั้นเมื่อเรารับประทานอาหารที่อร่อย ๆ ก็สมควรชุโกรต่ออัลเลาะฮ์ให้มาก ๆ อย่าเนรคุณต่อพระองค์ครับ
วัสลามุอะลัยกุ้ม
Re: อาหารที่ท่านนบี(ซ.ล.)ชื่นชอบปรุงโดยนาง"ซัลมา"แม่ครัวประจำตัวของท่าน By: nada-yoru Date: ต.ค. 05, 2013, 01:37 AM
สำหรับข้าน้อย โดยความคิดส่วนตัวมองว่า
...อาหารที่โปรดปรานอาจไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับว่า มันคืออะไร
หรือรสเลิศแค่ไหน หรือถูกทำขึ้นมาจากอะไร
แต่มันขึ้นอยู่กับความพอใจในสิ่งนั้น...
บางครั้งได้กินอาหารอย่างดีที่เขาทำมาให้
ก็ไม่อร่อยเท่าแกงส้มปลาดุกตามท้องทุ่งนาที่พ่ออุตส่าห์ไปหามาแล้วแม่ปรุงให้กิน...
พร้อมกับนั่งล้อมวงกินกันท่ามกลางบรรยากาศในท้องทุ่ง มีลมพัดโชย แสงแดดอ่อนๆ...
ที่อยากจะบอกก็คือ...คนทำให้กินก็สำคัญค่ะ...เพราะคนๆนั้นทำให้กิน
เราเลยกินได้เยอะกว่า แม้อาหารนั้นๆจะมีรสไม่เลิศเลอเท่ากับแม่ครัวชั้นเยี่ยมเขาเคยทำให้กิน
และที่สำคัญไปกว่านั้น...หากมีอาหารรสอร่อยแต่ต้องนั่งกินคนเดียว ในห้องอาหารชั้นหรู
มันก็คงไม่เจริญอาหารเท่ากับได้นั่งกินกับคนที่เราพอใจในบรรยากาศ
ที่ดูเหมือนจะธรรมดาๆก็ได้ค่ะ...
เพราะคำว่า ธรรมดานั้น บางครั้ง มันก็อาจจะไม่ธรรมดา....
ดังนั้น...การกระทำของท่านรอซุลุลลอฮฺก็อาจทำให้เราได้เห็นในหลากหลายแง่มุมค่ะ...