กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ สนทนาศาสนธรรม
Pages: 1
ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์ By: قطوف من أزاهير النور Date: มี.ค. 18, 2008, 09:41 AM


ความตาย...
จุดวัดความฉลาดของมนุษย์




 
'ความตาย' เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมิอาจหลีกหนีได้ เป็นสัจธรรมแม้แต่คนซึ่งยังไม่เคยตายก็เชื่ออย่างเด็ดขาดว่า ต้องเกิดกับตนเช่นกัน นี่เป็นสัจธรรมที่ยุติธรรมอย่างยิ่ง ไม่ว่าราชาหรือขอทานต่างก็ต้องพบกับความตาย

 
'ณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าปรากฏอยู่ ความตายก็ย่อมมาถึงพวกเจ้า และแม้ว่าพวกเจ้าจะอยู่ในป้อมปราการอันสูงตระหง่านก็ตาม' (อัล กุรอาน 4:78)

'เมื่อกำหนดวาระแห่งความตายของพวกเขาได้มาถึง พวกเขาไม่สามารถเลื่อนเวลาออกไปให้ช้า แม้เพียงสักชั่วโมงเดียว หรือรีบเร่งให้มาถึงก่อนก็ตาม' (อัล กุรอาน 10:49)

'ทุกชีวิตย่อมลิ้มรสความตาย' (อัล กุรอาน 21: 35)

 

            
แม้ 'ความตาย' จะเป็นสัจธรรมที่เด็ดขาดปานใดก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ไม่ชอบพูดถึงความตาย ความตายจึงไม่ใช่หัวข้อที่มนุษย์นำมาพูดคุยกัน ยิ่งกว่านั้นหากใครยกมาพูดคุยก็ถูกมองว่าทำในสิ่งที่เป็นอัปมงคล
        

 ถามว่า การไม่ยอมใคร่ครวญเรื่องความตายและชีวิตหลังความตาย มันจะช่วยให้เราไม่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ? แน่นอน ทุกคนจะต้องตอบคำถามนี้ว่า ไม่อย่างแน่นอน
        
ดังนั้นคงไม่มีใครคิดหยุดยั้งความตายด้วยการปิด'ป่าช้า'เป็นแน่

 
แต่แล้วคนจำนวนมากให้ความสนใจต่อความตายผิดประเด็นไป พวกเขาจำกัดความสนใจของตัวเองเพื่อให้ตายอย่างสบายหรือพยายามยืดเวลาการตายไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แนวโน้มเช่นนี้ปรากฏรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นธุรกิจสุขภาพที่ทำรายได้มหาศาล
        
ทำไมคนเราสนใจความตายในประเด็นแค่ตายให้สบาย ชนิดเหมือนสับสวิทช์  แต่ใครเล่าจะรู้ความจริงในแก่นแท้ของความตายว่า จริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่เรียกว่า 'ความตาย' จนถึง'ชีวิตหลังความตาย'
          
มนุษย์มีความรู้แค่ไหนกัน ถึงกับสามารถให้ความหมายต่อความตายเอาเองได้


        
ชายคนหนึ่งได้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ว่า 'ผู้ศรัทธาคนใดฉลาดที่สุด? ' ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ตอบว่า 'คนที่นึกถึงความตายมากที่สุด และเตรียมตัวอย่างดีที่สุดเพื่อชีวิตหลังความตาย พวกเหล่านี้แหละคือคนฉลาด'(อ้างจากเศาะฮีฮฺ  อิบนุ มาญะฮฺ 3435 โดยอัล อัลบานียฺ)
            

อุละมาอ์(ปราชญ์อิสลาม)บางท่านได้ชี้ให้เห็นถึงผลของการรำลึกถึงความตายว่า 'ใครก็ตามที่รำลึกถึงความตายบ่อยๆ จะได้ประโยชน์ 3 ประการ (1) เขาจะรีบเตาบะฮฺ(กลับเนื้อกลับตัวต่ออัลลอฮฺ) (2)หัวใจรู้สึกพอเพียง(ไม่ละโมภ) (3)ทำอิบาดะฮฺอย่างกระฉับกระเฉง ใครก็ตามที่หลงลืมความตาย เขาจะได้รับโทษ 3 ประการ (1) ล่าช้าในการเตาบะฮฺ (2)ไม่พึงพอใจและพอเพียงในสิ่งที่มีอยู่ (3)เกียจคร้านการทำอิบาดะฮฺ '  

สิ่งที่น่าเป็นห่วงในโลกยุคใหม่ก็คือ การมีชีวิตอยู่โดยห่างไกลจากความตาย สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมเพื่อทำให้ลืมความตาย ในบางแห่งเราได้พบว่า แม้ในการนำศพไปฝังก็เต็มไปด้วยบรรยากาศเฮฮา สนุกสนาน จริงอยู่อิสลามห้ามการรำพึงรำพัน แต่อิสลามก็ปฏิเสธบรรยากาศที่หลงลืมความตาย
        

 เมื่อความตายกลายเป็นสัจธรรมที่ผู้คนแกล้งพากันลืม ผู้คนก็อาศัยอยู่ในโลกนี้ด้วยการหลอกตัวเองไปวันๆหนึ่งว่า โลกนี้คือสถานที่ที่สามารถหาความสุขที่แท้จริงได้
        

แม้รู้ว่านี่เป็นความเท็จ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยินยอมที่จะอยู่ในโลกที่หลอกลวงเช่นนี้

การให้มวลชนมุสลิมสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความตาย จึงเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของสังคมที่อิสลามสร้างขึ้น เช่น การส่งเสริมให้เข้าร่วมการจัดการญะนาซะฮฺ(ศพ), การส่งเสริมให้เยี่ยมผู้ป่วยหรือคนเจ็บหนัก, หรือแม้กระทั่งการเยี่ยมกุบูร(สุสาน) เป็นต้น
        

อิสลามสร้างบรรยากาศเช่นนี้ด้วยการปฏิบัติจริง ก็เพราะต้องการขจัดภาพลวงตาของผู้คนส่วนใหญ่ที่แสร้งไม่รู้ความจริงในเรื่องความตาย เพื่อเรียกร้องให้มนุษย์กล้าเผชิญหน้ากับความจริงนี้ เพื่อมันจะได้เป็นเครื่องเตือนสติพวกเขา ดังที่ท่านฟุฎอยลฺ บิน อิยาฎ ผู้เป็นตะบีอีนที่มีชื่อเสียงกล่าวไว้ว่า 'ความตายเป็นผู้เตือนที่เพียงพอแล้ว'
          

หากความตายไม่อาจเป็นคำเตือนได้ โลกนี้จึงเต็มไปด้วยมนุษย์ที่โง่เขลา รู้จักแต่บำเรออารมณ์ปรารถนาของตนเองอย่างละโมบ ราวกับฝูงวัวควายที่ถูกต้อนไปยังโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งทั้งที่เพื่อนของพวกมันบางตัวเพิ่งจะถูกเชือดไปต่อหน้าต่อตา พวกมันกลับสาละวนอยู่กับการแย่งกันกินหญ้าข้างๆโรงฆ่าสัตว์ และบางตัวยังคงสมสู่กับตัวเมียอยู่นั่นเอง  
        

ช่างน่าสมเพชยิ่งนักสำหรับมนุษย์ที่ใช้ชีวิตไม่ต่างไปจากฝูงปศุสัตว์



อัล อัค ... เรียบเรียง


Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์ By: คะลัคคะลุย Date: มี.ค. 18, 2008, 10:32 AM
แม้ 'ความตาย' จะเป็นสัจธรรมที่เด็ดขาดปานใดก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ไม่ชอบพูดถึงความตาย ความตายจึงไม่ใช่หัวข้อที่มนุษย์นำมาพูดคุยกัน ยิ่งกว่านั้นหากใครยกมาพูดคุยก็ถูกมองว่าทำในสิ่งที่เป็นอัปมงคล

 salam

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง ความตายสัจธรรมที่ถูกลืม ใช่ป่ะ
Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์ By: ตอลิบุลอัสฮัร Date: มี.ค. 18, 2008, 11:25 AM
 การระลึกถึงความตายเท่านั้นที่จะทำให้เรามีจิตสำนึกในการทำอิบาดะมากขึ้น ...
Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์ By: JawhaR Date: ต.ค. 16, 2009, 10:28 AM
จงรำลึกถึงความตาย

Forward mail from Khun Fareeda

โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อเราตื่นนอนขึ้นมา สิ่งแรกที่เราคิดคืออะไร
   - กี่โมงแล้ว จะละหมาดซุบฮิทันไม๊เนี่ย หรือ
   - ตายละหวา การบ้านยังไม่เสร็จเลย วันนี้ต้องส่งด้วยสิ หรือ
   - แอ๊ะ... วันนี้หมอนัดตรวจร่างกายนี่นา ต้องรีบไป หรือ
   - อ้อ วันนี้วันหยุดนี่นา นอนต่อได้อีกนาน หรือ
   - วันนี้มีนัดกับเพื่อนว่าจะออกไปซื้อของซักหน่อย หรือ
   - วันนี้ละหมาดแล้วซักผ้าต่อดีกว่า
 
 
แต่ เคยไหมที่จะคิดว่า เมื่อตื่นมาวันนี้ เอาหละ วันนี้เราต้องตายแน่นอน
หรือเอาหละ เวลานี้แน่ที่ฉันจะต้องตาย
หรือ วันนี้ฉันพร้อมแล้ว สำหรับความตาย
น้อยคนนักที่จะ หยุด และ คิด
 
เวลาที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วยังไม่ได้ละหมาดซุบฮิ แต่ขอนอนต่ออีกซัก 5 นาที
ใน 5 นาทีที่ขอดีเลย์ไป เคยคิดไหมว่า เราอาจจะตายตั้งแต่นาทีแรกที่หลับต่อ
 
เวลาที่เดินออกจากบ้านไปด้วยใจมุ่งหวังว่าจะทำอะไรซักอย่าง
เคยคิดไหมว่า เราจะตายก่อนที่จะไปถึงที่หมาย หรือก่อนที่จะได้ทำอะไร
 
ในวันแห่งความปลื้มปิติ ในเช้าแห่งความยินดี
เคยคิดไหมว่า เราอาจจะไม่ได้อยู่ชื่นชมมันถึงในยามเย็น
 
ในราตรีอันอบอุ่น ในอ้อมกอดของคนรัก
เคยคิดไหมว่า พรุ่งนี้เราอาจจะตื่นมาพร้อมกับร่างที่แข็งทื่อ
หรืออาจจะเป็นเราเองที่ไม่ตื่น
 
ไม่มีใครรับรองได้ว่า จะมีชีวิตอยู่ถึงปีหน้า เดือนหน้า สัปดาห์หน้า พรุ่งนี้ หรือแม้แต่อีกหนึ่งนาทีข้างหน้า
 
หนึ่งจากกุญแจแห่งความลับที่ไม่มีใครล่วงรู้ คือ สถานที่ที่ชีวิตนั้นจะตายและถูกฝัง
แม้แต่นักโทษประหารก็ไม่มีสิทธิ์รู้ว่าตัวเองจะตายวันไหน
เมื่อผู้คุมเดินถือกุญแจไขประตูเข้ามา ก็ยังไม่อาจรู้ว่าวันนี้ถึงวันตายของตัวเองหรือยัง
จนกระทั่งเมื่อเขาถูกเชิญตัวออกไป เมื่อความตายได้มาถึงคอหอยนั่นแหละ
จึงเพิ่งจะรู้ความลับ แห่งเวลาและสถานที่ที่เราตาย
 
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังคงอยู่อย่างมีความหวัง อย่างรื่นเริงในดุนยาต่อไปหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังคงขอประวิงเวลาละหมาดออกไปกระนั้นหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังขอว่าขอทำโน่น ทำนี่อีกซักหน่อยแล้วค่อยกลับตัวกระนั้นหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังรั้งรออะไรอีกหรือ

หรือว่า
จะรอจนบันทึกถูกเปิดตรงหน้า และ มะลาอิกะห์แห่งความตายได้มาถึงยังเรา
จึงเพิ่งจะได้ระลึกถึงความตาย...

Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์ By: คนเดินดิน Date: ต.ค. 31, 2009, 11:36 PM
สิ่งที่ (คิด) ว่าไกลตัวแต่ใกล้ตัว





โหมดพึมพำ : มีบทความอยู่ก่อนตั้งเยอะแล้วนี่นา  เราไม่ทันอ่านเอง  (งานเข้าหล่ะทีนี้จะอ่านทันไหมน้อ?)

 myGreat:
Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์ By: คนเดินดิน Date: ธ.ค. 10, 2009, 02:50 PM
จงรำลึกถึงความตาย

Forward mail from Khun Fareeda
 
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังคงอยู่อย่างมีความหวัง อย่างรื่นเริงในดุนยาต่อไปหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังคงขอประวิงเวลาละหมาดออกไปกระนั้นหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังขอว่าขอทำโน่น ทำนี่อีกซักหน่อยแล้วค่อยกลับตัวกระนั้นหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังรั้งรออะไรอีกหรือ



         wahai  adik  kakak  yang  dikasihi  sekalian

ingat  lagi  atau  lupa