กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 1
น้ำลายสุนัข By: al-fantazy Date: เม.ย. 23, 2008, 10:15 PM
ผมเห็นอาจารย์ท่านหนึ่งฝ่ายวะฮาบีย์ที่ดังๆ อยู่ตอนเนี๊ยะ...เขาบอกกว่า..
ถ้าสุนัขเลียภาชนะให้ล้าง 7 น้ำ และต้องล้างครั้งแรกด้วยน้ำดิน....
แต่หากสุนัข มาเลียที่ขาเรา  เราล้างกับน้ำธรรมดาแค่ครั้งเดียวก็พอ ไม่ต้องล้างด้วยน้ำดิน
แบบนี้ถูกหรือเปล่าอะคับ.???

Re: น้ำลายสุนัข By: ILHAM Date: เม.ย. 23, 2008, 10:36 PM
ผมคิดว่าไม่ได้นะ เพราะยังไงๆน้ำลายมันก็นาญิสมูฆอลลาเซาะ ต้องล้างตามเดิมอยู่ดี
Re: น้ำลายสุนัข By: คะลัคคะลุย Date: เม.ย. 23, 2008, 11:43 PM
  salam

หากเอากันอย่างนั้น  เหยียบมูลสุนัข  ก็ล้างครั้งเดียวครับ  เพราะขี้ไม่ใช่น้ำลายและไม่ได้เปื้อนภารชนะ  แล้วถ้ามูลสุนัขเปื้อนภาชนะน่ะ  ไม่ต้อง 7 น้ำหรือเปล่า  หรือว่าล้างเฉพาะน้ำลายสุนัขอย่างเดียว   hehe
Re: น้ำลายสุนัข By: ILHAM Date: เม.ย. 24, 2008, 12:18 AM
เปลี่ยนชื่อแล้วดูมับแปลกนะพี่ แปลว่า คนบ้าความรู้หรือเปล่า หรือว่า ความรู้บ้าๆ
Re: น้ำลายสุนัข By: multi Date: เม.ย. 24, 2008, 10:12 AM
 salam
         ถ้าเป็นแบบนั้นจิงๆ  เวลาโดนหมาเลีย เดินไปเปิดก้อกน้ำล้างออก แล้วทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แค่นั้น
 แล้วอาบน้ำละหมาด ได้เลย   ใช่หรือปล่าว yippy:!!!
Re: น้ำลายสุนัข By: Mustafa Date: เม.ย. 24, 2008, 03:27 PM
 salam

عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قال رسول الله صلى الله عليه وسلم ((طهور إناء أحدكم ، إذا ولغ فيه الكلب ، أنْ يغسله سبع مرات . أولاهنّ بالتراب))
                                رواه الإمام مسلم.

ความว่า: รายงานจากท่านอบีฮูรอยเราะฮฺ(รอฏิฯ)ซึ่งท่านกล่าวว่า ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ(ศ็อลฯ)กล่าวว่า “การทำความสะอาดภาชนะของคนหนึ่งในกลุ่มพวกท่าน เมื่อสุนัขได้มาเลียในภาชนะนั้น คือให้เขาล้างมัน7ครั้ง(จากน้ำที่สะอาด) หนึ่งใน7ครั้งจะต้องมีน้ำดินด้วย”.

ถ้าหากเราตามทัศนะของวาฮาบีย์ การล้างขาที่สุนัขมาเลียนั้น ก็น่าจะเพียงพอแล้วละครับ เพราะคนกลุ่มนี้เขาไม่เอากิยาส (การเทียบ) โดยที่อัลฮาดิษก็ได้กล่าวไว้เพียงการล้างภาชนะเท่านั้น ไม่กล่าวถึงการล้างสิ่งอื่นๆ

อ้างถึง
แต่หากสุนัข มาเลียที่ขาเรา  เราล้างกับน้ำธรรมดาแค่ครั้งเดียวก็พอ ไม่ต้องล้างด้วย

ยังดีนะครับที่ชนกลุ่มนี้ ยังยอมรับว่า น้ำลายสุนัขเป็นสิ่งสกปรก เพราะมิเช่นนั้น ก็คงไม่ล้างอะไรกันเลย (ประชดครับ)

สำหรับอะลิสสุนนะห์วัลญะมาอะห์นั้น ไม่ใช้เพียงแต่น้ำลายของมันเท่านั้นที่สกปรก แต่เป็นทุกๆส่วนของตัวมัน เมื่อเราได้ไปกระทบกับมันในขณะเปียก จำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดด้วยกับน้ำถึง7ครั้ง และใน7ครั้งจะต้องมีน้ำดินด้วย ตามทัศนะของท่านอีหม่ามชาฟีอีและท่านอีหม่ามฮัมบาลี แต่ท่านอีหม่ามอะฮฺมัดให้ทัศนะว่าจะต้องล้างน้ำถึง8น้ำพร้อมกับน้ำดิน เพราะน้ำดินจะเป็นตัวฆ่าเชื้อโรคที่มีอยู่ในสุนัข และไม่เพียงพอที่จะใช้สบู่หรือสารเคมีอื่นๆมาทำความสะอาดแทนน้ำดิน และท่านร่อซู้ล(ศ็อลฯ)ได้ผ่อนปรนให้ สำหรับสุนัขล่าเนื้อที่ใช้ล่าสัตว์

การที่ท่านร่อซู้ลยกการทำความสะอาดของน้ำลายสุนัขมานั้น โดยที่ไม่ได้บอกว่าจะต้องทำความสะอาดในขณะที่ส่วนต่างๆของสุนัขมากระทบนั้น เป็นมั๊วะจิซาต (ความมหัศจรรย์) อย่างหนึ่งคน เพราะแท้จริงแล้วส่วนที่สะอาดที่สุดของสุนัขก็คือน้ำลาย(ตามทรรศนะของนักวิทยาศาสตร์) และการที่มันแลบลิ้นอยู่ตลอดเวลานั้น เป็นเพราะว่าร่างกายของสุนัขนั้นมีต่อมเหงื่อเพื่อระบายความร้อนในร่างกายเพียงที่เดียวคือฝาเท้าของมัน มันจึงต้องระบายความร้อนทางปาก จึงเป็นสาเหตุให้น้ำลายของมันนั้นไหลอยู่ตลอดเวลา

และหนึ่งจากสาเหตุที่ทำให้น้ำลายของสุนัขสะอาดกว่าส่วนอื่นของมันนั้น เป็นเพราะว่าน้ำลายของมันจะไหลออกมาและทดแทนด้วยน้ำลายใหม่

ในเมื่อน้ำลายสุนัขที่เป็นส่วนที่สะอาดที่สุดของมัน ยังต้องถูกใช้ให้ล้างด้วยน้ำเจ็ดน้ำ ส่วนอื่นๆที่มีความสกปรกกว่าก็ย่อมจะต้องทำความสะอาดยิ่งกว่าเมื่อสัมผัสสุนัขขณะเปียก

มาดูฮิกมะห์ (วิทยปัญญา) ของอัลฮาดิษข้างต้นนี้กันบ้าง

๑. สาเหตุทีท่านร่อซู้ลสั่งใช้ให้ล้างภาชนะ โดยไม่สั่งใช้ให้ทิ้ง เพราะอิสลามห้ามการสร้างความสุรุยสุร่ายและการทำลายทรัพย์สิน

๒. การสั่งให้ใช้ดินทำความสะอาดสิ่งสกปรกนั้น เป็นการบ่งบอกว่า ดินนั้นมีองค์ประกอบจากธาตุต่างๆที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ซึ่งในยุคนั้นยังไม่มีใครที่จะรู้ถึงวิทยาศาสตร์ได้ลึกเช่นนี้

๓. การใช้น้ำเจ็ดน้ำทำความสะอาด ซึ่งถือว่าเป็นการใช้น้ำที่มากในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกอื่นๆ ก็เพื่อบ่งบอกให้รู้ถีงความสกปรกและเชื้อโรคที่มีมากมายในสุนัขและสุกร

والله تعالى أعلم
Re: น้ำลายสุนัข By: บาชีร Date: เม.ย. 24, 2008, 11:01 PM
ครับผม
มัสฮับชาฟิอีจำเป็นต้องล้างเจ็ด

แล้วมาลิกีละฮฺ ว่าอย่างไร  เขาว่าน้ำลายสุนัขเป็นนะยิสรึปล่าวโปรดพิจรณาด้วย
แล้วถ้าหากเป็นนะยิสต้องล้างครั้วงเดียวหรือ7ครั้ง
เพราะมัสฮับมาลิกีนั้นอนุญาติให้กินสุนัขได้แต่มักรูฮอย่างแรงเท่านั้น

ผมไม่ได้พกตำรามาจะเข้าเนตสักทีต้องไปร้าน


Re: น้ำลายสุนัข By: itoursab Date: เม.ย. 25, 2008, 02:12 PM
เรื่องนี้ผมเคยถาม อ. ท่านนี้แล้วแต่คำตอบท่านจะคิดอย่างไรไม่ทราบแต่พอดีอ่านเจอที่นี่ด้วยเรื่องเดียวกัน
และมีเพียงไม่กี่หะดิษถูกยกขึ้นมา ไม่ว่าจะถูกหรือผิด หรือว่าไม่เพียงพอประการใด
แต่เมื่ออ่านแล้วก็
ผมขออนุญาติถามคำถามเดิม
..
มีหะดิษใดที่เกี่ยวกับสุนัขบ้างครับ
..
ผมว่าเมื่อรวบรวมมาครบคงพอให้ข้อมูลในความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นครับ
และคาดว่าพี่ๆในนี้คงกรุณาช่วยไขข้อข้องใจครับ