กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 1
ละหมาดฆออิบ By: al-fantazy Date: เม.ย. 30, 2008, 09:25 PM
ละหมาด ฆออิบ นี้เป็น ข้อเจาะจงเฉพาะกษัตริย์ นะญาชีย์ หรือเปล่าคับ...เพราะท่านนบีละหมาดแค่ครั้งเดียวเองไม่ใช่หรือครับ..
เนื่องจากว่า  ไม่มีใครละหมาดให้กับกษัตริย์นะญาชีย์ในสมัยนั้น  ท่านนบีจึงละหมาดฆออิบให้กับท่าน
แล้วก็เคยมีเศาะหาบะฮฺ เค้าทำสืบทอดต่อกันมาบ้างหรือเปล่าคับ  ก็รู้สึกว่าจะไม่มีใช่ไหมคับ .....หรือว่าเรื่องนี้เป็น
เรื่อง คุซูซียะฮฺ ของท่าน นะญาชีย์ คับ...

Re: // ละหมาดฆออิบ // By: ILHAM Date: เม.ย. 30, 2008, 09:28 PM
มันมีระยะทางความห่างระหว่างคนละหมาดกับศพ
Re: // ละหมาดฆออิบ // By: Al Fatoni Date: พ.ค. 01, 2008, 03:15 PM
อัสสลามุ อลัยกุม

             ฟังบรรยายธรรมของ อ.มุรีดมา เรื่องความแตกต่างของฟิกฮฺ ท่านบอกว่า เชคบินบาซ (เราะฮิมะฮุมะฮุลลอฮฺ) ได้ฟัตวาว่า อนุญาตให้ละหมาดฆออิบ ซึ่งปรากฎว่า เมื่อท่านเชคบินบาซเสียชีวิตไป ทางมหาวิทยาลัยมะดีนะฮฺ จึงมีการประกาศให้มีการละหมาดฆออิบให้แห่ท่านเชคบินบาซ ส่วนอีกทัศนะหนึ่ง ถือว่าไม่อนุญาต ทัศนะนี้เป็นของเชคอัลอัลบานีย์ ดังนั้น เมื่อเท่านเชคอัลอัลบานีย์เสียชีวิตจึงไม่มีการละหมาดฆออิบให้  ส่วนสาเหตุแห่งการฟัตวาที่แตกต่างของทั้งสองนั้น  เชิญท่านผู้รู้ชี้แจงอีกนะครับ เพราะผมไม่มีความสามารถพอ ทั้งทางด้านเวลาและความรู้ วัลลอฮุ อะอฺลัม

วัสสลามุ อลัยกุม
Re: // ละหมาดฆออิบ // By: Mustafa Date: พ.ค. 01, 2008, 08:24 PM
 salam

มาดูกันนะครับว่า หลักฐานของผู้ที่ถือว่าอนุญาตให้ละหมาดฆอเอ็บได้นั้นมีหลักฐานอะไรบ้าง

หลักฐานของผู้อนุญาตให้ละหมาดฆอเอ็บได้นั้นยึดจากการที่ท่านนะบี (ศ็อลลัลลอฮุ่อะลัยฮิว่าซัลลัม) ละหมาดฆอเอ็บให้กับท่านนาญาซีย์ในขณะที่เขาตาย และอัลลอฮ์ก็ไว้วาฮีมายังท่านนะบีให้กระดังกล่าว ซึ่งเป็นหลักฐานที่ถูกถ่ายทอดกันมาอย่างถูกต้องว่า

عن أبي هريرة رضي الله عنه أن النبي صلى الله عليه وسلم نعى النجاشي في اليوم الذي مات فيه، وخرج بهم إلى المصلى، فصف بهم، وكبر عليه أربع تكبيرات، وقال: "استغفروا لأخيــكم"

"รายงานจากท่านอบีฮุรอยเราะห์ (ขออัลลอฮ์ทรงยินดีแก่เขาด้วย) ว่าแท้จริงท่านนะบี (ศ้อลลัลลอฮู่อะลัยฮิว่าซัลลัม) ได้รับข่าวการตายของท่านนาญาซีย์ในวันที่เขาตาย และท่านนะบีก็ออกไปพร้อมกับพวกเขา (ซอฮาบะห์) ไปยังที่ละหมาด แล้วท่านนะบีก็เขาแถวพร้อมกับพวกเขา และได้ทำการตักเบร ๔ ตักเบร และได้กล่าวว่า พวกท่านจงขออภัยโทษให้กับพี่น้องของพวกท่านเถิด"


 وعن جابر رضي الله عنه أيضاً: "أن النبي صلى الله عليه وسلم صلى على النجاشي فكنتُ في الصف الثاني أوالثالث"

"จากท่านญาบีร (ขออัลลอฮ์ทรงยินดีแก่เขาด้วย) ว่า "แท้จริงท่านนะบี (ศ็อลลัลลอฮู่อะลัยฮิว่าซัลลัม) ได้ละหมาดให้แก่ท่านนาญาซีย์ แล้วฉันก็ได้อยู่ในแถวที่ ๒ หรือแถวที่ ๓"



ส่วนกลุ่มที่ไม่อนุญาตให้ละหมาดฆอเอ็บนั้น พวกเขาได้ยกหลักฐานโดยรวม ด้วยกับหลักฐานที่อ่อน และพวกเขาได้ทำการตีความการละหมาดฆอเอ็บของท่านนะบีให้แก่นาญาซีย์ไว้ดังนี้

๑.ท่านร่อซู้ล (ศ็อลลัลลอฮู่อะลัยฮิว่าซัลลัม) ไม่เคยละหมาดฆอเอ็บให้กับคนอื่นนอกจากละหมาดให้ท่านนาญาซีย์เท่านั้น พร้อมกันนั้นไม่มีซอฮาบะห์ท่านใดละหมาดฆอเอ็บให้กัน
และเพราะเหตุนี้นักวิชาการจึงได้ขัดแย้งกัน บางก็บอกว่า ไม่อนุญาตให้ละหมาดฆอเอ็บ เพราะหากเป็นสุนนะห์นะบี แน่นอนนะบีก็จะต้องทำมากกว่าดังกล่าว และแน่นอนบรรดามุสลิมจากบรรดาซอฮาบะห์จะต้องกระทำการละหมาดฆอเอ็บให้กัน แต่ไม่มีรายงานใดๆบอกถึงการละหมาดฆอเอ็บของนะบีและซอฮาบะห์ นอกจากละหมาดฆอเอ็บให้กับนาญาซีย์เท่านั้น

๒. นาญาซีย์ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มนะซอรอจากกลุ่มกุฟฟาร จึงไม่มีผู้ใดละหมาดศพให้แก่เขา เพราะเหตุนี้การละหมาดฆอเอ็บจึงอนุญาตแก่เขา

๓. ท่านนาญาซีย์ถึงยกมายังท่านร่อซู้ล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าซัลลัม)  ดังนั้นท่านนาญาซีย์จึงอยู่ต่อหน้าท่านร่อซู้ล หรือไม่ก็ แผ่นดินได้ถูกพับ (ถูกย่นระยะทาง) ให้กับท่านร่อซู้ล (เพื่อที่ท่านร่อซู้ลจะได้ไปถึงยังนาญาซีย์) แล้วท่านร่อซุ้ลก็ละหมาดให้กับเขา

๔. การละหมาดฆอเอ็บของท่านนะบีนั้นเป็นเรื่องคุซูซีย์ (เรื่องเฉพาะ) กับท่านนาญาซีย์เท่านั้น

ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ได้กล่าวว่า "ทัศนะของเราถือว่าอนุญาตให้ละหมาดฆอเอ็บได้ ต่างจากอิหม่ามฮานาฟี และหลักฐานของเราก็คือฮาดิษที่กล่าวถึงการละหมาดให้กับท่านนาญาซีย์ ซึ่งเป็นฮาดิษที่ถูกต้องไม่มีความคุมเครือใดๆในฮาดิษนี้ และสำหรับพวกเขายังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนถึงอาดิษต้นนี้ ทว่าพวกเขาได้กล่าวฮาดิษต้นนี้โดยจินตนาการไปต่างๆนาๆ ซึ่งสานุศิษของเราก็ได้ตอบถึงการจินตนาการนี้ด้วยกับคำตอบที่เป็นที่ยอมรับกัน ส่วนหนึ่งจากการจินตนาการของพวกเขาก็คือ คำพูดที่ว่า "แท้จริงแผ่นดินได้ถูกพับให้กับท่านร่อซู้ล ดังนั้นท่านนาญาซีย์จึงได้มาอยู่ต่อหน้าท่านร่อซู้ล" และคำตอบในการอ้างเรื่องพวกนี้ขึ้นก็คือ หากประตูแห่งการจิตนการนี้ถูกเปิดขึ้น แน่นอนความเชื่อถือในบทบัญญัติอิสลามคงไม่มีเหลือ เพราะสามารถที่จะตีความให้เกิดความพิลึกพิลันในเรื่องธรรมดาได้ในการตัดสินดังกล่าว พร้อมกันนั้นหากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แน่นอนก็จะมีการอ้างในเรื่องต่างๆมากเพิ่มขึ้น

والله أعلم

Re: // ละหมาดฆออิบ // By: นูรุ้ลอิสลาม Date: พ.ค. 03, 2008, 05:24 AM
อัสลามุอะลัยกุ้มฯ

  แน่นอง ครับ อัลฮัมดุลิลลาฮ์  mycool:  ดูแล้วสำหรับน้องมุสตอฟาขุนพลของเรานั้น  บอร์ดใหนจะคุยจะเสวนาอะไรฉันไม่สน  แต่หากมีประเด็นเข้ามาในบอร์อฟิกห์นิติศาสตร์อิสลามนี้ล่ะก็  นั่นคือหน้าที่ฉัน  ;D
Re: // ละหมาดฆออิบ // By: Mustafa Date: พ.ค. 03, 2008, 04:26 PM
 salam

ช่วงสอบก็ต้องอย่างนี้ละครับ ต้องทำหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบก่อน (เวลามีจำกัด) หลังสอบจะขอแจมทุกบอร์ดครับ อินชาอัลลอฮ์ party:
Re: ละหมาดฆออิบ By: Muftee Date: ส.ค. 04, 2011, 12:36 AM
วิธีการละหมาดฆออิบ (ละหมาดให้คนตาย ในสภาพที่มัยยิตไม่ได้อยู่เบื้องหน้า)

วิธีการละหมาดฆออิบนั้น เหมือนกับวิธีการละหมาดญะนาซะฮฺ (ละหมาดศพ) ทั่วไป .. คือ ไม่มีการรูกั๊ะและไม่มีการซูญูด โดยทำการตักบีร 4 ครั้ง..

โดยมีตัวบทของการเนียตว่า .. (หากต้องการละหมาดให้ศพชาย)

أُصَلِّي عَلَى مَيِّتِ فُلاَنٍ بْنِ فُلاَنٍ الْغَائِبِ أَرْبَعَ تَكْبِيْرَاتٍ ِللهِ تَعَالَى

"ข้าพเจ้าละหมาดศพ นาย (........บิน.........) ฆออิบ 4 ตักบีร เพื่ออัลลอฮฺ ตะอาลา"


(หากต้องการละหมาดให้ศพหญิง)

أُصَلِّي عَلَى مَيِّتَةِ فُلاَنَةٍ بْنِت فُلاَنٍ الْغَائِبَةِ أَرْبَعَ تَكْبِيْرَاتٍ ِللهِ تَعَالَى

"ข้าพเจ้าละหมาดศพ นาง/นางสาว (.........บินติ.........) ฆออิบ 4 ตักบีร เพื่ออัลลอฮฺ ตะอาลา"

หากเป็นอิม่ามนำหมาดก็ให้เพิ่มว่า اِمَامًا ِللهِ تَعَالَى
หากเป็นมะมูมก็ให้เพิ่มว่า مَأْمُوْمًا ِللهِ تَعَالَى


ตักบีรครั้งแรก ให้อ่าน ซูเราะฮฺ อัล-ฟาติหะฮฺ


ตักบีรครั้งที่สอง ให้กล่าวเศาะลาวาตนบี (ซ.ล.) โดยกล่าวว่า ..

اَللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ كَمَا صَلَّيْتَ عَلَى إِبْرَاهِيْم وَعَلَى آلِ سَيِّدِنَا إِبْرَاهِيْمَ , وَبَارِكْ عَلَى سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ كَمَا بَارَكْتَ عَلَى سَيِّدِنَا إِبْرَاهِيْمَ وَعَلَى آلِ سَيِّدِنَا إِبْرَاهِيْمَ فِيْ الْعَالَمِيْنَ إِنَّكَ حَمِيْدٌ مَّجِيْدٌ


ตักบีรครั้งที่สาม ขอดุอาให้แก่มัยยิต โดยกล่าวว่า ..

اللّهُمّ اغْفِرْ لَهُ وَارْحَمْهُ وَعَافِهِ. وَاعْفُ عَنْهُ وَأَكْرِمْ نُزُلَهُ. وَوَسِّعْ مُدْخَلَهُ. وَاغْسِلْهُ بِالْمَاءِ وَالثّلْجِ وَالْبَرَدِ, وَنَقِّهِ مِنَ الْخَطَايَا كَمَا نَقَّيْتَ الثَّوْبَ الأَبْيَضَ مِنَ الدَّنَسِ. وَأَبْدِلْهُ دَاراً خَيْراً مِنْ دَارِهِ. وَأَهْلاً خَيْراً مِنْ أَهْلِهِ وَزَوْجَاً خَيْراً مِنْ زَوْجِهِ. وَأَدْخِلْهُ الْجَنَّةَ وَأَعِذْهُ مِنْ عَذَابِ الْقَبْرِ وَفِتْنَتِهِ وَ مِنْ عَذَابِ النَّارِ


ตักบีรครั้งที่สี่ ขอดุอาให้กับตัวเองและให้แก่บรรดามุสลิมีนทั้งหมด โดยกล่าวว่า ..

اَللَّهُمَّ لاَ تَحْرِمْنَا أَجْرَهُ وَلاَ تَفْتِنَّا بَعْدَهُ وَاغْفِرْ لَنَا وله وَِلإِخْوَانِنَا الَّذِينَ سَبَقُونَا بِالإِيمَانِ وَلاَ تَجْعَلْ فِي قُلُوبِنَا غِلاًّ لِلَّذِينَ ءَامَنُوا رَبَّنَا إِنَّكَ رَءُوفٌ رَحِيمٌ

และจบด้วยการให้สลาม ขวา-ซ้าย .

วัลลอฮุ ตะอาลา อะลัม..