Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: บาชีร Date: มิ.ย. 06, 2009, 09:54 AM
ขลุ่ยหกรูนั้น อิหม่ามรอฟิอีถือว่าอนุญาติ ส่วนอิหม่ามนะวะวีถือว่าหะรอม
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: ILHAM Date: มิ.ย. 06, 2009, 10:03 AM
ผมมีแบบ7รู ไว้เป่าเล่นนานๆที
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: Nur-inee Date: มิ.ย. 06, 2009, 12:54 PM
มีขลุ่ย7รูเหมือนกัน
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: ILHAM Date: มิ.ย. 06, 2009, 01:22 PM
แต่ของผม8รูนะ รูล่างอีกรูไว้ใช้นิ้วโป้งปิด
5555
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: Nur-inee Date: มิ.ย. 06, 2009, 01:41 PM
ของก๊ะ สิบ รู ล่ะ นอกจากรูนิ้วโป้งปิดแล้ว
อีกสองรู รูเป่า และรูลมออก 555 
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: ILHAM Date: มิ.ย. 06, 2009, 02:38 PM
ของผม11 นอกจากรูเป่ากับลมออกแล้ว มีรูหน้าสุดโน้นด้วย
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: Nur-inee Date: มิ.ย. 06, 2009, 02:50 PM
ลืมๆ ของก๊ะสิบสามรูตะหาก รูที่ปิดเสียงโดต่ำ กับ รูที่ปิดเสียงเร มันมีสองรูอ่ะ รวมเป็นสิบสาม

Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: ILHAM Date: มิ.ย. 06, 2009, 03:02 PM
ยอมแพ้แล้ว
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: Nur-inee Date: มิ.ย. 06, 2009, 03:33 PM

คุณชนะแล้ว เพราะคุณรุจักที่จะยอมแพ้ อิอิ
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: ....บ่าวของพระผู้ทรงเมตตา.... Date: มิ.ย. 07, 2009, 08:34 PM
คุณชนะแล้ว เพราะคุณรุจักที่จะยอมแพ้ อิอิ
salam

Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: Nur-inee Date: มิ.ย. 13, 2009, 09:16 PM
คุณชนะแล้ว เพราะคุณรุจักที่จะยอมแพ้ อิอิ
salam

หุหุ

Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: มาลิกกุ๊กกิ๊ก Date: มิ.ย. 15, 2009, 10:38 AM
ครับผม
ละถ้าการฟังเพลงแบบว่าเกี่ยวกับความตาย การฆ่า สังคม ความรุนแรง ล่ะครับ
ช่วยอธิบายหน่อยครับ
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: ....บ่าวของพระผู้ทรงเมตตา.... Date: มิ.ย. 15, 2009, 02:41 PM
ครับผม
ละถ้าการฟังเพลงแบบว่าเกี่ยวกับความตาย การฆ่า สังคม ความรุนแรง ล่ะครับ
ช่วยอธิบายหน่อยครับ
salam
การฟังเพลงก็ต้องคำนึงถึงตัวดนตรีล่ะคับถ้าดนตรีนั้นอณุญาติให้ก็ไม่เปนไร แต่ถ้าไม่อณุญาติให้ฟังก็เปนที่ต้องห้ามล่ะคับ...ส่วนถ้าฟังเพลงไม่มีดนตรีที่เปนเพลงเกี่ยวกับการฆ่า สังคม ความรุนแรง ต้องพิจรณาหล่ะคับว่าส่อไปในทางไหนถ้าดีก็ฟังได้แต่ถ้าไม่ก็ห้ามฟัง ถ้าพอๆกันก็ห้ามฟัง เพราะตรงกับ กออีเดาะห์ที่ว่า เมื่อของฮาลาลและของฮารามรวมกันและเท่ากัน ถือว่าฮาราม เพราะสิ่งไหนที่เปนที่อณุญาติก็ให้ทำเท่าที่สามารถ และสิ่งไหนที่เปนที่ต้องห้ามต้องออกห่างโดยสิ้นเชิง ดังนั้นการห้ามจึงหนักกว่า เพราะใช้ให้ออกห่างอย่าเข้าใก้ลมัน....วัสลาม
Re: ไม่ทราบว่าหะดิษนี้ เศาะเฮี๊ยะ หรือเปล่าครับ .... By: abubak Date: มิ.ย. 16, 2009, 02:45 PM
เกี่ยวกับการร้องเพลงนั้นเป็นทัศนะที่มองต่างมุมระหว่าผู้รู้ แต่
ถ้าเราจะมองอะไรให้ลึกลงไปในเรื่องนี้ เราจะพบว่าความชอบที่จะร้องเพลงและเสียงดนตรีนั้นเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ เราสามารถกล่อมเด็กในเปลให้หลับโดยการร้องเพลง
แม่และพี่เลี้ยงเด็กมักจะชอบร้องเพลงให้ทารกและเด็กที่ตัวเองเลี้ยงดู ยิ่งไปกว่านั้น นกและสัตว์ก็ตอบสนองต่อเสียงที่ไพเราะและเสียงดนตรีที่เป็นจังหวะ
ดังนั้น ถ้าหากการร้องเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่อิสลามจะไปฝ่าฝืนสัญชาติญาณของมนุษย์ อิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า ท่านนบี ได้ถูกส่งมาขัดเกลาและจัดระเบียบ
วินัยสัญชาติญาณของมนุษย์ ไม่ใช่มาเปลี่ยนหรือมาแก้ไขมัน นี่ก็เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับหะดีสของท่านนบี ที่ว่า เมื่อท่านรอซูลุลลอฮฺ ได้มายังมะดีนะฮ์ ท่านได้เห็นพวกเขาเฉลิมฉลอง
กันเป็นเวลาสองวัน ท่านได้กล่าวถามว่า วันอะไรกันซิ ? พวกเขาตอบว่า เราเคยรื่นเริงกันในวันเหล่านี้ในระหว่างยุคก่อนหน้าอิสลาม ท่านได้กล่าวว่า แท้จริง อัลลอฮฺได้ให้โอกาสท่าน
สองวันซึ่งดีกว่านั่นคือวันอีดุลอัฎฮาและวันอีดุลฟิฏร์ (รายงานโดยอะหมัด,อบูดาวูดและอันนะซาอี)
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากการร้องเพลงถูกถือว่าเป็นการรื่นเริงและการละเล่น มันก็ไม่เป็นสิ่งต้องห้าม เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จำเป็นต้องมีเวลาบ้างสำหรับการผ่อนคลายและการรื่นเริง
ท่านนบี ได้กล่าวแก่ฮันซาละฮ์ที่คิดว่าตัวเองเป็นพวกตลบตะแลงที่ห่วงดูแลภรรยาและลูกและทำให้เขาเปลี่ยนแปลงเมื่ออยู่ห่างจากท่านรอซูลุลลอฮฺ ว่า ฮันซาละฮ์เอ๋ย ท่านควรจะให้
เวลาส่วนหนึ่งสำหรับเรื่องทางโลกและอีกส่วนหนึ่งสำหรับการนมาซ (รายงานโดยมุสลิม)
อะลี อิบนุ อบูฏอลิบกล่าวว่า จงทำให้ตัวท่านเองสนุกสนานรื่นเริงบ้างเป็นบางครั้งเพราะถ้าหากหัวใจตึงเครียดเกินไปมันจะบอดเอา
อบูดัรดาได้กล่าวว่า ฉันทำให้ตัวฉันเองสดชื่นเสมด้วยการสนุกสนานเพื่อที่จะทำให้ตัวฉันเองเข้มแข็งในหนทางที่ถูกต้อง
อิมามเฆาะซาลีได้ตอบบางคนที่ถามท่านว่า : การร้องเพลงมิใช่การละเล่นและการรื่นเริงชนิดหนึ่งหรือ ? ท่านกล่าวว่า : ใช่ แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตปัจจุบันนี้เป็นแค่เพียง
การละเล่นและการรื่นเริง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างสามีและภรรยาของเขาก็เป็นการละเล่นยกเว้นการมีความสัมพันธ์ทางเพศที่เป็นสาเหตุโดยตรงของการก่อให้เกิดบุตร นี่เป็นสิ่งที่
ถูกรายงานมาจากรอซูลุลลอฮฺ และสาวกอันทรงเกียรติของท่าน
ดังนั้นการร้องเพลงแม้จะมีดนตรีปะปนบ้างเพื่อให้เข้ากับเนื้อหาหรือทำนองกับสิ่งที่ถ่ายทอดให้ผู้ฟังรับทราบเช่นประวัติศาสนาหรือศาสนทูตและบุคคลที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ก็ถือว่าเป็นที่อนุญาต [/u]