วะฮาบีย์คืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หรือไม่? By: อาฏิฟ Date: ต.ค. 25, 2008, 04:54 AM
อั้สลามุอะลัยกุม
อยากถามให้กระจ่างหน่อยครับ กลุ่มวะฮาบีย์คืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หรือไม่ครับช่วยชี้แจงให้กระจ่างหน่อยครับ หากวะฮาบีอยู่ในแนวทางอะกีดะฮ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ก็โปรดเข้ามาตอบคำถามด้วย
Re: วะฮาบีย์คืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หรือไม่? By: al-azhary Date: ธ.ค. 12, 2008, 03:21 AM
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛
ปราชญ์แห่งโลกอิสลามได้นำเรื่องอะกีดะฮ์มาเป็นตัวตัดสินว่า กลุ่มใดคือกลุ่มอะฮ์ลิสซุนนะฮ์และกุล่มใดคือกลุ่มบิดอะฮ์ อนึ่ง คำถามนี้ผมถือว่าไม่จำเป็นต้องตอบเพราะได้นำเสนอหลักการในกระทู้ต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีวะฮาบีย์บางคนเร่งเร้าให้ผมตอบ ดังนั้นผมจึงขอตอบด้วยใจเป็นธรรมและปราศจากความอคิต ซึ่งผมจะไม่ตอบแบบเจาะจง แต่จะบ่งถึงคุณลักษณะของผู้ที่อยู่ในแนวทางบิดอะฮ์เบี่ยงเท่านั้น และผมก็หวังอย่างยิ่งว่าพี่น้องบางส่วนจะอยู่ในกลุ่มที่หนึ่ง กล่าวคือ
กลุ่มวะฮาบีย์นั้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม :
1. กลุ่มวะฮาบียะฮ์ที่มั๊วะตะดิละฮ์ หมายถึงกลุ่มวะฮาบีย์ที่เป็นกลาง ไม่กล่าวหาฮุกุ่มบิดอะฮ์ต่อกลุ่มอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์และอัลมะตูรีดียะฮ์แบบเหมารวมว่าเป็นกลุ่มที่บิดอะฮ์เบี่ยงเบน ซึ่งวะฮาบีย์กลุ่มนี้ถือว่าอยู่ในแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์โดยความหมายรวม โปรดดูกระทู้ ตัวอย่างของจุดยืนนี้ จากกลุ่มที่หนึ่ง
2. กลุ่มวะฮาบียะฮ์ฆุลาฮ์ หมายถึงกลุ่มวะฮาบีย์สุดโต่ง ซึ่งกลุ่มนี้จะทำการฮุกุ่มบิดอะฮ์ต่อทุกแนวทางที่ไม่เหมือนกับตน เช่น ฮุกุ่มแนวทางอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์และอัลมะตูรียะฮ์และแนวทางอื่น ๆ ที่ต่างจากแนวทางของตนเองว่าเป็นพวกบิดอะฮ์เบี่ยงเบน ซึ่งวะฮาบีย์กลุ่มนี้จะพรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์โดยมีหลักการที่ตัชบีห์(พรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์คล้ายกลับมัคโลค) และมีหลักการตัจญ์ซีม(พรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์โดยเป็นรูปร่าง) แน่นอนพวกเขาที่มีคุณลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นกลุ่มบิดอะฮ์เบี่ยงเบนไม่ใช่อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ โปรดดูกระทู้ ตัวอย่างที่1 , ตัวอย่างที่2 จากกลุ่มที่สองนี้
ดังนั้นแนวทางใดที่ฮุกุ่มตัดสินอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ว่าบิดอะฮ์ ผู้นั้นย่อมอยู่ในแนวทางบิดอะฮ์ , ผู้ใดฮุกุ่มพวกเขากลุ่มหลง ผู้นั้นคือผู้ที่ลุ่มหลง , และผู้ใดที่ฮุกุ่มพวกเขากาเฟร ผู้นั้นย่อมเป็นกาเฟรกลับไปหาตัวเขา ตามคำฟัตวาของนักปราชญ์ผู้มีคุณธรรมดังต่อไปนี้
ท่านอิมาม อะบุลมุซ็อฟฟัร อัลอิสฟิรอยีนีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า "และท่านจะทราบว่า ทุกคนที่ยอมรับด้วยกับหลักการของศาสนานี้ที่เราได้พรรณามันไว้จากหลักศรัทธาของกลุ่มที่ปลอดภัย(คือกลุ่มอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์และอัลมะตูรียะฮ์) เขาย่อมอยู่บนสัจธรรมและอยู่บนหนทางที่เที่ยงตรง ดังนั้นผู้ใดที่ฮุกุ่มบิดอะฮ์ต่อเขา(ผู้อยู่แนวทางดังกล่าว) ผู้นั้นย่อมเป็นคนบิดอะฮ์ , และผู้ใดฮุกุ่มเขาว่าลุ่มหลง ผู้นั้นย่อมเป็นคนลุ่มหลง , และผู้ใดฮุกุ่มเขาเป็นกาเฟร ผู้นั้นย่อมเป็นคนกาเฟรด้วย" หนังสืออัตตับซีร ฟิดดีน หน้า 111 ของท่านอิมามอัลอัสฟิรอยีนีย์
ท่าน อิมาม อิบนุ รุชดฺ อัลมาลิกีย์ (ผู้เป็นปู่) (รอฮิมะฮุลลอฮ์) ที่ได้รับฉายานามว่า ชัยค์อัลมัซฮับ (ปรมาจารย์แห่งมัซฮับมาลิกีย์) ฟัตวาว่า "ปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์เหล่านั้น ที่ท่านได้กล่าวชื่อพวกเขามา เป็นส่วนหนึ่งจากนักปราชญ์ที่เป็นแกนนำของนักปราชญ์แห่งความดีงามและอยู่ในทางนำ และเป็นบรรดาบุคคลที่จำเป็นต้องดำเนินตามพวกเขา เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ยืนหยัดช่วยเหลือหลักชาริอะฮ์(บทบัญญัติแห่งอิสลาม) และทำลายสิ่งคลุมเครือต่าง ๆ ของพวกเบี่ยงเบนและลุ่มหลง พวกเขาได้ทำให้ประเด็นปัญหาต่าง ๆ มีความคลี่คลายและชัดเจน พวกเขายังอธิบายถึงสิ่งที่จำเป็นต้องยอมรับจากบรรดาหลักการศรัทธา ดังนั้น ด้วยการรอบรู้ถึงบรรดาหลักพื้นฐาน(อุซูล)ของศาสนา จึงทำให้พวกเขาเป็นนักปราชญ์ที่แท้จริง เนื่องจากพวกเขารู้ดียิ่งเกี่ยวกับอัลเลาะฮ์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่วายิบสำหรับพระองค์ สิ่งที่อนุญาติต่อพระองค์ และสิ่งที่(มุสตะฮีล)เป็นไปไม่ได้จากพระองค์ เพราะประเด็นนิติบัญญัติข้อปลีกย่อยจะไม่สามารถรู้ได้นอกจากต้องรู้หลักอุ ศูล(หลักศรัทธา)เสียก่อน เพราะฉะนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงความประเสริฐและยอมรับถึงสถานะความเป็นแกนนำ ของพวกเขา ฉะนั้น พวกเขาย่อมเป็นจุดมุ่งหมายของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า "ความรู้นี้ ได้แบกรับจากทุก ๆ ผู้สืบทอด(ต่อ ๆ กันมา) โดยบรรดาผู้ทรงคุณธรรม ซึ่งพวกเขาจะทำการปฏิเสธจากการบิดเบือนของผู้ที่เลยเถิด , (ปฏิเสธ)การประกาศศาสนาของบรรดาผู้ที่อธรรม และจากการตีความของบรรดาบุคคลโง่เขลา" ดังนั้น จะไม่มีการเชื่อว่าพวกเขา(อัลอะชาอิเราะฮ์)ได้อยู่บนความลุ่มหลงและความโง่เขลา นอกจากผู้ที่เขลาเบาปัญญาหรือผู้ที่อุตริกรรมอีกทั้งเบี่ยงเบนออกจากสัจจะธรรมเท่านั้น และคนหนึ่งจะไม่ประณามอัลอะชาอิเราะฮ์และพาดพิงกล่าวหาไปยังพวกเขาด้วยกับสิ่งที่ไม่พวกเขาไม่ได้ยึดถืออยู่ นอกจาก(คนกล่าวหานั้น)เขาคือคนชั่ว แท้จริงอัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัลล่า ทรงตรัสว่า "บรรดาบุคคลที่สร้างความเดือนร้อนแก่บรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธา หญิง ด้วยกับสิ่งที่พวกเขาไม่ได้พากเพียรไว้ แน่นอน พวกเขาย่อมแบกรับความมุสาและบาปอันชัดแจ้ง" ฟะตาวา อิบนุ รุชด์ เล่ม 2 หน้า 802 ตีพิมพ์ ดารุลฆ่อร่อบิลอิสลามีย์ เบรุต ฮ.ศ. 1407
ท่านชัยคุลิสลาม อิบนุ ฮะญัร อัลฮัยตะมีย์ ตอบฟัตวาความว่า "บรรดาปวงปราชญ์(อัลอะชาอิเราะฮ์)เหล่านั้น มิได้เป็นเฉกเช่นที่ผู้ที่แหวกแนวทาง ออกนอกหลักศาสนา คาดเดา ลุ่มหลง เลยเถิด โง่เขลา และเอนเอียงออกจากสัจธรรมเลย ยิ่งกว่านั้น พวกเขาเป็นนักปราชญ์แห่งศาสนา เป็นนักปราชญ์มุสลิมีนที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเจริญรอยตาม เนื่องจากพวกเขาได้ยืนหยัดช่วยเหลือชะรีอะฮ์ (อิสลาม) และแจกแจงบรรดาข้อสงสัยต่าง ๆ และทำการโต้ตอบความคลุมเครือจากพวกที่เบี่ยงเบน และทำการชี้แจงสิ่งที่จำเป็นของหลักความเชื่อ(เอี๊ยะติก๊อต)และหลักการต่าง ๆ ของศาสนา เนื่องจากพวกเขามีความรู้เกี่ยวกับอัลเลาะฮ์ ในสิ่งที่จำเป็นสำหรับพระองค์ สิ่งที่มุสตะฮีล(เป็นไปไม่ได้)ต่อพระองค์ และสิ่งที่อนุญาตในสิทธิของพระองค์ และจะไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายได้นอกจากรู้จักถึงหลักศรัทธาพื้นฐานเสีย ก่อน และจำเป็นต้องยอมรับถึงความประเสริฐของบรรดานักปราชญ์ที่ถูกกล่าวมาข้างต้น และนักปราชญ์ก่อนหน้าพวกเขาด้วย และพวกเขาก็คือกลุ่มเป้าหมายจากคำกล่าวของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "ความรู้นี้ ได้แบกรับจากทุก ๆ ผู้สืบทอด(ต่อ ๆ กันมา) โดยบรรดาผู้ทรงคุณธรรม ซึ่งพวกเขาจะทำการปฏิเสธจากการบิดเบือนของผู้ที่เลยเถิด , การประกาศศาสนาของบรรดาผู้ที่อธรรม และจากการตีความของบรรดาบุคคลโง่เขลา" ดังนั้นจะไม่กล่าวหาว่าอัลอะชาอิเราะฮ์ลุ่มหลงนอกจากผู้ที่โฉดเขลาหรือผู้ทำบิดอะฮ์ ที่เบี่ยงเบนจากสัจธรรม ดังนั้น จึงจำเป็นให้คนไม่รู้ได้ประจักษ์ถึงพวกเขา คนชั่วต้องถูกลงโทษ ผู้บิดอะฮ์ที่เบี่ยงเบนจากสัจธรรมที่กระทำมักง่ายด้วยบิดอะฮ์ต้องถูกใช้ให้ เตาบะฮ์" อัลฟะตาวา อัลฮะดีษียะฮ์ อัลกุบรอ หน้า 227 ตีพิมพ์ เอี๊ยะห์อุษตุร๊อษ เบรุต
ท่านชัยค์ อะบุล หะซัน อัลนัดวีย์ ได้กล่าวถึงแนวทางอัลอะชาอิเราะฮ์ ความว่า "ทั่วทุกมุมโลกอิสลาม ต้องน้อมรับให้กับวิชาความรู้และและความสำเร็จของปวงปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์...และด้วยความประเสริฐของพวกเขาเหล่านั้น ทำให้แกนนำเชิงแนวคิดแห่งโลกอิสลามมีการขับเคลื่อน และสามารถชี้นำกลุ่มมั๊วะตะซิละฮ์ให้กลับไปสู่แนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์" หนังสือ ริญาลุล ฟิกร์วัดดะอฺวะฮ์ ฟีลอิสลาม หน้า 137 ของท่านอะบุลฮะซัน อัลนัดวีย์
ดังนั้น ผมจึงอยากจะสรุปให้พี่น้องทราบว่า วะฮาบีย์ที่ฮุกุ่มอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์บิดอะฮ์ ผู้นั้นแหละอยู่ในแนวทางบิดอะฮ์ ตามที่บรรดาปราชญ์ผู้มีคุณธรรมได้ฟัตวาเอาไว้นั่นเอง ส่วนกลุ่มพี่น้องวะฮาบีย์ที่มั๊วะตะดิ้ลเป็นกลาง พวกเขาคืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ถึงหากแม้นว่าบางประเด็นที่ต่างกันแต่เราไม่ฮุกุ่มว่าเป็นแนวทางบิดอะฮ์หรือฮุกุ่มกาเฟรต่อกัน นี่คือเอกลักษ์ของแนวทางอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ อัลฮัมดุลิลลาฮ์
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
Re: วะฮาบีย์คืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หรือไม่? By: As-Zaleek Date: มี.ค. 13, 2010, 04:47 PM
salam
วะฮาบีย์ที่เชื่อว่า อัลอะชาอิเราะฮ์คืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์นั้น เขาอาจจะยังคงมีแนวทางอะกีดะฮ์บิดอะฮ์เพราะหลักอะกีดะฮ์ที่พวกเขายึดกันอยู่ เป็นบิดอะฮ์คร้าบ เพราะหากศึกษากันจริงๆ หลักอะกีดะฮ์ระหว่างวะฮาบีย์กับอัลอะชาอิเราะฮ์นั้น จะเป็นเส้นขนาน ไม่สามารถจูนกันได้เลยในเรื่องซีฟาตของอัลเลาะฮ์
Re: วะฮาบีย์คืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หรือไม่? By: al-azhary Date: เม.ย. 02, 2010, 12:00 AM
salam
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ไม่จำกัดตนเองว่าเป็นอะฮ์ลิสซุนนะฮ์เพียงผู้เดียว แนวทางใดที่มีหลักสูตรหรือหลักวิเคราะห์ต่างกันแต่หากไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ถือว่าเป็นอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ด้วย แต่เท่าที่ผมศึกษาหลักอะกีดะฮ์ของซุนนะฮ์วะฮาบียะฮ์กับอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ จะเป็นเส้นขนาน แต่หากคิดพิจารณาในตัวบุคคลที่นิยมวะฮาบีบางคน อาจจะไม่มีแนวคิดที่เป็นเส้นขนานครับ