ชวนคนละหมาดฟัรดูเสร็จแล้วให้มาร่วมละหมาดกับเราอีกครั้ง By: samy Date: พ.ย. 18, 2008, 10:41 AM
ไม่กี่วันที่ผ่านมาผมละหมาดยามาอะฮ์ในสุเหร่าโดยเป็นอีหม่าม
เมื่อผมละหมาดเสร้จปรากฎว่ามีชายคนหนึ่งที่ออกจะเป็นสายดะวะฮ์มาละหมาดที่หลัง
แต่เขามาคนเดียว ประเด็นคือเขามาช้า แต่เขาต้องการผลบุญการละหมาดรวม เขาเลยเรียกมะมูมที่ละหมาดฟัรดูไปแล้วมาให้เป็นมะมูมเพื่อที่เขา
จะได้ผลบุญยะมาอะฮ์
อยากทราบว่าการเป็นมะมูมตรงนี้จะมีผลให้ชายคนนั้นได้ผลบุญละหมาดรวมหรือไม่ ต้องการทรรศนะของนักวิชาการทั้งหมดในเรื่องนี้ครับ
เพราะสายดะวะห์จะนิยมทำแบบนี้กันเหลือเกินโดยที่เขาอ้างว่า ละหมาดครั้งถัด ๆ ไปนันเป็นสุนัต
ขอบคุณครับ
Re: รบกวนด้วยครับ By: al-azhary Date: พ.ย. 23, 2008, 02:42 AM
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛
การกระทำของพี่น้องตับลีฆคนดังกล่าว ถือว่าอนุญาตให้กระทำได้และเป็นสิ่งที่ดี แต่มะมูมที่เขาเรียกมาละหมาดญะมาอะฮ์พร้อมกับเขาอีกนั้น ถือว่าเป็นละหมาดแบบสุนัตเท่านั้นเพราะละหมาดแบบฟัรดูเขาได้กระทำเสร็จสิ้นไปแล้ว
ท่านอบูดาวูด ได้รายงาน จากอบู สะอีด ได้รายงานว่า "มีชายคนหนึ่งเข้ามา ในขณะที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ละหมาดเสร็จแล้ว ดังนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ผู้ใดประสงค์จะได้รับผลบุญจากการเศาะดะเกาะฮฺในเรื่องนี้ แล้วก็มีชายคนหนึ่ง(ท่านอบูบักร)ลุกขึ้นไปร่วมละหมาดกับชายคนแรก" รายงานโดยอบูดาวูด สุนันอบูดาวูด 1/157
ท่านอิมามอัลบัยฮะกีย์ ได้รายงานจาก อบูสะอีด อัลคุดรีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ เขากล่าวว่า มีชายคนหนึ่งได้เข้ามา ในขณะที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ละหมาดเสร็จแล้ว ดังนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ผู้ใดประสงค์ที่จะทำการค้ากำไรกับผู้ชายคนนี้บ้าง? แล้วมีชายคนหนึ่งลุกขึ้นร่วมละหมาดพร้อมกับเขา" อัซสุนัน อัลกุบรอ 3/69 - 70
จากนั้น ท่านอัลบัยฮะกีย์ รายงานจากท่าน อัลอะซัน ความว่า "...ดังนั้นท่านอบูบักร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้ทำการละหมาดพร้อมกับเขา ทั้งที่ท่านได้ทำการละหมาดพร้อมกับนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เรียบร้อยแล้ว" อัซสุนัน อัลกุบรอ 3/70
ส่วนผู้ละหมาดสุนัตนั้นอนุญาตให้ละหมาดตามผู้ละหมาดฟัรดูได้ครับ
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวในหนังสือ มินฮาจญ์ อัลฏฏอลิบีน ของท่านว่า
وَتَصِحُّ قُدْوَةُ الْمُؤَدِّىْ بِالقَاضِى وَالْمُفْتَرِضِ بِالْمُتَنَفِّلِ وَفِى الظُّهْرِ باِلعَصْرِ وَبِالْعَكْسِ
"ถือว่าใช้ได้โดยการที่ผู้ละหมาดในเวลาตามผู้ละหมาดกอฏอ และผู้ที่ละหมาดฟัรดูตามผู้ที่ละหมาดสุนัต และละหมาดซุฮ์ริตามละหมาดอัสริ และในทางกลับกัน"
ท่านอิมามคอฏีบ อัชชัรบีนีย์ อธิบายว่า :
"หมายถึง : ใช้ได้(เซาะฮ์) ผู้ที่ละหมาดกอฏอได้ละหมาดตามผู้ที่ละหมาดในเวลาได้ และผู้ที่ละหมาดสุนัตสามารถละหมาดตามผู้ที่ละหมาดฟัรดูได้ และในละหมาดอัสริสามารถตามละหมาดซุฮ์ริได้ เนื่องไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระเบียบของการละหมาด แม้ด้วยมีการเหนียตที่ต่างกัน ท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้อ้างหลักฐานกรณีที่ผู้ละหมาดฟัรดูละหมาดตามผู้ที่ละหมาดสุนัตได้ ด้วยหะดิษบุคอรีและมุสลิม ที่ว่า "แท้จริงมะอาซฺได้ละหมาดอีชาอ์พร้อมกับท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หลังจากนั้นเขาได้กลับไปยังพวกพร้องของเขา แล้วทำการละหมาดนำพวกเขาด้วยกับละหมาด(อีชาอฺ)ดังกล่าว" และในรายงานหนึ่งของท่านอิมามอัชชาฟิอีย์นั้นคือ การละหมาดของมุอาซฺนั้น เป็นละหมาดสุนัตและการละหมาดของพวกเขาเป็นละหมาดฟัรดู" มุฆนีย์อัลมั๊วะห์ตาจญ์ 1/470
ดังนั้น ผู้ที่มาละหมาดญะมาอะฮ์ช้า ก็สมควรเชิญชวนผู้อื่นมาร่วมละหมาดกับเขาอีกรอบหนึ่ง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ