วิชาอิลมุลกะลามตามทัศนะของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ By: al-azhary Date: ธ.ค. 09, 2008, 09:33 PM
วิชาอิลมุลกะลามตามทัศนะของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
วิชาอิลมุลกะลาม เป็นศาสตร์หนึ่งที่กลุ่มวะฮาบีย์มักจะเอามาพาดพิงในแง่ลบอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ทำความเข้าใจและแยกแยะว่าอิลมุลกะลามใดอยู่ในแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์และอิลมุลกะลามใดอยู่ในแนวทางของพวกบิดอะฮ์ ดังนั้นเมื่อพูดถึงเรื่องอะกีดะฮ์ แล้ววะฮาบีย์ถูกถามประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แล้วพบทางตันให้ความกระจ่างไม่ได้ พวกเขาก็จะโยนความผิดให้วิชาอิลมุลกะลาม เพื่อเป็นทางออกสุดท้ายในการถูกถามเกี่ยวกับเรื่องอะกีดะฮ์อิสลาม ซึ่งถือว่าเป็นความอ่อนแอทางหลักอะกีดะฮ์ทัศนะของตน
ดังนั้นวิชาอิลมุลกะลาม นับว่าเป็นวิชาที่น่าตำหนิหรือไม่? หากเป็นวิชาที่ไม่ถูกตำหนิ เราอธิบายอย่างไรเกี่ยวกับสิ่งที่รายงานการห้ามของอุลามาอฺจากการให้ความสนใจวิชาอิลมุลกะลามและมีอุลามาอฺบางส่วนละเลิกจากวิชาอิลมุลกะลาม?
ตอบ : วิชาอิลมุลกะลาม , วิชาอุศูลุดดีน , วิชาเตาฮีดและซีฟาต , ทั้งสามชื่อนี้มีความหมายเดียวกัน ท่านซะดุดดีน อัตตัฟตาซะนีย์ ได้สาธยายเกี่ยวกับสาเหตุการเรียกวิชานี้ว่าอิลมุลกะลามว่า "หัวข้อที่เป็นบทวิเคราะห์นั้น บรรดาอุลามาอฺจะกะลาม(พูด)เกี่ยวกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพราะประเด็นปัญหาเรื่อง ซีฟัตอัลกะลาม(อัลเลาะฮ์ทรงพูด)นั้น เป็นประเด็นวิเคราะห์และวิภาษมากที่สุดและโด่งดังที่สุด จนกระทั่งบรรดาอุลามาอ์ที่กักกุมต้องถูกฆ่ามากมายเนื่องจากไม่กล่าวว่าอัลเลาะฮ์เป็นมัคโลค และพวกเขาก็ยังกล่าวเหตุผลอื่น ๆ อีก และวิชานี้ถูกเรียกว่าวิชาเตาฮีด(วิชายืนความเอกภาพ)เพราะบทวิเคราะห์เรื่องความเป็นเอกภาพของอัลเลาะฮ์ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์ที่โด่งดังที่สุด และบ้างก็ว่าวิชาอุศูลุดดีน(รากฐานของศาสนนา) เพราะศาสนาได้ดำรงอยู่บนมัน" หนังสือชัรห์ อัลอะกออิด อันนะซะฟีย์ หน้า 10 ดังนั้นวิชาอิลมุลกะลามตามนัยยะดังกล่าว จึงเป็นวิชาที่สำคัญ มีเกียรติ สามารถเยียวยาประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่บนแผ่นดินนี้ เช่น ประเด็นของการเชื่อในพระเจ้า , ประเด็นความเชื่อในเรื่องการส่งศาสนทูต , ประเด็นในเรื่องการตอบแทนในโลกหน้า , เป็นต้น
Re: วิชาอิลมุลกะลามในอิสลาม By: al-azhary Date: ธ.ค. 12, 2008, 05:06 PM
คำนิยามอิลมุลกะลาม :
อิลมุลกะลาม หมายถึง : วิชาที่ว่าด้วยเรื่องการยืนยันบรรดาหลักฐานที่มีต่อความถูกต้องของหลักการศรัทธา , ซึ่งวิชากะลามด้วยความหมายนี้ถือว่าไม่ถูกตำหนิอย่างเด็ดขาด , ยิ่งกว่านั้นในกิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ของท่านนบีก็เต็มไปด้วยนัยยะของวิชากะลามที่อยู่ในความหมายนี้ บรรดาอุลามาอ์วิชากะลามได้ให้ความนิยามวิชานี้ว่า มันคือ : "วิชาทำให้มีศักยภาพในการยืนยันซึ่งหลักการศรัทธาของศาสนา อีกทั้งได้รับหลักการมาจากบรรดาหลักฐานที่แน่นอน" หนังสือตั๊วะห์ฟะตุลมุรีด ของท่านอิมามอัลบาญูรีย์ หน้า 36
Re: วิชาอิลมุลกะลามในอิสลาม By: al-azhary Date: ธ.ค. 12, 2008, 10:43 PM
การกำเนิดวิชากะลาม :
เหตุการกำเนิดวิชาอิลมุลกะลามนั้น เพื่อโต้ตอบพวกบิดอะฮ์ที่ชอบถกเถียงกับบรรดาปราชญ์มุสลิมีน พวกเขาจะนำความคลุมเครือต่าง ๆ ที่บรรพชนยุคก่อนได้รายงานไว้มานำเสนอ แล้วนำความคลุมเครือต่าง ๆ มาปะปนกับหลักการของพวกปรัชญา ดังนั้นบรรดาปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์จึงจำเป็นต้องต่อต้อน โต้แย้ง และถกเถียงกับพวกเขา จนกว่าพวกเขาไม่สามารถครอบงำคนสามัญชนทั่วไปที่เกี่ยวกับเรื่องศาสนา และจนกว่าพวกเขาไม่สามารถนำสิ่งที่ไม่มีหลักการของศาสนาเข้ามาอยู่ในศาสนา ดังนั้นถ้าหากนักปราชญ์ได้ปล่อยพวกนอกลู่และสิ่งที่พวกเขากระทำ แน่นอนว่ามันต้องเข้ามาครอบงำสติปัญญาของผู้ที่อ่อนแอและสามัญชนมุสลิมีนทั่วไป และผู้ด้วยความรู้จากนักวิชาการมุสลิมที่เป็นสามัญชนทั่วไป พวกนอกลู่ก็จะเปลี่ยนแปลงอะกีดะฮ์ที่ถูกต้องที่มีอยู่ ณ พวกเขา
และก่อนหน้าที่บรรดาอุลามาอ์จะทำการโต้ตอบพวกเขานั้น ไม่มีผู้ใดทำการต่อต้านพวกเขาเลย เพราะจะไปได้อย่างไรในเรื่องเขาไม่เข้าใจหลักการของพวกเขาเนื่องจากไม่ได้ให้ความสนใจต่อทัศนะพวกเขาเหล่านั้นเพราะจะไม่สามารถตอบโต้ได้นอกจากต้องเข้าใจหลักการของพวกเขาเสียก่อน ส่วนการนิ่งเงียบเช่นนี้จะนำไปสู่การแพร่หลักการของพวกนอกลู่เเหล่านั้นจนกระทั่งบรรดาผู้ที่ไม่รู้บางส่วนไปยึดตามแนวทางของพวกเขา ดังนั้นจึงจำเป็นต่อบรรดาอุลามาอฺมุสลิมีนทำการต่อต้านด้วยกับโต้ตอบต่อพวกเขาและด้วยการเข้าไปศึกษาวิชากะลามนี้อย่างชำนิชำนาญ เนื่องจากการทำให้พวกเขายอมรับด้วยบรรดาหลักฐานของพวกเขาเองนั้นย่อมทำให้หยุดยั้งและทำให้พวกเขายอมจำนนได้มากกว่า
ท่านอิมามอัลฆอซาลีย์กล่าวว่า "วิชากะลามนั้น เป้าหมายของมันก็คือ ปกปักษ์รักษาไว้ซึ่งหลักอะกีดะฮ์ต่าง ๆ ของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ที่ได้ทำการถ่ายทอดมาจากสะละฟุศศอลิห์ มิได้เป็นอื่นจากนั้นเลย" หนังสืออัลเอี๊ยะห์ยาอฺอุลูมิดดีน 1/52
ดังนั้นบรรดาอุลามาอฺมุสลิมีนได้ทำการตอบโต้พวกนอกลู่และทำลายข้อสงสัยของพวกเขา โดยที่แนวทางของอุลามาอฺมุสลิมีนในการตอบโต้ก็คือเพื่อยันยันหลักอะกีดะฮ์ของอิสลามนั่นเอง การอ้างหลักฐานตามแนวทางของพวกเขานั้นก็คือชนิดเดียวกันบรรดาหลักฐานของอัลกุรอานที่มาจากถ้อยคำที่มีอิทธิพลต่อจิตใจ ทำให้พอใจ และชื่นช่ำหัวใจที่มีหลักฐานอันชัดเจนมารับรอง
ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ อะซากิร ได้รายงานถึงท่าน อะบุลฮะซัน อะลี บิน อะห์มัด อัลมะดีนีย์ เขาได้กล่าวว่า "ฉันได้ยินอิมามอัลญุวัยนีย์ กล่าวว่า ฉันได้ฝันเห็นท่านนบีอิบรอฮีม อัลค่อลีล อะลัยฮิสลาม ฉันจึงก้มลงเพื่อจะจูบเท้าทั้งสองของท่าน ดังนั้นท่านนบีอิบรอฮีม จึงห้ามฉันทำอย่างนั้นเพื่อให้เกียรติต่อฉัน แล้วฉันก็ขอให้หันหลังแล้วจูบที่ส่วนหลังของข้อเท้าทั้งสองของท่าน , ฉะนั้นฉันจึงอธิบายฝันว่ามันเป็นความสูงส่งและความสิริมงคลที่ยังคงอยู่ที่สองข้อเท้าส่วนหลังของฉัน , หลังจากนั้น ฉันจึงกล่าวว่า โอ้ ค่อลีลุลลอฮ์ (มิตรสหายรักของอัลเลาะฮ์ หมายถึงท่านนบีอิบรอฮีม) ท่านจะกล่าวว่าอย่างไรต่อวิชาอิลมุลกะลาม ท่านนบีอิบรอฮีมตอบว่า บรรดาสิ่งโมฆะและความคลุมเคลือสงสัยจะถูกตอบโต้ด้วยวิชาอิลมุลกะลาม" หนังสือตับยีน กัซบิลมุฟตะรีย์ 355-356
มีคนหนึ่งได้ถามท่านอบูหะนีฟะฮ์ว่า "เหตุใดพวกท่านถึงพูดกันเรื่องวิชากะลาม ทั้งที่ซอฮาบะฮ์ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ท่านอบูหะนีฟะฮ์ตอบว่า บรรดาซอฮาบะฮ์ก็ประหนึ่งมนุษย์ที่ไม่มีผู้ใดมาสู้รบกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการที่จะเผยอาวุธออกมาใช้ ส่วนพวกเราก็ประหนึ่งมนุษย์ที่มีผู้เข้ามาสู้รบ ดังนั้นพวกเราจึงต้องการเผยอาวุธเพื่อมาใช้ต่อสู้กับพวกเขา" สรุปจากหนังสือ อิชารอตุลมะรอม หน้า 32 ของท่านอิมามอัลบะยาฎีย์