กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ มุอัลลัฟและความเข้าใจเกี่ยวกับอิสลาม
Pages: 1
ถ้อยแถลงของเขา By: aalfa Date: ม.ค. 24, 2009, 06:50 PM
ถ้อยแถลงของเรา : ไม่มีประโยชน์ที่จะขึ้นเวทีอภิปรายกับนักเผยแพร่ชีอะฮฺ
ส่งมาโดย mudafia เมื่อ 21/5/2007 23:09:54 (223 ครั้งที่อ่าน)


         ความ จริงการอภิปราย หรือการโต้เวทีบทเวทีต่อหน้าสาธารณชนโดยทั่วๆไปนั้น หากมีความมุ่งหมายและดำเนินการเพื่อให้เกิดความงอกงามทางวิชาการอย่างแท้ จริงแล้ว เป็นสิ่งที่ดีและน่าสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง

หากแต่การ อภิปรายนั้นเป็นไปเพื่อการเอาชนะคะคานกันด้วยสำนวนโวหาร หรือเกิดจากการยั่วยุ ท้าทายเพื่อผลแห่งการแพ้ชนะทางจิตวิทยาแต่เพียงอย่างเดียว การอภิปรายนั้นเป็นสิ่งที่พึงหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง

เหตุการณ์ที่ พี่น้องมุสลิมในกรุงเทพมหานครเรียกกันว่า 4 รุม 1 นับเป็นบทเรียนสอนใจชาวอะหฺลุซซุนนะฮฺได้เป็นอย่างดี เมื่ออาจารย์ฝ่ายสุนนีย์สี่ท่านขึ้นเวทีอภิปรายปะทะคารมกับเชคฝ่ายชีอะฮฺที่ ขึ้นเวทีเพียงคนเดียว นับเป็นความหาญกล้าของ " ฝ่ายที่มีเพียงหนึ่ง " เป็นอย่างยิ่ง แต่เป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ของ " ฝ่ายที่มีถึงสี่ " อย่างไม่น่าให้อภัย และนับเป็นเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงของ " ฝ่ายที่มีเพียงหนึ่ง " ชนิดที่ฝ่ายที่มีมากกว่าไม่มีวันจับได้ไล่ทัน

ไม่น่าให้อภัยเพราะอะไร ?

เพราะ พวกเรามีมากกว่า ทำไมจึง "รุมเล่นงาน" คนจำนวนน้อยกว่าหากพิจารณาในแง่ความยุติธรรมและจริยธรรมแล้ว ไม่ต้องเปิดฉากอภิปรายในคำแรก พวกเราก็แพ้ตั้งแต่กรรมการเคาะระฆังให้เริ่มชกแล้ว ถ้ารุมเล่นงานเขาจนต้องหยอดน้ำข้าวต้มแล้ว พวกเราจะภาคภูมิใจได้แล้วหรือ ?

เป็นเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงเพราะอะไร ?

เพราะ ถ้าฝ่ายที่มีเพียงหนึ่งพ่ายแพ้ ก็จะอ้างว่า " ก็มัน 4 รุม 1 นี่นา "แพ้ไปก็ไม่เห็นเสียหายตรงไหน จริงไหมครับ? ถ้าเสมอ หรือเกิดชนะขึ้นมาฝ่ายที่มีเพียงหนึ่งก็จะตีปีกด้วยความลิงโลดใจ และนำไปใช้เป็นจุดในการโฆษณาชวนเชื่อได้อย่างดีเยี่ยม

เพราะฝ่ายที่ มีเพียงหนึ่งฝึกฝนวิชา "ฝ่ามือปราบสุนนีย์ 18 ท่าอรหันต์" ของสำนักเส้าหลินสาขาเมืองกุมมาเป็นพิเศษ จนเกิดความเชี่ยวชาญในการใช้ตรรกโต้เถียงอภิปรายเอาชนะชาวสุนนีย์ โดยเฉพาะลีลาการตั้งคำถามหลอกล่อที่เต็มไปด้วยกับดักพลิกแพลงนั้นพวกเขา "อาเหล่ม" ขนาดหนัก และใช้ได้อย่างพลิกแพลงทีเดียว

เพราะฝ่ายที่มี เพียงหนึ่งเชี่ยวชาญการโฆษณาชวนเชื่อและงานมวลชนพวกเขาชอบท้าทายให้ผู้รู้สุ นนีย์ขึ้นเวทีอภิปรายต่อหน้าสาธารณชน ในฐานะที่เชี่ยวชาญความรู้เฉพาะด้านนี้มากกว่า พวกเขาต้องการโค่นผู้รู้สุนนีย์ให้สาธารณชนเห็นต่อหน้าต่อตา จะได้อัดเทปและถ่ายวีดิโอไปเผยแพร่ต่อไปซึ่งในแง่นี้ พวกเขาทำได้ผลเป็นอย่างมาก และเคยทำมาในหลายๆ ประเทศแล้ว

เพราะฝ่าย ที่มีเพียงหนึ่งเข้าใจจิตวิทยามวลชนเป็นอย่างดี พวกเขารู้ว่าชาวบ้านนั้นเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่สามารถตัดสินเนื้อหาการถกเถียงทางวิชาการที่ถูกนำเสนอได้ด้วยเหตุผล นอกจากการมีใจโอนเอียงตามอารมณ์ชอบหรือไม่ชอบของตนเอง ฝ่ายที่มีเพียงหนึ่งช่ำชองการใช้สำนวนโวหาร คารมคมคาย มีไหวพริบดีและสามารถควบคุมความรู้สึกของตนเอง ไม่ให้แสดงอาการโกรธและก้าวร้าวได้ในทุกๆ สถานการณ์ ปรากฏกายด้วยชุดของผู้คงแก่เรียน มีภาพลักษณ์ของความสุภาพถ่อมตน นอบน้อมสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าถึงมวลชนได้มากกว่าหลักฐานและข้อโต้แย้งทาง วิชาการที่แสนจะเข้าใจยาก

ถ้าผู้รู้สุนนีย์ของเราไม่รู้จักพัฒนา ไหวพริบปฏิภาณ หลักการพูดและการโต้วาทีที่ดี ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์และความรู้สึกของตนเองในสถานการณ์ที่ถูกยั่วยุและ ท้าทาย ให้สงบเยือกเย็น ยิ้มและมีอารมณ์ดีได้ตลอดเวลาตลอดจนการมีบุคลิกภาพที่นอมน้อมถ่อมตน ปรากฏกายด้วยกิริยามารยาทที่งดงาม สวมเสื้อผ้าให้สมกับฐานะของ " ผู้รู้ที่น่าเคารพ " นอกเหนือจากการมีความรอบรู้เฉพาะด้านแล้ว รับรองได้เลยว่า แพ้เขาร้อยเปอร์เซ็นต์ในสายตาของสาธารณชน

ท่านผู้รู้ทั้งหลาย!

การ ขึ้นเวทีอภิปรายโต้เถียงกับนักเผยแพร่ชีอะฮฺในปัจจุบันควรจะหยุดได้แล้ว เพราะแทนที่จะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายอะหฺลุซซุนนะฮฺ มันกลับทำให้เรา เสียมวลชนมากกว่า ไทยอะหฺลุซซุนนะฮฺไซเบอร์ขอเรียกร้องให้บรรดาผู้รู้สุนนนีย์ทั้งหลายยุติการ ขึ้นเวทีอภิปรายโต้เถียงกับนักเผยแพร่ชีอะฮฺไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดๆ หรือไม่ว่าจะถูกยั่วยุและท้าทายเพียงใดก็ตาม

     ไม่ต้องหวั่นและอับอาย ถ้าจะถูกก่นด่าว่า "ไอ้ขี้แพ้"
     ไม่ต้องหวั่นและอับอาย ถ้าจะถูกขนานนามว่า "คนตาขาว"
     ปล่อยพวกเขาให้เต้นแร้งเต้นกาไปเถอะ มีแรงเต้นก็เต้นไป

ในทางตรงกันข้าม สิ่งที่ท่านผู้รู้สายอะหฺลุซซุนนะฮฺควรกระทำก็คือ :

ศึกษา ค้นคว้าตำรับตำราของชาวชีอะฮฺ ในทุกๆ ภาษาที่ท่านมีความสามารถ เพื่อดูว่าพวกเขานำเสนอข้อถกเถียงในประเด็นใดบ้าง และใช้หลักฐานอะไรมาสนับสนุน ทั้งนี้เพื่อท่านจะได้เชี่ยวชาญเรื่องของพวกเขาจาก "แหล่ง" ของพวกเขาเอง

ค้น คว้าตำรับตำราในอดีตอย่างเจาะลึกเพื่อหาข้อหักล้างประเด็นที่ชาวชีอะฮฺนำ เสนอ ท่านควรจะตีพิมพ์และเผยแพร่ " ข้อหักล้าง " เหล่านั้นออกสู่สังคมอย่างเป็นวิชาการ ท่านต้องทุ่มหนังสือในแนวนี้เข้าสู่สังคมให้มากขึ้นและลดจำนวนของหนังสือใน แนวอื่นๆ ให้น้อยลง

แต่! ไม่ใช่มัวเขียนด่าประณามชาวชีอะฮฺว่าผิดอย่างโน้นอย่างนี้ถ่ายเดียว เพราะมันไม่มีประโยชน์ และไม่ช่วยให้ความกระจ่างแก่ผู้เริ่มมีใจโอนเอียงไปทางชีอะฮฺ(แต่ยังไม่ปลัก ใจเชื่อ) หรือผู้ที่เพิ่งถูกนักเผยแพร่ชีอะฮฺชักชวนเพียงครั้งสองครั้ง บุคคลเหล่านี้มองหนังสือ "ด่าประณาม" เหล่านั้นในลักษณะลบมากกว่า และยิ่งจะพลักดันให้พวกเขาใกล้ชิด เห็นใจและโอนเอียงไปทางนักเผยแพร่ชีอะฮฺมากยิ่งขึ้น

เผยแพร่และชี้ แจงความจริงของเรื่องนี้ให้คนรุ่นใหม่ในสังคมได้รับรู้ ในรูปของการอบรมและการจัดกลุ่มศึกษา โดยเฉพาะเยาวชนและนักศึกษามุสลิม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของขบวนการเผยแพร่ของชีอะฮฺในประเทศไทยปัจจุบัน

ควร เร่งเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคีในหมู่ชาวอะหฺลุซซุนนะฮฺด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ยึดมั่นในมัซฮับใดก็ตาม หรือแนวทางใดก็ตาม พวกเราจะต้องยุติท่าทีก้าวร้าวและการเป็นปฏิปักษ์ที่มีต่อกัน เพราะไม่ว่าคณะเก่า หรือคณะใหม่มันก็อะหฺลุซซุนนะฮฺเหมือนกัน เราต้องสร้างจิตสำนึกร่วมตัวนี้ให้ได้ และทำให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า เรากำลังมีศัตรูร่วมตัวเดียวกันที่อันตรายที่สุดในปัจจุบัน

เราจะ ต้องไม่หลงกลการตอกลิ่มของชาวชีอะฮฺที่พยายามแยกคณะชาวอะหฺลุซซุนนะฮฺ พวกเขาต้องการแยกผู้ยึดมั่นในแนวทางสุนนะฮฺอย่างเคร่งครัด(ไม่ว่าจะเรียกหา ด้วยนามใด อาทิ คณะใหม่ วะฮาบีย์ หรือสะลาฟีย์)ออกจากผู้ยึดมั่นในแนวทางมัซฮับ และยุแหย่ให้ทั้งสองฝ่ายแตกแยกกันมากยิ่งขึ้น

อาทิ พวกเขาบอกว่า พี่น้องที่มีมัซฮับนั้นเป็นมุสลิมเหมือนกัน แต่พวกวะฮาบีย์ไม่ใช่ พวกนี้ไม่ใช่มุสลิม เป็นพวกอเมริกาและยิว ทำให้พวกที่มีมัซฮับเกลียดชังวะฮาบีย์มากยิ่งขึ้น

ผู้รู้สายอะหฺลุ ซซุนนะฮฺต้องรู้จักประมาณตน อย่าคิดว่าเราเก่ง เรารู้มากเกี่ยวกับเรื่องชีอะฮฺ พยายามควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง ต้องรู้ว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" และ "เหนือคนเก่งยังมีคนเก่ง"

พยายาม อย่าไปโต้เถียงและปะทะคารมกับชาวชีอะฮฺอย่างเด็ดขาด อย่าเอาชนะคะคานกันในลักษณะนี้เลย ยิ่งท่านชอบปะทะคารมด้วยแล้ว วันหนึ่งเขาจะยั่วยุให้ท่านขึ้นเวที เมื่อนั้นท่านจะ "ถูกเชือดต่อหน้าต่อตาคนดู" เพราะท่านเองอาจจะไม่เก่งจริงๆ อย่างที่คิดก็ได้ เพราะในเหตุการณ์ "สี่รุมหนึ่ง" นั้น "หนึ่ง" ของเขาคนนั้นยังเป็นเพียงแค่ "มือรอง" หรือมวยแทนเท่านั้น พวกเขายังมี "เชค" ที่เชี่ยวชาญและเก่งกว่าคนนั้นอีกนะครับ

ควรรู้ว่าการโต้คารม กับชาวชีอะฮฺไม่มีประโยชน์ เพราะพวกเขาไม่ได้ใช้หลักฐานใน "มาตรฐาน" เดียวกันกับเรา และแม้จะใช้ตำรับตำราของพวกเรา พวกเขาก็ใช้อย่างมีชั้นเชิง คิดว่าตามพวกเขาทันแล้วหรือ ?

ในตำราเล่มเดียวกันที่ชาวชีอะฮฺยกมาอ้าง หรือแม้กระทั่งในหนังสือหะดีษเล่มเดียวกันที่พวกเขานำมาสนับสนุน พวกเขาจะรับเฉพาะ "ส่วน" ที่เป็นประโยชน์และเป็นคุณเอื้อต่อการโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขา อาทิ หะดีษที่รายงานถึงความผิดพลาดและความบกพร่องของเศาะหาบะฮฺบางท่านพวกเขาจะ ไม่คำนึงถึงการตรวจสอบความถูกต้องน่าเชื่อถือของสายรายงาน ซึ่งต้องกระทำตามหลักวิชาหะดีษเป็นลำดับแรกเสียก่อน แต่ขณะเดียวกันพวกเขาจะไม่ยอมรับหะดีษที่รายงานเกี่ยวกับความประเสริฐและคุณ ความดีของบรรดาเศาะหาบะฮฺ สำหรับรายงานเหตุการณ์จากหนังสือประวัติศาสตร์ พวกเขาก็จะปฏิบัติในลักษณะเดียวกัน

แม้กระทั่งหลักฐานจากลูกหลานของ ท่านอะลี รอฎิฯ ที่พวกเขานับถือ และจินตนาการว่าเป็นอิมามผู้ปราศจากความผิดบาป หรือรายงานจากสมาชิกในครัวเรือนของท่านนบี ศ็อลฯ ที่คัดมาจากตำรับตำราของชาวชีอะฮฺเอง ถ้าเป็นรายงานที่พาดพิงถึงความผิดพลาดและความไม่ดีของชาวชีอะฮฺ หรือรายงานที่สวนทางกับความเชื่อของพวกเขา หรือคัดค้านความเชื่อของพวกเขา พวกเขาจะไม่ยอมรับและอ้างว่า ท่านเหล่านั้นกล่าวคำพูดเหล่านั้นไปเพราะต้องการที่จะทำตะกียะฮฺ(อำพรางความ จริง)

ด้วยเหตุฉะนี้ เราจึงหวังว่าผู้รู้ของเราจะได้มีบทบาทในการปกป้องความเชื่อ หลักยึดมั่น และความจริงตามแนวอะหฺลุซซุนนะฮฺได้อย่างมีผล และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราอยากเห็นท่านเป็นนักเขียน นักแปลและนักค้นคว้าวิจัยมากขึ้นกว่าการเป็นนักพูด สังคมของเรามีนักพูดมากอยู่แล้วเราน่าจะสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรทางด้านการ เขียนและการแปลให้มากขึ้น และดำเนินการกันอย่างจริงจัง

ดูสิว่าถ้าเราทุ่มเททำกันอย่างจริงจัง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและมุ่งมันแล้ว นักเผยแพร่ชีอะฮฺจะรุกคืบในสังคมของเราได้อย่างไร

Thai Ahlus Sunnah Cyber
18 เมษายน 2543/ 13 มุฮัรรอม 1421

Re: ถ้อยแถลงของเขา By: al-toorab Date: ม.ค. 27, 2009, 12:14 PM
 salam

 
oh: يقول -صلى الله عليه وسلم-: هلك المتنطعون، هلك المتنطعون، هلك المتنطعون

"บรรดาผู้มุตะนัตติอูน(ผู้ที่คิดลึกเกินเลยขอบเขต)ได้มีความวิบัติแล้ว บรรดาผู้มุตะนัตติอูน(ผู้ที่คิดลึกเกินเลยขอบเขต)ได้มีความวิบัติแล้ว บรรดาผู้มุตะนัตติอูน(ผู้ที่คิดลึกเกินเลยขอบเขต)ได้มีความวิบัติแล้ว" รายงานโดยมุสลิม

Re: ถ้อยแถลงของเขา By: al-azhary Date: ม.ค. 27, 2009, 12:54 PM
 salam

ชีอะฮ์อัรรอฟิเฏาะฮ์เป็นกลุ่มชนที่ลุ่มหลง
Re: ถ้อยแถลงของเขา By: ฮัยฟาอ์ Date: ม.ค. 27, 2009, 08:41 PM
งงๆกับถ้อยแถลงอันนี้จัง

ที่ไปที่มาเป็นอย่างไร
Re: ถ้อยแถลงของเขา By: al-azhary Date: ม.ค. 27, 2009, 11:44 PM
 salam

ผมเองก็ไม่ทราบว่าบทความนี้  เขียนมาทำไม  การอ้างว่าพวกชีอะฮ์ชอบใช้ตรรกใช้เหตุผล  แล้วมาบอกว่าเราต้องออกห่าง  งดการโต้เถียงโต้แย้งพวกเขา  นั่นก็เท่ากับว่าอะฮ์ลิสซุนนะฮ์สู้เหตุผล  สู้ตรรกพวกชีอะฮ์ไม่ได้หรืออย่างไรกัน  มีด้วยหรือที่หลักการของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ตรงข้ามกับเหตุผล  หรือมีหลักการที่ไม่กินกับปัญญา  ทำเหมือนกับว่าอะฮ์ลิสซุนนะฮ์เป็นปรปักษ์กับเหตุผลเสียอย่างนั้น  ทั้งที่ความจริงแล้วอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มีหลักการที่อยู่บนอัลกุรอานและซุนนะฮ์  สอดคล้องกับเหตุผลที่ตรงกับความจริง  ดังนั้นเมื่อมีพวกชีอะฮ์เขาใช้เหตุผลมา  เราอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ก็สามารถใช้เหตุผลหักล้างพวกเขาได้เช่นกัน 

ดังนั้นเมื่ออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มีหลักการที่ไม่ค้านกับเหตุผลและปัญญา เหตุใดผู้เขียนถึงวิพากษ์ชีอะฮ์และให้ออกห่างชีอะฮ์เพียงข้ออ้างที่ว่า พวกเขาชอบใช้ "เหตุลผล" ฉะนั้นอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ของแท้นั้น หากพวกชีอะฮ์ใช้หลักฐานมา เราก็ใช้หลักฐานหักล้างกลับไป  และหากเขาให้เหตุผลมา  เราก็ใช้เหตุผลหักล้างกลับไปได้เช่นกัน  นั่นคือแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ที่มาจากอัลอะชาอิเราะฮ์และอัลมะตูรีดียะฮ์แห่งโลกอิสลาม

วัสลาม

Re: ถ้อยแถลงของเขา By: al-firdaus~* Date: ม.ค. 28, 2009, 10:30 AM
 อ้างอิงจาก FW mail

อัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮฺ

คนที่ติดตามข่าว ต่างประเทศคงจะทราบกันดีว่าก่อนหน้าที่สงครามเข่นฆ่าพี่น้องชาวปาเลสไตน์จะเกิดขึ้นนั้น อิหร่านได้ออกมาแสดงท่าทีเป็นปรปักษ์กับอเมริกาและอิสราเอลอย่างรุนแรง จนได้รับคะแนนเชียร์จากโลกมุสลิมมาพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากสงครามครั้งนี้ปะทุขึ้น อิหร่านกลับนิ่งเฉย ไม่ได้นำเอาอาวุธมากมายที่ตนอ้างมาก่อนหน้านี้ออกมาใช้ถล่มอิสราเอลเลย และในขณะที่พี่น้องชาวปาเลสไตน์กำลังถูกระดมยิงจากยิวไซออนิสอย่างบ้าคลั่ง เหล่าชีอะฮ์กลับไปทำสัญญาลับๆกับอเมริกาและเดินหน้าทำลายล้างพี่น้องมุสลิมตามสันดานเดิม



ภาพข้างบนเป็นภาพของ นายฮาชิม รีดอ อุลามะชีอะและอิมามมัสยิดฟาติมะ(มัสยิดชีอะฮฺ)ในนิวยอคร์ กำลังละหมาดญานาซะให้กับทหารอเมริกาที่ตายในสงครามอิรัค นี่คือโฉมหน้าของชีอะฮฺที่ปรากฎในขณะที่คนทั่วโลกกำลังเดือดร้อนเรื่องปาเลสไตน์


ดุอากันด้วยความน้อบน้อม ถามว่าเรื่องในปาเลสไตน์ชีอะฮิเคยดุอาแบบนี้ไหม


ศัตรูของอิสลามเดินเหินได้ในมัสยิด

...


และในขณะที่โลกกำลังเจ็บปวดกับการฆ่ากันในปาเลสไตน์ อุลามะชีอะกลับแสดงความกลับกลอกออกมาด้วยการไปติดต่อกับจอมมารบุช เพื่อจัดสรรอำนาจในการปล้นแผ่นดินอิรัคจากพี่น้องซุนนีย์  ในภาพนี้คือ อุลามะชีอะที่เป็นที่รู้จักดีชื่อว่า อับดุลอะซิส อัลฮะกีม แกนนำของสภาปฏิวัติในอิรัค

ข้าฯส่งอีเมล ฉบับนี้มาแด่พี่น้องทุกท่านเพื่อกระตุ้นต่อมสำนึกในการแพร่ขยายเข้ามาของลัทธิชีอะฮฺ ด้วยกับหัวใจที่เจิ่งนองไปด้วยนำตาและความชิงชังต่อลัทธิสกปรกนี้ ประเทศไทยบ้านเราอันเคยเป็นแหล่งที่อาศัยอย่างสงบสุขของมุสลิมซุนนีย์มานับร้อยๆปีกำลังจะหมดไป ชีอะฮิกำลังบุกรุกศาสนาของพวกท่าน และกำลังลากพี่น้องของท่านสู่ความเป็นกุฟุร อีกไม่นานสีดำจะปกคลุมสีขาว ซอฮาบะจะถูกด่าทอ ภรรยานบีจะถูกประนาม ซุนนะฮฺจะหายไป และจะถูกแทนที่ด้วยลัทธิชีอะภายใต้ซากศพของซุนนีนับร้อยๆ เฉกเช่นเดียวกับที่พี่น้องซุนนีในอิรัคและอิหร่านกำลังประสบอยู่
ด้วยจิตคาราวะ  อัลดูลมาบาชิร
 
อย่าลืมนะครับ โปรดระวังข้อมูลที่ abunasrin2000@hotmail.com ส่งมานะครับ

บุคคลผู้นี้เป็นชีอะฮฺ อัร-รอฟีเดาะฮฺ



Re: ถ้อยแถลงของเขา By: Al Fatoni Date: ม.ค. 28, 2009, 01:06 PM
ตอนนี้ ชีอะฮ์เริ่มมาตรการรุกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วครับพี่น้อง ตอนนี้ 3จ. ชีอะฮ์จะมาในรูปของมูลนิธิ เช่น มูลนิธิฮิลาลอะหฺมัร ซึ่งเป็นมูลนิธิคล้ายๆ กับปอเต็กตึ้งที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ โดยเฉพาะทางอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ ชีอะฮ์ได้ผลิตตำราออกเป็นภาษามลายู เพื่อแพร่ลัทธิอุบาทว์ของตน พี่น้องต้องตื่นแล้วนะครับ เรามีทั้งชีอะฮ์ พวกมิชชั่นรี่ และอื่นๆ มาคอยรุมกินพวกเราอยู่ ขืนเราหลับใหลกันอยู่อย่างนี้ คงไม่ได้การแล้วหละพี่น้อง ตื่นเถอะครับ - วัสสลาม
Re: ถ้อยแถลงของเขา By: ILHAM Date: ม.ค. 28, 2009, 05:21 PM
ผมเพิ่งรู้นะว่ามูลนิธิพระจันทร์เสี้ยวแดงนั้นเป็นของซีอัฮ
Re: ถ้อยแถลงของเขา By: al-toorab Date: ม.ค. 28, 2009, 10:38 PM
 salam

ยังหลับยังหลงยังฝัน

ยังอยู่อย่างไร้เป้าหมาย

ยังติดกับดักงมงาย

ยังหลงภาพลักษณ์มัวเมา

Re: ถ้อยแถลงของเขา By: ILHAM Date: ม.ค. 29, 2009, 12:55 AM
ยังอยู่อย่างยังยั่งยืน
อย่ายืนอยู่อย่างโยกเยก
ยิ่งยิ่งใหญ่ยิ่งหยิ่ง
ยากเย็นยิ่งอยู่ยง
Re: ถ้อยแถลงของเขา By: al-toorab Date: ม.ค. 29, 2009, 01:28 PM
 salam

ทุกเริ่มแรกของการกระทำหากเริ่มมาจากความตั้งใจดี ตั้งใจจริง เพื่อองค์อัลเลาะห์ ซุบฮาน่าฮุว่าต้าอาลาแล้วไซร้ บั้นสุดท้ายแห่งโลกหน้าก็จักเห็นผลกับการนั้นๆ

หากแต่การใด ทำเพื่อโลกนี้ หาพวกหาพ้อง หาพลังมวลชนคนศรัทธา เข้าหลัก เข้าแหล่ง โดยเผยเพียงภาพพจน์ ให้เห็นดีเห็นงามแก่ตัวของตนแล้ว แล้วไซร้ ก็จักได้ในสิ่งนั้นๆ

หากพระองค์อัลเลาะห์ทรงประสงค์ ขอเราท่านจงตั้งใจด้วยการดี แม้จักเป็นการลงโพสกระทู้เพียงเล็กน้อยก็ตาม

Re: ถ้อยแถลงของเขา By: roshak Date: ม.ค. 29, 2009, 04:29 PM
 salam อยากให้ผู้รู้เปิดเผยธาตุแท้ของอิหร่านให้มากกว่านี้  เพราะบางคนไม่เป็นชีอะก็จริงแต่ชื่นชอบรัฐบาลอิหร่านอาจนำไปสู่การเป็นชีอะก็ได้นะครับ
Re: ถ้อยแถลงของเขา By: นักเดินทาง Date: ม.ค. 30, 2009, 11:52 AM
يقول صلى الله عليه الصلاة والسلام : لا يؤمن احدكم حتى يكون هواه تبعا لما جئت به[/color
][/b][/font][/font]ความว่า ท่านศาสดา(ซ.ล )ได้กล่าวว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดก็ตามในหมู่ของพวกท่าน อีหม่านของเขาจะไม่สมบูรณ์จนกระทั้ง อารมณ์ของเขา จะปฏิบัติตาม สิ่งที่ฉันได้นำมา.
ดังนั้น ใครจะเป็นพวกไหน นั้น ลองคิดพิจารณา นะครับ พี่น้องครับ...เเอ็ด เเอ็ด จะจิ้ง เกรด..
Re: ถ้อยแถลงของเขา By: Al Fatoni Date: ม.ค. 30, 2009, 02:06 PM
يقول صلى الله عليه الصلاة والسلام : لا يؤمن احدكم حتى يكون هواه تبعا لما جئت به[/color
][/b][/font][/font]ความว่า ท่านศาสดา(ซ.ล )ได้กล่าวว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดก็ตามในหมู่ของพวกท่าน อีหม่านของเขาจะไม่สมบูรณ์จนกระทั้ง อารมณ์ของเขา จะปฏิบัติตาม สิ่งที่ฉันได้นำมา.
ดังนั้น ใครจะเป็นพวกไหน นั้น ลองคิดพิจารณา นะครับ พี่น้องครับ...เเอ็ด เเอ็ด จะจิ้ง เกรด..

               ผมว่า เวลายกอายะฮ์กุรฺอาน หรือหะดีษมา หากรบกวนช่วยอธิบายให้มันเข้าไปเรื่องก็จะเป็นการดีนะครับ หากโพสต์แค่ความหมายและตัวบทอย่างเดียวแล้วสรุปสั้นๆ ซึ่งบางครั้งก็ไม่เข้าใจครับว่า คนที่นำเสนอนั้น ต้องการสื่ออะไรกันแน่ รู้ว่าต้องการนศีฮัต แต่รบกวนให้มันชัดเจนอย่างนี้ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ  loveit: - วัสสลาม