กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 12
อิสลามกับการคุมกำเนิด By: plaster_13 Date: ก.พ. 07, 2009, 06:52 PM

คือว่าจะถามในกรณีที่ว่าถ้าหากเราเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

ที่มีหน้าที่ต้องให้บริการประชาชนในเรื่องการวางแผนครอบครัว(คุมกำเนิด  เช่น  จ่ายยาคุมให้  ฉีดยา
คุมให้  ฯลฯ)

เราในฐานะมุสลิมคนหนึ่งที่ทำงานตรงนี้เราจะสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ไหม  หุกุมที่แท้จริงเป็นอย่างไร   ช่วยตอบให้ที

(ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า)
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: ฮัยฟาอ์ Date: ก.พ. 07, 2009, 07:02 PM
หากการคุมกำเนิด ถือว่า เป็นสิ่งมักรูฮฺ  เจ้าหน้าที่ที่จ่ายยา หรือคุมกำเนิด ให้ก็ถือว่า มักรูฮฺ เช่นกัน

วัลลอฮ์อะลัม

Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: บาชีร Date: ก.พ. 07, 2009, 07:53 PM
เรื่องนี้ผมอยากให้บังอัซฮะรี่เข้ามาตอบนะครับ

เพราะน้องเข้ากำลังจะจบ

แล้วจะทำงานเกี่ยวกับตรงนั้น

มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องคือ

หุกุมเรื่องการคุมกำเหนิดแบถาวร

สองคุมชั่วคราว

สามหากเจ้าหน้าที่ทำการคุมแบบถาวรให้แก่ลูกค้าจะได้หรือไม่

ทำให้กาฟิรนั้นหุกุมต่างกันรึปล่าว

รายละเอียดลักษณะนี่นะครับ

Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: plaster_13 Date: ก.พ. 07, 2009, 08:15 PM
ขอบคุณมาก  บังบาซีร   

ที่เข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง

ปล.อยากได้คำตอบเร็วๆ
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: al-azhary Date: ก.พ. 08, 2009, 12:02 AM

คือว่าจะถามในกรณีที่ว่าถ้าหากเราเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

ที่มีหน้าที่ต้องให้บริการประชาชนในเรื่องการวางแผนครอบครัว(คุมกำเนิด  เช่น  จ่ายยาคุมให้  ฉีดยา
คุมให้  ฯลฯ)

เราในฐานะมุสลิมคนหนึ่งที่ทำงานตรงนี้เราจะสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ไหม  หุกุมที่แท้จริงเป็นอย่างไร   ช่วยตอบให้ที

(ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า)

อนุญาต الجَائزُ ให้ทำงานตรงนั้นได้นะครับ เพราะการคุมกำเนิดเป็นเพียงมักโระฮ์เท่านั้น มิใช่ฮะรอมตามทัศนะที่ชัดเจนยิ่งกว่า  ดงนั้นงานที่ทำอันเป็นสื่อยังการคุมกำเนิด  เช่น จ่ายยาหรือฉีดยาให้  จึงมิใช่ฮะรอมแต่อย่างใด   

อนึ่ง การคุมกำเนิดนั้น  อนุญาตให้กระทำแต่ไม่บังควรตามหลักการต่อไปนี้

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวว่า  "การหลั่งนอกนั้น  มักโระฮ์(แต่อนุญาตให้กระทำได้)ตามทัศนะของเรา(มัซฮับอัชชาฟิอีย์)  ในทุก ๆ สภาพการณ์และในสตรีทุกคน(ไม่ว่าจะเป็นภรรยาอิสระชนหรือเป็นทาสี)  ไม่ว่านางจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม  เพราะมันเป็นการตัดขาดการสืบพันธ์   สำหรับภรรยาที่เป็นอิสระชนนั้นหากมีการหลั่งนอกด้วยการขออนุญาตจากนาง  ก็ถือว่าไม่เป็นไร  แต่หากยังไม่ได้รับอนุญาตจากนาง  อุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์นั้นมีการขัดแย้งกัน 

ทัศนะที่ 1. หากไม่ได้รับการอนุญาตจากภรรยา  ถือว่าไม่ฮะรอม  แต่มักโระฮ์  ซึ่งเป็นทัศนะที่ชัดเจนยิ่งกว่า

ทัศนะที่ 2. จำเป็นต้องมีเงื่อนไขจากการได้รับอนุญาตจากภรรยาเสียก่อน  เนื่องจากนางจะเกิดความทุกข์(ไม่มีความสุข)เมื่อมีการหลั่งนอก (อ้างอิงสรุปจากหนังสือ ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม ของท่านอิมามอันนะวาวีย์  5/267) 

จากหลักการดังกล่าว  เราสามารถนำเสนอหลักการออกมาได้ดังนี้  กล่าวคือ  การกระทำอันใดที่ทำให้ตัดขาดการสืบพันธ์หรือกำเหนิดบุตร  ถือว่าเป็นสิ่งมักโระฮ์  ไม่ว่าจะเป็นการกินยาคุมกำเหนิด  การร่วมหลับนอนโดยใช้ถุงยางก็ตาม  ดังนั้น  วิธีการและฮุกุ่มที่จะทำไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์นั้น  มีรายละเอียดดังนี้

วิธีที่หนึ่ง :  การกินยาคุมกำเหนิด   การกินยาคุมกำเหนิดอนุญาตให้กระทำได้แต่มักโระฮ์ 

การคุมกำเหนิดนั้น  ต้องด้วย  2  เงื่อนไข

1. การคุมกำเหนิดต้องด้วยการยินยอมทั้งสองสามีภรรยา 

2. การทานยาคุมต้องไม่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโทษข้างเคียงต่อภรรยา

วิธีที่สอง : การใช้ถุงยาง  ซึ่งการใช้ถุงยางเป็นมักโระฮ์แต่อนุญาตให้กระทำได้  และสมควรขอความยินยอมจากภรรยาเสียก่อน

วิธีที่สาม : การหลั่งนอก  เป็นสิ่งที่มักโระฮ์  แต่อนุญาตให้กระทำได้เช่นกัน  และสมควรขอความยินยอมจากภรรยาเสียก่อน   

ท่านมุสลิมรายงานรายงานจากญาบิร  เขากล่าวว่า

كُنَّا ‏ ‏ نَعْزِلُ ‏ ‏عَلَى عَهْدِ رَسُولِ اللَّهِ ‏ ‏ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏ فَبَلَغَ ذَلِكَ نَبِيَّ اللَّهِ ‏ ‏ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏فَلَمْ يَنْهَنَا

"เราได้ทำการหลั่งนอกในสมัยของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ดังกล่าวได้ทราบไปถึงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แล้วท่านก็มิได้ห้ามเรา"  (2610)

ท่านมุสลิมได้รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ความว่า

سَأَلُوهُ عَنْ ‏ ‏الْعَزْلِ ‏ ‏فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏ذَلِكَ الْوَأْدُ الْخَفِيُّ

"บรรดาซอฮาบะฮ์ได้ถามท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เรื่องการหลั่งนอก  ท่านได้ตอบว่า  ดังกล่าวนั้น  เป็นการฝังลูกโดยแฝง(ทางอ้อม)"  (2613)

ท่านอิมามอันนะวาวีย์   กล่าวว่า  "ฮะดิษที่ห้ามการหลั่งนอกนั้น  ห้ามแบบมักโระฮ์" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม 5/267

หากการคุมกำเนิด ถือว่า เป็นสิ่งมักรูฮฺ  เจ้าหน้าที่ที่จ่ายยา หรือคุมกำเนิด ให้ก็ถือว่า มักรูฮฺ เช่นกัน[/size]

วัลลอฮ์อะลัม

ญะซากิลลาฮุค็อยร็อน  สำหรับคำตอบที่ตรงกับหลักการ  mycool:

วัลลอฮุอะลัม

Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: plaster_13 Date: ก.พ. 08, 2009, 06:50 AM
ต้องขอขอบคุณบังอัซฮะรี่มากๆ  ที่มาให้คำตอบในประเด็นตรงนี้

ไม่เคยรู้มาก่อนเลย...

เฮ้อ...โล่งอก    เราจะได้ทำงานอย่างสาบายใจซะที
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: ฮัยฟาอ์ Date: ก.พ. 08, 2009, 02:21 PM
 salam

หากการคุมกำเนิดแบบถาวร  แน่นอนฮารอม  แต่ถ้าไม่ทำ จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย  อนุญาติให้ทำได้

ดังนั้น  ผู้จ่ายยา  หรือ  ผู้ที่ทำหมันให้  ต้องให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้บริการ และบอกถึงโทษของสิ่งเหล่านั้นด้วย

วัสลาม
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: plaster_13 Date: ก.พ. 08, 2009, 02:40 PM
ญะซากัลลอฮ์ค็อยร็อน  คุณฮัยฟาฮฺสำหรับคำตอบข้างต้น
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: plaster_13 Date: ก.พ. 08, 2009, 02:48 PM
การคุมกำเนิดตามหลักการแพทย์ปัจจุบัน  มี  2  ชนิด

1.การคุมกำเนิดแบบถาวร  ได้แก่  การทำหมันชาย  และการทำหมันหญิง  (เปียก,แห้ง)
2.การคุมกำเนิดแบบชั่วคราว  ได้แก่
     ชาย     1.ถุงยางอนามัย
                2.การหลั่งอสุจิออกนอกช่องคลอด
     หญิง   1.การควบคุมช่วงเวลาที่ปลอดภัย
                2.การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
                3.การฉีดยาคุมกำเนิดทุกๆ  3  เดือน
                4.ยาฝังคุมกำเนิดทุกๆ  5  ปี
                5.การใส่ห่วงอนามัย (IUD) หมวกยางครอบปากมดลูก
                6.ยาสอดช่องคลอดหรือยาสวนล้างช่องคลอดที่ฆ่าตัวอสุจิ
                7.Female  condom


Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: Al Fatoni Date: ก.พ. 11, 2009, 12:53 PM
การคุมกำเนิด ก็เป็นสิ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ "มุบาหฺ" แต่จำเป็นจะต้องดำเนินตามเงื่อนไขที่วางไว้ทุกประการ ซึ่งสำหรับบางกรณีบุคคล การคุมกำเนิดอาจจะหะรอม หรือวาญิบ หรือสุนัต ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่ภาวะจำเป็น หรือความเสี่ยงของบุคคลนั้น ณ เวลานั้นด้วย - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลาม
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: คะลัคคะลุย Date: ก.พ. 12, 2009, 10:01 AM
 salam

การคุมกำเนิดเป็นการฝืนธรรมชาติอย่างหนึ่ง  ก็เหมือนต้นไม้นั่นแหละครับ  หากไม่รดน้ำพวนดิน  เดี๋ยวก็แห้งตายหรือไม่ก็ไม่ค่อยออกดอกออกผล  พอต้องการจะรับประทานผลของมัน  เพิ่งมารดน้ำพวนดิน  แต่ต้นไม้กันแคระแกรนเสียแล้ว   cool2:
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: บาชีร Date: ก.พ. 12, 2009, 10:42 PM
ผมเคยอ่านในคอลัมเซพสมบ่มิสมในหนังสือพิมย์เดลินิว

เขาบอกในลักษณะที่ว่า การหลังนอกนั้นไม่สามารถคุมกำเหนิดได้ร้อยเปอร์เซน

เนื่องจากเป็นไปได้ที่อสุจิบางส่วนผสมออกมาพร้อมกับน้ำหล่อลื่น



(ทำให้ฝ่ายชายไม่รู้ตัวว่าอสุจินั้นผสมออกมาแล้ว แต่ยังคิดว่ายังไม่หลัง เลยรอหลังนอก เหตุการแบบนี้ผมเคยได้รับฟังมาแล้วว่าสามีหลังนอกตลอดแต่สุดท้ายภรรยาก็ยังตั้งครรภ์)
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: binti-adnan Date: ก.พ. 13, 2009, 09:48 AM
ถูกต้องค่ะ bashir แม้ว่าผู้ชายจะหลั่งข้างนอก  แต่ก็ไม่ได้หมายความอสุจิจะหลุดเล็ดรอดเข้าไปผสมกับไข่ไม่ได้

นั่นก็เป็นอีกสัญญาณที่ให้เราตระหนักว่า  แท้ที่จริงแล้ว  ผู้ให้กำเนิด  คือ  พระองค์อัลลอฮ์ เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ต่อให้มนุษย์พยายามยังงัย  สุดท้ายก็อยุ่ที่พระประสงค์ของอัลลอฮ์อยู่ดี  อัลลอฮุอักบัร  (อันนี้เตือนตัวเอง) wink:
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: คะลัคคะลุย Date: ก.พ. 13, 2009, 09:55 AM
 salam

วิธี:  ก่อนเจ็ดหลังเจ็ดซึ่งปกติจะทำให้ปลอดจากการตั้งครรภ์  กล่าวคือ   วิธีนับก่อนเจ็ดนั้นให้นับล่วงหน้า 7 วันก่อนวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมา  และหลังเจ็ดนั้น ให้นับตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนมาเป็นวันที่หนึ่งและนับต่อไปอีก 6 วัน  จะรวมเป็น 7 วันพอดี (ไม่ใช่เริ่มนับหลังจากประจำเดือนหมด)  ดังนั้นหากร่วมหลับนอนหลังหมดประจำเดือนแล้วก็จะทำให้มีโอกาสไม่ทำให้ภรรยา ตั้งภรรค์สูงมาก

การที่จะใช้วิธีก่อนเจ็ดหลังเจ็ดนั้น  ผู้เป็นภรรยาจะต้องมีประจำเดือนในช่วงระยะเวลาที่ค่อนข้างแน่นอน  ซึ่งผู้เป็นภรรยาสมควรจดบันทึกวันที่ประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมอเพื่อสามารถ กำหนดวันมาประจำเดือนได้  ดังนั้น  หากปกติประจำเดือนมาวันที่  15  ของทุกเดือน ก่อนเจ็ด  คือ  วันที่  8 , 9 , 10 , 11 , 12 , 13 , 14 , ซึ่งช่วงวันเหล่านี้จะทำให้ไม่ตั้งครรภ์ได้  ส่วน  หลังเจ็ด (คือให้นับวันแรกที่ประจำเดือนมา)  คือ  วันที่  15 , 16 , 17 , 18 , 19 , 20 , 21 ,   เป็นทราบกันดีว่า  ช่วงที่มีประจำเดือนนั้นศาสนาไม่อนุญาตให้ทำการร่วมหลับนอนกับภรรยา  ดังนั้น  หากภรรยามีประจำเดือน  4  วัน  คือวันที่  15 , 16 , 17 , 18 ,  แน่นอนว่า  วันที่เหลือคือวันที่ 19 , 20 , 21 , นั้น  หากร่วมหลับนอนก็จะไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์  และหากภรรยามีประจำเดือน 5 วัน  คือวันที่  15 , 16 , 17 , 18 , 19 ,  แน่นอนว่าวันที่  20  และ  21  นั้นหากร่วมหลับนอนก็จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์  และหากภรรยามีประเดือน  6  วัน  ก็จะสามารถร่วมหลับนอนหลังจากนั้นได้ 1 วันที่จะทำให้ไม่ตั้งครรภ์       

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=2963.0

ตกลงว่าวิธีก่อนเจ็ดหลังเจ็ด  ก็มีสิทธิ์ตั้งครรภ์เหมือนกัน  ใช่ป่ะครับ  cool2:
Re: อิสลามกับการคุมกำเนิด By: binti-adnan Date: ก.พ. 13, 2009, 10:14 AM
   :oตกลงว่าวิธีก่อนเจ็ดหลังเจ็ด  ก็มีสิทธิ์ตั้งครรภ์เหมือนกัน  ใช่ป่ะครับ  :o

 ใช่ค่ะ ก็คล้ายกับการหลั่งข้างนอกแหละค่ะ  คือป้องกันการตั้งครรภ์ได้ระดับหนึ่งเท่านั้น  แต่ไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หรอก