เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 17, 2009, 10:12 PM
salam
มารยาทอิมามชาฟิอีย์ต่อผ้ที่มีทัศนะต่างกับท่าน
ยูนุส อัศศ่อดะฟีย์ ได้นั่งเล่าเรื่องจรรยามารยาทอันดีงามของอิมามชาฟิอีย์ให้แก่สานุศิษย์ของเขาว่า
เขากล่าวว่า : ฉันไม่เคยเห็นใครฉลาดเท่าอิมามชาฟิอีย์ ฉันได้ถกประเด็นปัญหาหนึ่งกับเขา หลังจากนั้นเราก็แยกแย้งกันไป และ(วันหนึ่ง)ท่านอัชชาฟิอีย์ได้พบฉัน แล้วจับมือฉัน
หลังจากนั้นอัชชาฟิอีย์ได้กล่าวว่า : โอ้ อะบูมูซา (คือท่านอัศศ่อดะฟี) พึงทราบเถิดว่า เรายังคงเป็นพี่น้องกันอยู่ แม้ว่าเราจะไม่เห็นพร้องใน(มัสอะละฮ์)ประเด็นปัญหาหนึ่งก็ตาม
จากหนังสือ : ตะวาลีอัตตะซีซ หน้า 60 , และหนังสือมะนากิบอิมามอัชชาฟิอีย์ ของอัลบัยฮะกีย์ 1/488
Re: เกล็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 17, 2009, 10:20 PM
salam
มีชายคนหนึ่งได้ไปหาท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ ซึ่งเขากำลังค้นหาหนทางสู่ความสำเร็จ และถามอิมามอัชชาฟิอีย์เกี่ยวกับ ชายคนหนึ่งได้เอาอินทผาลัมไว้ในปากของเขา
หลังจากนั้นเขากล่าวว่าแก่ภรรยาของเขาว่า : เธอจะตกตะล๊าก(ถูกหย่า) หากฉันได้รับประทานอินทผาลัมหรือทิ้งมันไป
ดังนั้นท่านอิมามชาฟิอีย์ตอบอย่างชาญฉลาดว่า : ก็ให้เขารับประทานอินทผาลัมครึ่งหนึ่งและโยนทิ้งไปครึ่งหนึ่ง
จากหนังสือ : ฮุลยะตุลเอาลิยาอฺ 9/143
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 17, 2009, 10:30 PM
salam
ข้างอิมามชาฟิอีย์ มีชายสองคนที่กำลังตำหนิกันและกัน โดยอิมามชาฟิอีย์ได้ยินคำพูดของทั้งสอง
ดังนั้นอิมามจึงกล่าวแก่คนหนึ่งจากทั้งสองว่า : แท้จริงท่านไม่สามารถทำให้มนุษย์ทั้งหมดพอใจได้หรอก ดังนั้นท่านจงปรับปรุงให้ดีสิ่งที่มีระหว่างท่านกับผู้อภิบาลของท่าน ดังนั้นเมื่อท่านได้ปรับปรุงให้ดีซึ่งสิ่งที่มีระหว่างท่านกับอัลเลาะฮ์แล้ว ท่านก็ไม่ต้องไปสนใจผู้คน
หนังสือ : มะนากิบอัชชาฟิอีย์ ของท่านอัลบัยฮะกีย์ 2/198-199
Re: เกล็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: บาชีร Date: ก.พ. 17, 2009, 10:57 PM
salam
มีชายคนหนึ่งได้ไปหาท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ ซึ่งเขากำลังค้นหาหนทางสู่ความสำเร็จ และถามอิมามอัชชาฟิอีย์เกี่ยวกับ ชายคนหนึ่งได้เอาอินทผาลัมไว้ในปากของเขา
หลังจากนั้นเขากล่าวว่าแก่ภรรยาของเขาว่า : เธอจะตกตะล๊าก(ถูกหย่า) หากฉันได้รับประทานอินทผาลัมหรือทิ้งมันไป
ดังนั้นท่านอิมามชาฟิอีย์ตอบอย่างชาญฉลาดว่า : ก็ให้เขารับประทานอินทผาลัมครึ่งหนึ่งและโยนทิ้งไปครึ่งหนึ่ง
จากหนังสือ : ฮุลยะตุลเอาลิยาอฺ 9/143
อิหม่ามเก่งจังเลย
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: ILHAM Date: ก.พ. 18, 2009, 12:04 AM
ฉลาดมาก ของง่ายๆแค่นี้ บอกตรงๆว่าผมคิดไม่ถึงจริงๆ
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2009, 09:28 AM
salam
ความไว้วางใจของอิมามชาฟิอีย์ที่มีต่ออัลเลาะฮ์
อิมามชาฟิอีย์ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเดินทางไปอียิปต์ หัวใจของท่านได้โบยบินไปที่อียิปต์ก่อนร่างกายของท่านแล้วเสีย
มิตรสหายของท่าน นามอับดุลลอฮ์ บิน อับดุลฮะกัม ได้กล่าวกับอิมามชาฟิอีย์ว่า : หากท่านตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ที่อียิปต์ ท่านก็จงเตรียมอาหารเสบียงไว้หนึ่งปี และเตรียมที่นั่ง(ตำแหน่ง)จากเจ้าเมือง ที่ท่านจะได้รับเกียติด้วยกับมัน
ท่านอิมามชาฟิอีย์จึงตอบเต็มเสียงด้วยความไว้วางใจต่ออัลเลาะฮ์ว่า : ผู้ใดที่ความยำเกรงไม่ทำให้เขามีเกียรติ ก็ถือว่าไม่มีเกียรติใด ๆ สำหรับเขา ฉันเกิดที่เมืองฆ็อซซะฮ์ ได้รับการเลี้ยงดูที่เมืองฮิยาซฺ โดย ณ ที่เราไม่มีอาหารพอข้ามคืน และโดยกลางคืนเราไม่หิว"
หนังสือ มะนากิบอิมามชาฟิอีย์ของท่านอัลบัยฮะกีย์ : 2/166
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2009, 09:29 AM
salam
อิมามชาฟิอีย์กับกระเป๋าเงิน
ร่อเบี๊ยะอฺ บิน สุไลมาน (ศิษย์อิมามชาฟิอีย์) ได้ทำการแต่งงาน จากนั้นเขาก็ไปหาท่านชาฟิอีย์ แล้วกล่าวอย่างเอียงอายว่า "ฉันได้แต่งงานแล้ว"
ท่านชาฟิอีย์กล่าวว่า : ท่านจ่ายค่าสินแก่ภรรยาเท่าไหร่ล่ะ?
ร่อเบี๊ยะอฺ ตอบว่า : สามสิบ ดีนารครับ
ท่านชาฟิอีย์ถามว่า : แล้วท่านได้ให้นางไปเท่าไหร่แล้ว?
ร่อเบี๊ยะอฺ ตอบว่า : หก ดีนาร
ท่านชาฟิอีย์จึงขึ้นไปบนบ้าน แล้วส่งกระเป๋าเงินที่มี 24 ดีนาร ให้แก่ร่อเบี๊ยะอฺ เพื่อให้สินสอดครบสมบูรณ์
หนังสือ ฮิลยะตุลเอาลิยาอฺ 9/132
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2009, 09:44 AM
salam
การเสวนาของผู้อาวุโส
ณ สถานที่อบอวนไปด้วยความรัก ศิษย์ผู้ชาญฉลาด นามอะห์มัด บิน ฮัมบัล ได้นั่งอยู่กับอาจารย์ของเขา คือท่านอิมามชาฟิอีย์
ท่านชาฟิอีย์ได้กล่าวอย่างนิ่มนวลว่า โอ้ อะห์หมัด เอ๋ย ท่านใช่ไหมที่กล่าวว่า : ผู้ที่ทิ้งละหมาดนั้นเป็นกาเฟร?
อะห์หมัดตอบว่า : ใช่ครับ
ท่านชาฟิอีย์กล่าวว่า : เมื่อผู้ทิ้งละหมาดเป็นกาเฟรที่ทำให้เขาออกจากศาสนา แล้วด้วยอะไรล่ะที่เขารับอิสลาม?
อะห์หมัดตอบว่า : การที่เขาได้กล่าวว่า ลาอิลาฮะอัลลอฮ์ มุฮัมมะดุรร่อซูลุลลอฮ์
ท่านชาฟิอีย์กล่าวว่า : ดังนั้น ชายคนหนึ่งที่เขากล่าว ลาอิลาฮะอัลลอฮ์ มุฮัมมะดุรร่อซูลุลลอฮ์ เป็นประจำ โดยไม่ทิ้งการกล่าวมันเลยล่ะ
อะห์หมัดตอบว่า : เขาก็จะเข้าอิสลามเป็นครั้งที่สองด้วยการละหมาด ตอนที่เขากำลังทำละหมาดอยู่
ท่านชาฟิอีย์กล่าวว่า : การละหมาดของคนกาเฟรย่อมใช้ไม่ได้ (ทั้งในละหมาดมีการกล่าว ลาอิลาฮะอัลลอฮ์ มุฮัมมะดุรร่อซูลุลลอฮ์ด้วย) แต่เขาไม่ถูกตัดสินว่าได้เข้ารับอิสลาม
ดังนั้นท่านอะห์หมัดจึงนิ่งและทราบทันทีว่า การกุฟุรของผู้ทิ้งละหมาดนั้น คือกุฟุรที่มิใช่กุฟุรแบบทำให้เขาออกจากศาสนา (คือกุฟุรเนี๊ยะมัตไม่ใช่กุฟุรออกจากศาสนา)
หนังสือ : ฏ่อบะก๊อต อัชชาฟิอียะฮ์ ของท่านอิมามอัศศุบกีย์ 2/61
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2009, 09:52 AM
salam
อิมามชาฟิอีย์กับเงินดีนาร
ด้วยมือที่มีความใจบุญสุนทาน ทำให้ริมฝีปากของผู้หิวโหยปริรอยยิ้มได้
คืออิมามชาฟิอีย์ได้เดินทางออกจาก เมืองศ็อนอาอฺแห่งเยเมน มุ่งหน้ายังนครมักกะฮ์ พร้อมกับท่านมีเงินอยู่หนึ่งหมื่นดีนารอยู่ในห่อผ้าของท่าน
ดังนั้นท่านชาฟิอีย์จึงกลางเต้นในสถานที่นอกเขตมักกะฮ์ แล้วทำการแจกเงินดีนารแก่บรรดาผู้ที่มีความต้องการ แก่ผู้ที่เดินทาง และนักศึกษาความรู้
ผู้คนก็ไปยังท่านอิมามชาฟิอีย์และเอาสิ่งที่พวกเขาต้องการ ท่านยังคงอยู่ ณ สถานที่นั้น จนกระทั่งแจกจ่ายเงินดีนารทั้งหมด
หนังสือ : ฮิลยะตุลเอาลิยาอฺ 9/130 , มะนากิบอัชชาฟิอีย์ ของท่านอัรรอซีย์ 128
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2009, 10:13 AM
salam
อิมามชาฟิอีย์กับเกียรติของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
อดีตแห่งความหวมหวล อิมามชาฟิอีย์ได้นั่งพำนัก โดยปากของท่านได้หอมหวล การสดับรับฟังของผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ท่าน ไปด้วยการกล่าวถึงคุณงามความดีของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ดังนั้นท่านชาฟิอีย์ได้กล่าวว่า : อัลเลาะฮ์จะไม่มอบสิ่งใดแก่นบีคนหนึ่ง นอกจากพระองค์จะมอบแด่นบีมุฮัมมัดมากยิ่งกว่า
จึงถูกถามแก่ท่านชาฟิอีย์ว่า : อัลเลาะฮ์ได้มอบแก่ท่านนบีอีซา บุตร มัรยัม ทำให้ฟื้นคืนชีพแก่คนตายได้
ท่านชาฟิอีย์ตอบว่า : ต้นอินทผาลัมร้องไห้สะอื้น (คือขณะที่ท่านนบีได้ยืนเทศนาอยู่บนท่อนไม้ที่มาจากต้นอินทผาลัม ซอฮาบะฮ์จึงนำเสนอความคิดว่า จะทำธรรมาสขึ้นมาใหม่ แล้วท่านนบีจึงนำท่อนไม้อินทผาลัมไปไว้ริมมัสยิด ท่อนอินทผาลัมจึงเสียใจร้องสะอื้น) ย่อมยิ่งใหญ่กว่า เพราะการทำให้ท่อนไม้มีชีวิตขึ้นมาย่อมใหญ่กว่าการทำให้คนตายฟื้นขึ้นมา
จึงถูกกล่าวขึ้นว่า : ท่านนบีมูซาผ่าน้ำทะเลได้
ท่านชาฟิอีย์ตอบว่า : การผ่าดวงจันทร์ย่อมหัศจรรย์ยิ่งกว่า เพราะเป็นความมหัศจรรย์แห่งฟากฟ้า
เมื่อเราถามถึงตาน้ำที่พุ่งออกมาจากหิน ท่านชาฟิอีย์ก็ตอบว่า น้ำที่ไหลออกมาจากระหว่างนิ้วมือของท่านนบี ย่อมมหัศจรรย์ยิ่งกว่า เพราะน้ำที่ออกมาจากหินนั้น เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่การที่น้ำออกมาจากเนื้อและเลือดย่อมมหัศจรรย์ยิ่งกว่า
หากเราถามถึงการที่ท่านนบีสุไลมานควบคุมสายลมได้ ท่านชาฟิอีย์ก็จะตอบว่า ท่านนบีเดินทางสู่ฟากฟ้า(เมี๊ยะอฺรอจญฺ)ได้เช่นกัน
หนังสือ มะนากิบอัชชาฟิอีย์ ของท่านอัรรอซีย์ 121
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2009, 10:37 AM
salam
อิมามอะห์มัดได้จูงสัตว์พาหนะของอิมามชาฟิอีย์
ท่านอะห์มัดได้นอนป่วยอยู่บนที่นอน ทันใดนั้นอาจารย์ของเขา คือท่านชาฟิอีย์ได้มาเยี่ยม ท่านอะห์มัดจึงรีบลุกจากที่นอน แล้วเข้าไปจูบสองตาของท่านชาฟิอีย์ จากนั้นก็เชิญท่านชาฟิอีย์นั่งลงบนที่นอนเพื่อให้เกียรติ
ท่านอะห์มัดได้นั่งลงข้างหน้าท่านชาฟิอีย์ และถามเกี่ยวกับประเด็นปัญหาศาสนาช่วงเวลาหนึ่ง
ดังนั้นในขณะที่ท่านชาฟิอีย์ได้ลุกขึ้นยืนเพื่อขี่สัตว์พาหนะ ท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล จึงรีบรุดที่ไปท่านชาฟิอีย์อย่างนอบน้อม แล้วจูงสัตว์พาหนะและเดินส่งอำลาท่านชาฟิอีย์
เรื่องดังกล่าวจึงทราบไปถึงท่าน อะห์ยา บิน มะอีน แล้วเขาก็กล่าวแก่ท่านอะห์มัดว่า ซุบฮานัลลอฮ์ ท่านจำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือจนกระทั่งเดินข้าง ๆ ล่อ(สัตว์พาหนะ)ของท่านชาฟิอีย์?
ท่านอะห์มัดจึงกล่าวว่า : หากท่านเดินอีกข้างหนึ่ง แน่นอนท่านก็จะได้รับประโยชน์จากความรู้และฟิกห์ของท่านชาฟิอีย์
หนังสือ : ฮิลยุตุลเอาลิยาอฺ 9/99
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2009, 10:50 AM
salam
ผู้เป็นครูในทุกเรื่อง
ท่านอิมามชาฟิอีย์ได้นั่งทางกลางนักศึกษาที่มาร่ำเรียนความรู้จากอาจารย์ของพวกเขา โดยทำการสอนมารยาทก่อนวิชาการ
ท่านชาฟิอีย์ได้สอนพวกเขาในเรื่องมารยาทการรับประทานอาหารว่า : ในการรับประทานอาหารนั้นมีสี่อย่าง คือสี่อย่างในเรื่องฟัรดู , สี่อย่างในเรื่องสุนัต , และสี่อย่างในเรื่องมารยาท
สำหรับฟัรดู คือต้องล้างมือทั้งสองข้าง , ล้างจาน , ล้างมืด , และล้างช้อน
สำหรับสุนัต คือสมควรนั่งบนเท้าซ้าย(เหมือนนั่งตะชะฮุดครั้งแรก) , ทำให้คำอาหารมีขนาดเล็ก , เคี้ยวให้ละเอียด , และเลียนิ้วมือ
สำหรับมารยาท คืออย่ายื่นมือหยิบอาหารจนกว่าผู้ที่อาวุโสกว่าท่านได้ยื่นมือไปหยิบก่อน , ท่านควรรับประทานอาหารที่อยู่ข้าง ๆ ท่าน , ลดการมองหน้าผู้คน(ที่ร่วมรับประทานอาหาร) , และพูดให้น้อย
หนังสือ : ฏ่อบะก็อตอัชชาฟิอียะฮ์ 2/135
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-firdaus~* Date: ก.พ. 18, 2009, 10:58 AM
salam
อ่านแล้วหัวใจอิ่มเอม...

Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2009, 12:01 PM
salam
บุรุษหนุ่มผู้มีความรู้
ในความนอบน้อมถ่อมตนและมีความยำเกรง หนุ่มน้อยนาม มุฮัมมัด บิน อิดรีส อัชชาฟิอีย์ ซึ่งผู้คนทั้งหลายต่างห้อมล้อมถามปัญหาศาสนากับเขา แต่ทว่าเขาได้งดคำพูดเพื่อเป็นมารยาทและถ่อมตน(ต่ออาจารย์ของเขา)
ดังนั้น มุสลิม บิน คอลิต อัซซันญีย์ (อาจารย์ของอิมามชาฟิอีย์) ได้กล่าวแก่ชาฟิอีย์ว่า โอ้ อบูอับดิลลาฮ์(คือท่านชาฟิอีย์) เจ้าจงฟัตวาให้แก่ผู้คนทั้งหลายเถิด ขอสาบานต่ออัลเลาะฮ์ บัดนี้ อนุญาตแก่เจ้าทำการฟัตวาได้แล้ว ซึ่งในขณะนั้นท่านชาฟิอีย์อายุไม่ถึงยี่สิบปี
บางรายงานกล่าวว่า ท่านชาฟิอีย์ทำการฟัตวาเมื่ออายุ 15 ปี และท่านทำอิบาดะฮ์ในยามค่ำคืนจนกระทั่งจากโลกนี้ไป
หนังสือ : มะนากิบอิมามชาฟิอีย์ ของท่านอัลบัยฮะกีย์ 2/238-239 , หนังสือตารีคบุฆดาด 2/64
Re: เกร็ดประวัติอิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ก.พ. 18, 2009, 12:02 PM
