นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: al-azhary Date: พ.ค. 20, 2009, 07:51 AM
بَسْمِ اللهِ الرَّحْمنِ الرَّحِيْمِ
นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน
เมื่อรู้สึกว่าจิตใจมีความอ่อนแอ ก็ต้องความมุมานะอดทนและมุ่งมั่นในอัลเลาะฮ์ตะอาลา ซึ่งดังกล่าวทำให้เราควรหวนคิดถึงท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่าท่านมีความอดทนอย่างไร และอะไรบ้างที่ท่านต้องฟันฝ่าในวิถีทางของอัลเลาะฮ์ตะอาลา เพื่อนำมาเป็นกำลังใจและหลักปฏิบัติสุดความสามารถที่เราจะกระทำได้
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า
فَاصْبِرْ كَمَا صَبَرَ أُوْلُوا الْعَزْمِ مِنَ الرُّسُلِ وَلَا تَسْتَعْجِل لَّهُمْ
"ดังนั้นเจ้าจงอดทนเถิด เสมือนการอดทนบรรดาผู้มีจิตมั่นจากบรรดาศาสนทูต(คือนบีนุห์ , อิบรอฮีม , มูซา , อีซา , มุฮัมมัด) และเจ้าอย่าเร่าเร้า(ให้มีการลงโทษ)แก่พวกเขา" อัลอะฮฺก็อฟ 35
ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นผู้มีความอดทนในหนทางของอัลเลาะฮ์เหนือการอดทนของบรรดาผู้มีความอดทนทั้งหลาย ท่านได้เคยถูกทำร้ายและสร้างความเดือดร้อนทั้งทางร่างกายและจิตใจจากบรรดาผู้ปฏิเสธมากกว่าผู้ใดในโลกนี้ การกล่าวถึงความอดทนของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็คือการกล่าวถึงการดำเนินชีวิตทั้งหมดของท่านตั้งแต่อายะฮ์อัลกุรอานโองการแรกลงมาจนกระทั่งโองการสุดท้าย ท่านก็ยังมีความอดทนอย่างผู้มีจิตมั่นอย่างมิเสื่อมคลาย
ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ มัสอูด เล่าว่า "ในขณะที่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการละหมาดที่กะบะฮ์ ชาวกุเรช(พวกอะบูญะฮัล)กุล่มหนึ่งได้นั่งชุมนุมกัน เมื่อมีคนหนึ่งได้กล่าวขึ้นว่า พวกท่านไม่ลองไปที่(มุฮัมมัด)ที่(ทำละหมาด)อย่างโอ้อวดคนนี้หรือ? พวกท่านคนใหนบ้างที่อาสาไปเอาแกะที่ถูกเชือด(เมื่อวาน)ของคนตระกูลอะลีมุอัยฏ์ แล้วไปเอามูล เลือด และใส้ของมันมา และให้เขานำมันมา แล้วย่องเข้าไปหาเขาเมื่อได้ทำการสุยูด แล้วเขาก็เอามันโยนลงบนบ่าทั้งสองของเขา ทันใดนั้น(อุกบะฮ์ บิน อะบีมุอัยฏ์)คนเลวที่สุดในหมู่พวกเขาจึงอาสาลุกขึ้นมา เมื่อท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการสุยูด เขาจึงนำมูลของแกะโยนลงบนสองไหล่ของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แต่ท่านก็สะยูดอย่างสงบนิ่ง ดังนั้นพวกเขาต่างก็หัวเราะกัน - ท่านอิบนุมัสอูดกล่าวต่อไปว่า - ในตอนนั้นไม่มีใครที่สามารถเอามูลสัตว์ออกจากหลังนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ เพราะมุสลิมตอนนั้นยังมีความอ่อนแอเหลือเกินไม่สามารถที่จะปกป้องท่านได้ ดันั้นท่านจึงทำการสะยูดในลักษณะเช่นนั้น จนกระทั้งท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้เอาปฏิกูลออกและโดยมันออกไป แล้วท่านหญิงก็หันไปต่อว่าพวกเขา... " รายงานโดยอัลบุคอรีย์ (490) , หนังสือ ซ็อฟวะฮ์ อัซซีเราะฮ์ อันนะบะวียะฮ์ 1/190-191 ของท่านอิบนุกะษีร
อุรวะฮ์ บุตร ซุบัยร์ ได้ถามอับดุลลอฮ์ บุตร อัมรฺ เกี่ยวกับสิ่งที่รุนแรงที่สุดที่พวกมุชริกีนได้ทำกับท่านร่อซูลุลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เขาเล่าว่า "ฉันได้เห็นอุกบะฮ์ บุตร อะบีมุอัยฏฺได้รุดมายังท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขณะที่ท่านกำลังละหมาดอยู่ ดังนั้นเขาจึงเอาเสื้อคลุมคล้องไว้ที่ต้นคอ(จากด้านหลัง)ของท่าน แล้วทำการรัดคอท่านอย่างรุนแรง อะบูบักรจึงเข้ามาดึงไหล่และปกป้องท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พร้อมกล่าวว่า "พวกท่านจะฆ่าชายคนหนึ่งที่กล่าวว่าผู้อภิบาลของข้าและเขาได้นำข้อยืนยันที่ชัดเจนจากพรเจ้าของเจ้ากระนั้นหรือ?" รายงานโดยบุคอรี (3402) , หนังสือ ซ็อฟวะฮ์ อัซซีเราะฮ์ อันนะบะวียะฮ์ 1/192
ท่านอิบนุกะษีรได้กล่าวรายงานว่า "พวกมุชริกีนบางคนได้กอบเอาดินมาโปรยศีรษะท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมในขณะที่กำลังเดินอยู่ในตรอกหนึ่งของมักกะฮ์ ท่านเดินทางกลับโดยมีดินอยู่บนศีรษะของท่าน บุตรีคนหนึ่งของท่านจึงทำการล้างดินออกจากศีรษะพร้อมกับร้องไห้ และท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า "โอ้ลูกน้อยเอ๋ย เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลย" แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงปกป้องบิดาของเจ้าน่ะ" หนังสือซ็อฟวะฮ์ อัซซีเราะฮ์อันนะบะวียะฮ์ 2/74
ท่านอะบูฏอลิบลุงของท่านได้ให้การปกป้องท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจากการปองร้ายของพวกมุชริกีนเสมอมา เมื่ออะบูฏอลิบได้จากไป ท่านนบีซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมถูกกดดันอย่างหนักหน่วงจากพวกกุรเรช พวกเขาทำวิถีทางเพื่อหยุดการเผยแผ่ศาสนาของท่านให้ได้ มีผู้คนส่วนน้อยที่ไม่มีค่อยอิทธิพลในสังคมให้ทำการยอมรับศาสนาอิสลาม ท่านจึงคิดเดินทางไปเผยแผ่ศาสนานอกนครมักกะฮ์ ดังนั้นท่านมุ่งหน้าเดินทางไปยังเมืองฏออีฟ เพื่อไปขอการสนับสนุนจากประชาชนตำบลษะกีฟและขอการหลบภัยจากพวกกุเรช พร้อมทั้งหวังว่าประชาชนตำบลษะกีฟจะตอบรับสิ่งที่ท่านได้นำไปเผยแพร่สัจธรรมที่มาจากอัลเลาะฮ์ตะอาลา "ท่านจึงออกเดินทางไปหาพวกเขาเพียงลำพัง เมื่อท่านได้ถึงเมืองฏออีฟ ท่านจึงได้ไปหาแกนนำสามพี่น้อง คืออับดุน ยาลัยล์ บุตร อัมร์ บุตร อุมัยร์ , มัสอูด บุตร อัมรฺ , และฮะบีบ บุตร อัมรฺ ซึ่งพี่น้องคนหนึ่งมีภรรยาที่เป็นชาวกุเรชคนหนึ่งจากเผ่าบะนีญุมาห์ ดังนั้นท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงทำการเรียกร้องเชิญชวนพวกเขาไปสู่อัลเลาะฮ์และเจรจาของความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่ทว่าพวกเขาให้การปฏิเสธ ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮูอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวแก่พวกเขาว่า เมื่อพวกท่านได้กระทำเช่นนี้ พวกท่านก็จงอย่าแพร่งพรายเรื่องของฉัน เนื่องจากท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมมิชอบให้เรื่องดังกล่าวนี้แพร่สพัดถึงชาวกุเรช แต่พวกเขาได้ละเมิดและไม่ยอมกระทำตาม บรรดาชนชั้นต่ำและชนชั้นทาสของตำบลษะกีฟ จึงทำการล้อเลียนพูดจากถากถางท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกเขาทำการด่าทอและโห่ตะโกนไล่ท่าน ผู้คนบางส่วนเอาก้อนหินไล่ขว้างจนที่ซ้นเท้าของท่านมีเลือดออก จนกระทั่งท่านได้ถูกพวกเขาล้อมรอบและไล่ต้อนไปยังสวนหนึ่งของสองพี่น้องอุตบะฮ์และชัยบะฮ์ บุตร ร่อบีอะฮ์ ซึ่งขาทั้งสองได้เห็นการกระทำของพวกษะกีฟเป็นอย่างดี" หนังสือมุคตะซ็อร ซีเราะฮ์อิบนุฮิชาม 1/257-258 , หนังสือนูรุลยะกีน ฟี ซีเราะติซัยยิดิลมุรซะลีน หน้า 55 ของท่านชัยค์มุฮัมมัด อัลคิฎรีย์
ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ยืนทอดอาลัยต่อความหยาบคายของพวกฏออีฟ พร้อมทั้งกล่าวว่า "โอ้อัลเลาะฮ์พระองค์ทรงโปรดชี้นำกลุ่มชนของฉันด้วยเถิดเนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มชนที่ไม่รู้" ดังนั้นท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจึงได้หลบพักอยู่ใต้พุ่มองุ่นในสวนของอุตบะฮ์และชัยบะฮ์ บุตร ร่อบีอะฮ์ ความอ่อนระทวยอันเนื่องมาจากวิรกรรมของพวกฏออีฟ ความเป็นทาสบ่าวผู้อ่อนแอของท่านได้แสดงออกมาต่ออัลเลาะฮ์ ท่านว่า "โอ้ ผู้อภิบาลของฉัน ไปยังพระองค์เท่านั้นที่ฉันน้อมสารภาพถึงความอ่อนแอของฉัน ความสามารถอันน้อยนิดของฉัน ความต่ำต้อยของฉันที่มีต่อมวลมนุษย์ทั้งหลาย โอ้ผู้ทรงเมตตายิ่งจากเหล่าผู้เมตตา พระองค์คือพระเจ้าแห่งชนผู้อ่อนแอ และพระองค์คือพระเจ้าของฉัน ไปยังผู้ใดอีกเล่าที่ฉันจะขอพึ่งพา หากพระองค์ไม่มีความพิโรจต่อฉันแล้ว ฉันก็จะคลายความกังวลใจ" หนังสือมุคตะซ็อร ซีเราะฮ์อิบนุฮิชาม 1/258-259 , หนังสือซ็อฟวะฮ์ อัซซีเราะฮ์อันนะบะวียะฮ์ 2/76-77 , หนังสือนูรุลยะกีน หน้า 56
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้ถามท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า "ที่ผ่านมามีสักวันหนึ่งไหมที่ร้ายแรงแก่ท่านยิ่งกว่าวันสงครามอุฮุด ท่านตอบว่า แท้จริงฉันได้ประสบจากกลุ่มชนของเธอเหมือนกับที่ฉันได้เคยประสบ วันร้ายแรงที่ฉันได้รับจากพวกเขาคือวันแห่งความยากลำบาก เนื่องจากฉันได้เสนอตนเองแก่อิบนุอับด์ ยาลัยล์ บุตร อับดฺกุลล้าล แต่เขาไม่ตอบรับสิ่งที่ฉันต้องการ ดังนั้นฉันจึงเดินทางจากไปโดยความโศกเศร้าอาลัยปรากฏที่ใบหน้าของฉัน และฉันจะยังไม่คลายความโศกอาลัย นอกจาก ณ ที่ภูเขาก็อรนิษษะอาลิบ ฉันได้เงยศีรษะขึ้น ทันใดนั้นได้เห็นเมฆทำการให้ร่มเงาแก่ฉัน และฉันมองก็เห็นญิบรีลกำลังเรียกฉัน แล้วกล่าวว่า แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงไดยินคำพูดของกลุ่มชนท่านที่มีต่อท่านและสิ่งที่พวกเขาได้ตอบโต้ท่าน และแท้จริงพระองค์ได้ส่งมะลาอิกะฮ์ผู้ได้รับมอบหมายดูแลบรรดาขุนเขามาเพื่อรับใช้ตามที่ท่านต้องการ ดังนั้นมะลาอิกะฮ์แห่งขุนเขาได้เรียกและกล่าวสลามแก่ฉัน จากนั้นมะลากิอะฮ์กล่าวว่า โอ้ ท่านมุฮัมมัด ท่านจงสั่งใช้ฉันตามที่ท่านต้องเถิด หากท่านต้องการให้ฉันนำสองขุนเขาทับลงบนพวกเขา (ก็โปรดสั่งมาเถิด) ดังนั้นท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจึงกล่าวว่า อย่าเลย ฉันหวังว่าอัลเลาะฮ์จะทำให้(กำเนิด)ออกมาจากกระดูกสันหลังของพวกเขาซึ่งผู้ที่สักการะต่ออัลเลาะฮ์เพียงองค์เดียวโดยไม่นำสิ่งใดมาเป็นตั้งภาคีต่อพระองค์" รายงานโดยบุคอรีย์ (2992)
เมื่อได้เกิดสงครามระหว่างมุสลิมและพวกกุฟฟารมักกะฮ์ ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะทำการออกบรรชาการและร่วมรบ สรภูมิแล้วสมรภูมิเล่า จนใบหน้าอันมีเกียรติของแตกฟกช้ำมีบาดแผล ฟันหน้าของท่านหัก แต่ท่านก็กล่าวว่า "ขออัลเลาะฮ์ทรงเมตตาต่อมูซา แท้จริงเขาได้ถูกทำร้ายมากกว่านี้ ดังนั้นจงอดทน" รายงานโดยบุคอรี(3991) ยิ่งกว่านั้นท่านยังถูกพวกมุนาฟิกีนหมิ่นเกียรติกล่าวหาว่าภรรยาท่านมีชู้ ถูกกล่าวหาว่าเป็นนักไสยศาสตร์ , เป็นนักมายากล , เป็นหมอทำนาย , และเป็นคนบ้า
แต่ท่านก็มีความอดทน ความสุขุม และมีความเมตตาต่อบรรดาผู้ปองร้ายและแสดงความหยาบคายต่อท่าน ดังที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงยืนยันไว้ว่า
فَبِمَا رَحْمَةٍ مِّنَ اللّهِ لِنتَ لَهُمْ
"ดังนั้นด้วยความเมตตาจากอัลเลาะฮ์นั้น เจ้าจึงสุภาพอ่อนโยนต่อพวกเขา" อาลิอิมรอน 159
وَمَا أَرْسَلْنَاكَ إِلاَّ رَحْمَةً لِلْعَالَمِيْنَ
และเราไม่ได้ส่งเจ้ามานอกจากเป็นความเมตตาแก่สากลโลกทั้งหลาย" อัลอัมบิยาอฺ 107
ศาสนทูตผู้เป็นนักรบ มีความเข้มแข็งในยามศึก แต่ในยามค่ำคืนท่านคือผู้นำแห่งชนร็อบบานียีนผู้อดทนและถวินหาในการสร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา ท่านหมั่นทำการถือศีลอด ทำการซิกรุลลอฮ์ ทำละหมาดจนเท้าบวม
อบูฮุร๊อยเราะฮ์ เขากล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการละหมาดจนสองเท้าของท่านบวม - อบูฮุร๊อยเราะฮ์ กล่าวว่า - ได้ถูกถามแก่ท่านนบีว่า ท่านได้กระทำสิ่งนี้ โดยที่อัลเลาะฮ์ทรงอภัยโทษแก่ท่านในความผิดที่ได้ล่วงผ่านมาแล้วและที่จะมี มาภายหลังแล้วมิใช่หรือ ? ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "จะมิให้ฉันเป็นบ่าวผู้กตัญญูรู้คุณดอกหรือ?" อัชชะมาอิลมุฮัมมะดียะฮ์ (251)
ดังนั้นทั้งชีวิตของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงเป็นมหาวิทยาลัยแห่งประชาชาติและเป็นกำลังใจของเหล่าบรรดาผู้มีความอดทน เพราะฉะนั้นความหอมหวานแห่งความอดทนนั้น จะไม่มีผู้ใดได้รับหรอกนอกจากมีความยากีนในอัลเลาะฮ์ซุบฮานะฮูวะตาอาลาและเป็นผู้เจริญรอยตามการดำเนินชีวิตของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมاللهُمَّ صَلِّ عَلَي سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَلَي آلَهِ وَصَحْبِهِ وَسَلَّمَ وَالْحَمْدُ للهِ رَبِّ العَالَمِيْنَ
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: khata Date: พ.ค. 20, 2009, 12:19 PM
salam

...น้ำตาคลอ...ท่านนบีฯช่างมีจิตใจที่บริสุทธิ์จริง ๆ....
เรายังอดทนไม่ได้ซักครึ่งนึงของท่านเลย เฮ้อ.....
ญาซากัลลอฮฺฮุคอยร๊อนค่ะ ท่าน al-azhary ....
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: ILHAM Date: พ.ค. 20, 2009, 01:11 PM
salam
...น้ำตาคลอ...ท่านนบีฯช่างมีจิตใจที่บริสุทธิ์จริง ๆ....
เรายังอดทนไม่ได้ซักครึ่งนึงของท่านเลย เฮ้อ.....
ญาซากัลลอฮฺฮุคอยร๊อนค่ะ ท่าน al-azhary ....
1%ผมว่าของผมยังไม่ถึงเลยนะเนี่ย
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: Molto Date: พ.ค. 21, 2009, 11:41 PM
salam
"พวกเขาทำการด่าทอและโห่ตะโกนไล่ท่าน ผู้คนบางส่วนเอาก้อนหินไล่ขว้างจนที่ซ้นเท้าของท่านมีเลือดออก..."
"ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ยืนทอดอาลัยต่อความหยาบคายของพวกฏออีฟ..."
"โอ้ลูกน้อยเอ๋ย เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลย" แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงปกป้องบิดาของเจ้าน่ะ"
salam
...น้ำตาคลอ...ท่านนบีฯช่างมีจิตใจที่บริสุทธิ์จริง ๆ....
เรายังอดทนไม่ได้ซักครึ่งนึงของท่านเลย เฮ้อ.....
ญาซากัลลอฮฺฮุคอยร๊อนค่ะ ท่าน al-azhary ....

Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: อัซซาดีลียะฮ์ Date: พ.ค. 22, 2009, 03:01 AM
อัลฮัมดุลิลละฮ์ สำหรับกระทู้นี้
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: al-azhary Date: พ.ค. 22, 2009, 12:05 PM
ท่านอะบูฏอลิบลุงของท่านได้ให้การปกป้องท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจากการปองร้ายของพวกมุชริกีนเสมอมา เมื่ออะบูฏอลิบได้จากไป ท่านนบีซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมถูกกดดันอย่างหนักหน่วงจากพวกกุรเรช พวกเขาทำวิถีทางเพื่อหยุดการเผยแผ่ศาสนาของท่านให้ได้ มีผู้คนส่วนน้อยที่ไม่มีค่อยอิทธิพลในสังคมให้ทำการยอมรับศาสนาอิสลาม ท่านจึงคิดเดินทางไปเผยแผ่ศาสนานอกนครมักกะฮ์ ดังนั้นท่านมุ่งหน้าเดินทางไปยังเมืองฏออีฟ เพื่อไปขอการสนับสนุนจากประชาชนตำบลษะกีฟและขอการหลบภัยจากพวกกุเรช พร้อมทั้งหวังว่าประชาชนตำบลษะกีฟจะตอบรับสิ่งที่ท่านได้นำไปเผยแพร่สัจธรรมที่มาจากอัลเลาะฮ์ตะอาลา "ท่านจึงออกเดินทางไปหาพวกเขาเพียงลำพัง เมื่อท่านได้ถึงเมืองฏออีฟ ท่านจึงได้ไปหาแกนนำสามพี่น้อง คืออับดุน ยาลัยล์ บุตร อัมร์ บุตร อุมัยร์ , มัสอูด บุตร อัมรฺ , และฮะบีบ บุตร อัมรฺ ซึ่งพี่น้องคนหนึ่งมีภรรยาที่เป็นชาวกุเรชคนหนึ่งจากเผ่าบะนีญุมาห์ ดังนั้นท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงทำการเรียกร้องเชิญชวนพวกเขาไปสู่อัลเลาะฮ์และเจรจาของความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่ทว่าพวกเขาให้การปฏิเสธ ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮูอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวแก่พวกเขาว่า เมื่อพวกท่านได้กระทำเช่นนี้ พวกท่านก็จงอย่าแพร่งพรายเรื่องของฉัน เนื่องจากท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมมิชอบให้เรื่องดังกล่าวนี้แพร่สพัดถึงชาวกุเรช แต่พวกเขาได้ละเมิดและไม่ยอมกระทำตาม บรรดาชนชั้นต่ำและชนชั้นทาสของตำบลษะกีฟ จึงทำการล้อเลียนพูดจากถากถางท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกเขาทำการด่าทอและโห่ตะโกนไล่ท่าน ผู้คนบางส่วนเอาก้อนหินไล่ขว้างจนที่ซ้นเท้าของท่านมีเลือดออก จนกระทั่งท่านได้ถูกพวกเขาล้อมรอบและไล่ต้อนไปยังสวนหนึ่งของสองพี่น้องอุตบะฮ์และชัยบะฮ์ บุตร ร่อบีอะฮ์ ซึ่งขาทั้งสองได้เห็นการกระทำของพวกษะกีฟเป็นอย่างดี" หนังสือมุคตะซ็อร ซีเราะฮ์อิบนุฮิชาม 1/257-258 , หนังสือนูรุลยะกีน ฟี ซีเราะติซัยยิดิลมุรซะลีน หน้า 55 ของท่านชัยค์มุฮัมมัด อัลคิฎรีย์
จากนั้นอุตบะฮ์และชัยบะฮ์เจ้าของสวนจึงมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เขาทั้งสองจึงสั่งให้เด็กหนุ่มชาวน่าซอรอ(คริสเตียน)นามว่า อัดดาส ซึ่งเป็นคนใช้ของเขาทั้งสองให้ไปเด็ดองุ่นมาหนึ่งจานเพื่อให้ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมรับประทาน "ท่านจงรับประทานซิ" ดังนั้นท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจึงยื่นมือของท่านไปหยิบพร้อมกล่าวว่า "บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรร่อฮีม" แล้วท่านก็รับประทาน อัดดาสจึงพูดอย่างแปลกใจว่า ขอสาบานต่อพระเจ้า แท้จริงคำกล่าวว่า "บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรร่อฮีม" คือถ้อยคำที่ชาวเมืองนี้กล่าวกัน ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวกับอัดดาสว่า "เจ้ามาจากเมืองใดหรือ?" และ "เจ้านับถือศาสนาอะไร?" เขาตอบว่า "ฉันนับถือศาสนาคริสต์" และ "ฉันเป็นชาวเมืองนีนูวา(หมู่แห่งหนึ่งของเมาซิลอีรักปัจจุบัน)" ดังนั้นท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า "เมืองนั้นเป็นเมืองที่มีชายผู้มีคุณธรรมซึ่งมีนามว่า(นบี)ยูนุส บุตร มัธทาอยู่" อัดดาสถามว่า "อะไรคือสิ่งที่ทำให้ท่านรู้ว่าเขาคือยูนุส บุตร มัธทา" ท่านร่อซูลุลลอฮ์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมตอบว่า "เขาคือพี่น้องของฉัน เขาคือศาสนทูตท่านหนึ่งและฉันเป็นศาสนทูตอีกคนหนึ่งเหมือนกัน" ดังนั้นอัดดาสจึงกุ้มจูบที่ศีรษะ สองมือ และสองเท้าของท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม" หนังสือมุคตะซ็อร ซีเราะฮ์อิบนุฮิชาม 1/259 , หนังสือนูรุลยะกีน ฟี ซีเราะติซัยยิดิลมุรซะลีน หน้า 56
จากสิ่งที่เราได้นำเสนอนั้น ท่านร่อซูลุลลอฮ์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้สอนให้บรรดาอัครสาวกและประชาชาติของท่านให้รู้ว่า สิ่งที่ท่านได้ประสบนั้นต้องมีความอดทน และความอดทนต่อความทุกข์ยากและสิ่งที่เราไม่พึงปรารถนานั้น ย่อมเป็นการกระทำที่อยู่ในหนทางของอัลเลาะฮ์ตะอาลา
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: khata Date: พ.ค. 22, 2009, 12:36 PM
salam
ใช่ค่ะ...แม้ว่าสิ่งต่าง ๆจะมาประสบกับเราอย่างมากมาย....แต่เราก็ต้องอดทน....แท้จริงอัลลอฮฺทรงอยู่กับบรรดาผู้อดทน....
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: Molto Date: ส.ค. 23, 2009, 10:36 AM
salam
...น้ำตาคลอ...ท่านนบีฯช่างมีจิตใจที่บริสุทธิ์จริง ๆ....
เรายังอดทนไม่ได้ซักครึ่งนึงของท่านเลย เฮ้อ.....
ญาซากัลลอฮฺฮุคอยร๊อนค่ะ ท่าน al-azhary ....
เดือนรอมดอน เรายิ่งต้องอดทนในทุกอย่าง
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: เหรียญ 2 ด้าน Date: ส.ค. 24, 2009, 01:55 PM
อดทนและอดกลั่นในทุกๆ อย่าง
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: กอ-กล้วย Date: ต.ค. 17, 2009, 07:39 PM
ดังนั้นทั้งชีวิตของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงเป็นมหาวิทยาลัยแห่งประชาชาติและเป็นกำลังใจของเหล่าบรรดาผู้มีความอดทน เพราะฉะนั้นความหอมหวานแห่งความอดทนนั้น จะไม่มีผู้ใดได้รับหรอกนอกจากมีความยากีนในอัลเลาะฮ์ซุบฮานะฮูวะตาอาลาและเป็นผู้เจริญรอยตามการดำเนินชีวิตของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: nada-yoru Date: พ.ย. 15, 2009, 09:42 PM
salam
ญะซากัลลอฮุคอยรอน...

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: nada-yoru Date: ก.ย. 06, 2014, 05:44 PM
เมื่อเรากล่าวปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ
และนบีมฺุฮัมหมัดคือศาสนทูตของพระองค์แล้ว...
การทดสอบในศรัทธาของเราย่อมมีมาตลอด...
ดังนั้น...การใช้ชีวิตอยู่บนดุนยาแห่งนี้
เราจะหนีความยากลำบากไปไม่พ้น...
ซึ่งที่เราจะยึดเหนี่ยวเอาไว้ก็คือ อีหม่าน
และสิ่งที่จะทำให้อีหม่านของเรามั่นคงได้นั้น
ก็ย่อมหนีไม่พ้น ความอดทน...
ทุกๆศาสนทูตยังถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง
และทุกท่านนั้นคงมั่นและยืนหยัด...
พร้อมกับความอดทน...
Re: นบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมศาสนทูตผู้มีความอดทน By: ngo6648523 Date: ก.ย. 15, 2016, 12:05 PM
สุดยอดดดด
คาสิโนออนไลน์ มือถือสล็อตออนไลน์ ได้เงินจริงจริงเกมส์สล็อต เล่นฟรี มากมายการพนันออนไลน์ทดลอง เล่น คา สิ โน ออนไลน์