ความไร้สาระของการปั้นน้ำเป็นตัว By: บาชีร Date: พ.ค. 23, 2009, 05:32 PM
---------------------
IITMB
นิสัยขี้ขลาดแบบนี้ จึงถ่ายทอดมาสู่ผู้นิยมในวของเขาอย่าง นาย bashir แห่งเว้บสติวเด้นบ้านอยู่ยะลา ข้างๆร้านไนฟ์บุคอรี ถนนรวมมิตร ในเว้บสติวเด้นก้ปากเก่งเหลือเกิน แต่พอวะฮาบีเชินไปเสวนากันที่กุลลิยะก้หายจ๋อย
พี้น้องครับ
เท่าที่อัลลอฮฺให้ความทรงจำกับกระผมมา
ไม่เคยรับรู้เลยว่ามีคนถึงขนาดชวนผมไปเสวนาที่กุลลิยะฮฺ
แล้วอย่างนี้ไม่เรียกว่าปั้นน้ำเป็นตัวหรอครับ
ที่จริงผมไม่อยากเอาเรื่องนี้มานำเสนอ
เพราะอีกฝ่ายพูดไร้สาระมาก
ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเอามาเป็นประเด็น
แต่บังอัซฮะรี่แนะนำให้ผมว่าควรจะบอกความจริงไป
ความจริงก็คือ ผมไม่เคยรับรู้เลยว่ามีคนมาชวนผมไปเสวนา
แล้วอย่างนี้จะให้เรียกคนที่กล่าวหาผมว่าเป็นคนอะไร
อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่ง
วัสลาม
Re: ความไร้สาระของคนที่บอกว่าผมขี้ขลาด By: ILHAM Date: พ.ค. 23, 2009, 05:36 PM
สืบหาบ้านจนเจอเลยนะ ไปอุดหนุนบังเขาด้วยสิ
เก่งจริงเชิญอุสตาสผมไปพูดสิ 555
Re: ความไร้สาระของคนที่บอกว่าผมขี้ขลาด By: คะลัคคะลุย Date: พ.ค. 23, 2009, 05:41 PM
salam
หากมีความอิจฉาโกรธแค้น แม้โกหก เขาก็ทำได้ แล้วมันไปต่างอะไรกับพวกชีอะฮ์
ตอนนี้มีคนโกหกใส่พวกเรา และเสวนาลองบอร์ดแบบหยาบคาย
ดังนั้นพวกเราอย่าไปเลียนแบบก็แล้วกัน เสียชื่ออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์หมดครับ
Re: ความไร้สาระของคนที่บอกว่าผมขี้ขลาด By: GeT Date: พ.ค. 23, 2009, 05:47 PM
สืบหาบ้านจนเจอเลยนะ ไปอุดหนุนบังเขาด้วยสิ
เก่งจริงเชิญอุสตาสผมไปพูดสิ 555
คนไหนหรอ
Re: ความไร้สาระของคนที่บอกว่าผมขี้ขลาด By: قطوف من أزاهير النور Date: พ.ค. 23, 2009, 06:04 PM
สืบหาบ้านจนเจอเลยนะ ไปอุดหนุนบังเขาด้วยสิ
เก่งจริงเชิญอุสตาสผมไปพูดสิ 555
คนไหนหรอ
ท่านเกตจะเอาชื่อไปทำอะไรคะ
พิสูจน์หรือ ?

Re: ความไร้สาระของคนที่ปั้นน้ำเป็นตัว By: บาชีร Date: พ.ค. 23, 2009, 06:08 PM
อีกอย่างคือผมอยากได้ลิ้งของคนที่กล่าวประโยคนี้นะครับ
คือประโยคนี้ผมอ่านมาจากลิ้งนี้
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=4604.0 แต่ผมอยากรู้ว่าเขาพูดอย่างนั้นจริงๆหรอในมุสลิมไทย
Re: ความไร้สาระของคนที่บอกว่าผมขี้ขลาด By: al-azhary Date: พ.ค. 23, 2009, 06:08 PM
สืบหาบ้านจนเจอเลยนะ ไปอุดหนุนบังเขาด้วยสิ
เก่งจริงเชิญอุสตาสผมไปพูดสิ 555
คนไหนหรอ
ยะลาอยู่ไกลเกิน ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าที่กุลลียะฮ์ยะลาเนี่ย เขาจะเลือกใครมาโต้เรื่องอะกีดะฮ์ ซึ่งผมก็อยากทำความรู้จักและแสดงความคาระด้วย เผื่อสักวันจะได้มีโอกาสพบเจอกันและคุยกันเรื่องอะกีดะฮ์ครับ เพราะผมก็เรียนและศึกษาเปรียบเทียบอะกีดะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ อะกีดะฮ์วะฮาบีย์ อะกีดะฮ์ของชีอะฮ์ ก็อยากจะรู้เรื่องอะกีดะฮ์ของปากของอาจารย์วะฮาบีดูบ้าง ว่ามันตรงหรือต่างกับตำราอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่บันทึกตีพิมพ์เผยแพร่ไว้หรอเปล่านะครับ
Re: ความไร้สาระของคนที่ปั้นน้ำเป็นตัว By: al-firdaus~* Date: พ.ค. 23, 2009, 06:17 PM
เค้าคนนั้นต้องเรียนรู้อัคลาสในอิสลามให้มากกว่านี้ และอย่าได้ใช้นัฟซูเป็นตัวตั้ง
เหมือนนักมวยขึ้นชกมวย พอจนมุมคู่ต่อสู้ ท่าอะไรที่นึกได้ก็ใส่คู่ต่อสู้ พัลวันจนมั่วไปหมด
ในที่สุดก็เหวี่ยงแขนไปน็อคตัวเองเข้า หุหุ เลือดอาบเรย

Re: ความไร้สาระของคนที่ปั้นน้ำเป็นตัว By: al-firdaus~* Date: พ.ค. 23, 2009, 06:37 PM
อีกอย่างคือผมอยากได้ลิ้งของคนที่กล่าวประโยคนี้นะครับ
คือประโยคนี้ผมอ่านมาจากลิ้งนี้ http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=4604.0
แต่ผมอยากรู้ว่าเขาพูดอย่างนั้นจริงๆหรอในมุสลิมไทย
หลักฐานมัดใจเทอ... 

Re: ความไร้สาระของคนที่ปั้นน้ำเป็นตัว By: บาชีร Date: พ.ค. 23, 2009, 06:40 PM
ขอบคุณครับก่ะ
ก่ะหาเก่งจริงๆ
Re: ความไร้สาระของคนที่ปั้นน้ำเป็นตัว By: al-firdaus~* Date: พ.ค. 23, 2009, 06:48 PM
หาเห็บ หาเหา ก็เก่งนะ 
อ้าว....ไม่ใช่ลิงซักหน่อย หุหุ
อย่าไปซีเรียสกับมันเรยน้อง bashir คนไม่ซอบัรก็เป็นเช่นนี้แล อย่างที่บัง azhary บอกไว้
คนเรานั้นหากอัลเลาะฮ์ต้องการให้เขาตกต่ำ มันก็ต้องตกต่ำแม้ว่าจะมีคนพยายามยกยอเชิดชูให้สูงก็ตาม และถ้าหากว่าผู้ใดที่อัลเลาะฮ์ต้องการให้ผู้ใดมีเกียรติ เขาก็ต้องมีเกียรติแม้จะมีคนพยายามทำให้เขาตกต่ำและสร้างความเสียหายแก่ตัวเขา 
Re: ความไร้สาระของคนที่บอกว่าผมขี้ขลาด By: GeT Date: พ.ค. 23, 2009, 07:08 PM
สืบหาบ้านจนเจอเลยนะ ไปอุดหนุนบังเขาด้วยสิ
เก่งจริงเชิญอุสตาสผมไปพูดสิ 555
คนไหนหรอ
ท่านเกตจะเอาชื่อไปทำอะไรคะ
พิสูจน์หรือ ?

ก็ไม่เชิง เพียงแต่ระอาใจกับท่าทีของพวกเรา อะไรนิดอะไรหน่อยก็ท้าโน่นท้านี่ แล้วที่พูดส่งๆไปอะ ถ้าเกิดเขาท้ามาจริง เราคิดหรือว่าอุสตาซของเราคนไหนเขาจะเล่นด้วย โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน บรรดาอุสตาซที่โรงเรียนของของอิลฮาม ทุกวันนี้ต้องอยู่อย่างเจียมตัวและระแวดระวังขนาดไหน การที่เราไม่ตอบโต้ความเขลาของใครบางคน ไม่ได้หมายความว่าเราแพ้เสมอไป การลดธิติด้วยการไม่เต้นตามจังหวะของนัฟซู จะเป็นทางออกที่ดีเสมอสำหรับการเผชิญหน้ากับอารมณ์ใฝ่ต่ำ
หรือว่าพวกเราไม่มีใครอยากจะอยู่ร่วมชายคากับท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมในสวนสวรรค์
أَنَا زَعِيمٌ بِبَيْتٍ فِي رَبَضِ الْجَنَّةِ لِمَنْ يَتْرُكِ الْمِرَاءَ وَإِنْ كَانَ مُحِقًّا ، وَبَيْتٍ فِي وَسَطِ الْجَنَّةِ لِمَنْ تَرَكَ الْكَذِبَ وَإِنْ كَانَ مَازِحًا ، وَبِبَيْتٍ فِي أَعْلَى الْجَنَّةِ لِمَنْ حَسُنَ خُلُقُهُ
"ฉันเป็นหัวหน้า ณ บ้านหลังหนึ่งในสวรรค์ชั้นล่างสำหรับผู้ที่ละทิ้งการโต้เถียงกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ที่ถูก และเป็นหัวหน้า ณ บ้านหลังหนึ่งในสวรรค์ชั้นกลางสำหรับผู้ที่ละทิ้งการพูดจาโกหก ถึงแม้ว่าจะเป็นการหยอกเล่นก็ตาม และเป็นหัวหน้า ณ บ้านหลังหนึ่งในสวรรค์ชั้นสูงสุดสำหรับผู้ที่มีจรรยามารยาทที่งดงาม"
ถ้าเราไม่สามารถอยู่ร่วมเป็นลูกบ้านกับท่านนบีในสวนสวรรค์ชั้นต่ำสุด แล้วเราจะไปอยู่ในส่วนไหนของสวนสวรรค์
Re: ความไร้สาระของคนที่ปั้นน้ำเป็นตัว By: قطوف من أزاهير النور Date: พ.ค. 23, 2009, 07:39 PM
salam
ยะซากุมุลลอฮุคอยรอน
เกตแล้วล่ะค่ะ ท่านเกต
ชอบตรงนี้ล่ะ
การที่เราไม่ตอบโต้ความเขลาของใครบางคน ไม่ได้หมายความว่าเราแพ้เสมอไป การลดธิติด้วยการไม่เต้นตามจังหวะของนัฟซู จะเป็นทางออกที่ดีเสมอสำหรับการเผชิญหน้ากับอารมณ์ใฝ่ต่ำ
เพิ่งไปเปิดเวบ muslimthai มาตะกี้ ได้อ่านเวอชั่นเต็ม ๆ อีกกระทู้ (รวมเป็นสองกระทู้) ก็เห็นแล้วว่ามันวุ่นวายจริง ๆ นั่นล่ะ
เฮ้อ ขอดุอาให้เราปลอดภัยจากคำกล่าวร้ายที่ทำให้หัวใจเราหม่นหมอง ขอให้เราเดือดเนื้อร้อนใจแค่กับเพียงการตรวจสอบอีหม่านตัวเอง ฝากพี่น้องไว้ว่า
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งที่มาประสบกับเราล้วนเป็นบททดสอบทั้งนั้น ขออย่าได้พ่ายแพ้มันด้วยการตอบโต้ด้วยกับวิธีที่ไม่ดี แล้วก็ยะซากัลลอฮุคอยรอนพี่น้องที่แวะเวียนมาตักเตือนเราด้วยความจริงใจ

Re: ความไร้สาระของคนที่ปั้นน้ำเป็นตัว By: admin Date: พ.ค. 23, 2009, 07:57 PM
บางทีพวกเราขอให้ได้พูดได้โพส ก็มันทำแล้วสบายใจ
Re: ความไร้สาระของคนที่บอกว่าผมขี้ขลาด By: al-azhary Date: พ.ค. 23, 2009, 08:03 PM
ก็ไม่เชิง เพียงแต่ระอาใจกับท่าทีของพวกเรา อะไรนิดอะไรหน่อยก็ท้าโน่นท้านี่
ผมได้อ่านบ่อยที่คุณเก็ตพิมพ์ว่า "พวกเรา" ผมก็ยิ้มดีใจเสมอ พวกเราคือพี่น้องกันครับ 
แต่การท้าโน้นท้านี่นั้น ผมก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน มีอะไรก็ท้ากันลูกเดียว ผมว่าถ้าเกิดจะเสวนาระหว่างกันแล้ว ก็ให้ผู้รู้มาพบปะพูดคุยแลกทัศนะและความเข้าใจกันดีกว่า แต่ถ้าหากหางเครื่องชอบมาท้า ทั้งที่อาจารย์ของตนไม่รู้เรื่องนั้น อันนี้ผมคิดว่าไม่บังควร แต่ถ้าหากหางเครื่องทำให้อาจารย์ฝ่ายตนขึ้นเวทีโต้กันนั้น ผมว่าถือกันที่ศักดิ์ศรีมากกว่าสัจธรรมแล้ว เพราะสัจธรรมไม่ต้องตัดสินกันบนเวที
เช่นกรณี ที่ผมคุยกับ อ.ริฎอ สะมะดีย์ คุยได้สักหน่อยเขา ผมก็ถูกถามว่า "บันทึกเสียงหรือเปล่า?" (กลัวว่าผมจะบันทึกเสียง) ผมก็บอกว่าไม่บันทึกเสียงแล้ว การคุยกันก็เป็นไปตามสบาย ๆ ไม่เคร่งเครียด การยอมรับในทัศนะซึ่งกันและกันก็จะบังเกิด อะซีมัตที่มีเขียนอายะฮ์อัลกุรอาน อ.ริฎอ บอกทำได้ , น้ำดุอาน้ำที่อ่านอัลกุรอานทำได้ อ.ริฎอ บอกทำได้ , น้ำอัลกุรอานยาซีน อ.ริฎอบอกว่าทำไมต้องยาซีน ผมก็บอกว่า ไม่ต้องยาซีนก็ได้ อาจารย์เขาก็พูดว่า การไปเจาะจงยาซีนนั้นไม่ได้ ผมก็ยกฮะดีษบุคอรีที่ว่า "ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้มาที่มัสยิดกุบาอฺทุกวันเสาร์โดยการเดินและขี่พาหนะ และอับดุลเลาะฮ์ อิบนุ อุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา ได้กระทำสิ่งดังกล่าว" รายงานโดยบุคอรี (1118) แล้วยกคำอธิบายของท่านอัลฮาฟิซฺอิบนุฮะญัร ว่า ฮะดีษนี้บงชี้ว่า "และในฮะดีษนี้ ทั้งที่มีสายรายงานที่แตกต่างกัน ก็บ่งชี้ถึงว่า อนุญาตให้เจาะจงบางวันได้สำหรับการปฏิบัติอะมัลที่ดีงามและทำมันให้เป็นประจำต่อสิ่งดังกล่าวได้" อาจารย์เขาไม่โต้อะไร ผมก็ถามต่อว่า การเอาบะรอกัตด้วยเสื้อคลุมของท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้นกระทำได้ใช่ไหมครับ เพราะมีฮะดีษมุสลิมได้ยืนยันเอาไว้ว่าซอฮาบะฮ์ได้นำเสื้อคลุมของท่านนบีมาแช่น้ำแล้วดื่มกินเพื่อการรักษาและเอาบาร่อกัต อาจารย์เขาบอกว่า แบบนั้นกระทำได้ เอาบาร่อกัตจากร่องรอยที่เหลืออยู่(อาษาร)ของท่านนบีได้ แล้วผมก็พูดถามต่อไปว่า แล้วการเอาบาร่อกัตด้วยกะลามุลลอฮ์ที่เป็นอายะฮ์อัลกุรอานล่ะได้หรือเปล่า? อาจารย์เขาบอกว่า "ได้ซิ" แล้วผมก็พูดกลับไปว่า แล้วทำไมกะลามุลลอฮ์ที่เป็นอายะฮ์อัลกุรอานที่อ่านด้วยซูเราะฮ์ยาซีนทำไมถึงเอามาเป็นบะรอกัตทำน้ำไม่ได้? อาจารย์เขาจึงพูดสวนกลับมาว่า "นี่คุณอัซฮะรีย์กำลังเถียงผมหรือ?" ผมบอกว่าไม่ใช่เถียง ก็แค่ถาม เพราะขนาดเสื้อของนบียังนำมาทำเป็นน้ำเพื่อเอาบะรอกัตได้ ทำไมกะลามุลลอฮ์ที่เป็นอายะฮ์อัลกุรอานซูเราะฮ์ยาซีนถึงนำมาทำน้ำเพื่อเอาบะรอกัตไม่ได้
อาจารย์ริฎอ ก็พูดต่อว่า นี่คุณอัซฮะรีย์ ถ้าหากคุณกลับมาแล้วไม่อ่านยาซีนในการทำตะฮ์ลีลถือว่าใช้ไม่ได้ ผมก็ตอบไปว่า ไม่จำเป็นต้องอ่านยาซีนก็ได้ อาจารย์เขาพูดว่า "คุณอัซฮะรีย์พูดอย่างนี้ ผมจะเอาไปพูดว่าคุณอัซฮะรีย์บอกว่าไม่ต้องอ่านยาซีรก็ได้" ผมก็ตอบไปว่า "เชิญตามสบายเลยผมขอยืนยันว่าไม่ต้องอ่านยาซีนก็ได้"
ประเด็นต่อมาพูดเรื่องซีฟัตกะลาม (ยาวเลยครับพิมพ์ไม่ไหว)
สรุปในสิ่งที่เล่ามาคือ หากพูดคุยกันสองต่อสอง ความกดดันหรือการถือเกียรติมันไม่มี อะไรก็ถูกก็ว่ากันไปถามถูกอะไรที่ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ไม่ต้องไปพูดเอาใจหางเครื่อง อินชาอัลเลาะฮ์ ผมกลับไปก็จะหาโอกาสไปคุยปรับทัศนะกับบรรดาอาจารย์สายซุนนะฮ์(วะฮาบี) อ่ะ หากวะฮาบีหัวรุนแรงมาอ่าน อย่าเพิ่งคิดไปว่าผมจะท้าขึ้นเวทีโต้กันนะครับ แต่เจตนาของผมแล้ว ต้องคุยกันเป็นการส่วนตัวก่อน ถ้าหากพบปะกันแล้วเคลียร์กันไม่ลงเขาและผมทั้งสองตกลงอย่างเต็มใจว่าจะต้องขึ้นเวทีกัน ผมก็ไม่ขัดศรัทธา แต่ผมไม่อยากให้การขึ้นเวทีเป็นเหตุมาจากพวกหางเครื่อง ที่พยายามกวักมือแล้วตะโกนว่า "มาเถียงโต้กับอาจารย์กูเซ่ กล้าเปล่า(ทำเหมือนพวกชีอะฮ์เลย)" แบบนี้ไม่ดีเพราะเอาชนะกันเหมือนมวยกันมากกว่า เพราะหากขึ้นเวทีกันจริง ๆ ก็ตกลงพูดจากันดี ๆ ไม่ใช่ขึ้นเวทีเพราะความโกรธแค้นโดยอาจารย์ได้รับการกระตุ้นมาจากหางเครื่อง อันนี้จะไม่ได้บุญอะไรเล๋ย ได้บาปเปล่า ๆ
ดังนั้น ถ้ามีโอกาสผมก็อยากพบพูดขอความเห็นในเรื่องศาสนาในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น อัลอัค , อ.อะลี , อ.ริฎอ , เป็นต้น เพราะผมอาจจะได้รับประโยชน์จากพวกเขาครับ
วัสลามุอะลัยกุ้ม