เรื่องมันยาวมากๆ
เธอเป็นเพื่อนผมครับ ครั้งแรกที่เรารู้จักกันเธอเรียนมหาลัยเดียวกับผม แล้วก็เรียนสาขาวิชาเดียวกันด้วย
ตอนรับน้องเธอเป็นมุสลิม แต่พ่อเป็นมุอัลลัฟ อยู่กรุงเทพ เมื่อเห็นคนที่ชมรมมุสลิมละหมาด
เธอห้องไห้ ที่เป็นมุสลิมแต่เธอละหมาดไม่เป็น
หลังจากนั้น เธอก็ขึ้นชมรมบ่อย ช่วยงาน จนมาปี 2 ผมกลับมาจากออก 40 ผมไฟแรง ตัรฆีบเธอบ่อย
พี่ๆก็พูดกันให้กำลังใจ สอนศาสนา อัลฮัมดุลิ๊ลละฮ์ เธอคลุมฮิญาบครับ เป็นคนแรกๆในมหาลัยเลยครับถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
เมื่อเธอมีรถมอไซด์ เธอเพิ่งหัดขับ แล้วเธอก็ขับไปเรียนศาสนาในเมืองเชียงใหม่ 20 กม. จันทร์-ศุกร์ ทุกวันตอน 6 โมงเย็น
เธอว่าเธอเคยตื่นมาเห็นเด็กอ่านกรุอ่านในหอพักตอนตี 2 ทั้งที่เป็นหอพักหญิง บางครั้งเธอก็ตื่นมาเห็นคนละหมาดในห้องเธอ
เธอเล่าให้ฟังว่า ตอนเธอกลับไปแล้ววันอีดเธอคลุมฮิญาบ ตา ยายเธอเห็นเธอท่านปลื้มในจนร้องไห้
เธอบอกว่าเธอไม่อยากมีสามีเหมือนพ่อ ที่ไม่รู้ศาสนา ไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนเธอที่ละหมาดไม่เป็น
เธอช่วยงานชมรมมุสลิมทุกอย่าง เธอนิสัยดี หน้ารัก หน้าตาดี มีแต่คน รักเธอ ครับทั้งชายและหญิง
แต่สิ่งที่เกิดมาตลอด เพื่อนเธอต่างศาสนา ชวนเธอไปเที่ยวที่ๆไม่เหมาะสม โดยมีพี่มุสลิมะฮ์ที่ไม่คลุมผม ออกแนวทอมบอย ไปเป็นเพื่อน
ผมมักจะคัดค้าน และอีกอย่างผมไฟแรง อาจจะดุเธอและเพื่อนประจำ ทำให้เพื่อนก็มักจะแอบไปไม่ให้ผมรู้ แม้บางคนจะสนิทกับผม
แล้วเขามักชวนเธอกินน้ำ อาหาร ที่ไม่ดี อยู่เสมอๆ เราๆก็ได้ช่วย ตักเตือนเท่าที่จะทำได้ แต่เมื่อถึงเวลาเขาก็ยุเธออีก
ผมเคยถามเธอว่า เธอจะคลุมฮิญาบไหมถ้าเธอเรียนจบ เธอว่าคงไม่ เพราะเธอไม่กล้าคลุมไปทำงาน ผมอึ้งแต่ก็พยายามทำความเข้าใจกับเธอ
ครั้งนึงเธอไม่สบายนอนอยู่โรงพยาบาล ผมกับน้องๆชมรม ไปเยี่ยมเธอ เธอนอนอนอยู่ไม่คลุมฮิญาบ ผมแสดงสีหน้าโกรธ และไม่พูดอะไร
หลายคนเตือนผมว่าผมทำไม่เหมาะ น่าจะใช้ฮิกมะฮ์ ไม่ใช่แสดงท่าทางแบบนั้น
เมื่อจบการศึกษา หลังจากเวลาผ่านไปเธอไม่คลุมฮิญาบ อยู่ในสังคมกรุงเทพ กับเพื่อนกลุ่มเดิมและเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ เดี๋ยวนี้
เธอใส่เสื้อสายเดี่ยวโป๊ กว่าคนต่างศาสนิก เธอดื่มน้ำผสมแอลกอฮอล เป็นประจำ ก่อนหน้านี้เคยเมาหลับอยู่หน้า 7-11
แล้วเมื่อกี้เพื่อนผมมาทักผมใน msn ว่า
Khanittha say: ไม่ไปร้าน...(เธอคนนั้น)หรอ
ผม say: ร้านไร
Khanittha say: อ้าว ก็...(เธอ)เปิดร้านเหล้าอยู่แถวงามวงศ์วานไง
ผม say: อ่าวจิงดิ
Khanittha say: เห็นวันนี้เพื่อนๆเขาไปกัน
ผม say: จิงดิ
Khanittha say: อืม
Khanittha say: เราเพิ่งเสร็จงาน
Khanittha say: หาคนไปด้วยอยู่า
ผม say: ไม่รู้เรื่อง เขาเปิดกับใครหว่า
Khanittha say: มะรุ
ผม say: อ่าวหรอ
Khanittha say: วันนี้ต้อมโทรมาบอก
ผม say: ออร้านขายอาหารแล้วขายเหล้าด้วยงี้หรอ
Khanittha say: ช่าย
ผม say: ออ อยู่สตูลหนะ
Khanittha say: มิน่าถึงไม่รู้
ผม say: คับ
Khanittha say: ไม่ไหวแล้ว
Khanittha say: ปวดตา
Khanittha say: กลับก่อนนะ
ดุอาร์ให้เธอด้วยนะครับ เธอชื่อ อาอีช๊ะ เป็นชื่อที่พี่น้องที่ชมรมตั้งให้เธอ
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: al-firdaus~* Date: พ.ค. 29, 2009, 08:56 PM
จะขอดุอาให้เธอค่ะ
" อาอิชะฮฺ " ชื่อที่มีบารอกัต
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: บาชีร Date: พ.ค. 29, 2009, 08:58 PM
จะขอดุอาให้เธอค่ะ
" อาอิชะฮฺ " ชื่อที่มีบารอกัต
ก่ะรู้ดีอยู่แล้วล่ะครับ
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: admin Date: พ.ค. 29, 2009, 09:18 PM
สองสามวันก่อนเพื่อนนัดกันไปเที่ยว ผมพยายามเรียกร้องว่าถ้าไปเที่ยวอย่ามีแอลกอฮอล์ได้ไหม จนต้องเถียงกัน
แต่วันนี้เพื่อนพากันไปกินเหล้าที่ร้านเพื่อน มุสลิมอีก คน อัสตักฟีรุ๊ลลอฮ์
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: - ครูจริงใจ- Date: พ.ค. 29, 2009, 09:29 PM
มาชาอัลลอฮฺ
อ่านแล้วเศร้าจัง
..
สิ่งที่ช่วยได้ดีที่สุดตอนนี้ น่าจะเป็นดุอาเนอะ
ยังไงก้อช่วยกันดุอาเผื่อแผ่ ' คุณอาอีช๊ะ' ด้วยนะค่ะพี่น้อง
ขอให้คุณอาอีชะ ได้ผ่านบททดสอบไปได้ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ทรงประทานบททดสอบ
ขอให้พระองค์อัลลอฮฺทรงประทานฮีดายัตแก่เธอด้วยนะค่ะ
ขอให้ทุกดุอาจากพวกเราเป็นหนทางเชื่อมการช่วยเหลือจากพระองค์มายังเธอด้วยเถิด
ขอให้อัรเราะห์มาน ทรงตอบรับทุกบทดุอาจากพวกเราด้วยเถิด
อามีนยาร็อบบัลอาละมีน
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: ILHAM Date: พ.ค. 29, 2009, 09:54 PM
กินเหล้าแล้วเผาเรือน
เผาร้านเลยครับ
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: itoursab Date: พ.ค. 29, 2009, 10:10 PM
เฮ่ออ...อะไรที่ดูดี แต่ไมได้ดูให้ดีๆ ก็แบบนี้แหละครับ
จากเรื่องนี้พอจับเด็นไปสองส่วนคือ
1. สตีรที่เบี่ยงเบน จะทอมรึดี้ ผมสัมผัสมาพอควร
ตอบได้ง่ายๆ เพศนะติดตัวมาแต่กำเนิด ผุ้ไม่รับมันเพราะแค่ ตามอารมณ์ของตัวเอง
และอารมณ์นั้นมักไม่ลากเราขึ้นหรอก
2. คนที่ดูดี น่าไว้ใจ จริงๆ อาจจะไม่ได้ดีจริงอย่างที่ควรเป็น
เอาเถอะ...
ทุกอย่างล้วนถูกกำหนดมาตามความเหมาะสมของเขาเหล่านั้นแล้ว
หวังแค่ว่าซักวันสิ่งที่คดตอนต้นจะตรงตอนปลาย
อินชาอัลลอฮฺ
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: al-azhary Date: พ.ค. 29, 2009, 10:44 PM
salam
ต้องมีคนนำเธอกลับมา อินชาอัลเลาะฮ์ จะดุอาให้
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: ILHAM Date: พ.ค. 29, 2009, 11:00 PM
ดูอาให้ผมได้รองเท้าคืนด้วยนะบัง สัปดาห์หน้าจะไปดูใหม่
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: JawhaR Date: พ.ค. 30, 2009, 01:00 PM
อ่านแล้วเศร้าจังเลยครับ
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: พ.ค. 30, 2009, 03:13 PM
อัลลอฮิเท่านั้นเป็นผู้ดลใจ
ส่วนเราเป็นผู้พยายาม
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: khata Date: พ.ค. 30, 2009, 06:37 PM
salam
ต้องช่วยดุอาร์...เป็นไปได้หากใครได้พูดคุยกับเขาก็ต้องเป็นกำลังใจให้...ต้องคอยตักเตือน....
นี่อีกตัวอย่างนึงที่การศึกษาศาสนาของฉันต้องพยายามทำความเข้าใจ...และศึกษาอัลกรุอ่าน อัลหะดีษมาก ๆ...เพราะไม่อยากเป็นคนที่สอนลูกละหมาดไม่เป็น...จุดเริ่มต้นของเด็กก็อยู่ที่พ่อกับแม่.....หากพ่อแม่มีอีหม่านที่เข้มแข็งลูกๆก็จะปลอดภัย
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: ส้มโชกุน Date: พ.ค. 30, 2009, 08:36 PM
แต่มีรุ่นพี่หนูคนนึง ตอนที่เรียนมัธยมเค้าไม่ได้คลุมฮิญาบ แต่หลังจากได้ไปเรียนที่ม.ธรรมศาสตร์อยู่1ปี เค้ากลับมาด้วยภาพลักษณ์ที่น่าชื่นชม
พี่เค้าคลุมฮิญาบและแต่งกายเรียบร้อยสวยงาม เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยค่ะ
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: admin Date: พ.ค. 30, 2009, 11:12 PM
รุ่นเดียวกันอีกคนก็มีครับ ตอนเรียนไม่ได้คลุมผม เรื่องอาม้าลศาสนาก็ธรรมดาครับ
แต่พอเขาจบ เกือบไปทำงานหรือเรียนต่อที่อิหร่านแล้วด้วย แต่หลายคนก็คุยๆกันว่าจะดีหรอ
เลยไปอยู่กับญาติที่เคร่งครัดที่กทม. เรียนป.โท เขียนหนังสือศาสนา ทำงานองค์กร ศาสนา
เป็นอามีรเราะห์องค์กรระดับประเทศ คลุมฮิญาบใหญ่ ใส่โต๊ปดำ ได้สามีเป็นอามีรองค์กรใหญ่เหมือนกัน
อัลฮัมดุลลิลละฮ์ เราทั้งหลายก็เหมือนกันครับ ต้องรอดูกันตอนตายครับว่าจะเป็นสภาพไหน
ขอพระองค์อัลลอฮ์ทรงฮิดายัต ให้ผมด้วยอามีน
Re: ห่วงเธอคนนั้น By: al-azhary Date: พ.ค. 30, 2009, 11:54 PM
salam
เธอเป็นมุสลิมะฮ์ใหม่ บางครั้งอาจจะเกิดความสับสน หากมีมุสลิมสักคนแต่งงานเคยดูแลและเป็นอาภรณ์ป้องกันให้แก่เธอ คิดว่าเป็นหนทางหนึ่งที่อาจจะช่วยเธอได้ในตอนนั้น