ส่วนการบอกว่าพวกเขาจะเอานบีอย่างเดียวนั้น
เป็นแค่ลมปากครับ
จะเอานบีผ่านนัฟซูตัวเอง
หรือเอานบีผ่านความเข้าใจของอุลามาอฺ อัลมุจตะฮิดีน
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: As-Zaleek Date: ก.ค. 02, 2009, 07:31 PM
เพราะว่าการปิดหน้านั้น เป็นการคิลาฟ ว่าวายิบหรือไม่
ฉะนั้น เราออกจากการคิลาฟด้วยการปิดหน้านั้น ประเสริฐกว่าอยู่แล้วครับ
ไม่ใช่แบบนั้นครับ ตัวของการปิดหน้านั้นไม่ใช่วายิบอะไรมาตั้งแต่เดิม แต่มีเหตุหรือปัจจัยภายนอกต่างหากที่มากำหนดว่าวายิบ เช่นผู้หญิงคนนั้นสวย หรือฟิตนะฮ์เกิดขึ้นแก่นางและผู้อื่น ก็เลยจำเป็นต้องปิดหน้า
ดังนั้นถ้าจะออกจากกาคิลาฟ ก็คือปิดหน้าได้และดีกว่า แต่ไม่วายิบแต่ประการใด เหมือนกรณีการอาบน้ำละหมาดแล้วถูไปถูกมานั้น มาลิกีย์บอกว่าวายิบ ชาฟิอีย์บอกว่าไม่วายิบ ฉะนั้นการออกจากคิลาฟก็คือ สมควรทำดีกว่าแต่การออกจากคิลาฟไม่ใช่ชี้ถึงวายิบ
ส่วนการปิดหน้าที่ผมได้เตือนให้ตระหนักถึงเรื่องที่ว่า ปิดหน้าแล้วตัวเองดีกว่า เพื่อเป็นการเตือนกันเอาไว้ เพราะสามีบางคนที่ภรรยาปิดหน้าหรือใช้ให้ภรรยาปิดหน้า มักจะพูดให้ภรรยาคนเองคิดว่า ปิดหน้านั้นดีกว่า เราเป็นมุสลิมะฮ์ที่ปิดหน้าดีกว่าคนอื่น ทำให้ภรรยาหลงตัวเองไป แบบนี้อันตราย ดังนั้นที่ผมได้พูดก็เพื่อกันเอาไว้ ไม่ได้กล่าวหาผู้หญิงที่ปิดหน้าแต่อย่างใด
การปิดหน้าเป็นเรื่องของอาดัต ไม่ใช่อิบาดะฮ์ ครับ มีอุลามาอฺคนใหนบ้างที่บอกว่า ปิดหน้าทั้งวันได้บุญกันทั้งวันเพราะอ้างว่าปิดหน้าอิบาดะฮ์?
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: As-Zaleek Date: ก.ค. 02, 2009, 07:34 PM
ส่วนการบอกว่าพวกเขาจะเอานบีอย่างเดียวนั้น
เป็นแค่ลมปากครับ
จะเอานบีผ่านนัฟซูตัวเอง
หรือเอานบีผ่านความเข้าใจของอุลามาอฺ อัลมุจตะฮิดีน
นั่นแหละครับ ผมพยายามจะบอกกับวะฮาบี่ว่า แม้นบีไม่ได้ทำ พวกเขายังบอกว่า(การปิดหน้า)มันเป็นซุนนะฮ์เลย บางคนบอกว่าวายิบด้วยซ้ำ
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: ILHAM Date: ก.ค. 02, 2009, 07:46 PM
หมดกัน อาหาร(ตา)
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: บาชีร Date: ก.ค. 03, 2009, 02:35 AM
มัซฮับชาฟิอีถือว่าเป็นวายิบครับ
หรือจะให้ผมยกตัวบทให้คุณดูนะครับ
การที่คุณกล่าวว่าไม่ใช่วายิบ นั้นเป็นทัศนะของท่านนะครับ
แต่หากตามมัสฮับชาฟิอีที่มุอฺตะมัดแล้ว คือวายิบครับ
ส่วนหลักฐานการปิดหน้านั้นมีจากทั้งอัลกุรอ่านและอัลหะดีษ
ผ่านการอิจติฮาดของบรรดาอุลามาอฺ
กลุ่มหนึ่งบอกว่าวายิบปิดทั้งหมดเลย
แต่อีกกลุ่มหนึ่งบอกว่ายกเว้นใบหน้าและ
ฝ่ามือ แต่กระนั้นก็ตาม ในทัศนะที่บอกว่ายกเว้นใบหน้าและฝ่ามือนั้นเปิดได้ หากปลอดภัยจากฟิตนะฮฺ ซึ่งหากไม่ปลอดภัยแล้วก็วายิบที่จะต้องปิดอยู่ดีครับ
ส่วนการออกจากคิลาฟดังที่ผมได้กล่าวไว้นั้น หมายถึง
ผู้ที่มีความเห็นตามทัศนะ ว่าใบหน้าและฝ่ามือไม่ใช่เอาเราะฮฺ ก็สมควรที่จะปิดหน้า เพราะออกจากคิลาฟในทัศนะที่ถือว่าเป็นวายิบ
ส่วนคนที่ถือตามทัศนะที่มุอฺตะมัดของมัซฮับชาฟิอี และอุลามาอฺอีกมากมายนั้น ที่บอกว่าวายิบนั้น ก็แสดงว่า วายิบอยู่แล้ว
ไม่ใช่ประเพณีแต่อย่างใดครับ แต่เป็นเรื่องของศาสนา หากไม่ทำ ก็คือบาปนั้นเอง
หวังว่าคงแยกประเด็นออกนะครับ
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: บาชีร Date: ก.ค. 03, 2009, 02:37 AM
การปิดหน้าเป็นเรื่องของอาดัต ไม่ใช่อิบาดะฮ์ ครับ มีอุลามาอฺคนใหนบ้างที่บอกว่า ปิดหน้าทั้งวันได้บุญกันทั้งวันเพราะอ้างว่าปิดหน้าอิบาดะฮ์?
อะไรคือความเข้าใจของคำว่าวายิบละครับ
วายิบก็คือสิ่งที่ทำได้ผลบุญ และไม่ทำนั้นคือบาป
และหากถามว่าอุลามาอฺท่านไหนบอกว่าได้ผลบุญหรอครับ ก็อุลามาอฺของมัซฮับชาฟิอีไงครับ
และการปิดหน้านั้นก็ไม่ได้วายิบต้องปิดตลอดทุกเหตุการณ์
ไม่ใช่อย่างนั้น
ปิดกับคนที่ไม่ใช่มุฮฺริมผู้ชายนั้น
ส่วนกับสามีนั้น เปิดได้หมด
กับคนที่เป็นมุฮฺริมได้หมดยกเว้นระหว่างสะดือและหัวเข่า
กับผู้หญิงกาฟิร เปิดได้เฉพาะส่วนที่เปิดเภยขณะทำงาน เช่น คอ หน้าแข้ง
เปิดเพื่อรักษาพยาบาล เปิดได้ในส่วนที่ต้องการรักษา
เปิดเพื่อให้คนที่ต้องการมาสู่ขอดู เปิดได้เฉพาะใบหน้าและฝ่ามือ
ต่างๆเหลือนี้คือทัศนะที่มุอฺตะมัด(ถูกยึดถือ)ในมัสฮับชาฟิอีครับ
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: ILHAM Date: ก.ค. 03, 2009, 05:33 AM
เปลี่ยนเป็นฮานาฟีกันดีกว่า 5555
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: Nur-inee Date: ก.ค. 03, 2009, 06:56 AM
เปลี่ยนเป็นฮานาฟีกันดีกว่า 5555
มาจิ
อิอิ
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: sufriyan Date: ก.ค. 03, 2009, 11:02 PM
salam
salam
พอดีไปอ่านกระทู้เก่าๆมีอยู่เพียบ
ตามนี้ละกันครับ เพราะคุยกันมาก็เยอะแล้ว
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?PHPSESSID=c1d0c0e28841f0a87dae5ead0be906d9&topic=3718.15
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?PHPSESSID=c1d0c0e28841f0a87dae5ead0be906d9&topic=1043.0
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?PHPSESSID=c1d0c0e28841f0a87dae5ead0be906d9&topic=3103.15
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?PHPSESSID=c1d0c0e28841f0a87dae5ead0be906d9&topic=253.0
วัสลาม
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: GeT Date: ก.ค. 03, 2009, 11:42 PM
قال أبو بكر الرازي الجصاص الحنفي (ت370هـ) في تفسيره لقوله تعالى : ( يدنين عليهن من جلابيبهن ) : " في هذه الآية دلالة على أن المرأة الشابة مأمورة بستر وجهها عن الأجنبيين ، وإظهار الستر و العفاف عند الخروج لئلا يطمع أهل الريب فيهن ".( أحكام القرآن 3/371) .
قال أبو بكر بن العربي المالكي رحمه الله (ت 543هـ) عند تفسيره لقوله تعالى ( وإذا سألتموهن متاعاً فاسألوهن من وراء حجاب ) : " و المرأة كلها عورة ؛ بدنها وصوتها ، فلا يجوز كشف ذلك إلا لضرورة أو لحاجة ، كالشهادة عليها ، أو داء يكون ببدنها " (أحكام القرآن 3/616).
قال النووي رحمه الله (ت676هـ) في المنهاج ( وهو عمدة في مذهب الشافعية ) : " و يحرم نظر فحل بالغ إلى عورة حرة كبيرة أجنبية وكذا وجهها وكفها عند خوف الفتنة ( قال الرملي في شرحه : إجماعاً ) وكذا عند الأمن على الصحيح " .
قال ابن شهاب الدين الرملي رحمه الله (ت1004هـ) في شرحه لكلام النووي السابق : " و وجهه الإمام : باتفاق المسلمين على منع النساء أن يخرجن سافرات الوجوه ، وبأن النظر مظنة الفتنة ، و محرك للشهوة .. وحيث قيل بالتحريم وهو الراجح : حرم النظر إلى المنتقبة التي لا يبين منها غير عينيها و محاجرها كما بحثه الأذرعي ، و لاسيما إذا كانت جميلة ، فكم في المحاجر من خناجر "اهـ (نهاية المحتاج إلى شرح المنهاج في الفقه على مذهب الشافعي 6/187ـ188) .
قال النسفي الحنفي رحمه الله (ت701هـ) في تفسيره لقوله تعالى : ( يدنين عليهن من جلابيبهن ): " يرخينها عليهن ، و يغطين بها وجوههن وأعطافهن " (مدارك التنزيل 3/79) .
قال ابن تيمية رحمه الله (ت728هـ): " وكشف النساء وجوههن بحيث يراهن الأجانب غير جائز. وعلى ولي الأمرِ الأمرُ بالمعروف والنهى عن هذا المنكر وغيره ، ومن لم يرتدع فإنه يعاقب على ذلك بما يزجره " ( مجموع الفتاوى 24 / 382 ) .
قال ابن جزي الكلبي المالكي رحمه الله (ت741هـ) في تفسيره لقوله تعالى : ( يدنين عليهن من جلابيبهن ) : " كان نساء العرب يكشفن وجوههن كما تفعل الإماء ، وكان ذلك داعياً إلى نظر الرجال لهن ، فأمرهن الله بإدناء الجلابيب ليستر بذلك وجوههن " ( التسهيل لعلوم التنزيل 3/144).
قال ابن القيم رحمه الله (ت751هـ) في إعلام الموقعين ( 2/80) : " العورة عورتان : عورة النظر ، وعورة في الصلاة ؛ فالحرة لها أن تصلي مكشوفة الوجه والكفين ، وليس لها أن تخرج في الأسواق و مجامع الناس كذلك ، والله أعلم ".
وقال تقي الدين السبكي الشافعي رحمه الله (ت756هـ) : " الأقرب إلى صنيع الأصحاب أن وجهها و كفيها عورة في النظر " ( نهاية المحتاج 6/187) .
قال ابن حجر في شرح حديث عائشة رضي الله عنها وهو في صحيح البخاري أنها قالت : " لَمَّا نَزَلَتْ هَذِهِ الْآيَةُ ( وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَى جُيُوبِهِنَّ ) أَخَذْنَ أُزْرَهُنَّ فَشَقَّقْنَهَا مِنْ قِبَلِ الْحَوَاشِي فَاخْتَمَرْنَ بِهَا " . قال ابن حجر (ت852هـ) في الفتح (8/347) : " قوله ( فاختمرن ) أي غطين وجوههن " .
قال السيوطي (ت911هـ) عند قوله تعالى : ( يدنين عليهن من جلابيبهن ) : " هذه آية الحجاب في حق سائر النساء ، ففيها وجوب ستر الرأس والوجه عليهن " (عون المعبود 11/158 ) .
قال البهوتي الحنبلي رحمه الله (ت1046هـ) في كشاف القناع ( 1/266) : " الكفان والوجه من الحرة البالغة عورة خارج الصلاة باعتبار النظر كبقية بدنها " .
قال أبو بكر بن العربي المالكي رحمه الله (ت 543هـ) عند تفسيره لقوله تعالى ( وإذا سألتموهن متاعاً فاسألوهن من وراء حجاب ) : " و المرأة كلها عورة ؛ بدنها وصوتها ، فلا يجوز كشف ذلك إلا لضرورة أو لحاجة ، كالشهادة عليها ، أو داء يكون ببدنها " (أحكام القرآن 3/616).
قال النووي رحمه الله (ت676هـ) في المنهاج ( وهو عمدة في مذهب الشافعية ) : " و يحرم نظر فحل بالغ إلى عورة حرة كبيرة أجنبية وكذا وجهها وكفها عند خوف الفتنة ( قال الرملي في شرحه : إجماعاً ) وكذا عند الأمن على الصحيح " .
قال ابن شهاب الدين الرملي رحمه الله (ت1004هـ) في شرحه لكلام النووي السابق : " و وجهه الإمام : باتفاق المسلمين على منع النساء أن يخرجن سافرات الوجوه ، وبأن النظر مظنة الفتنة ، و محرك للشهوة .. وحيث قيل بالتحريم وهو الراجح : حرم النظر إلى المنتقبة التي لا يبين منها غير عينيها و محاجرها كما بحثه الأذرعي ، و لاسيما إذا كانت جميلة ، فكم في المحاجر من خناجر "اهـ (نهاية المحتاج إلى شرح المنهاج في الفقه على مذهب الشافعي 6/187ـ188) .
قال النسفي الحنفي رحمه الله (ت701هـ) في تفسيره لقوله تعالى : ( يدنين عليهن من جلابيبهن ): " يرخينها عليهن ، و يغطين بها وجوههن وأعطافهن " (مدارك التنزيل 3/79) .
قال ابن تيمية رحمه الله (ت728هـ): " وكشف النساء وجوههن بحيث يراهن الأجانب غير جائز. وعلى ولي الأمرِ الأمرُ بالمعروف والنهى عن هذا المنكر وغيره ، ومن لم يرتدع فإنه يعاقب على ذلك بما يزجره " ( مجموع الفتاوى 24 / 382 ) .
قال ابن جزي الكلبي المالكي رحمه الله (ت741هـ) في تفسيره لقوله تعالى : ( يدنين عليهن من جلابيبهن ) : " كان نساء العرب يكشفن وجوههن كما تفعل الإماء ، وكان ذلك داعياً إلى نظر الرجال لهن ، فأمرهن الله بإدناء الجلابيب ليستر بذلك وجوههن " ( التسهيل لعلوم التنزيل 3/144).
قال ابن القيم رحمه الله (ت751هـ) في إعلام الموقعين ( 2/80) : " العورة عورتان : عورة النظر ، وعورة في الصلاة ؛ فالحرة لها أن تصلي مكشوفة الوجه والكفين ، وليس لها أن تخرج في الأسواق و مجامع الناس كذلك ، والله أعلم ".
وقال تقي الدين السبكي الشافعي رحمه الله (ت756هـ) : " الأقرب إلى صنيع الأصحاب أن وجهها و كفيها عورة في النظر " ( نهاية المحتاج 6/187) .
قال ابن حجر في شرح حديث عائشة رضي الله عنها وهو في صحيح البخاري أنها قالت : " لَمَّا نَزَلَتْ هَذِهِ الْآيَةُ ( وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَى جُيُوبِهِنَّ ) أَخَذْنَ أُزْرَهُنَّ فَشَقَّقْنَهَا مِنْ قِبَلِ الْحَوَاشِي فَاخْتَمَرْنَ بِهَا " . قال ابن حجر (ت852هـ) في الفتح (8/347) : " قوله ( فاختمرن ) أي غطين وجوههن " .
قال السيوطي (ت911هـ) عند قوله تعالى : ( يدنين عليهن من جلابيبهن ) : " هذه آية الحجاب في حق سائر النساء ، ففيها وجوب ستر الرأس والوجه عليهن " (عون المعبود 11/158 ) .
قال البهوتي الحنبلي رحمه الله (ت1046هـ) في كشاف القناع ( 1/266) : " الكفان والوجه من الحرة البالغة عورة خارج الصلاة باعتبار النظر كبقية بدنها " .
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: tholib Date: ก.ค. 05, 2009, 06:31 AM
salam
ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนทุกท่าน
ใครที่คิดว่าการปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺ คิดแบบนี้ถือว่าเป็นบิดอะฮฺ (บิดอะฮฺที่ไม่ดี).... คนที่มีความเชื่อแบบนี้มีแน่นอนครับ ผมไม่ได้เข้าใจผิด
เพราะเขาถือว่าการปิดหน้าเป็นเรื่องของอาดัต ไม่ใช่อิบาดะฮ์
ฉะนั้นใครเอาเรื่องอาดัตถือเป็นเรื่องอิบาดัตก็ถือว่าเป็นบิดอะฮฺ !!!!!
ก็จริงอย่างที่บังบาชิรพูด ทุกมัซฮับส่งเสริมให้ปิด แต่มันคิลาฟเรื่องาญิบหรือไม่ ?
แต่นี้มาบิดะฮฺเฉย เลยอยากรู้ว่าอุละมาอฺคนไหนบ้างที่บอกว่าการปิดหน้าเป็นบิดอะฮฺหรือว่าเป็นอาดัต
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: คะลัคคะลุย Date: ก.ค. 05, 2009, 06:46 AM
salam
ฉะนั้นใครเอาเรื่องอาดัตถือเป็นเรื่องอิบาดัตก็ถือว่าเป็นบิดอะฮฺ !!!!!
พูดให้รัดกุมหน่อยก็ดีน่ะ เพราะเรื่องอาดัต ในตัวของมันไม่ใช่อิบาดะฮ์ แต่หากมีการเหนียตที่ดี ก็เป็นเรื่องอิบาดะฮ์ !!!!!
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: tholib Date: ก.ค. 08, 2009, 06:25 AM
salam
ฉะนั้นใครเอาเรื่องอาดัตถือเป็นเรื่องอิบาดัตก็ถือว่าเป็นบิดอะฮฺ !!!!!
พูดให้รัดกุมหน่อยก็ดีน่ะ เพราะเรื่องอาดัต ในตัวของมันไม่ใช่อิบาดะฮ์ แต่หากมีการเหนียตที่ดี ก็เป็นเรื่องอิบาดะฮ์ !!!!!
นั้นไม่ใช่ความคิดผม แต่เพียงถ่ายทอดความคิดของคนที่เห็นว่าเป็นบิดอะฮฺ
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: ILHAM Date: ก.ค. 08, 2009, 12:34 PM
กลับไปเรียนนาฮูใหม่ แล้วแอะรอบคำว่า กุลลู กับ กุลลน ต่างกันยังไง
Re: การปิดหน้าเป็นซุนนะฮฺใหม ? By: As-Zaleek Date: ก.ค. 08, 2009, 08:10 PM
salam
มีอุละมาอฺท่านใดบ้างที่บอกว่าเป็นบิดอะฮฺครับ ?
ฮุกุ่มบิดอะฮ์อะไรเนี่ย น่าจะไปหาจากอุลามาอฺมัซฮับวะฮาบีน่ะ เพราะพวกเขาชอบฮุกุ่มบิดอะฮ์กับแนวทางอื่น ผมว่าเจอแน่ๆ หากไปหาจากอุลามาอฺมัซฮับทั้ง 4 คงไม่เจอน่ะครับ ต้องอุลามาอฺมัซฮับวะฮาบีคร้าบ