มีหลายเคสหลายครับ ที่ผมไ้ด้รับรู้มาว่า มุสลิมชายของเราเนี่ยะไปทำหญิงกาฟิรท้อง หรือไม่ก็แต่งงานกับพวกเธอ แต่เมื่อพวกเธอยอมเข้ารับอิสลาม แทนที่จะดูแลกันดีๆ ตัวเองกลับไปมีภารยาอีกคนที่เป็นมุสลิม หรือไม่ก็ไม่สนใจใยดีกับภารยามุอัลลัฟของตน ทำให้พวกเธอบางคนทนไม่ไหว จึงต้องกลับไปสู่ศาสนาเดิม แล้วกรณีแบบนี้มาเกิดขึ้นเยอะมากในปัจจุบัน จนคนต่างศาสนิกมองว่า ชายมุสลิมไม่มีคุณธรรมชั่ว หลอกลูกสาวเค้า แล้วทิ้งขวาง ผมได้รู้แบบนี้ อยากจะล้มตัวให้ได้ มันไม่ควรเกิดขึ้นโดยมุสลิมในกรณีแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นหรือ หรือศาสนาและความละอายไมมีในตัวเราแล้ว เราถึงกล้าเอาศาสนามาขายด้วยพฤติกรรมชั่วของเรา ไม่ไว้หน้าอัลลอฮฺและเราะสูล รวมถึงบรรดามุสลิมคนอื่นเลย เหอๆ - วัสสลามุอลัยกุม
อดีตมุอัลลัฟแถวบ้านก็เคยเจอเหตุการ์ณแบบนี้ค่ะ
เธอรับอิสลาม แล้วนิกะห์กับสามี อยู่บ้านสามีที่ทางใต้ มีลูกชาย 2 คน คนโต10ขวบแล้ว ถูกหย่าด้วยเหตุผลว่า พ่อแม่เธอยังกินหมู ไร้เหตุผลสิ้นดี
ฝ่ายสามีก็ให้เธอและลูกออกจากบ้านมาอยู่บ้านพ่อแม่ เด็กๆถูกเลี้ยงดูโดยตายายที่เป็นคนพุทธ เพราะแม่ต้องทำงานนอกบ้าน
ตายายที่เป็นคนพุทธจะสอนให้หลานรู้จักอิสลาม รู้จักอัลเลาะห์ได้อย่างไร คนเป็นพ่อต้องได้รับการสอบสวนในเรื่องนี้แน่นอน
เรื่องนี้เยอะมาก มาก
ในฐานะที่เป็นมุอัลลัฟเหมือนกับเธอคนนั้น ได้ฟังเรื่องราวแล้วเจ็บปวดมาก
คนที่เกิดมาเป็นกาเฟร ไม่ไ้ด้ถูกสอนให้เกลียดอัลลอฮ์ หรือ ชิงชังอิสลาม เพราะพวกเขาไม่รู้จักอัลลอฮ์ และอิสลาม มูฮัมหมัดคือใครก็ไม่รู้จัก
พวกเขารู้จักแต่มุสลิม มุสลิมบางคนเอาแต่กล่าวหายัดเยียดว่าพวกเขาคือชาวนรก โดยที่ไม่ได้นำทางที่แท้จริงไปสู่พวกเขาก่อน อยุติธรรมกับพวกเขาเพียงเพราะอัลลอฮ์ให้เขาเกิดเป็นกาเฟร พวกเขารู้จักอัลลอฮ์และอิสลามผ่านมุสลิมเหล่านั้น ผลก็คือทำให้พวกเขาเกลียดอัลลอฮ์และอิสลาม แล้วมันเป็นความผิดใคร.....
ที่บ้านของจัสมินไม่เคยสอนให้เกลียดอัลลอฮ์หรืออิสลาม แต่อย่าไปยุ่งสุงสิงกับมุสลิมเท่านั้น เพราะพวกเขามองว่าอิสลามสอนให้เห็นแก่ตัว การกระทำที่อยุติธรรมของมุสลิมบางคนมันทำให้คนต่างศาสนิกมองอิสลามในทางที่เสียหายมาก
สมัยก่อนหากไปตลาดซื้อของกับแม่ค้ามุสลิม เราจะโดนโกงตาชั่ง ซื้อข้าวร้านอิสลามก็จะได้ราคาที่แพง ซื้อขายของก็จะได้เงินไม่ครบ ด้วยความที่เราเป็นมุอัลลัฟไร้ความรู้ เพราะเราทราบว่าหากมุสลิมติดค้างสิ่งใดกับใครอาจทำให้เขาไม่ได้ขึ้นสวรรค์ก็ได้ เลยถามเพื่อนที่เป็นมุสลิมว่า ที่ทำแบบนั้นพวกเขาไม่กลัวบาป ไม่กลัวถูกสอบสวน ไม่กลัวว่าจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรอ เพื่อนกลับตอบมาว่า คนกาเฟรเป็นชาวนรกไม่ได้รับการสอบสวน เราจะทำอย่างไรกับเขาก็ได้ พวกเขาก็ตกนรกอยู่ดี
คำที่เพื่อนตอบ ทำให้จัสมินคิดว่า มุสลิมเราฮุกุ่มกาเฟรเสียหมด จนลืมไปว่าอัลลอฮ์สั่งอะไรเราบ้าง
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: falaora Date: พ.ค. 15, 2011, 03:04 AM
น่าเห็นใจมุอัลลัฟน่ะค่ะ ไม่เฉพาะมุอัลลัฟซื้อของจะโดนแกล้งน่ะค่ะ คนที่เป้นอิสลามเองหากไปซื้อของที่แถวสามจังหวัด ยังเคยโดนแม่ค้าไม่ขายของให้เลย เพราะเนื่องจากว่าพูดภาษามลายูไม่เป้น แต่แม่ค้าดีๆก็เยอะค่ะ
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: falaora Date: พ.ค. 15, 2011, 03:31 AM
ขอบคุณค่ะ คุณjasmina_omani ที่ช่วยชี้แจงเรื่องศาสนาพุทธ แสดงว่าที่เรียนมานี่ผิด..สมัยเรียน เป้นวิชาปรัชญชา ซึ่งคนสอนเป้นฝรั่งอเมริกัน เดิมนับถือศริส แต่เปลี่ยนมานับถือเซน
คนที่จะชี้แจงได้ดีที่สุดเห็นทีจะต้องเป้นต้นตำรับ
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: a d n a n Date: พ.ค. 18, 2011, 12:15 PM
เข้าไปอ่านดูแล้วนะครับ รู้สึกจะออกแนวชวนเชื่อนะ เขาเรียกร้องไปสู่แนวทางของเขาในแบบของเขา โดยอ้างตัวบุคคล (เขาหรือใคร) เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ส่วนข้อเท็จจริงของคน ๆ นั้น จะเป็นอย่างไรนั้น
วัลลอฮอะลัมครับ ไม่กล้าจะหุก่ม ไม่ว่าอย่างไร ขอดุอาอฺให้เขาได้รับทางนำที่ถูกต้องด้วยครับ อามีน
ประกอบอาหารในพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆเป็นรูปสามเหลี่ยมบ้าง เช่น ข้าวเหนียวหรือตูปะ ในปัจจุบัน
เสียวแปรบบบ เลย ตูป๊ะ เนี่ยนะ มีที่มาด้วยหรือนี่ ?
ไม่อยากจะตั้งประเด็นเลย แต่ก็ไม่อยากปล่อยผ่าน มันเป็นยังงัยครับ มีรายละเอียดไหม
จะงานเข้าไหมเนี่ย ?
มีหลายเคสหลายครับ ที่ผมไ้ด้รับรู้มาว่า มุสลิมชายของเราเนี่ยะไปทำหญิงกาฟิรท้อง หรือไม่ก็แต่งงานกับพวกเธอ แต่เมื่อพวกเธอยอมเข้ารับอิสลาม แทนที่จะดูแลกันดีๆ ตัวเองกลับไปมีภารยาอีกคนที่เป็นมุสลิม หรือไม่ก็ไม่สนใจใยดีกับภารยามุอัลลัฟของตน ทำให้พวกเธอบางคนทนไม่ไหว จึงต้องกลับไปสู่ศาสนาเดิม แล้วกรณีแบบนี้มาเกิดขึ้นเยอะมากในปัจจุบัน จนคนต่างศาสนิกมองว่า ชายมุสลิมไม่มีคุณธรรมชั่ว หลอกลูกสาวเค้า แล้วทิ้งขวาง ผมได้รู้แบบนี้ อยากจะล้มตัวให้ได้ มันไม่ควรเกิดขึ้นโดยมุสลิมในกรณีแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นหรือ หรือศาสนาและความละอายไมมีในตัวเราแล้ว เราถึงกล้าเอาศาสนามาขายด้วยพฤติกรรมชั่วของเรา ไม่ไว้หน้าอัลลอฮฺและเราะสูล รวมถึงบรรดามุสลิมคนอื่นเลย เหอๆ - วัสสลามุอลัยกุมอดีตมุอัลลัฟแถวบ้านก็เคยเจอเหตุการ์ณแบบนี้ค่ะ
เธอรับอิสลาม แล้วนิกะห์กับสามี อยู่บ้านสามีที่ทางใต้ มีลูกชาย 2 คน คนโต10ขวบแล้ว ถูกหย่าด้วยเหตุผลว่า พ่อแม่เธอยังกินหมู ไร้เหตุผลสิ้นดี
ฝ่ายสามีก็ให้เธอและลูกออกจากบ้านมาอยู่บ้านพ่อแม่ เด็กๆถูกเลี้ยงดูโดยตายายที่เป็นคนพุทธ เพราะแม่ต้องทำงานนอกบ้าน
ตายายที่เป็นคนพุทธจะสอนให้หลานรู้จักอิสลาม รู้จักอัลเลาะห์ได้อย่างไร คนเป็นพ่อต้องได้รับการสอบสวนในเรื่องนี้แน่นอน
เรื่องนี้เยอะมาก มาก
ในฐานะที่เป็นมุอัลลัฟเหมือนกับเธอคนนั้น ได้ฟังเรื่องราวแล้วเจ็บปวดมาก
คนที่เกิดมาเป็นกาเฟร ไม่ไ้ด้ถูกสอนให้เกลียดอัลลอฮ์ หรือ ชิงชังอิสลาม เพราะพวกเขาไม่รู้จักอัลลอฮ์ และอิสลาม มูฮัมหมัดคือใครก็ไม่รู้จัก
พวกเขารู้จักแต่มุสลิม มุสลิมบางคนเอาแต่กล่าวหายัดเยียดว่าพวกเขาคือชาวนรก โดยที่ไม่ได้นำทางที่แท้จริงไปสู่พวกเขาก่อน อยุติธรรมกับพวกเขาเพียงเพราะอัลลอฮ์ให้เขาเกิดเป็นกาเฟร พวกเขารู้จักอัลลอฮ์และอิสลามผ่านมุสลิมเหล่านั้น ผลก็คือทำให้พวกเขาเกลียดอัลลอฮ์และอิสลาม แล้วมันเป็นความผิดใคร.....
ที่บ้านของจัสมินไม่เคยสอนให้เกลียดอัลลอฮ์หรืออิสลาม แต่อย่าไปยุ่งสุงสิงกับมุสลิมเท่านั้น เพราะพวกเขามองว่าอิสลามสอนให้เห็นแก่ตัว การกระทำที่อยุติธรรมของมุสลิมบางคนมันทำให้คนต่างศาสนิกมองอิสลามในทางที่เสียหายมาก
สมัยก่อนหากไปตลาดซื้อของกับแม่ค้ามุสลิม เราจะโดนโกงตาชั่ง ซื้อข้าวร้านอิสลามก็จะได้ราคาที่แพง ซื้อขายของก็จะได้เงินไม่ครบ ด้วยความที่เราเป็นมุอัลลัฟไร้ความรู้ เพราะเราทราบว่าหากมุสลิมติดค้างสิ่งใดกับใครอาจทำให้เขาไม่ได้ขึ้นสวรรค์ก็ได้ เลยถามเพื่อนที่เป็นมุสลิมว่า ที่ทำแบบนั้นพวกเขาไม่กลัวบาป ไม่กลัวถูกสอบสวน ไม่กลัวว่าจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรอ เพื่อนกลับตอบมาว่า คนกาเฟรเป็นชาวนรกไม่ได้รับการสอบสวน เราจะทำอย่างไรกับเขาก็ได้ พวกเขาก็ตกนรกอยู่ดี
คำที่เพื่อนตอบ ทำให้จัสมินคิดว่า มุสลิมเราฮุกุ่มกาเฟรเสียหมด จนลืมไปว่าอัลลอฮ์สั่งอะไรเราบ้าง
อัคล๊ากของที่ดีของมุสลิม จะเป็นสาเหตุในการฮิดายัตทางนำจากพระองค์
หากมุสลิมทำลายอัคล๊ากที่ดี ๆ ก็เท่ากับว่ามุสลิมได้ทำลายสาเหตุที่นำไปสู่ฮิดายัต
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: Al Fatoni Date: พ.ค. 18, 2011, 04:09 PM
พระ ชลิต ภักดีบุตร จบปริญัติ 9 ขั้นสูงสุด จบปริญญาตรีด้าน ภาษาบาลี และปริญญาโทด้านบาลีโดยตรง พร้อมด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง มหาวิทยาลัยจุฬา ได้รับทุนให้ไปศึกษาที่ประเทศอินเดีย 2 ปี ที่มหาวิทยาลัยนาลันทะ สุดท้ายพระท่านนี้ประกาศตัวรับอิสลาม อันเนื่องมาจากที่ท่านได้ไปอ่านพระไตรปิฎกฉบับเก่าแก่ที่ถูกเก็บเอาไว้ใน ห้องสมุดที่อินเดีย บันทึกอยู่ใบลานด้วยภาษาบาลี ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าจะมีพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายถูกส่งมาที่อารเบีย จะมีอูฐเป็นพาหนะ โดยท่านจะกำพร้าพ่อ แม่ ตั้งแต่ยังเล็ก ...
เพราะฉะนั้นการมาของมุฮัมหมัดไม่ได้ถูกกล่าวเอาไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ลอย่าง เดียว แม้แต่คัมภีร์อื่นๆก็ยังกล่าวเอาไว้ด้วย บางทีอาจจะกล่าวชัดเจนกว่าคัมภีร์ไบเบิ้ลเสียอีก ที่ชัดที่สุดในตอนนี้คือ คัมภีร์พระเวท / อดีตพระท่านนี้ยืนยันว่า พระไตรปิฎกสอนเอาไว้อย่างแน่นอนในเรื่องพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง ใครเชี่ยวชาญภาษาบาลีเชิญมาถกกันเพื่อพิสูจน์ความจริงได้
รายละเอียดมีอีกมาก อย่าลืมนะครับ
-----------------
ที่มาจาก กลุ่มแนวร่วมเผยแผ่สัจธรรม, โพสต์โดย Shahanshah Mustafa Khan
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: anti-bid'ah Date: พ.ค. 18, 2011, 06:15 PM
บาบอที่สอนผม เคยบอกว่าท่านมีเพื่อนเรียนประถมและมัธยมด้วยกันในวัดแห่งหนึ่งใน อ จะนะ และท่านทั้ง ๒ สนิทกันมากเลยทีเดียว
พระรูปนั้นเป็นเจ้าอาวาสและรู้เรื่องราวศาสนาอิสลามดีมาก บ่อยครั้งที่บาบอเยี่ยมพระคุณเจ้า ทุกครั้งที่ผ่านเส้นทางจะเห็นพระคุณเจ้านั่งที่
ลานวัด ทั้ง ๒ มักเสวนากันในเรื่องศาสนาอิสลาม มีการหยั่งเชิงกัน พระคุณเจ้าศึกษาประวัติศาสตร์นบีต่างๆผ่าน พระไตรปิฎก
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: jasmina_omani Date: พ.ค. 18, 2011, 09:48 PM
เสียวแปรบบบ เลย ตูป๊ะ เนี่ยนะ มีที่มาด้วยหรือนี่ ?
ไม่อยากจะตั้งประเด็นเลย แต่ก็ไม่อยากปล่อยผ่าน มันเป็นยังงัยครับ มีรายละเอียดไหม
จะงานเข้าไหมเนี่ย ?
ครอบครัวจัสมินเป็นชาวพุทธอยู่ภาคใต้ตอนบน ทุกครั้งที่เป็นวันสำคัญ วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสฬหบูชา และสำคัญคือวันทำบุญครบรอบให้บรรพบุุษที่ตายไป สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวเหนียว มีทั้งข้าวเหนียวธรรมดา หรือใส่ถั่วดำด้วย ห่อใบพ้อ (ที่บ้านเรียกนะ) เราเรียกว่าต้ม ต้มที่บ้านจัสมินมี 2 แบบ ตามลักษณะการห่อ คือแบบตัวผู้ตัวเมีย แล้วผูกมัดกันเป็นพวง ทุกงานบุญจะขาดต้มไม่ได้ เคยถามคุณปู่ ที่ชาวบ้านเขานับถือว่าเป็นหัววัด คุณปู่ก็บอกว่าชาวพุทธสมัยก่อนไม่สร้างรูปปั้นเพราะมันบาป แต่ว่าชาวพุทธก็ยังคำนึงถึงพระพุทธเจ้าตลอด เวลาทำอาหารไปถวายพระจะมีลักษณะที่สื่อความหมายถึงสิ่งสามอย่าง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คือรูปสามเหลี่ยม แล้วก็รูปสามเหลี่ยมสื่อความหมายถึงพระพุทธเจ้านั่งสมาธิอยู่ วัดประจำอำเภอของครอบครัวจัสมินก็เพิ่งมีพระพุทธรูปมาไม่เกิน10 ปี นิยมทำในงานทำบุญบรรพบุรุษเพราะปีนึงมีแค่ครั้งเดียว คนมาช่วยงานกันเยอะ จะทำต้มในวันนี้เยอะกว่าวันพระอื่นๆ
ตูปะ หรือ ต้ม หรือข้าวเหนียว ครอบครัวชาวพุทธในจังหวัดที่จัสมินอยู่ทำกันเยอะมาก
มีขายตามท่ารถต่างๆด้วย
จัสมินเคยมีโอกาสได้ศึกษาที่หาดใหญ่ เวลาวันอีด เพื่อนๆมลายูก็จะนิยมเอาตูปะมาให้แล้วบอกว่า มีแห่งเดียวในประเทศไทย ถ้าไม่ใช่3 จังหวัดไม่มี
พอจัสมินได้เห็นตูปะครั้งแรกมันเหมือนต้มบ้านเราเลย รสชาติเดียวกัน ตอนนั้นเพิ่งรู้เหมือนกันว่าคนมลายูก็กินต้มกันด้วย
เคยเถียงกับเพื่อนมลายูด้วย ทุกคนจะคิดว่ามีเฉพาะคนมลายูเท่านั้นที่ทำเป็น จัสมินเลยต้องทำจากที่บ้านไปพิสูจน์เลย สุดท้ายก็คือสิ่งเดียวกัน
ออกทะเลไปเรื่องตูปะแล้ว มาอัฟด้วยค่ะ
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: hiddenmin Date: พ.ค. 18, 2011, 09:56 PM
เรื่องของตูปะ
ของแบบนี้...
.
.
.
เกิดชาวจีนจุดธูปเพื่อเคารพบรรพบุรุษ แต่มุสลิมเราจุดธูปเพื่อความหอมในห้อง
จุดธูปเหมือนกัน แต่เป้าหมายต่างกัน
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: jasmina_omani Date: พ.ค. 19, 2011, 12:18 PM
เรื่องของตูปะ
ของแบบนี้...
.
.
.
เกิดชาวจีนจุดธูปเพื่อเคารพบรรพบุรุษ แต่มุสลิมเราจุดธูปเพื่อความหอมในห้อง
จุดธูปเหมือนกัน แต่เป้าหมายต่างกัน
ถูกต้องอย่างที่ว่าเลยค่ะ
จุดประสงค์มันแตกต่างกันอยู่แล้ว
แต่ตัวจัสมินเองอีดไหนก็ไม่ทำเพราะไม่ชอบกินตูปะ พอเห็นบางครั้งมันพาลให้คิดถึงพ่อแม่ปู่ย่าตายายไปซะงั้น น้ำตาไหลวันอีดตลอด เลยไม่ทำไม่กินจะได้ไม่คิดถึงที่บ้านเท่านั้นเอง
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: khata Date: พ.ค. 21, 2011, 07:00 PM
ยอมรับน่ะว่าสิ่งหนึ่งที่อัลลอฮฺทรงทดสอบมนุษย์ทุกคน คนที่เกิดมาเป็นมุสลิมแท้ ๆ บางคนมักมีคำถามหยั่งเชิงมุสลิมใหม่..เราเคยเจอกับตัวมาแล้ว ถามในสิ่งที่มุอัลลัฟคนนี้พึ่งเรียนมาแค่ ไม่กี่ปี จะสามารถรู้ทุกเรื่องของศาสนาอิสลาม คงเป็นไปไม่ได้หรอก แล้วก็ทำให้รู้สึกเหมือนมุสลิมเดิมไม่ต้อนรับ..
แต่ก็รู้ว่าจริง ๆคงไม่ได้ตั้งใจ..
มุอัลลัฟถูกทดสอบเยอะมากอยู่แล้วเกี่ยวกับการศรัทธาของพวกเธอ ว่ามาจากใจหรือเพื่อสิ่งอื่น..
อีกหลายอย่าง แต่ทั้งหมดอยู่ที่เจตนา เพราะเราขอจากอัลลอฮฺได้ เราขอให้ได้อยู่ในสังคมที่ดี เราก็จะได้รับ เพราะพระองค์ทรงรูทรงได้ยินทุกอย่าง..
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: คนเดินดิน Date: พ.ค. 23, 2011, 08:24 AM
ถ้าเธอแตกฉานในศาสนาอิสลามจริง
เธอน่าจะได้ใคร่ครวญจากซูเราะห์อัร-เราะห์มาน
ขนาดญินได้ยินยังกลับใจขอเข้ารับอิสลาม
วัลลอฮูอะลัม
Re: ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ By: nada-yoru Date: พ.ย. 09, 2013, 11:19 PM
กระทู้นี้...ความรู้ทั้งนั้นเลยค่ะ...ซ้ำเป็นความรู้ใหม่(เพราะยังไม่เคยรู้มาก่อน)^^
ชอบกระทู้ที่คุณจัสมินเขียนค่ะ...อ่านแล้วเข้าใจถึงความรู้สึกของมุอัลลัฟเลยค่ะ...
เพราะว่าแม้ตัวข้าน้อยจะเป็นมุสลิมมาแต่เดิม เพราะพ่อแม่เป็น ปู่ย่าตายาย
บรรพบุรุษก็เป็นมุสลิม คนรอบๆตัวก็เป็นมุสลิม เติบโตมาในครอบครัวมุสลิม
ทำตามบรรพบุรุษเขาทำมาตลอดอย่างไม่เคยคิดจะสงสัยในสิ่งใด
อะไรที่เขาสอนมาก็ทำตามบ้างไม่ทำตามบ้าง สุดแต่อารมณ์และสติปัญญา
จะนำพาไป...และแน่นอนว่าเมื่อโตขึ้น...สติปัญญาย่อมต้องการเหตุผลมารองรับ
จึงทำให้มันเกิดความสงสัย เกิดคำถามมากมายที่ต้องการอยากจะทราบคำตอบ
และเพราะถูกปลูกฝังมาให้รู้จักกับอัลลอฮฺ รู้จักกับท่านนบีมุฮัมหมัด ซอลลัลลอฮุอะลัย
ฮิวะซัลลัม และบรรดารอซู้ลท่านอื่นๆ จึงทำให้เวลาเกิดข้อสงสัยใดๆที่ยากแก่การ
จะหาคำตอบได้ จึงนึกถึงคำสอนของโต๊ะครู ว่า ให้เรากลับไปหาอัลลอฮฺ
และรอซุ้ลุลลอฮฺของพระองค์...และการกลับไปหาอัลลอฮฺและรอซุลุ้ลลอฮฺของข้าน้อย
ก็คือการกลับไปศึกษาอัลกุรอ่านและกิจวัตรต่างๆของท่านรอซุลุ้ลลอฮฺ...
จึงทำให้ได้คำตอบในหลายๆอย่างที่ไม่เข้าใจ...ยิ่งศึกษาก็ยิ่งรู้ว่า
เหนือความรู้ทั้งหมดนั้น ก็คือ การศรัทธาต่ออัลลอฮฺและรอซู้ลของพระองค์
และการหาความรู้ที่แท้จริงนั้น ก็เพื่อแสวงหาความพึงพอพระทัยจากอัลลอฮฺ...
หาใช่อื่นใดเลย...
ดังนั้น...สิ่งที่ได้เรียนมา ประกอบกับการต้องไปใช้ชีวิตปะปนกับต่างศาสนิกนั้น
ทำให้เราได้รับรู้ได้เรียนรู้ถึงความหลากหลายทางความคิด การปฏิบัติ
และสิ่งที่ทำให้รู้จากประสบการณ์การได้อยู่กับต่างศาสนิกก็คือ...
หากมนุษย์ทุกคนยึดมั่นต่อหลักการของศาสนาที่ตนศรัทธาอยู่อย่างเคร่งครัด
ย่อมหาผู้กระทำความชั่วต่อมนุษย์ด้วยกันไม่ได้...
ซึ่งอิสลามสอนหลักคำสอนที่ยิ่งกว่าการทำความดีต่อมนุษย์ด้วยกันไว้
และเป็นสิ่งอันล้ำค่า นั่นก็คือ การปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ
และละเว้นสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม นั่นก็เพื่อยืนยันว่า เรานั้นเชื่อฟังพระองค์
และพร้อมน้อมรับบัญชาจากพระองค์ แน่นอนว่าสิ่งที่พระองค์บัญชามานั้น
ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นสิ่งสำคัญที่เรามนุษย์จะละเลยไม่ได้เลย...
และหากเราอ่อนแอ ถูกล่อลวงไปยังทางที่หลงผิด พระองค์ก็ส่งหนทางมาให้
ซึ่งเป็นประตูที่กว้างขวางเหลือเกิน นั่นก็คือ ประตูเตาบะฮฺ(ประตูแห่งการกลับเนื้อ
กลับตัว)...
เนื่องจากเรามนุษย์ย่อมต้องกระทำผิดด้วยกันทั้งนั้น...
และพระองค์คือผู้ทรงอภัยยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง...
และที่อยากให้ต่างศาสนิกหรือมุอัลลัฟเข้าใจมุสลิมมาแต่เดิมก็คือ...
มุสลิมนั้นคือผู้นับถือศาสนาอิสลาม...
และแน่นอนว่า เราจะมองมุสลิมแล้วตัดสินตัวหลักการศาสนาอิสลามเลยทีเดียวนั้น
ย่อมไม่ยุติธรรม เพราะมนุษย์ย่อมต้องบกพร่อง แต่สำหรับข้าน้อยแล้ว
หลักการของศาสนาอิสลามไม่ได้บกพร่องแต่อย่างใด...
และหากเราสงสัยสิ่งใดในเรื่องศาสนาก็จงศึกษาศาสนาจากบรรดาผู้รู้
มิใช่ศึกษาจากการกระทำของบรรดามุสลิมที่เราพบเจอเพียงแค่นั้น...
เพราะมีเพ่ือนต่างศาสนิกสนใจอิสลามอยากให้ข้าน้อยสอนให้
ข้าน้อยก็บอกเขาไปตรงๆว่า อันตัวข้าน้อยนั้นยังไม่แตกฉานเรื่องศาสนา
ไม่กล้าสอนเขา แม้กระท่ังเรื่องละหมาดก็ไม่กล้าสอน...
จนเขาก็สงสัยว่า แล้วเธอทำละหมาดอย่างไร...
ข้าน้อยก็บอกว่า ทำอย่างที่ครูของฉันสอนมานั่นแหล่ะ...
และฉันอาจจะบกพร่องกว่าครูของฉัน หากเธออยากได้วิชาความรู้
จงไปรับมันจากบรรดาผู้รู้ยิ่งกว่าฉันจะดีกว่า...
ตอนนั้นก็แนะนำโรงเรียนสอนศาสนาไปให้ค่ะ...
เพราะครูผู้สอนย่อมชำนาญในด้านการสอนมากกว่าเราทีี่ไม่ได้ถูกฝึกฝนมา
เพื่อจะสอนคน...ที่สำคัญความรู้ของเราก็มิได้ครอบคลุมพอจะสอนเขาได้...
แต่อะไรที่เป็นเกล็ดความรู้ก็มักจะบอกกล่าวกับเพื่อนเสมอๆ...
ปล.ไม่อยากให้พี่น้องมุสลิมเราดูถูกต่างศาสนิกและฮุก่มคนๆนึงไปเลย
ว่าเป็นชาวนรก...เพราะเราย่อมไม่รู้แจ้งเกี่ยวกับบันทึกของอัลลอฮฺ
ว่าใครจะเป็นผู้ที่พระองค์ทรงเลือก...สิ่งสำคัญก็คือ ดุอาฮฺ
เราจะพยายามขอดุอาฮฺให้กับตัวเองและคนรอบตัวเราไม่ว่าเขาจะเป็นผู้นับถือศาสนาใด
ขอให้อัลลอฮฺเปิดทางนำให้กับพวกเขา...และขอให้เราและเขาเป็นผู้ที่พระองค์
ทรงเลือกให้เป็นผู้มีชัยในโลกหน้า...
เพราะต่างศาสนิกบางคน เขาไม่ได้ปฏิเสธอัลลอฮฺหลังจากที่เขาได้ทำการศึกษาอิสลามแล้ว
เพียงแต่เขาไม่เคยรู้จักอิสลาม ไม่เคยได้เรียนรู้ถึงกิจวัตรหรือประวัติของท่านรอซุลุ้ลลอฮฺ
ไม่รู้ว่าอิสลามที่แท้จริงเป็นอย่างไร เขาเรียนรู้หรือรู้จักอิสลามผ่านผู้นับถืออิสลาม(มุสลิม)
เขารุ้จักมุสลิม แต่ยังไม่รู้จักอิสลามที่แท้จริง...
เขาเองก็เกิดมาแล้วก็ทำตามบรรพบุรุษของเขาเหมือนตอนที่เราเกิดมาเราก็ทำตาม
บรรพบุรุษของเรา...แต่เมื่อเราและเขาโตขึ้น ทุกคนต่างมีสติปัญญาและย่อมต้องการ
เหตุผลมารองรับ...เมื่อถึงตอนนั้นแหล่ะค่ะ ที่เราและเขาต้องมาเรียนรู้โลกนี้ไปด้วยกัน
ดังนั้น...จงประกาศออกไปถึงสัจธรรม...ผ่านกาย วาจา และใจของเรา...
อย่างเต็มกำลังความสามารถของเรา...
และ
...ใครเลือกอย่างไหนก็จะได้อย่างนั้น...
อินชาอัลลอฮฺ...