ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: al-azhary Date: ก.ย. 18, 2009, 05:15 AM
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
การที่ท่านแสวงหาต่อสิ่งอื่น เพราะท่านไม่มีความละอายต่อพระองค์
คำว่า สิ่งอื่น ย่อมครอบคลุมถึงบุคคลและสิ่งต่าง ๆ ที่คิดว่ามันสามารถให้บังเกิดผลการกระทำด้วยตัวของมันเองหรือทำให้บังเกิดผลร่วมกับอัลเลาะฮ์ และยังครอบคลุมถึงบรรดาเกียรติยศตำแหน่งและสิ่งอำนวยสุขที่มนุษย์ชอบแสวงหา
ดังนั้นผู้ใดที่ใคร่ครวญสรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาลแห่งนี้ ทำการพิจารณาถึงการสรรสร้างอย่างประณีตและระบบที่แยบยลของมัน แล้วเขาก็แสวงหาผู้สร้างและผู้วางระบบที่อื่นจากอัลเลาะฮ์ แน่นอนว่าเขากำลังบังอาจและไร้ยางอายต่อพระองค์ เช่นเดียวกัน หากเขาได้แสวงหาเกียรติยศและความสุขต่าง ๆ จากดุนยา ยิ่งกว่านั้น เขายังต้องการความสุขในโลกหน้าโดยมุ่งแสวงหาจากสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อัลเลาะฮ์ เขาย่อมไม่มีความละอายต่อพระองค์เช่นกัน
ได้ทราบถึงเราว่า มีฮะดีษจากท่านร่อซูลุลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้รายงานว่า ผู้ใดที่อ่านซูเราะฮ์อัลวากิอะฮ์เป็นประจำ อัลเลาะฮ์จะปกป้องเขาจากความยากจน ดังนั้นฉันจึงมีแรงผลักดันในการอ่านซูเราะฮ์ดังกล่าวและทำการอ่านเป็นประจำ โดยมิได้มีเจตนาเพื่อสร้างความใกล้ชิดและความพึงพอพระทัยต่ออัลเลาะฮ์ แต่ฉันอ่านซูเราะฮ์ดังกล่าวเพื่อนำมาเป็นสื่อให้ได้มาซึ่งริสกีที่เพิ่มพูน
จึงมิต้องสงสัยเลยว่าการกระทำเช่นนี้ บ่งชี้ว่าฉันไม่มีความละอายต่ออัลเลาะฮ์เลย
ฉันได้อ่านอัลกุรอานอายะฮ์ที่พรรณนาถึงเรื่องความสุขสำราญของสวรรค์ ในนั้นมีสิ่งที่อารมณ์มีความปรารถนาและสายตามีความชื่นชอบ ในนั้นมีสิ่งที่สายตาไม่เคยเห็น หูไม่เคยได้ยิน และมีสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนในหัวใจของมนุษย์ ดังนั้นหัวใจของฉันจึงมีความปรารถนาได้รับความสุขสำราญดังกล่าวและความหวังของฉันก็เฝ้าใฝ่ฝันแต่มัน หลังจากนั้นฉันจึงฉุกคิดขึ้นมาว่าไม่มีหนทางใดที่จะได้รับความสุขดังกล่าวได้อีกแล้วนอกจากปฏิบัติสิ่งที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงกำหนดฟัรดูแก่ท่านและห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ดังนั้นฉันจึงมุ่งมั่นปฏิบัติสิ่งดังกล่าวทั้งหมด แต่มิใช่เพื่ออื่นใด นอกจากเพื่อปราถนาที่จะได้รับวามสุขในสวรรค์อันนิรันด์ตามที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงบอกไว้และฉันก็เคยเชื่อแบบนั้น
ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า การกระทำเช่นนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าฉันไม่มีความละอายต่ออัลเลาะฮ์ ยิ่งกว่านั้นฉันยังมีความอาจหาญต่อพระองค์อีกด้วย ที่ทำอะมัลเพราะอยากได้สวรรค์ มิได้ทำเพื่อสร้างความพึงพอพระทัยต่อพระองค์
กระนั้นก็ตาม ท่านจงอย่าเข้าใจว่า ผู้ที่มีคุณลักษณะเป็นบ่าวผู้ต่ำต้อยต่ออัลเลาะฮ์อย่างแท้จริงนั้น ต้องไม่ขอสวรรค์และต้องไม่ขอปลอดภัยจากไฟนรก
เพราะว่าแท้จริงอัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงให้เรามีความปรารถนาในสวรรค์ของพระองค์ ดังนั้นจำเป็นบนเราต้องมีความปรารถนาสวรรค์ที่พระองค์ทรงตระเตรียมไว้ แต่ให้เราขอได้รับความสุขในสวรรค์จากอัลเลาะฮ์ตะอาลา ซึ่งดังนี้ย่อมเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์แห่งความเป็นทาสบ่าวต่อพระองค์ , และอัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงเตือนให้เราระวังและกลัวไฟนรกของพระองค์ ดังนั้นจึงจำเป็นที่เราต้องมีความรู้สึกกลัวอย่างแท้จริง แต่ให้เราขอความคุ้มครองจากอัลเลาะฮ์ตะอาลาให้รอดพ้นปลอดภัย นี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงถึงความสมบูรณ์แห่งความเป็นทาสบ่าวต่อพระองค์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากสองคุณลักษณะนี้ ท่านต้องทำอิบาดะฮ์เพื่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาเพียงผู้เดียวเท่านั้น เพราะพระองค์คือพระผู้อภิบาลของท่านและท่านก็เป็นบ่าวของพระองค์ ดังนี้ก็คือความหมายจากคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตะอาลาที่ว่า
وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ
และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ โดยพวกเขาเป็นผู้มีความเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์ อัลบัยยินะฮ์ : 5
ดังนั้นฉันจะต้องเข้าเฝ้าอยู่ ณ ประตูแห่งความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์ในลักษณะที่มีความรู้สึกเป็นทาสบ่าวผู้ต่ำต้อยและนอบน้อม ปฏิบัติสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งใช้ให้สุดความสามารถ ไม่ว่าพระองค์จะทรงกระทำอย่างไรกับฉันในโลกนี้ก็ตาม เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใด ฉันก็คือบ่าวของพระองค์และพระองค์ก็คือพระผู้อภิบาลของฉันเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
แต่บางครั้งความรู้สึกต่ำต้อยและรู้สึกถึงความต้องการของฉันชักนำไปสู่การวอนขอความโปรดปรานของพระองค์ มีความปรารถนาในการได้รับอภัยโทษ วอนขอให้พระองค์ทรงปกป้องให้พ้นจากความเลวร้าย และขอให้ได้รับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงตระเตรียมไว้ ก็ไม่เป็นบาปแต่ประการใด เพราะนั่นถือว่าเป็นคุณลักษณะความเป็นบ่าวผู้ต่ำต้อยที่มีต่อพระผู้อภิบาลของฉัน
แต่เราอย่านำเอาความเคร่งครัดในการทำอิบาดะฮ์ที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงสั่งใช้มาเป็นเงื่อนไขในการได้มาซึ่งสิ่งที่พระองค์จะทรงประทานให้ เพราะบ่าวไม่มีสิทธิ์ที่จะวางเงื่อนไขใด ๆ ต่อพระองค์
العبد المذنب الفقير الي مغفرة الله
วัสลามุอะลัยกุ้ม
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: al-firdaus~* Date: ก.ย. 18, 2009, 10:07 AM
ขออัลลอฮ์ทรงอภัยให้กับเรา เพราะเราละอายต่อสิ่งที่เราได้ฝ่าฝืนพระองค์ไป
อิบาดะฮ์ต่างๆที่เราทำ ขอให้มีเจตนาเพื่อความใกล้ชิดและให้พระองค์ทรงโปรดปราณ ก็เพียงพอแล้ว
ไม่ขออะไร...
ขอให้พระองค์ทรงรับอามัลที่เราทำเพื่อมุ่งสู่พระองค์ ก็เพียงพอแล้ว
เพราะเราละอายที่จะขอสิ่งใดๆ นอกจากสิ่งเหล่านี้จากพระองค์
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: nada-yoru Date: ก.ย. 18, 2009, 10:08 AM
salam
ขอบคุณค่ะ
เคยฟังและได้จดคำพูดที่ประทับใจที่อ.อิสมาแอบรรยายในหัวข้อมีอะไรในฟาติหะฮฺว่า
...ตราบใดเมื่อวิญญาณยังไม่ถึงลูกกระเดือก อัลลอฮฺทรงเปิดประตูเตาบัตให้...
ดังน้ัน...ที่เข้าสวรรค์เพราะอัลเลาะฮฺทรงเมตตา เพราะการทำชั่วมาตั้งนาน
แล้วก็มาสำนึกได้แล้วกลับตนเป็นคนดี ชั่วระยะเวลาที่มากลับตนเป็นคนดีไม่กี่วัน
อัลลอฮฺก็ประทานสวรรค์ให้ ถ้าเข้าสวรรค์เพราะทำความดีแล้วล่ะก็
มันไม่พอหรอก แต่ว่าเข้าสวรรค์เพราะอัลลอทรงฮฺเมตตา..."
อ.ท่านบรรยายไว้อย่างนั้นค่ะ
...อัลลอฮฺทรงอภัยยิ่ง อัลลอฮฺทรงเมตตายิ่ง...
และขอบคุณอาจารย์อัล-อัซอารีย์ที่ทำให้ได้ความรู้เพิ่ม เข้าใจสิ่งที่อ.อิสมาแอ
บรรยายให้ฟังมากขึ้น
โดยเฉพาะประโยคนี้ค่ะ
"เมื่อใดที่อัลเลาะฮ์ให้ลิ้นของท่านวอนขอ
ท่านจงรู้ไว้เถิดว่าพระองค์ประสงค์ที่จะให้แก่ท่าน" ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์
วัสลามุอะลัยกุมวาเราะมาตุลลอฮฺวะบารอกาตุ
^___________________________________^
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: เหรียญ 2 ด้าน Date: ก.ย. 19, 2009, 01:09 AM
ขอบคุณครับ
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: al-firdaus~* Date: ต.ค. 18, 2009, 12:35 PM
ความละอายต่ออัลลอฮ์อย่างที่ควรจะละอายนั้น คือ การที่เราจะต้องรักษาศรีษะ และสิ่งที่มันบรรจุอยู่ (หู ตา และลิ้น)
ต้องรักษาสิ่งที่มันหุ้มอยู่ (สิ่งที่เราทานเข้าไป และอวัยวะเพศ)
จงระลึกความตาย และความผุพัง
ผู้ใดปราถนาอาคิเราะฮ์ ให้เขาทิ้งเครื่องประดับของดุนยา
และผู้ใดที่ได้กระทำดังนั้น ก็เท่ากับเขาได้มีความละอายต่ออัลลอฮ์อย่างที่ควรละอายแล้ว 
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: Axiom Date: พ.ย. 08, 2009, 09:32 PM
โอ้ อัลเลาะฮฺโปรดนำทางข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าให้อยู่บนเส้นทางอันเที่ยงตรงด้วยเถิด
.........อามีน.........
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: binti Date: พ.ย. 09, 2009, 02:43 PM
"เมื่อใดที่อัลเลาะฮ์ให้ลิ้นของท่านวอนขอ
ท่านจงรู้ไว้เถิดว่าพระองค์ประสงค์ที่จะให้แก่ท่าน" ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์ประโยคนี้กินใจเหลือเกิน ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ
ญาซากัลลอฮุค็อยร็อน
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: nada-yoru Date: พ.ย. 09, 2009, 04:58 PM
"เมื่อใดที่อัลเลาะฮ์ให้ลิ้นของท่านวอนขอ
ท่านจงรู้ไว้เถิดว่าพระองค์ประสงค์ที่จะให้แก่ท่าน" ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์ [/color]
ประโยคนี้กินใจเหลือเกิน ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ
ญาซากัลลอฮุค็อยร็อน
ยังมีอีกหนึ่งซึ่งกินใจด้วยค่ะ...
"เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงเปิดประตูความเข้าใจแก่ท่านในการไม่ให้สิ่งที่เราได้วอนขอ
แน่นอน...การไม่ให้นั้นแหล่ะกลายเป็นการให้จากพระองค์อย่างแท้จริง"
ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: binti Date: พ.ย. 10, 2009, 11:53 AM
"เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงเปิดประตูความเข้าใจแก่ท่านในการไม่ให้สิ่งที่เราได้วอนขอ
แน่นอน...การไม่ให้นั้นแหล่ะกลายเป็นการให้จากพระองค์อย่างแท้จริง"
ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์นี่แหละตรงกับชีวิตจริง เป๊ะๆ เลย
โดนใจอีกแล้ว

Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ธ.ค. 09, 2009, 10:24 AM
ญะซากั้ลลอฮฺ
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: AUZULODEEN Date: ธ.ค. 30, 2009, 03:44 PM
salam
ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองบาปมากขึ้นทุกวันๆ
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: little cat Date: ธ.ค. 30, 2009, 07:46 PM

Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: FiTrImA Date: ธ.ค. 30, 2009, 07:54 PM
อ่านแล้ว กระทบไงไม่รุ เฮ้อ

Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: Al Fatoni Date: ธ.ค. 31, 2009, 09:22 PM
Hanya satulah yang kita diperbolahkan beribadah dengan keinginan kepada sesesuatu, perkara itu adalah
Keridhaan Allah Ta'ala. Maka selain daripada ini tidak diperbolehkan sama sekalinya Wallahu'alam - Wassalam.
มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกอนุญาตให้ทำอิบาดะฮ์โดยหวังในสิ่งๆ หนึ่งได้ นั่นก็คือ (ความหวังใน)
ความพึงพระัทัยแห่งอัลลอฮฺ ตอาลา ดังนั้น นอกเหนือจากนี้นั้น ไม่เป็นที่อนุญาตอย่างเด็ดขาด - อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่งกว่า - วัสสลามุอลัยกุม
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: little cat Date: ธ.ค. 31, 2009, 10:27 PM
