กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ มุมตะเซาวุฟอิสลาม
Pages: 12
ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: al-azhary Date: ก.ย. 18, 2009, 05:15 AM
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

“การที่ท่านแสวงหาต่อสิ่งอื่น  เพราะท่านไม่มีความละอายต่อพระองค์”

คำว่า “สิ่งอื่น” ย่อมครอบคลุมถึงบุคคลและสิ่งต่าง ๆ ที่คิดว่ามันสามารถให้บังเกิดผลการกระทำด้วยตัวของมันเองหรือทำให้บังเกิดผลร่วมกับอัลเลาะฮ์  และยังครอบคลุมถึงบรรดาเกียรติยศตำแหน่งและสิ่งอำนวยสุขที่มนุษย์ชอบแสวงหา

ดังนั้นผู้ใดที่ใคร่ครวญสรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาลแห่งนี้  ทำการพิจารณาถึงการสรรสร้างอย่างประณีตและระบบที่แยบยลของมัน  แล้วเขาก็แสวงหาผู้สร้างและผู้วางระบบที่อื่นจากอัลเลาะฮ์  แน่นอนว่าเขากำลังบังอาจและไร้ยางอายต่อพระองค์  เช่นเดียวกัน  หากเขาได้แสวงหาเกียรติยศและความสุขต่าง ๆ จากดุนยา  ยิ่งกว่านั้น  เขายังต้องการความสุขในโลกหน้าโดยมุ่งแสวงหาจากสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อัลเลาะฮ์  เขาย่อมไม่มีความละอายต่อพระองค์เช่นกัน

•  ได้ทราบถึงเราว่า  มีฮะดีษจากท่านร่อซูลุลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้รายงานว่า  ผู้ใดที่อ่านซูเราะฮ์อัลวากิอะฮ์เป็นประจำ  อัลเลาะฮ์จะปกป้องเขาจากความยากจน  ดังนั้นฉันจึงมีแรงผลักดันในการอ่านซูเราะฮ์ดังกล่าวและทำการอ่านเป็นประจำ  โดยมิได้มีเจตนาเพื่อสร้างความใกล้ชิดและความพึงพอพระทัยต่ออัลเลาะฮ์  แต่ฉันอ่านซูเราะฮ์ดังกล่าวเพื่อนำมาเป็นสื่อให้ได้มาซึ่งริสกีที่เพิ่มพูน

จึงมิต้องสงสัยเลยว่าการกระทำเช่นนี้  บ่งชี้ว่าฉันไม่มีความละอายต่ออัลเลาะฮ์เลย

•  ฉันได้อ่านอัลกุรอานอายะฮ์ที่พรรณนาถึงเรื่องความสุขสำราญของสวรรค์  ในนั้นมีสิ่งที่อารมณ์มีความปรารถนาและสายตามีความชื่นชอบ  ในนั้นมีสิ่งที่สายตาไม่เคยเห็น  หูไม่เคยได้ยิน  และมีสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนในหัวใจของมนุษย์  ดังนั้นหัวใจของฉันจึงมีความปรารถนาได้รับความสุขสำราญดังกล่าวและความหวังของฉันก็เฝ้าใฝ่ฝันแต่มัน  หลังจากนั้นฉันจึงฉุกคิดขึ้นมาว่าไม่มีหนทางใดที่จะได้รับความสุขดังกล่าวได้อีกแล้วนอกจากปฏิบัติสิ่งที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงกำหนดฟัรดูแก่ท่านและห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม  ดังนั้นฉันจึงมุ่งมั่นปฏิบัติสิ่งดังกล่าวทั้งหมด  แต่มิใช่เพื่ออื่นใด  นอกจากเพื่อปราถนาที่จะได้รับวามสุขในสวรรค์อันนิรันด์ตามที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงบอกไว้และฉันก็เคยเชื่อแบบนั้น

ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า  การกระทำเช่นนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าฉันไม่มีความละอายต่ออัลเลาะฮ์  ยิ่งกว่านั้นฉันยังมีความอาจหาญต่อพระองค์อีกด้วย  ที่ทำอะมัลเพราะอยากได้สวรรค์  มิได้ทำเพื่อสร้างความพึงพอพระทัยต่อพระองค์

กระนั้นก็ตาม  ท่านจงอย่าเข้าใจว่า  “ผู้ที่มีคุณลักษณะเป็นบ่าวผู้ต่ำต้อยต่ออัลเลาะฮ์อย่างแท้จริงนั้น  ต้องไม่ขอสวรรค์และต้องไม่ขอปลอดภัยจากไฟนรก”

เพราะว่าแท้จริงอัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงให้เรามีความปรารถนาในสวรรค์ของพระองค์  ดังนั้นจำเป็นบนเราต้องมีความปรารถนาสวรรค์ที่พระองค์ทรงตระเตรียมไว้  แต่ให้เราขอได้รับความสุขในสวรรค์จากอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ซึ่งดังนี้ย่อมเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์แห่งความเป็นทาสบ่าวต่อพระองค์ , และอัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงเตือนให้เราระวังและกลัวไฟนรกของพระองค์  ดังนั้นจึงจำเป็นที่เราต้องมีความรู้สึกกลัวอย่างแท้จริง  แต่ให้เราขอความคุ้มครองจากอัลเลาะฮ์ตะอาลาให้รอดพ้นปลอดภัย  นี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงถึงความสมบูรณ์แห่งความเป็นทาสบ่าวต่อพระองค์เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม  จากสองคุณลักษณะนี้  ท่านต้องทำอิบาดะฮ์เพื่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาเพียงผู้เดียวเท่านั้น  เพราะพระองค์คือพระผู้อภิบาลของท่านและท่านก็เป็นบ่าวของพระองค์  ดังนี้ก็คือความหมายจากคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตะอาลาที่ว่า

وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ

“และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์  โดยพวกเขาเป็นผู้มีความเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์” อัลบัยยินะฮ์ : 5

ดังนั้นฉันจะต้องเข้าเฝ้าอยู่  ณ ประตูแห่งความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์ในลักษณะที่มีความรู้สึกเป็นทาสบ่าวผู้ต่ำต้อยและนอบน้อม  ปฏิบัติสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งใช้ให้สุดความสามารถ  ไม่ว่าพระองค์จะทรงกระทำอย่างไรกับฉันในโลกนี้ก็ตาม  เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใด  ฉันก็คือบ่าวของพระองค์และพระองค์ก็คือพระผู้อภิบาลของฉันเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

แต่บางครั้งความรู้สึกต่ำต้อยและรู้สึกถึงความต้องการของฉันชักนำไปสู่การวอนขอความโปรดปรานของพระองค์  มีความปรารถนาในการได้รับอภัยโทษ  วอนขอให้พระองค์ทรงปกป้องให้พ้นจากความเลวร้าย  และขอให้ได้รับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงตระเตรียมไว้  ก็ไม่เป็นบาปแต่ประการใด  เพราะนั่นถือว่าเป็นคุณลักษณะความเป็นบ่าวผู้ต่ำต้อยที่มีต่อพระผู้อภิบาลของฉัน

แต่เราอย่านำเอาความเคร่งครัดในการทำอิบาดะฮ์ที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงสั่งใช้มาเป็นเงื่อนไขในการได้มาซึ่งสิ่งที่พระองค์จะทรงประทานให้  เพราะบ่าวไม่มีสิทธิ์ที่จะวางเงื่อนไขใด ๆ ต่อพระองค์

العبد المذنب الفقير الي مغفرة الله

วัสลามุอะลัยกุ้ม

Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: al-firdaus~* Date: ก.ย. 18, 2009, 10:07 AM
ขออัลลอฮ์ทรงอภัยให้กับเรา เพราะเราละอายต่อสิ่งที่เราได้ฝ่าฝืนพระองค์ไป

อิบาดะฮ์ต่างๆที่เราทำ ขอให้มีเจตนาเพื่อความใกล้ชิดและให้พระองค์ทรงโปรดปราณ ก็เพียงพอแล้ว

ไม่ขออะไร...

ขอให้พระองค์ทรงรับอามัลที่เราทำเพื่อมุ่งสู่พระองค์  ก็เพียงพอแล้ว

เพราะเราละอายที่จะขอสิ่งใดๆ นอกจากสิ่งเหล่านี้จากพระองค์

Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: nada-yoru Date: ก.ย. 18, 2009, 10:08 AM
 salam

ขอบคุณค่ะ

เคยฟังและได้จดคำพูดที่ประทับใจที่อ.อิสมาแอบรรยายในหัวข้อมีอะไรในฟาติหะฮฺว่า

...ตราบใดเมื่อวิญญาณยังไม่ถึงลูกกระเดือก อัลลอฮฺทรงเปิดประตูเตาบัตให้...

ดังน้ัน...ที่เข้าสวรรค์เพราะอัลเลาะฮฺทรงเมตตา เพราะการทำชั่วมาตั้งนาน
แล้วก็มาสำนึกได้แล้วกลับตนเป็นคนดี ชั่วระยะเวลาที่มากลับตนเป็นคนดีไม่กี่วัน
อัลลอฮฺก็ประทานสวรรค์ให้ ถ้าเข้าสวรรค์เพราะทำความดีแล้วล่ะก็
มันไม่พอหรอก แต่ว่าเข้าสวรรค์เพราะอัลลอทรงฮฺเมตตา..."

อ.ท่านบรรยายไว้อย่างนั้นค่ะ

...อัลลอฮฺทรงอภัยยิ่ง อัลลอฮฺทรงเมตตายิ่ง...

และขอบคุณอาจารย์อัล-อัซอารีย์ที่ทำให้ได้ความรู้เพิ่ม เข้าใจสิ่งที่อ.อิสมาแอ
บรรยายให้ฟังมากขึ้น

โดยเฉพาะประโยคนี้ค่ะ

"เมื่อใดที่อัลเลาะฮ์ให้ลิ้นของท่านวอนขอ  
ท่านจงรู้ไว้เถิดว่าพระองค์ประสงค์ที่จะให้แก่ท่าน" ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์

วัสลามุอะลัยกุมวาเราะมาตุลลอฮฺวะบารอกาตุ

^___________________________________^

Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: เหรียญ 2 ด้าน Date: ก.ย. 19, 2009, 01:09 AM
ขอบคุณครับ
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: al-firdaus~* Date: ต.ค. 18, 2009, 12:35 PM
ความละอายต่ออัลลอฮ์อย่างที่ควรจะละอายนั้น คือ การที่เราจะต้องรักษาศรีษะ และสิ่งที่มันบรรจุอยู่ (หู ตา และลิ้น)
ต้องรักษาสิ่งที่มันหุ้มอยู่ (สิ่งที่เราทานเข้าไป และอวัยวะเพศ)
จงระลึกความตาย และความผุพัง
ผู้ใดปราถนาอาคิเราะฮ์ ให้เขาทิ้งเครื่องประดับของดุนยา
และผู้ใดที่ได้กระทำดังนั้น ก็เท่ากับเขาได้มีความละอายต่ออัลลอฮ์อย่างที่ควรละอายแล้ว  loveit:



Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: Axiom Date: พ.ย. 08, 2009, 09:32 PM
โอ้ อัลเลาะฮฺโปรดนำทางข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าให้อยู่บนเส้นทางอันเที่ยงตรงด้วยเถิด

.........อามีน.........
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: binti Date: พ.ย. 09, 2009, 02:43 PM
"เมื่อใดที่อัลเลาะฮ์ให้ลิ้นของท่านวอนขอ 
ท่านจงรู้ไว้เถิดว่าพระองค์ประสงค์ที่จะให้แก่ท่าน" ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์


ประโยคนี้กินใจเหลือเกิน  ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ

ญาซากัลลอฮุค็อยร็อน
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: nada-yoru Date: พ.ย. 09, 2009, 04:58 PM
"เมื่อใดที่อัลเลาะฮ์ให้ลิ้นของท่านวอนขอ 
ท่านจงรู้ไว้เถิดว่าพระองค์ประสงค์ที่จะให้แก่ท่าน" ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์
[/color]

ประโยคนี้กินใจเหลือเกิน  ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ

ญาซากัลลอฮุค็อยร็อน

ยังมีอีกหนึ่งซึ่งกินใจด้วยค่ะ...

"เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงเปิดประตูความเข้าใจแก่ท่านในการไม่ให้สิ่งที่เราได้วอนขอ 
แน่นอน...การไม่ให้นั้นแหล่ะกลายเป็นการให้จากพระองค์อย่างแท้จริง"
ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

 loveit:


Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: binti Date: พ.ย. 10, 2009, 11:53 AM
"เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงเปิดประตูความเข้าใจแก่ท่านในการไม่ให้สิ่งที่เราได้วอนขอ 
แน่นอน...การไม่ให้นั้นแหล่ะกลายเป็นการให้จากพระองค์อย่างแท้จริง"
ฮิกัมอิบนุอะฏออิลลาฮ์



นี่แหละตรงกับชีวิตจริง  เป๊ะๆ  เลย

โดนใจอีกแล้ว  myGreat:
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ธ.ค. 09, 2009, 10:24 AM
ญะซากั้ลลอฮฺ
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: AUZULODEEN Date: ธ.ค. 30, 2009, 03:44 PM
 salam
ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองบาปมากขึ้นทุกวันๆ
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: little cat Date: ธ.ค. 30, 2009, 07:46 PM
 natural: fouet:  mycry
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: FiTrImA Date: ธ.ค. 30, 2009, 07:54 PM
อ่านแล้ว กระทบไงไม่รุ  เฮ้อ  sad:
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: Al Fatoni Date: ธ.ค. 31, 2009, 09:22 PM
Hanya satulah yang kita diperbolahkan beribadah dengan keinginan kepada sesesuatu, perkara itu adalah Keridhaan Allah Ta'ala. Maka selain daripada ini tidak diperbolehkan sama sekalinya Wallahu'alam - Wassalam.

             มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกอนุญาตให้ทำอิบาดะฮ์โดยหวังในสิ่งๆ หนึ่งได้ นั่นก็คือ (ความหวังใน) ความพึงพระัทัยแห่งอัลลอฮฺ ตอาลา ดังนั้น นอกเหนือจากนี้นั้น ไม่เป็นที่อนุญาตอย่างเด็ดขาด - อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่งกว่า - วัสสลามุอลัยกุม
Re: ไม่ละอายอัลเลาะฮ์ตะอาลาบ้างหรือ? By: little cat Date: ธ.ค. 31, 2009, 10:27 PM
???