บิสมิลลาฮิรฺเราะฮฺมานิรฺเราะฮีม
อายะฮ์อัลกุรอานที่ถูกประทานลงมา...เพื่อประกาศความบริสุทธิ์ของท่านหญิงอาอิชะฮ์ให้พ้นมลทิน...(จากผู้ที่กุข่าวเท็จต่อนาง)~*
ซูเราะฮ์อันนูร อายะฮ์ที่ 10-20
และมาตรแม้นมิเป็นเพราะความโปรดปราน และความเมตตาของอัลลอฮ์ ที่ทรงประทานแก่พวกเจ้าแล้วไซร้
และ (มาตรแม้นมิใช่เพราะเหตุว่า) แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรับการสารภาพโทษยิ่ง
ทรงปรีชาญาณยิ่ง (แน่นอนพวกเจ้าก็จะต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน)
(ซูเราะฮ์อันนูร : 10)
แท้จริงบรรดาผู้ที่นำข่าวเท็จมานั้น ก็เป็นคนกลุ่มหนึ่งของพวกท่านนั่นเอง
ท่านทั้งหลายอย่าคิดว่า มันเป็นสิ่งที่ชั่วช้าสำหรับพวกท่าน แต่มันกลับเป็นความดีของพวกท่าน
แต่ละคนจากพวกเขาจะได้รับสิ่งที่เขาได้พากเพียรไว้ จากบาปกรรม
และผู้ที่ได้ดำเนินการในส่วนใหญ่ของข่าวเท็จนั้นเขาจะได้รับการลงโทษอันใหญ่หลวง
(ซูเราะฮ์อันนูร : 11)
ไฉนเล่าขณะเมื่อพวกเจ้า ได้ยินเรื่องเท็จนั้น มวลศรัทธาชนทั้งชายและหญิง จึงไม่คิดถึงตัวเองแต่ในด้านดี?
และพวกเขากล่าวว่า นี้เป็นการกุข่าวเท็จอันแจ้งชัดที่สุด
(ซูเราะฮ์อันนูร : 12)
ไฉนพวกนั้นจึงไม่นำพยานสี่คนมายืนยันในเรื่องนั้นเล่า? ดังนั้นเมื่อพวกเขามิอาจนำพยานเหล่านั้นมายืนยันได้
พวกเหล่านั้น ณ อัลลอฮ์ ย่อมเป็นพวกมดเท็จอย่างแน่นอน
(ซูเราะฮ์อันนูร : 13)
และมาตรแม้นมิใช่เพราะความโปรดปราน และความเมตตาของอัลลอฮ์ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าแล้วไซร้
แน่นอนที่สุดการลงโทษอันยิ่งใหญ่ที่สุด จะต้องประสบแก่พวกเจ้า เนื่องในการร่วมวิพากษ์วิจารณ์ข่าวนั้นของพวกเจ้า
(ซูเราะฮ์อันนูร : 14)
กล่าวคือขณะเมื่อพวกเจ้าทำการถ่ายทอดข่าวนั้นด้วยลิ้นของพวกเจ้า และพวกเจ้าพูดด้วยปากของพวกเจ้าเอง
ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้มา (ด้วยตนเอง) และพวกเจ้าคิดว่าเรื่องนั้นเล็กน้อยเหลือเกิน
แต่ความจริงเป็นเรื่องใหญ่ (และสำคัญ) ที่สุด สำหรับอัลลอฮ์
(ซูเราะฮ์อันนูร : 15)
และไฉนเล่า ขณะเมื่อพวกเจ้าได้ยินเรื่องนั้น พวกเจ้าจึงไม่พูดว่า
ไม่สมควรเลยที่พวกเราจะพูดเรื่องนี้ เป็นความบริสุทธิ์อย่างยิ่งสำหรับพระองค์
ที่จริงเรื่อง (ที่เกิดเป็นข่าวลือ) นี้เป็นความมดเท็จอันยิ่งใหญ่ที่สุด
(ซูเราะฮ์อันนูร : 16)
อัลลอฮ์ทรงตักเตือนพวกเจ้า มิให้พวกเจ้าหวนกลับไปทำสิ่งที่เหมือนกับเรื่องนั้นอีกตลอดไป หากพวกเจ้าเป็นผู้มีศรัทธา
(ซูเราะฮ์อันนูร : 17)
และอัลลอฮ์ทรงแจ้งบรรดาโองการแก่พวกเจ้า และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้ที่สุด ทรงปรีชาญาณที่สุด
(ซูเราะฮ์อันนูร : 18)
แท้จริงบรรดาผู้มีจิตใจรักที่จะแพร่สิ่งอนาจาร ในกลุ่มชนที่มีศรัทธานั้น
พวกเขาจะต้องได้รับโทษอันแสนทรมานทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้แต่พวกเจ้าไม่รู้
(ซูเราะฮ์อันนูร : 19)
และมาตรแม้นมิใช่เพราะความโปรดปราน และความเมตตาของอัลลอฮ์ ที่ทรงประทานแก่พวกเจ้า และ (มิใช่เพราะ) อัลลอฮ์ทรงปราณียิ่ง ทรงเมตตายิ่ง(แน่นอนพวกเจ้าก็จะต้องได้รับการลงโทษพร้อมเพรียงกัน)
(ซูเราะฮ์อันนูร : 20)
คัดลอกจาก : อัลกุรอานแปลไทยโดย อ.มัรวาน สะมะอุน
อายะฮ์อัลกุรอานที่ถูกประทานลงมา...เพื่อประกาศความบริสุทธิ์ของท่านหญิงอาอิชะฮ์ให้พ้นมลทิน...(จากผู้ที่กุข่าวเท็จต่อนาง)~*
ซูเราะฮ์อันนูร อายะฮ์ที่ 10-20
และมาตรแม้นมิเป็นเพราะความโปรดปราน และความเมตตาของอัลลอฮ์ ที่ทรงประทานแก่พวกเจ้าแล้วไซร้
และ (มาตรแม้นมิใช่เพราะเหตุว่า) แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรับการสารภาพโทษยิ่ง
ทรงปรีชาญาณยิ่ง (แน่นอนพวกเจ้าก็จะต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน)
(ซูเราะฮ์อันนูร : 10)
แท้จริงบรรดาผู้ที่นำข่าวเท็จมานั้น ก็เป็นคนกลุ่มหนึ่งของพวกท่านนั่นเอง
ท่านทั้งหลายอย่าคิดว่า มันเป็นสิ่งที่ชั่วช้าสำหรับพวกท่าน แต่มันกลับเป็นความดีของพวกท่าน
แต่ละคนจากพวกเขาจะได้รับสิ่งที่เขาได้พากเพียรไว้ จากบาปกรรม
และผู้ที่ได้ดำเนินการในส่วนใหญ่ของข่าวเท็จนั้นเขาจะได้รับการลงโทษอันใหญ่หลวง
(ซูเราะฮ์อันนูร : 11)
ไฉนเล่าขณะเมื่อพวกเจ้า ได้ยินเรื่องเท็จนั้น มวลศรัทธาชนทั้งชายและหญิง จึงไม่คิดถึงตัวเองแต่ในด้านดี?
และพวกเขากล่าวว่า นี้เป็นการกุข่าวเท็จอันแจ้งชัดที่สุด
(ซูเราะฮ์อันนูร : 12)
ไฉนพวกนั้นจึงไม่นำพยานสี่คนมายืนยันในเรื่องนั้นเล่า? ดังนั้นเมื่อพวกเขามิอาจนำพยานเหล่านั้นมายืนยันได้
พวกเหล่านั้น ณ อัลลอฮ์ ย่อมเป็นพวกมดเท็จอย่างแน่นอน
(ซูเราะฮ์อันนูร : 13)
และมาตรแม้นมิใช่เพราะความโปรดปราน และความเมตตาของอัลลอฮ์ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าแล้วไซร้
แน่นอนที่สุดการลงโทษอันยิ่งใหญ่ที่สุด จะต้องประสบแก่พวกเจ้า เนื่องในการร่วมวิพากษ์วิจารณ์ข่าวนั้นของพวกเจ้า
(ซูเราะฮ์อันนูร : 14)
กล่าวคือขณะเมื่อพวกเจ้าทำการถ่ายทอดข่าวนั้นด้วยลิ้นของพวกเจ้า และพวกเจ้าพูดด้วยปากของพวกเจ้าเอง
ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้มา (ด้วยตนเอง) และพวกเจ้าคิดว่าเรื่องนั้นเล็กน้อยเหลือเกิน
แต่ความจริงเป็นเรื่องใหญ่ (และสำคัญ) ที่สุด สำหรับอัลลอฮ์
(ซูเราะฮ์อันนูร : 15)
และไฉนเล่า ขณะเมื่อพวกเจ้าได้ยินเรื่องนั้น พวกเจ้าจึงไม่พูดว่า
ไม่สมควรเลยที่พวกเราจะพูดเรื่องนี้ เป็นความบริสุทธิ์อย่างยิ่งสำหรับพระองค์
ที่จริงเรื่อง (ที่เกิดเป็นข่าวลือ) นี้เป็นความมดเท็จอันยิ่งใหญ่ที่สุด
(ซูเราะฮ์อันนูร : 16)
อัลลอฮ์ทรงตักเตือนพวกเจ้า มิให้พวกเจ้าหวนกลับไปทำสิ่งที่เหมือนกับเรื่องนั้นอีกตลอดไป หากพวกเจ้าเป็นผู้มีศรัทธา
(ซูเราะฮ์อันนูร : 17)
และอัลลอฮ์ทรงแจ้งบรรดาโองการแก่พวกเจ้า และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้ที่สุด ทรงปรีชาญาณที่สุด
(ซูเราะฮ์อันนูร : 18)
แท้จริงบรรดาผู้มีจิตใจรักที่จะแพร่สิ่งอนาจาร ในกลุ่มชนที่มีศรัทธานั้น
พวกเขาจะต้องได้รับโทษอันแสนทรมานทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้แต่พวกเจ้าไม่รู้
(ซูเราะฮ์อันนูร : 19)
และมาตรแม้นมิใช่เพราะความโปรดปราน และความเมตตาของอัลลอฮ์ ที่ทรงประทานแก่พวกเจ้า และ (มิใช่เพราะ) อัลลอฮ์ทรงปราณียิ่ง ทรงเมตตายิ่ง(แน่นอนพวกเจ้าก็จะต้องได้รับการลงโทษพร้อมเพรียงกัน)
(ซูเราะฮ์อันนูร : 20)
คัดลอกจาก : อัลกุรอานแปลไทยโดย อ.มัรวาน สะมะอุน
Re: อายะฮ์อัลกุรอาน : เมื่อท่านหญิงอาอิชะฮ์พ้นมลทิน~* By: al-firdaus~* Date: ต.ค. 12, 2009, 07:21 PM
เพิ่มเติมได้จากกระทู้นี้นะคะ...
เมื่อท่านหญิงอาอิชะฮ์พ้นมลทิน~*