Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: ILHAM Date: พ.ย. 16, 2009, 10:25 PM
เอาแผ่นดินไหวกลับมาฝากด้วยนะ ไม่รู้ว่าจะรู้สึกเหมือนขึ้นรถไฟยางรั่วหรือเปล่า
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: Al Fatoni Date: พ.ย. 17, 2009, 10:48 AM
เดียวจะที่ยิ่งกว่าแผ่นไหวไปให้ดู รับรองจะสั่นยังกับแผ่นดินไหว ห้าๆ - วัสสลามุอลัยกุม
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: Al Fatoni Date: พ.ย. 30, 2009, 01:24 PM
รสนิยมของคนอินโดฯ
แต่ละประเทศก็จะมีรสนิยมหลัก หรือที่เราคุ้นกันดีกับคำว่า แฟชั่น ของตัวเองที่แตกต่างกันไป สำหรับแฟชั่นของคนอินโดฯ นั้น อาจจะกล่าวได้ว่า หากจะเทียบกับไทย ก็คงไม่ผิดที่กล่าวว่า เหมือนกับไทยเมื่อ ๒๐ หรือ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ แฟชั่นกางเกงขาม้ายังอยู่ในช่วงอินเทรนด์ ถือได้ว่าตอนนี้ ใครไม่ใส่ขาม้า ก็อาจจะถูกมองว่าเชยได้ ถ้าถามผมว่า ไหลไปตามน้ำปะ ก็ขอตอบว่า ไม่ คือผมอยู่บ้านอย่างไร มาอินโดก็เหมือนกัน ไม่ได้แปลงร่างเป็นคนอินโดแต่อย่างใด แค่นี้ก่อนละกัน นึกไม่ออก ไว้มาเล่าใหม่นะ ถ้านึกออก - วัสสลาม
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: ILHAM Date: พ.ย. 30, 2009, 05:14 PM
รสนิยมของคนอินโดฯ
แต่ละประเทศก็จะมีรสนิยมหลัก หรือที่เราคุ้นกันดีกับคำว่า แฟชั่น ของตัวเองที่แตกต่างกันไป สำหรับแฟชั่นของคนอินโดฯ นั้น อาจจะกล่าวได้ว่า หากจะเทียบกับไทย ก็คงไม่ผิดที่กล่าวว่า เหมือนกับไทยเมื่อ ๒๐ หรือ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ แฟชั่นกางเกงขาม้ายังอยู่ในช่วงอินเทรนด์ ถือได้ว่าตอนนี้ ใครไม่ใส่ขาม้า ก็อาจจะถูกมองว่าเชยได้ ถ้าถามผมว่า ไหลไปตามน้ำปะ ก็ขอตอบว่า ไม่ คือผมอยู่บ้านอย่างไร มาอินโดก็เหมือนกัน ไม่ได้แปลงร่างเป็นคนอินโดแต่อย่างใด แค่นี้ก่อนละกัน นึกไม่ออก ไว้มาเล่าใหม่นะ ถ้านึกออก - วัสสลาม
แล้วเขาฟังเพลงสไตล์ไหนหรือ
แนวนี้หรือเปล่า
http://www.youtube.com/watch?v=vhBNsnTD8c45555
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: Al Fatoni Date: พ.ย. 30, 2009, 06:08 PM
เคยไปเล่นเน็ตที่ห้างนะ พาโน๊ตบุคไป เพราะมันมีไวเลสด้วยที่นั่น ซึ่งในห้างก็จะเปิดเพลงเบา กล่อมลูกค้าทั้งหลาย เพื่อให้มีอารมณ์ในการชอปปิ้ง แต่ผมไม่สนอะ จะเล่นเน็ต อิอิ เพลงที่ได้ยินนั้น ก็จะออกสไตล์ หรือรสนิยมที่ไม่ต่างจากไทยเท่าไรนัก จนบางเพลงเหมือนเป็นการลอกทำนอง แล้วเอามาร้องในภาษาอินโดฯ อีกที

Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: little cat Date: พ.ย. 30, 2009, 10:01 PM
โห 20 30 ปีเชียวหรือคะ 
แฟชั่นอินโด ณ ตอนนี้ หากเหมือนไทยในสมัยนี้ แมวน้อยกลัวว่าแฟชั่นไทยในสมัยหน้านั้น จะเหลือ แต่เสื้อในกางเกงในอ่ะสิคะ เพราะนับวันจะนุ่งน้อยห่มน้อยขึ้นทุกที 
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: ILHAM Date: พ.ย. 30, 2009, 10:46 PM
รัฐบาล ผู้น่าสงสาร ก้มหน้าทำงานยังสู้พ่อค้าไม่ไหว เอาแรพเอาร๊อค ล้างหมองคนไทย ค้าขายกำไรลูกหลานช่างมัน
รัฐบาล ผู้น่าสงสาร ต้องไปดูงานของรัฐบาลเวียงจันทร์ ทั้งแรพทั้งร๊อค เข้มงวดกวดขัน เพราะกลัวลูกหลานเขาหลงวัฒนธรรม
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: hiddenmin Date: พ.ย. 30, 2009, 11:35 PM
^
^
เพลงนี้... ใครร้อง
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: Al Fatoni Date: พ.ย. 30, 2009, 11:37 PM
โห 20 30 ปีเชียวหรือคะ 
แฟชั่นอินโด ณ ตอนนี้ หากเหมือนไทยในสมัยนี้ แมวน้อยกลัวว่าแฟชั่นไทยในสมัยหน้านั้น จะเหลือ แต่เสื้อในกางเกงในอ่ะสิคะ เพราะนับวันจะนุ่งน้อยห่มน้อยขึ้นทุกที 
ไทยพยายามจะดันตัวเองให้เป็นผู้นำแฟชั่นอะครับ อินโดตอนนี้ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับไทยแต่ก่อน ที่จะรับค่านิยมมาจากเมกา แต่ปัจจุบัน ไทยผลิตแฟชั่นเอง และของเหลือ หรือพวกมือสอง ก็จะถูกส่งไปขายต่อที่ประเทศเพื่อนบ้าน หนึ่งในนั้นคิดว่าน่าจะเป็นอินโดด้วย เพราะบังเห็นหลายอย่างของค่านิยมอินโดนั้น ยังกับถอดแบบมาจากไทยเปี๊ยบๆ จะว่าไทยลอกอินโดก็คงไม่ใช่ เพราะไทยไม่เคยนำเข้าภาพยนต์และสิ่งบันเทิงอื่นๆ จากอินโดเลย แต่อินโดนี่สิ กลับนำเข้าหนังและสิ่งบันเทิงอื่นๆ จากไทยเข้าประเทศตัวเอง บังเดินไปตามห้าง ก็จะเจอโปสเตอร์หนังไทย และตามแผงวางขายซีดี วีซีดี ก็จะมีหนังไทยเพี๊ยบ สลับกับหนังฝรั่งและจีน เด็กอินโดเองเมื่อรู้พวกบังมาจากไทย ก็ถามทันทีว่า รู้จัก "นังนัก" ไหม แล้วก็หนัง "องแบก" ลองเดาดูนะ ว่าหนังทั้งสองคือหนังอะไร อิอิ
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: little cat Date: พ.ย. 30, 2009, 11:45 PM
โห 20 30 ปีเชียวหรือคะ 
แฟชั่นอินโด ณ ตอนนี้ หากเหมือนไทยในสมัยนี้ แมวน้อยกลัวว่าแฟชั่นไทยในสมัยหน้านั้น จะเหลือ แต่เสื้อในกางเกงในอ่ะสิคะ เพราะนับวันจะนุ่งน้อยห่มน้อยขึ้นทุกที 
ไทยพยายามจะดันตัวเองให้เป็นผู้นำแฟชั่นอะครับ อินโดตอนนี้ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับไทยแต่ก่อน ที่จะรับค่านิยมมาจากเมกา แต่ปัจจุบัน ไทยผลิตแฟชั่นเอง และของเหลือ หรือพวกมือสอง ก็จะถูกส่งไปขายต่อที่ประเทศเพื่อนบ้าน หนึ่งในนั้นคิดว่าน่าจะเป็นอินโดด้วย เพราะบังเห็นหลายอย่างของค่านิยมอินโดนั้น ยังกับถอดแบบมาจากไทยเปี๊ยบๆ จะว่าไทยลอกอินโดก็คงไม่ใช่ เพราะไทยไม่เคยนำเข้าภาพยนต์และสิ่งบันเทิงอื่นๆ จากอินโดเลย แต่อินโดนี่สิ กลับนำเข้าหนังและสิ่งบันเทิงอื่นๆ จากไทยเข้าประเทศตัวเอง บังเดินไปตามห้าง ก็จะเจอโปสเตอร์หนังไทย และตามแผงวางขายซีดี วีซีดี ก็จะมีหนังไทยเพี๊ยบ สลับกับหนังฝรั่งและจีน เด็กอินโดเองเมื่อรู้พวกบังมาจากไทย ก็ถามทันทีว่า รู้จัก "นังนัก" ไหม แล้วก็หนัง "องแบก" ลองเดาดูนะ ว่าหนังทั้งสองคือหนังอะไร อิอิ
นางนาค กับองค์บาก ใช่ไหมคะ 
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: ILHAM Date: พ.ย. 30, 2009, 11:58 PM
พี่มาาาากกกขาาาา
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: little cat Date: ธ.ค. 01, 2009, 12:00 AM
พี่มาาาากกกขาาาา
พี่กิ้งกือ 
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: ILHAM Date: ธ.ค. 01, 2009, 12:12 AM
เพลงของคาราบาวน่ะอามีน เคยฟังหรือเปล่า ชื่อเพลง หลงวัฒน์
เรื่องของแรพเป็นเรื่องคนดำ เรื่องของร๊อคเป็นเรื่องคนขาว อยู่เมืองนี้มีแค่ไทยลาว กินล่ะข้าวเจ้าข้าวเหนียว
ผิดหวัง นิดหน่อย น้อยใจในความเป็นไทย ไม่รู้ เมื่อไหร่ คนไทยถึงจะรักของไทย
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: hiddenmin Date: ธ.ค. 01, 2009, 12:20 AM
มันมาอีกแล้ว...
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า - ตอน ๒ เทอมที่อินโดนีเซีย By: little cat Date: ธ.ค. 01, 2009, 12:22 AM