เชคบินบาซกับทัศนะที่มีต่ออัลอะชาอิเราะฮฺ By: abu-khulus Date: ธ.ค. 15, 2009, 10:18 AM
ผมอ่านเจอทัศนะของเชคบินบาซ ที่กล่าวถึงอัลอะชาอิเราะฮฺในหนังสือเรื่องหลักการเชื่อมั่นที่ถูกต้องและที่ตรงกันข้าม แปลไทยโดย อาจารย์อิมรอน มะกูดี
อยากให้อ่านดูว่าเป็นคำพูดที่กล่าวถึงอัลอะชาอิเราะฮฺอย่างถูกต้องและยุติธรรมหรือไม่
เชคบินบาซกล่าวว่า
ส่วนหนึ่งจากหลักการเชื่อมั่นที่ตรงกันข้ามกับหลักการเชื่อมั่นที่ถูกต้อง ในเรื่องของบรรดาพระนามและคุณลักษณะนั้นก็ได้แก่หลักการเชื่อมั่นของชาวบิดอะฮฺที่เป็นพวกญะฮฺมิยะฮฺ พวกมัวะตะซิละฮฺ และผู้ดำเนินตามทางของเขาเหล่านั้น ในการปฏิเสธคุณลักษณะของอัลลอฮฺ ไม่รับรู้ในเรื่องคุณลักษณะแห่งความสมบูรณ์ของพระองค์ และบรรยายคุณลักษณะของพระองค์ด้วยคุณลักษณะของสิ่งที่ไม่มีหรือสิ่งที่เป็นวัตถุ หรือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มหาบริสุทธิ์อัลลอฮฺผู้ทรงบริสุทธิ์ทรงสูงส่ง พ้นจากคำพูดของเขาเหล่านั้น
ยังมีบางคนที่ติดเข้าไปอยู่ในกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งก็ได้แก่ผู้ที่ปฏิเสธบางคุณลักษณะ และยืนยันในบางคุณลักษณะ เช่น พวกอะชาอิเราะฮฺ เป็นต้น ดังนั้น ในการที่พวกเขายืนยันในบางคุณลักษณะ พวกเขาก็จำต้องทำเหมือนกับที่พวกเขาพยายามหลีกหนีในเรื่องศิฟาตที่พวกเขาปฏิเสธ และพวกเขาก็ตีความหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับคุณลักษณะด้วยการกระทำเช่นนั้น พวกเขาจึงขัดแย้งกับหลักฐานที่ได้จากการฟังการถ่ายทอด (อัลกุรอานและอัซซุนนะฮฺ) และหลักฐานทางสติปัญญา พวกเขาขัดแย้งอย่างชัดแจ้งในเรื่องเช่นนั้น ส่วนกลุ่มอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺนั้น พวกเขายืนยันตามที่ร่อซูลของพระองค์ยืนยันให้กับพระองค์ ในรูปของการให้ความสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระนาม หรือคุณลักษณะของพระองค์ก็ตาม พวกเขา (อะฮฺลิซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ) ถือว่าพระองค์บริสุทธิ์ปราศจากความคล้ายคลึง และความเหมือนใดๆ ทั้งสิ้น ปลีกตัวออกห่างจากการปฏิเสธคุณลักษณะ ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติตามหลักฐานทั้งหมด พวกเขาไม่บิดเบือน ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่ถือตามที่บางกลุ่มถือว่าพระองค์ไม่มีคุณลักษณะ ในที่สุดพวกเขาก็ปลอดจากความขัดแย้ง ซึ่งคนอื่นๆ ตกอยู่ในเรื่องนั้น ดังที่ได้เคยชี้แจงไว้แล้ว นี่คือหนทางแห่งความปลอดภัยและความสันติสุขในดุนยาและอาคิเราะฮฺ เป็นหนทางที่ถูกต้องที่ชาวสลัฟ (บรรพชนยุคต้นๆ แห่งอิสลาม) ของประชาชาตินี้และบรรดาผู้นำได้ดำเนินไปแล้ว และชนรุ่นหลังของประชาชาตินี้และบรรดาผู้นำได้ดำเนินไปแล้ว และชนรุ่นหลังของประชาชาติจะไม่อยู่ในความถูกต้อง ใช้ได้ เว้นแต่ชนรุ่นแรกจะอยู่ในความถูกต้องเสียก่อน และนั่นก็คือ การดำเนินตามอัลกิตาบ (อัลกุรอาน) และอัซซุนนะฮฺ และละทิ้งสิ่งที่ขัดแย้งกับสองสิ่งเหล่านั้น
เอกสารอัลอิศลาหฺ อันดับที่ 330-332 ปีที่ 74 มุฮัรรอม 1427 กุมภาพันธ์ 2549 หน้า 78-79
Re: เชคบินบาซกับทัศนะที่มีต่ออัลอะชาอิเราะฮฺ By: al-azhary Date: ธ.ค. 15, 2009, 11:11 AM
ผมอ่านเจอทัศนะของเชคบินบาซ ที่กล่าวถึงอัลอะชาอิเราะฮฺในหนังสือเรื่องหลักการเชื่อมั่นที่ถูกต้องและที่ตรงกันข้าม แปลไทยโดย อาจารย์อิมรอน มะกูดี
อยากให้อ่านดูว่าเป็นคำพูดที่กล่าวถึงอัลอะชาอิเราะฮฺอย่างถูกต้องและยุติธรรมหรือไม่
เชคบินบาซกล่าวว่า
“ส่วนหนึ่งจากหลักการเชื่อมั่นที่ตรงกันข้ามกับหลักการเชื่อมั่นที่ถูกต้อง ในเรื่องของบรรดาพระนามและคุณลักษณะนั้นก็ได้แก่หลักการเชื่อมั่นของชาวบิดอะฮฺที่เป็นพวกญะฮฺมิยะฮฺ พวกมัวะตะซิละฮฺ และผู้ดำเนินตามทางของเขาเหล่านั้น ในการปฏิเสธคุณลักษณะของอัลลอฮฺ ไม่รับรู้ในเรื่องคุณลักษณะแห่งความสมบูรณ์ของพระองค์ และบรรยายคุณลักษณะของพระองค์ด้วยคุณลักษณะของสิ่งที่ไม่มีหรือสิ่งที่เป็นวัตถุ หรือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มหาบริสุทธิ์อัลลอฮฺผู้ทรงบริสุทธิ์ทรงสูงส่ง พ้นจากคำพูดของเขาเหล่านั้น ยังมีบางคนที่ติดเข้าไปอยู่ในกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งก็ได้แก่ผู้ที่ปฏิเสธบางคุณลักษณะ และยืนยันในบางคุณลักษณะ เช่น พวกอะชาอิเราะฮฺ เป็นต้น ดังนั้น ในการที่พวกเขายืนยันในบางคุณลักษณะ พวกเขาก็จำต้องทำเหมือนกับที่พวกเขาพยายามหลีกหนีในเรื่องศิฟาตที่พวกเขาปฏิเสธ และพวกเขาก็ตีความหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับคุณลักษณะด้วยการกระทำเช่นนั้น พวกเขาจึงขัดแย้งกับหลักฐานที่ได้จากการฟังการถ่ายทอด (อัลกุรอานและอัซซุนนะฮฺ) และหลักฐานทางสติปัญญา พวกเขาขัดแย้งอย่างชัดแจ้งในเรื่องเช่นนั้น ส่วนกลุ่มอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺนั้น พวกเขายืนยันตามที่ร่อซูลของพระองค์ยืนยันให้กับพระองค์ ในรูปของการให้ความสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระนาม หรือคุณลักษณะของพระองค์ก็ตาม พวกเขา (อะฮฺลิซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ) ถือว่าพระองค์บริสุทธิ์ปราศจากความคล้ายคลึง และความเหมือนใดๆ ทั้งสิ้น ปลีกตัวออกห่างจากการปฏิเสธคุณลักษณะ ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติตามหลักฐานทั้งหมด พวกเขาไม่บิดเบือน ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่ถือตามที่บางกลุ่มถือว่าพระองค์ไม่มีคุณลักษณะ ในที่สุดพวกเขาก็ปลอดจากความขัดแย้ง ซึ่งคนอื่นๆ ตกอยู่ในเรื่องนั้น ดังที่ได้เคยชี้แจงไว้แล้ว นี่คือหนทางแห่งความปลอดภัยและความสันติสุขในดุนยาและอาคิเราะฮฺ เป็นหนทางที่ถูกต้องที่ชาวสลัฟ (บรรพชนยุคต้นๆ แห่งอิสลาม) ของประชาชาตินี้และบรรดาผู้นำได้ดำเนินไปแล้ว และชนรุ่นหลังของประชาชาตินี้และบรรดาผู้นำได้ดำเนินไปแล้ว และชนรุ่นหลังของประชาชาติจะไม่อยู่ในความถูกต้อง ใช้ได้ เว้นแต่ชนรุ่นแรกจะอยู่ในความถูกต้องเสียก่อน และนั่นก็คือ การดำเนินตามอัลกิตาบ (อัลกุรอาน) และอัซซุนนะฮฺ และละทิ้งสิ่งที่ขัดแย้งกับสองสิ่งเหล่านั้น”
เอกสารอัลอิศลาหฺ อันดับที่ 330-332 ปีที่ 74 มุฮัรรอม 1427 กุมภาพันธ์ 2549 หน้า 78-79
วะฮาบีโจมตีอะกีดะฮ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์(อัีลอะชาอิเราะฮ์) อยู่บนพื้นฐานของความเท็จและการกล่าวหา เชคบินบาซฺ (ฆ่อฟะร็อลลอฮุลาฮ์) ได้กล่าวหาอัลอะชาอิเราะฮ์ว่า พวกเขาได้ปฏิเสธซีฟาตของอัลเลาะฮ์ วัลอิยาซุบิลลาฮ์ ทั้งที่ความจริงอัลอะชาอิเราะฮ์ยืนยันซีฟัตของอัลเลาะฮ์ที่ระบุไว้ในอัลกุรอานและฮะดีษที่ซอฮิห์ที่ชัดเจน
ท่านอิมาม อัลฮาฟิซฺ อิบนุ อะซากิร ปราชญ์แห่งอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ได้กล่าวยืนยันข้อเท็จจริงไว้ว่า
فإنهم بحمد الله ليسوا معتزلة , ولا نفاة لصفات الله معطلة , لكنهم يثبتون له سبحانه ما أثبته لنفسه من الصفات , ويصفونه بما أتصف به في محكم الأيات , وبما وصف به نبيه - صلى الله عليه وسلم - في صحيح الروايات وينزهونه عن سمات النقص والآفات , فإذا وجدوا من يقول بالتجسيم أو التكييف من المجسمة والمشبهة , ولقوا من يصفه بصفات المحدثات من القائلين بالحدود والجهة فحينئذ يسلكون طريق التأويل , ويثبتون تنزيهه تعالى بأوضح الدليل ويبالغون في إثبات التقديس له والتنزيه خوفا من وقوع من لايعلم في ظلم التشبيه , فإذا أمنوا من ذلك رأوا أن السكوات أسلم , وترك الخوض في التأويل إلا عند الحاجه أحزم , ومامثالهم في ذلك إلا مثل الطبيب الحاذق الذي يداوي كل داء من الأدواء بالدواء الموافق , فإذا تحقق غلبة البرودة على المريض داواه بالأدوية الحارة , ويعالجه بالأدوية الباردة , عند تيقنه منه بغلبة الحرارة , وماهذا في ضرب المثال إلا كما روي عن سفيان : إذا كنت بالشام فحدث بفضائل علي رضي الله عنه وإذا كنت بالكوفة فحدث بفضائل عثمان رضي الله عنه وما مثال المتأول بالدليل الواضح إلا مثال الرجل السابح , فإنه لايحتاج إلى السباحة مادام في البر , فإن اتفق له في بعض الأحايين ركوب البحر , وعاين هوله عند ارتجاجه وشاهد منه تلاطم امواجه , وعصفت به الريح حتى انكسر الفلك , وأحاط به إن لم يستعمل السباحه الهلك , فحينئذ يسبح بجهده طلباً للنجاةِ , ولايلحقه فيها تقصير حبا للحياة , فكذلك الموحد مادام سالكاً محجة التنزيه , أمناً في عقده من ركوب لجة التشبيه , فهو غير محتاج للخوض في التأويل لسلامة عقيدته من التشبيه والأباطيل , فأما إذا تكدر صفاءُ عقده بكدورة التكييف والتمثيل , فلابد من تصفية قلبه من الكدر بمصفاة التأويل , وترويق ذهنه برواق الدليل , لتسلم عقيدته من التشبيه والتعطيل
"แท้จริงพวกเขา(หมายถึงอัลอะชาอิเราะฮ์) อัลฮัมดุลิลลาฮ์ พวกเขามิใช่มั๊วะตะซิละฮ์ และมิใช่พวกที่ปฏิเสธซีฟาตจากพวกอัลมุอัฏฏิละฮ์ แต่ทว่าพวกเขาได้ยืนยันให้กับอัลเลาะฮ์ ซึ่งคุณลักษณะที่พระองค์ทรงยืนยันแก่พระองค์เอง , และอัลอะชาอิเราะฮ์ได้พรรณาคุณลักษณะของพระองค์ด้วยกับสิ่งที่พระองค์ได้พรรณาคุณลักษณะนั้นไว้ในอายะฮ์ต่าง ๆ ที่ชัดเจน และด้วยกับสิ่งที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้พรรณาคุณลักษณะของพระองค์ไว้ในสายรายงานที่ซอฮิห์ และอัลอะชาอิเราะฮ์ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ต่อพระองค์จากคุณลักษณะที่บกพร่อง ดังนั้นเมื่อพวกเขาพบว่ามีคนหนึ่งที่กล่าว(พรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์) แบบมีรูปร่างหรือมีวิธีการจากพวกมุญัสสิมะฮ์(กลุ่มที่พรรณาคุณลักษณะของพระองค์มีรูปร่าง)และพวกมุชับบิฮะฮ์(กลุ่มที่พรรณาคุณลักษณะของพระองค์โดยไปคล้ายคลึงกับมัคโลค)หรือเมื่อพวกเขาไปพบกับผู้ที่พรรณาคุณลักษณะของพระองค์ด้วยคุณลักษณะของบรรดาสิ่งที่บังเกิดใหม่จากบรรดาผู้ที่กล่าวว่า อัลเลาะฮ์ทรงมีขอบเขตจำกัดและทรงมีทิศ แน่นอนว่าในขณะนั้น อัลอะชาอิเราะฮ์ก็จะเดินอยู่ในแนวทางของการตะวีล(ตีความ) พวกเขาจะทำการยืนยันซึ่งความบริสุทธิ์ของพระองค์ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนยิ่งกว่า พวกเขาจะล้ำลึกในการยืนยันมหาบริสุทธิ์ผุดผ่องแด่พระองค์เพราะเกรงว่าผู้ที่ไม่รู้จะตกไปอยู่ในความอธรรมของการตัชบีห์(การพรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์โดยไปคล้ายคลึงกับมัคโลค) ดังนั้นเมื่อพวกเขาปลอดภัยจากสิ่งดังกล่าว พวกเขาก็จะเห็นว่าการนิ่ง(มอบหมาย)ย่อมปลอดภัยกว่า และละทิ้งการเข้าไปในการตีความ(ตะวีล)นอกจากขณะที่มีความจำเป็นเท่านั้น ย่อมมั่นคงกว่า
และไม่มีการเปรียบเทียบของพวกเขาเกี่ยวกับในสิ่งดังกล่าวนั้น นอกจากประหนึ่งนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการเยียวรักษาต่าง ๆ ด้วยตัวยาที่เหมาะสม ดังนั้นเมื่อปรากฏผู้ป่วยว่ามีความหนาวมากเกินไป พวกเขาก็จะเยี่ยวยาด้วยยาที่ทำให้อบอุ่น และทำการเยียวยาผู้ป่วยด้วยตัวยาที่เย็นในขณะที่มั่นใจว่าผู้ป่วยมีอุณภูมิที่ร้อน และในการยกตัวอย่างนี้มิใช่อื่นใดนอกจากว่ามันเหมือนกับสิ่งที่ได้รายงานจากท่านซุฟยานว่า "เมื่อท่านอยู่ที่ชาม(ซีเรีย) ท่านก็จงเล่าฮะดิษเกี่ยวกับคุณความดีของท่านอะลี ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ (เพราะที่ซีเรียในยุคท่านซุฟยานมีกลุ่มคนที่ไม่ชอบท่านอะลี) และเมื่อท่านอยู่ที่กูฟะฮ์(อิรัก) ท่านก็จงเล่าฮะดิษคุณความดีของท่านอุษมาน ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ(เพราะในที่กูฟะฮ์ในยุคนั้นมีคนคลั้งใคล้ท่านอะลีเกินไปจนละเมิดท่านอุษมาน)"
และตัวอย่างของผู้ที่ตีความ(ตะวีล)ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนนั้น ประหนึ่งบุรุษที่ว่ายน้ำเป็น เพราะเขาไม่ต้องการว่ายน้ำตราบใดที่อยู่บนบก ดังนั้นถ้าหากในบางเวลาเขาต้องขี่เรือในทะเล และเขาเห็นความน่ากลัวขณะที่(คลื่น)สร้างความสั่นไหว และเห็นว่าบรรดาคลื่นเข้ามาปะทะ ลมพักโหมกระหน่ำ จนกระทั่งเรือแตก และเขาก็รู้ว่าหากไม่ทำการว่ายน้ำก็จะเกิดความวิบัติ(ความตาย)เป็นแน่ ดังนั้น ในขณะดังกล่าว เขาจึงทำการว่ายน้ำอย่างสุดความสามารถเพื่อต้องกาความปลอดภัย และเขาทำการว่ายน้ำเป็นอย่างดีเพราะรัก(ษาไว้ซึ่ง)ชีวิต เพราะฉะนั้นก็เฉกเช่นเดียวกับสิ่งดังกล่าวนี้แหละ ผู้ที่มีเตาฮีดนั้น ตราบใดที่เขาได้ดำเนินอยู่บนแนวทางที่ยืนยันความบริสุทธิ์แด่อัเลาะฮ์ อะกีดะฮ์ของเขาปลอดภัยจากความปั่นป่วนของคลื่นแห่งการตัชบีห์(พรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์โดยไปคล้ายคลึงกับมัคโลค) ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเข้าไปทำการตีความเพราะอะกีดะฮ์ของเขาปลอดภัยจากการตัชบีห์และสิ่งเหลวไหลต่าง ๆ แต่สำหรับผู้ที่ความเชื่อของเขาขุ่นมัวด้วยความมัวหมองของการตักยีฟ(พยายามสร้างรูปแบบวิธีการให้กับคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์) และการตัมซีล(การพรรณาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์โดยไปเหมือนกับมัคโลค) ดังนั้นจึงจำเป็นต้องขัดเกลาจิตใจให้พ้นจากความมัวหมองด้วยการขัดเกลาให้บริสุทธิ์จากการตะวีล(ตีความ) และทำให้สมองความนึกคิดของเขาแจ่มใสด้วยหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อให้อะกีดะฮ์ของเขาปลอดภัยจากการตัชบีห์และตะตีล(การไปปฏิเสธซีฟัต)" หนังสือตีบยีน กัซบุล มุฟตะรีย์ หน้า 388 ของท่านอิมาม อัลฮาฟิซฺ อิบนุ อะซากิร
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอุลามาอฺวะฮาบีหรือวะฮาบีระหว่างล่าง หากได้กล่าวหาโกหกอัลอะชาอิเราะฮ์ว่าปฏิเสธซีฟัต พวกเขาต้องเป็นคู่ปรับกับปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์มากมายในวันกิยามะฮ์ต่อหน้าอัลเลาะฮ์ตะอาลา! และเราก็ขอและหวังต่ออัลเลาะฮ์ให้พระองค์ทรงผ่อนปรนและผ่อนเบาต่อเชคบินบาซฺในวันกิยามะฮ์ด้วยเถิด
แต่ปัญหาระหว่างอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์กับวะฮาบียะฮ์นั้น ไม่ใช่เรื่องการยืนยันซีฟาต แต่เป็นเรื่องการเข้าใจความหมายของซีฟาตของวะฮาบีต่างหาก
วัลลอฮุอะลัม
Re: เชคบินบาซกับทัศนะที่มีต่ออัลอะชาอิเราะฮฺ By: Muftee Date: ธ.ค. 15, 2009, 08:43 PM
ท่านอิมาม อัลฮาฟิซฺ อิบนุ อะซากิร หนึ่งในปราชญ์อะชาอิเราะฮฺผู้เลื่องลือ อธิบายเปรียบเทียบได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ
Re: เชคบินบาซกับทัศนะที่มีต่ออัลอะชาอิเราะฮฺ By: Al Fatoni Date: ธ.ค. 16, 2009, 03:37 PM
ท่านอิมาม อัลฮาฟิซฺ อิบนุ อะซากิร หนึ่งในปราชญ์อะชาอิเราะฮฺผู้เลื่องลือ อธิบายเปรียบเทียบได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ
betul-betul
Re: เชคบินบาซกับทัศนะที่มีต่ออัลอะชาอิเราะฮฺ By: nextstep555 Date: ธ.ค. 18, 2009, 02:28 PM
อธิบายเปรียบเทียบได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ ผมเห็นด้วยอย่างแรง
Re: เชคบินบาซกับทัศนะที่มีต่ออัลอะชาอิเราะฮฺ By: Al Fatoni Date: ธ.ค. 18, 2009, 03:38 PM
ที่มหาลัยที่ผมอยู่ เท่าที่พูดคุยกับ นศ. ที่นี่ ส่วนใหญ่จะมองเชคบินบาซในฐานะบุคคลที่ศอลิหฺที่สุดของศตวรรษนี้ กล่าวคือ จะกล่าววิจารณ์อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ถือเป็นการกล่าวหาท่าน และคนที่วิจารณ์ท่าน หรือพูดในแง่ที่ไม่ดี ก็มักจะถูกตอบโต้ว่า กำลังวิจารณ์คนศอลิหฺอยู่ รู้ไหมว่าผลตอบแทนของมันคืออะไร มาชาอัลลอฮฺ ถึงขนาดนี้เลยหรอ - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม