อัสลามุอะลัยกุ้ม
คำถามหลังไมค์ 12 พ.ค. 50 อาจารย์อัชอารีย์ช่วยตอบให้
....คำว่า วะลียุลลอฮ์ หมายถึง "คนที่เป็นที่รักยิ่งของอัลเลาะฮ์" การเข้าทรง หรือในรูปแบบดังกล่าว ไม่ใช่ วะลียุลลอฮ์ อย่างเด็ดขาด แต่มันเป็นการใช้ญิน วะลียุลลอฮ์จะไม่ใช้ยิน แต่กลับไปหาอัลเลาะฮ์โดยตรง และวะลียุลลอฮ์ จะไม่อยู่ในรูปแบบของการสืบทอดนะครับ การที่จะเป็นวะลียุลลอฮ์ ก็ต้องอยู่ระหว่างเขากับอัลเลาะฮ์ เขาเพียรทำอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ จนกระทั่งเขาเป็นที่รักของอัลเลาะฮ์ ดังนั้น การสืบทอดวิธีการรักษาคน โดยเข้าทรงนั้น ไม่ใช่วะลียุลลอฮ์อย่างแน่นอนและเด็ดขาด คนบ้านอาจจะเรียกกันติดปากว่า "วะลียุลลอฮ์" แต่ตามหลักการนั้นย่อมไม่ใช่
ตอบคำถาม
1. วะลียุลลอฮ์ย่อมกลับไปสู่อัลเลาะฮ์ทั้งในยามมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตไปแล้ว
2. วะลียุลลอฮ์ อัลเลาะฮ์จะให้เขาอยู่ในสภาพที่เขาต้องการในกุบูร
3. กะรอมัตของวะลียุลลอฮ์ จะไม่ตาย คือยังคงอยู่ เพราะกะรอมัตนั้นมาจากอัลเลาะฮ์
4. วะลียุลลอฮ์ไม่สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้ นอกจากอัลเลาะฮฺ์ทรงประทานให้เท่านั้น
วัลลอฮุอะลัม
Re: วะลียุลลอฮ์ By: قطوف من أزاهير النور Date: พ.ค. 18, 2007, 10:39 AM
แล้วยินล่ะ เป็นวะลียุลลอฮฺ ได้ไหม
วะลียุลลอฮ์ By: al-azhary Date: พ.ค. 20, 2007, 07:16 PM
แล้วยินล่ะ เป็นวะลียุลลอฮฺ ได้ไหม
วะลียุลลฮ์ คือบ่าวของอัเลาะฮ์ที่ดำรงมั่นการต่ออัตต่อพระองค์ อีกทั้งยังมีความบริสุทธิ์ใจ ดังนั้น ญินย่อมเป็นหนึ่งจากบ่าวของพระองค์
วัลลอฮุอะลัม
Re: วะลียุลลอฮ์ By: คนเดินดิน Date: พ.ค. 25, 2007, 02:40 PM
แล้วความรู้สึกอย่างนี้ล่ะเรียกว่าอะไร
1. เริ่มเย็นจากปลายเท้าจนกระทั่งรู้สึกว่าความเย็นนั้นจับขั้วหัวใจอยู่
2. เย็นหลังแบบแปลก ๆ อธิบายไม่ได้เหมือนกัน
3. รู้ว่าใครมีปัญหาไม่ได้เป็นอยากช่วย(ซึ่งบางครั้งคนที่มีปัญหาไม่ได้ต้องการให้ช่วย)
4. มีความมั่นใจในตนเองสูงผิดปกติทำให้มักถูกเพื่อนร่วมงานเขม่นบ่อย ๆ
5. รักการอ่านมากขึ้น ไม่ว่าความรู้ที่ได้รับจะมาจากหนังสือประเภทใดก็ตาม
6. โยงความรู้ที่ได้จากหนังสือที่อ่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตโดยมีหลักฐานมาจากอัลกุรอาน
7. มีคนกล่าวหาว่าบ้า
8. ทำอะไรมักประสบผลสำเร็จ
9. เกลียดการทะเลาะวิวาทกัน
10. ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของเงิน(แต่ก็รู้ว่านั่นคือปัจจัยนึงของการดำรงชีพจึงต้องตกอยู่ในวังวนของมัน)
มีอีกหลายข้อแต่ถามเท่านี้ก่อนก็แล้วกันคุณ Al-azhary (เชื่อว่านายดี)
วะลียุลลอฮ์ By: al-azhary Date: พ.ค. 29, 2007, 06:13 AM
จะตอบอย่างไรดีครับ
Re: วะลียุลลอฮ์ By: คนเดินดิน Date: พ.ค. 29, 2007, 10:08 AM
ก้อช่วยตอบตามความคิดเห็นของคุณหน่ะสิคะ คิดยังไงก้อตอบอย่างนั้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของดิฉันนั้นดิฉันทราบดีว่ามีผู้ที่คอยสอดส่องและดูแลอยู่แล้วเพียงแต่อยากทราบความคิดเห็นของคุณก้อเท่านั้น
Re: วะลียุลลอฮ์ By: ibn.kondun Date: พ.ย. 08, 2010, 03:53 AM
แล้วความรู้สึกอย่างนี้ล่ะเรียกว่าอะไร
1. เริ่มเย็นจากปลายเท้าจนกระทั่งรู้สึกว่าความเย็นนั้นจับขั้วหัวใจอยู่
2. เย็นหลังแบบแปลก ๆ อธิบายไม่ได้เหมือนกัน
3. รู้ว่าใครมีปัญหาไม่ได้เป็นอยากช่วย(ซึ่งบางครั้งคนที่มีปัญหาไม่ได้ต้องการให้ช่วย)
4. มีความมั่นใจในตนเองสูงผิดปกติทำให้มักถูกเพื่อนร่วมงานเขม่นบ่อย ๆ
5. รักการอ่านมากขึ้น ไม่ว่าความรู้ที่ได้รับจะมาจากหนังสือประเภทใดก็ตาม
6. โยงความรู้ที่ได้จากหนังสือที่อ่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตโดยมีหลักฐานมาจากอัลกุรอาน
7. มีคนกล่าวหาว่าบ้า
8. ทำอะไรมักประสบผลสำเร็จ
9. เกลียดการทะเลาะวิวาทกัน
10. ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของเงิน(แต่ก็รู้ว่านั่นคือปัจจัยนึงของการดำรงชีพจึงต้องตกอยู่ในวังวนของมัน)
มีอีกหลายข้อแต่ถามเท่านี้ก่อนก็แล้วกันคุณ Al-azhary (เชื่อว่านายดี)
ขออนุญาติ บังอัซฮารีคับ
มันเกิดจากควมคิดของเราหรือป่าวคับ
เเละอีกอย่างคนที่เป็นวาลียุลเลาะเนียะ ส่วนใหญ่เเล้วตัวเองจะไม่รู้ เเต่คนรอบข้างเขาจะรู้เห็น ....
Re: วะลียุลลอฮ์ By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: พ.ย. 08, 2010, 10:05 AM
เขาว่าถ่ายรูปไม่ติด ถ้าไม่ขอก่อน
Re: วะลียุลลอฮ์ By: F!D!n Date: ส.ค. 28, 2012, 03:02 PM
ที่บอกว่าถ่ายรูปไม่ติด
มันยังไงกันครับช่วยอธิบายให้ระเอียดหน่อยคตรับ แล้วที่มาด้วย
คนอาวาม ครับ
Re: วะลียุลลอฮ์ By: F!D!n Date: ส.ค. 28, 2012, 03:12 PM
แล้วความรู้สึกอย่างนี้ล่ะเรียกว่าอะไร
1. เริ่มเย็นจากปลายเท้าจนกระทั่งรู้สึกว่าความเย็นนั้นจับขั้วหัวใจอยู่
2. เย็นหลังแบบแปลก ๆ อธิบายไม่ได้เหมือนกัน
3. รู้ว่าใครมีปัญหาไม่ได้เป็นอยากช่วย(ซึ่งบางครั้งคนที่มีปัญหาไม่ได้ต้องการให้ช่วย)
4. มีความมั่นใจในตนเองสูงผิดปกติทำให้มักถูกเพื่อนร่วมงานเขม่นบ่อย ๆ
5. รักการอ่านมากขึ้น ไม่ว่าความรู้ที่ได้รับจะมาจากหนังสือประเภทใดก็ตาม
6. โยงความรู้ที่ได้จากหนังสือที่อ่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตโดยมีหลักฐานมาจากอัลกุรอาน
7. มีคนกล่าวหาว่าบ้า
8. ทำอะไรมักประสบผลสำเร็จ
9. เกลียดการทะเลาะวิวาทกัน
10. ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของเงิน(แต่ก็รู้ว่านั่นคือปัจจัยนึงของการดำรงชีพจึงต้องตกอยู่ในวังวนของมัน)
มีอีกหลายข้อแต่ถามเท่านี้ก่อนก็แล้วกันคุณ Al-azhary (เชื่อว่านายดี)
ก๊ะเราเคยได้ยินน่ะ
Re: วะลียุลลอฮ์ By: Beechern Date: ส.ค. 28, 2012, 10:59 PM
แล้วความรู้สึกอย่างนี้ล่ะเรียกว่าอะไร
1. เริ่มเย็นจากปลายเท้าจนกระทั่งรู้สึกว่าความเย็นนั้นจับขั้วหัวใจอยู่
2. เย็นหลังแบบแปลก ๆ อธิบายไม่ได้เหมือนกัน
3. รู้ว่าใครมีปัญหาไม่ได้เป็นอยากช่วย(ซึ่งบางครั้งคนที่มีปัญหาไม่ได้ต้องการให้ช่วย)
4. มีความมั่นใจในตนเองสูงผิดปกติทำให้มักถูกเพื่อนร่วมงานเขม่นบ่อย ๆ
5. รักการอ่านมากขึ้น ไม่ว่าความรู้ที่ได้รับจะมาจากหนังสือประเภทใดก็ตาม
6. โยงความรู้ที่ได้จากหนังสือที่อ่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตโดยมีหลักฐานมาจากอัลกุรอาน
7. มีคนกล่าวหาว่าบ้า
8. ทำอะไรมักประสบผลสำเร็จ
9. เกลียดการทะเลาะวิวาทกัน
10. ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของเงิน(แต่ก็รู้ว่านั่นคือปัจจัยนึงของการดำรงชีพจึงต้องตกอยู่ในวังวนของมัน)
มีอีกหลายข้อแต่ถามเท่านี้ก่อนก็แล้วกันคุณ Al-azhary (เชื่อว่านายดี)
ไม่มีอะไรพิเศษนิครับ
Re: วะลียุลลอฮ์ By: F!D!n Date: ส.ค. 31, 2012, 12:28 PM
อธิบายอยากเหมือนกันน่ะ เพราะเราไม่ค่อยได้เห็นตำราที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องนั้นสักเท่าไหร่ แค่เคยได้ยินคนแก่เค้าเล่ากันต่อๆ กันมา
ทั้งหมดก้อวัลลออ์ฮุอะลัม
Re: วะลียุลลอฮ์ By: F!D!n Date: ก.ย. 01, 2012, 12:22 PM
ก้อช่วยตอบตามความคิดเห็นของคุณหน่ะสิคะ คิดยังไงก้อตอบอย่างนั้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของดิฉันนั้นดิฉันทราบดีว่ามีผู้ที่คอยสอดส่องและดูแลอยู่แล้วเพียงแต่อยากทราบความคิดเห็นของคุณก้อเท่านั้น
คุณอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รึปล่าวครับ .......
Re: วะลียุลลอฮ์ By: Madgulp Date: ก.ย. 10, 2012, 01:40 AM
วลียุ้ลเลาะฮฺ “ อัลอับดาล “
ส่วนหนึ่งจากคุณลักษณะพิเศษของวลียุ้ลเลาะฮฺยศอับดาลนั้นคือ การสามารถแยกเป็นสองร่าง โดยร่างกายหนึ่งอยู่ที่หนึ่ง แต่มีอีกร่างกายหนึ่งอยู่อีกที่หนึ่ง
คำว่า “ อับบาล “ นั้นแปลว่าเปลี่ยน,แทนที
บางทีเขานั่งอยู่สถานที่หนึ่ง เขาสามารถเอามือไปหยิบของในอีกสถานที่หนึ่งได้ เป็นต้น
มีครั้งหนึ่งมีคนเก่าแก่เล่าให้ฟังว่า ญาติใกล้ชิดฉันคนหนึ่ง(ไม่ประสงค์ออกนาม) ท่านเป็นผู้มีความรู้สูงมากและมีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น(ฉันเกิดไม่ทันเลยไม่เจอตัว)มีคนเห็นท่านสอนศาสนาอยู่ชั้นล่าง และมีคนเห็นอีกว่าท่านยืนละหมาดอยู่ชั้นบนในเวลาเดียวกัน ณ บ้านท่าน
อันนี้พิจารณาจากความรู้และความวะเราะอฺ-เคร่งครัดของท่าน (แต่บิดาท่านมีความรู้สูงกว่าและเคร่งครัดกว่า และเขานอนในโลงศพไม้สักทุกวัน)แล้วน่าจะใช่ والله اعلم
และะมีญาติห่าง ๆ (แต่รู้จักใกล้ชิด)อีกท่านหนึ่ง(เจอตัว)เป็นหมอดุอา(คนนี้เก่งวิชาอุศูลุดดีน)
วันหนึ่งท่านเดินทางลงภาคใต้ไปเป็นเดือน แต่วันหนึ่งมีคนเห็นท่านยืนคุยเรื่องศาสนากับคนที่เดินทางไกลมาหาท่านหน้ารั้วบ้าน ซึ่งขณะนั้นมีสภาพเหมือนป่าโปร่ง ต่อมาฉันรู้เรื่องนี้จึงถามท่านถึงเรื่องนี้ว่า
“ ท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่ “ ท่านตอบว่า “ ไม่รู้ والله اعلم “
ฉันถามว่า “ ท่านเลี้ยงญินหรือไม่ “ ท่านตอบว่า “ ไม่ได้เลี้ยง แต่มีบางตน(ญิน)มาขอเป็นเพื่อน โดยไม่มีข้อผูกพันและเงื่อนไข จึงกดเพิ่มเพื่อนไป(ตรงนี้ผมเปลี่ยนสำนวนเองอะครับ ท่านคงไม่ว่ากะรัย )“
ฉันถามว่า “ แล้วนั่นใครกัน “ ท่านตอบว่า “ เป็นมาลาอิกะฮฺ “ อันนี้ก็ والله اعلم เช่นกัน
ซึ่งรุก่นการเป็นวลีอิบดาลนั้นมี 4 ประการคือ
1. คอลวะฮฺ ทำอามั้ลในที่ลับ(ไม่มีคนเห็น)
2.หิวคือท้องว่าง(กินเมื่อจำเป็น)
3.นิ่งเงียบ(พูดน้อยทำอามั้ลมาก)
4.ตื่น(กลางคืนหรือนอนเมื่อง่วงจัด)
(กีตาบ عنوان الخلوة فى شأن الخلوة )
ท่านนบีมุฮัดมัด ซ.ล.ได้กล่าวถึงวลียศอับดาลว่า
“ อับดาลในประชาชาติ(ของฉัน)นี้มีสามสิบบุรุษ หัวใจของพวกเขาประดุจหัวใจของนบีอิบรอฮีม ซึ่งเป็นผู้ถูกเลือกเฟ้นของพระเจ้าผู้ทรงเมตตา ทุกครั้งที่บุรุษหนึ่งเสียชีวิต อัลเลาะฮฺจะทรงทดแทนบุรุษหนึ่งในตำแหน่งของเขา “ (รายงานโดยอีหม่ามอะห์มัด จากท่านอุบาดะฮฺ บินซอมิต)
และท่านนบี ซ.ล.กล่าวว่า" อับบาลในประชาชาติของฉันมีสามสิบคน แผ่นดินจะยืนอยู่ได้เพราะพวกเขา พวกเจ้าได้รับน้ำฝนเพราะพวกเขา และพวกเจ้าได้รับการช่วยเหลือก็เพราะพวกเขา “
(รายงานโดยอัตตอบรอนี จากอุบาดะฮฺ บินซอมิต)
จากท่านอุบาดะฮฺ บินซอมิตรายงานว่าวลีอับดาลมี 30 คน แต่รายงานจากท่านอาลี และท่านอะนัส ร.ฎ.แจ้งว่ามี 40 คน والله اعلم
ดังอัลหะดิษที่ท่านนบี ซ.ล.กล่าวว่า
“ แผ่นดินจะไม่ปลอดจากสี่สิบบุรุษ ซึ่งมีสภาวะประหนึ่งผู้สนิทแห่งอัลเลาะฮฺ(คือนบีอิบรอฮีม อ.ล.)เพราะพวกเขาพวกเจ้าจึงได้รับน้ำฝน เพราะพวกเขาพวกเจ้าจึงได้รับชัยชนะ ไม่ว่าคนใด ๆ จากพวกเขาก็ตามที่ได้เสียชีวิตลง นอกจากอัลเลาะฮฺจะทรงทดแทนในที่ของเขา ซึ่งคือบุรุษอื่นต่อ ๆ ไป “
(รายงานอัลหะดิษโดยอัตตอบรอนีย์ ,อิบนุมายะฮฺ จากท่านอะนัส)
ในทางหนึ่งนั้น การที่อัลเลาะฮฺ ซ.บ.ทรงลงน้ำฝนมายังหน้าแผ่นดินนั้น เพราะเป็นความกรุณาเมตตาสงสารและโปรดปรานแด่กลุ่มวลีอับดาลนี้ จึงทำให้เรามีน้ำดื่มกินเป็นริสกี
และอีกทางหนึ่งนั้น การที่อัลเลาะฮฺ ซ.บ.ทรงลงน้ำฝนลงมายังหน้าแผ่นดินนั้น เพื่อให้สัตว์ทั้งหลายได้ดื่มกินด้วยความเมตตาสงสารพวกมัน(ที่ไม่ได้ทำชั่วอันใด) และมนุษย์จึงได้ดื่มกินเป็นริสรกีไปด้วย
ก็หมายความว่าน้ำฝนที่ลงมานั้น เพราะคนวลียุ้ลเลาะฮฺยศอับดาล และเพราะสัตว์ทั้งหลาย มิฉะนั้นเราท่านลำบากแน่
อธิบายส่วนหนึ่งจากที่อิบลีส ละอฺนะตุ้ลเลาะฮฺ มันยืนยันกับอัลเลาะฮฺ ซ.บ.ว่าในทุก 1,000 คนจากมนุษย์มันจะเอาเข้านรก 999 คน เหลือไว้ 1 คนให้เข้าสวรรค์ของอัลเลาะฮฺ ซ.บ.(ตัฟซีรนูรุ้ลเอี๊ยะห์ซาน) แล้ว 999 คนนั้นน่าให้ดื่มใหม
และในหมวดของ “ ริญาลั้ลฆ็อยบ์ “ (บุรุษผู้เร้นลับ) หรือริญาลั้ลเลาะฮฺ(บุรุษแห่งอัลเลาะฮฺ ซ.บ.)นั้นมีวลียุ้ลเลาะฮฺหลายยศตำแหน่ง เช่นวลีนุกก์บาอฺ,นุญบาอฺ,รุกก์บาอฺ,อับดาล,เอาต๊าดอัลอัรด์,เอาต๊าดอัรบะอะฮฺ อัลกุตุบุ้ลอักฏ๊อบ,เฆาษุลฆูษษษษษ เป็นต้น
บรรดาคนวลีนี้กระจายอยู่หลายทวีป ส่วนอัรวาหุ้ลมุก็อดดะซะฮฺ(วิญญาณอันบริสุทธิ์)เหล่านี้ วันไหนใครจะอยู่ที่ไหนตอนไหน หากันเองก็แล้วกัน ฉันไม่ใช้เจ้าหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์
والله اعلم
Re: วะลียุลลอฮ์ By: F!D!n Date: ก.ย. 13, 2012, 05:22 PM
ขอบใจมากครับ ที่ช่วยอธิบายให้เข้าใจมากขึ้น !!
คุณ Madgulp พอจะมี อีเมล หรือ เฟส สำหรับติดต่อมั้ยครับ
