ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: มาลิกกุ๊กกิ๊ก Date: ธ.ค. 31, 2009, 06:58 PM











Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: little cat Date: ธ.ค. 31, 2009, 10:26 PM

Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: al-firdaus~* Date: ธ.ค. 31, 2009, 10:49 PM
พ่อแม่ทำงานงกๆ อดออมให้ลูก
ส่งลูกไปเรียนเมืองใหญ่ๆ
ลูกนั่งล้อมวงต้มน้ำกระท่อม ยันดึก
โทรหาปะมะ ส่งตังค์ให้ลูกหน่อย ลูกไม่พอใช้
ปะมะ อดมื้อกินมื้อ ส่งเงินให้ลูก หวังให้ลูกได้เรียนสูงๆ มีความรู้
ปวดร้าววววววว
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ม.ค. 04, 2010, 08:28 AM

กลัวซ้ำกันหมดเลย

Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: ... Date: ม.ค. 23, 2010, 02:03 AM
เรื่องเล่าจากชายคนหนึ่งในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน
ดึกๆ ผมก็โทรคุยกับแฟนของผม
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม
และผมก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน
'จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง'
'กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย'
'รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง'
'ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ'
ประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร
ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์
ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น
พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ
ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน
'เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ
แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน' 'ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง'
'เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย' 'วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง' 'อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ'
โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ
แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ
โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย
ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง
จนกระทั่งวันนั้น 'ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย'
'เร็วๆสิ เค้ายังอุตส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ'
'แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ'
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน
ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home'
'โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย'
ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป
เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ
'และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่'
หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า
เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืน
และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น
ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น
และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ
หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา 'ผม'
สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม
วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น
วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม
ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต
ผู้หญิงคนเดียวที่ผม สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา
โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่
ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ
คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ
คนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม
'และคนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต'
ในบางครั้งประโยคที่ว่า 'ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว'
มันก็ไม่เป็นความจริง 'เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว'
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม
หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆ ชั่วโมงก็ทิ้งผมไป
วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น
หลายๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง
'เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป'
ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์
รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว
'ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว
แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: al-firdaus~* Date: ม.ค. 23, 2010, 08:54 PM
บอกรักคนที่เรารัก ดูแลเขาให้ดีที่สุด
ก่อนสายไป...
พูดไม่ค่อยเก่ง...แต่รัก...หมดใจ
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: nada-yoru Date: ม.ค. 23, 2010, 09:21 PM
ซึ้งค่ะ...

...บางที...เวลาห่างกัน มันทำให้เราคิดถึงกันและกันมากขึ้น
และรักกันมากขึ้น...
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: ILHAM Date: ม.ค. 23, 2010, 09:30 PM
ถ้อยคำดี ปรัชญาวันละนิด ข้อคิดดีๆ ฯลฯ
เซมๆ
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: shurfuddeen Date: ม.ค. 23, 2010, 09:51 PM
เรื่องเล่าจากชายคนหนึ่ง
ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน
ดึกๆ ผมก็โทรคุยกับแฟนของผม
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม
และผมก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน
'จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง'
'กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย'
'รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง'
'ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ'
ประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร
ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์
ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น
พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ
ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน
'เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ
แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน' 'ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง'
'เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย' 'วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง' 'อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ'
โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ
แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ
โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย
ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง
จนกระทั่งวันนั้น 'ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย'
'เร็วๆสิ เค้ายังอุตส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ'
'แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ'
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน
ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home'
'โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย'
ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป
เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ
'และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่'
หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า
เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืน
และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น
ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น
และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ
หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา 'ผม'
สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม
วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น
วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม
ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต
ผู้หญิงคนเดียวที่ผม สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา
โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่
ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ
คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ
คนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม
'และคนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต'
ในบางครั้งประโยคที่ว่า 'ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว'
มันก็ไม่เป็นความจริง 'เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว'
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม
หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆ ชั่วโมงก็ทิ้งผมไป
วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น
หลายๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง
'เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป'
ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์
รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว
'ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว
แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร
เด็กคนนี้มาทำให้เราน้ำตาคลอ
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: ILHAM Date: ม.ค. 23, 2010, 10:42 PM
ใครกล้าทำให้ก๊ะต้องเสียน้ำตานิ ตบมันเลย
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: FiTrImA Date: ม.ค. 23, 2010, 10:45 PM
อ่านเรื่องแม่ไม่ค่อยได้ จะร้องไห้ทุกที อือๆๆๆ

Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: ... Date: ม.ค. 23, 2010, 11:26 PM
ใครกล้าทำให้ก๊ะต้องเสียน้ำตานิ ตบมันเลย
โหหหหหหหหหหหหหหหหหหห
แรงอ่ะ งั้นมาต่อยกันหวา อย่าเอาก๊ะมาบังหน้า
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: nada-yoru Date: ม.ค. 23, 2010, 11:32 PM
ใครกล้าทำให้ก๊ะต้องเสียน้ำตานิ ตบมันเลย
โหหหหหหหหหหหหหหหหหหห
แรงอ่ะ งั้นมาต่อยกันหวา อย่าเอาก๊ะมาบังหน้า
สงสัยคืนนี้จะมีมวยคู่เอกซะแล้ว...

ณ เสาทองคำ โดยมีคานเป็นสังเวียน เหอๆ
ตึ๊กๆ วาววววววววว
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: ILHAM Date: ม.ค. 23, 2010, 11:39 PM
เด็กมช.มันไม่ต่อยนิ มันฉัดเลย
Re: ข้อคิดดีดี (ไม่รุจะซำป่าวหนอ ?) By: ... Date: ม.ค. 24, 2010, 12:48 AM
ไม่เอาดีกว่า ไม่คุยกะแบอิลฮามแระ คุยทีไรหาสาระไม่ได้ทุกที หรือพูดอีกนัยหนึ่งก้อคือรั้ยสาระนั่นเองค่ะ
วันนี้ไม่ไหวจาเคลียร์ อ่อนเพลีย ไม่อยากจะเซด ขอสงบศึกแล้วมาอ่านเรื่องดีดีกันดีกว่าค่ะ
(ฝากพี่ๆคนไหนก้อด้ายช่วยจัดการILHAMด้วยนะค่ะ)
Other : อีกมุมมองของชีวิตคน
มีคู่รักคู่หนึ่งนั่งรถเมล์ที่กำลังตรงไปในเมืองในหุบเขา มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ลงกลาง
ทาง หลังจากที่พวกเขาได้ลงแล้ว รถเมล์ก็วิ่งต่อไป แต่เพียงไม่นานก็มีหินก่อนขนาดมหึมา
ได้ตกลงมาจากที่สูงมาก และทับรถเมล์คันนั้นพังยับเยิน ทุกคนที่อยู่ในรถในเวลานั้นเสียชีวิต
ทั้งหมด คู่รักคู่นั้นเมื่อได้เห็นเ! หตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็พูดขึ้นว่า ' ถ้าพวกเรายังอยู่ในรถคันนั้นก็ดี
น่ะซิ! '
คนส่วนใหญ่น่าจะคิดว่า ' ยังดีนะที่เราลงจากรถก่อน! ' แต่คู่รักคู่นี้กลับพูดสิ่งที่ต่างจากคน
ส่วนใหญ่ คุณคิดว่าเพราะอะไร
--------------------------------------------------------------------------------
ตอบมาก่อนนะว่าคิดว่าไง เดี๋ยวจะเฉลยทีหลัง
ขอเฉลยนะจ๊ะ
ถ้าพวกเขายังคงอยู่และไม่ได้ลงจากรถ รถเมล์คันดังกล่าวก็จะไม่ต้องหยุดรถเพื่่อพวกเขา
และจะขับเลยตำแหน่งที่หินถล่มลงมา!!
ในชีวิตของพวกเรานั้น ให้ลองมองด้วยมุมมองที่ต่างจากของตัวเองและพยายามเข้าใจและช่วยเหลือผู้
อื่นมากขึ้น อย่าได้ใช้ชีวิตอย่างขาดสติและเฉยเมย ทำเพื่อตัวเองอีกต่อไปเลย
วัสลามจ้า