Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: nada-yoru Date: ม.ค. 09, 2010, 12:28 AM
salam
ญะซากัลลอฮุคอยรอนผู้นำเสนอค่ะ...
อยากอ่านและศึกษาอัลกุรอานในลักษณะนี้มานานแล้วค่ะ...
ได้อรรถรสไปอีกแบบ แถมได้ความรู้หลากหลายด้วยค่ะ...

ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนแช...
วัสลามค่ะ
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: Bangmud Date: ม.ค. 09, 2010, 06:11 AM
salam
นำหะดีษเกี่ยวกับความประเสริฐของอัล-ฟาติหะฮฺมาเพิ่มให้ครับ
ความประเสริฐของฟาติหะฮฺ(อ้างอิงจากหะดีษซอเฮี๊ยะฮ์ เล่มที่ 5 หน้า 707-708 โดย อรุณ บุญชม)

เล่าจากอะบีสะอีด บุตรอัลมุอัลลา(ร.ด.) ได้กล่าวว่า : ข้าพเจ้ากำลังละหมาด ต่อมาท่านนบี(ซ.ล.) ได้เรียกข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ตอบท่าน
ข้าพเจ้ากล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุลเลาะห์ ข้าพเจ้ากำลังละหมาด ท่านได้กล่าวว่า : อัลเลาะห์ไม่ได้ตรัสไว้หรือว่า “ท่านทั้งหลายจงตอบรับอัลเลาะห์และรอซูล เมื่อทั้งสองได้เรียกพวกท่าน”
จากนั้นท่านได้กล่าวว่า : พึงทราบเถิดว่าข้าพเจ้าจะสอนท่านด้วยซูเราะห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอัลกุรอานก่อนที่ท่านจะออกไปจากมัสยิด ท่านได้จับมือข้าพเจ้าไว้
ต่อมาเมื่อพวกเราต้องการจะออกไป ข้าพเจ้าจึงได้กล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุลเลาะห์ ความจริงท่านได้กล่าวไว้ว่า ข้าพเจ้าจะต้องสอนท่านจริง ๆ ถึงซูเราะห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกุรอาน
ท่านได้กล่าวว่า : อัลฮำดุลิ้ลลาฮิรอบบิ้ลอาละมีน คือ เจ็ดอายะห์ที่ถูกอ่านอยู่เสมอ และคืออัลกุรอานที่ยิ่งใหญ่ซึ่งได้ประทานแก่ข้าพเจ้า รายงานโดย บุคอรี อะบูดาวูด
และติรมิซีได้รายงานเพิ่มเติมว่า : สาบานต่อผู้ซึ่งชีวิตของข้าพเจ้าอยู่ในเงื้อมมือของพระองค์ว่า ไม่เคยได้ถูกประทานลงในคัมภีร์เตารอต ในคัมภีร์อินยีล
ในคัมภีร์ซะบูร และในอัลฟุรกอนเหมือนกับซูเราะห์อัลฟาติฮะฮ์ เพราะความจริงมันเป็นเจ็ดอายะห์ที่ถูกอ่านอยู่เสมอ และเป็นอัลกุรอานที่ยิ่งใหญ่ซึ่งถูกประทานแก่ข้าพเจ้า
วัสสลาม
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: Bangmud Date: ม.ค. 09, 2010, 08:48 PM
salam
หัวข้อนี้เป็นหัวข้อสุดท้ายที่ผมจะนำเสนอในกระทู้นี้ รอพี่น้องมาช่วยเสริม หรือแสดงความคิดเห็นในการนำเสนอเพื่อการปรับปรุงในตอนต่อไป
(ตอนต่อไป - ตอน 2 - ก็เริ่มแล้วครับ)
การใช้ฟาติหะฮฺเป็นคาถา
เล่าจากอะบูสะอีด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า ได้มีเศาะหาบะฮฺกลุ่มหนึ่งของท่านนะบียฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ออกไปในการเดินทางครั้งหนึ่งที่พวกเขาได้ออกเดินทาง
จนกระทั่งพวกเขาได้ลงพักที่ชนเผ่าหนึ่งจากบรรดาเผ่าของอาหรับ พวกเขาได้ขอให้ชนเผ่านั้นต้อนรับพวกเขาในฐานะเป็นอาคันตุกะ แต่คนเผ่านั้นไม่ยอมต้อนรับพวกเขา
ต่อมาหัวหน้าของชนเผ่านั้นถูกสัตว์ต่อย ชนเผ่านั้นได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อตัวเขา แต่ไม่เกิดประโยชน์อันใดแก่เขาเลย ได้มีบางคนพูดขึ้นว่า พวกท่านควรไปหาคนพวกนั้นที่มาลงพัก
บางทีพวกเขาอาจมีบางอย่าง (ที่จะเป็นประโยชน์) ดังนั้นพวกเขาจึงได้มาหาคนกลุ่มนั้นแล้วกล่าวว่า : แท้จริงนายของเราถูกสัตว์ต่อย พวกเราได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อตัวเขาแล้ว
แต่ไม่เกิดประโยชน์ ใครคนใดคนหนึ่งจากพวกท่านมีสิ่งใดบ้าง มีบางคนตอบว่า : แน่นอน ความจริงข้าพเจ้าสาบานต่ออัลลอฮฺว่า เป็นผู้เป่าคาถาได้ แต่ขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่า
ความจริงพวกเราได้ไปขอร้องให้พวกท่านต้อนรับเราในฐานะเป็นอาคันตุกะ แต่พวกท่านไม่ยอมให้การต้อนรับพวกเรา ดังนั้นข้าพเจ้าจะไม่เป่าคาถาให้พวกท่าน
จนกว่าพวกท่านจะต้องตั้งรางวัลให้แก่พวกเราเสียก่อน ชนเผ่านั้นจึงได้ประนีประนอมกับพวกเขาด้วยแกะหนึ่งฝูง จากนั้นเขาจึงได้ไป และเริ่มเป่าที่ตัวเขา และได้อ่าน
“อัลหัมดุลิลลาฮิร็อบบิลอาละมีน” ต่อมาเขาก็มีสภาพเหมือนอูฐที่ถูกปล่อยจากเครื่องพันธนาการ เขาเดินได้โดยไม่แสดงอาการป่วยใด ๆที่เขาเลย เขา (หัวหน้าเผ่า) ได้กล่าวว่า :
พวกท่านจงทำตามสัญญาที่ให้ไว้แก่พวกเขาด้วยรางวัลของพวกเขาที่ได้ตกลงประนีประนอมกันไว้ ต่อมามีบางคนจากเศาะหาบะฮฺได้กล่าวว่า : จงแบ่งกัน ผู้ที่เป่าคาถากล่าวว่า :
ท่านทั้งหลาย (อย่ากระทำสิ่งใด) จนกว่าพวกเราจะได้มาหาท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม พวกเราจะเล่าให้ท่านทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเราจะคอยดูว่า
ท่านจะบัญชากับพวกเราว่าอย่างไร หลังจากนั้นพวกเขาได้เข้ามาหาท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และได้เล่าให้ท่านฟัง ท่านได้กล่าวว่า :
อะไรทำให้ท่านทราบว่ามันเป็นคาถา พวกท่านทำถูกต้องแล้ว จงแบ่งกัน และกำหนดให้ข้าพเจ้าหนึ่งส่วน พร้อมกับพวกท่าน
และในบางรายงานว่า : มีบางคนรังเกียจการทำเช่นนั้น โดยพวกเขากล่าวว่า : ท่านเอาค่าจ้างบนคัมภีร์ของอัลลอฮฺ จนกระทั่งพวกเขาได้เข้ามายังนครมะดีนะฮฺ แล้วกล่าวว่า :
โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ เขาได้เอาค่าจ้างบนคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ท่านได้กล่าวว่า : แท้จริงสิ่งที่พวกท่านสมควรเอาค่าจ้างที่สุดคือ คัมภีร์ของอัลลอฮฺที่ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร
(ดู: หะดีษซอเฮี๊ยะฮ์ เล่มที่ 4 หน้า 528-529 แปลโดย อาจารย์อรุณ บุญชม)
والسلام
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: Bangmud Date: ม.ค. 10, 2010, 11:03 AM
salam
ความจริงว่าจะนำเสนอเรื่อง การใช้ฟาติหะฮฺ เป็นรุกยะฮฺ เป็นเรื่องสุดท้ายสำหรับกระทู้ตอนนี้
แต่เผอิญนึกเรื่องราวเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนได้
นักศึกษามุสลิมชาวบังคลาเทศคนหนึ่ง มาเก็บประสบการณ์การศึกษาหลังปริญญาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ไม่รู้จักใครเลย ไม่ถามใครด้วย ไม่รู้ว่าที่ขอนแก่นมีมุสลิม มาช่วงเดือนเราะมะฎอนเสียด้วย กินแต่ข้าวกับไข่อยู่หลายวัน
ช่วงอีดิลฟิฏริ ละหมาดอีดคนเดียวที่หอพัก ถึงกับโทรศัพท์กลับประเทศ ร้องไห้ รำพึงรำพรรณให้ญาติ ๆ ได้รับรู้ความลำบาก
วันหนึ่ง นักศึกษาคนนี้เดินผ่านหน้าห้องแถว เห็นหน้าห้องแถวหัองหนึ่ง มีตัวเลข 786 ติดอยู่หน้าบ้าน นอกเหนือจากเลขที่บ้าน
จึงยืนรออยู่ที่หน้าห้องแถวนั้น สักครู่ใหญ่ เจ้าของบ้านขับรถปิคอัพมาถึง ก็เข้าไปทักและถามว่าเป็นมุสลิมหรือไม่
พูดกันไม่รู้เรื่องก็จริง แต่ คำว่ามุสลิม(คนบังคลาเทศใช้คำว่า มุสัลมาน)นั้นเหมือนเป็นสื่อที่ทำให้เข้าใจกัน
เจ้าของบ้านจึงพาขึ้นรถปิคอัพ(สมชื่อรถจริง ๆ pick up)ไปที่มัสยิด นักศึกษาผู้นั้นก็มีโอกาสได้พบพี่น้องมุสลิมอย่างมีความสุข
ตัวเลข
786 นั้นคืออะไร ทำไมคนบังคลาเทศเห็นบ้านที่ติดสัญญลักษณ์ 786 แล้วรู้ว่าเป็นบ้านมุสลิม
ถ้าพี่น้องเคยเล่น เกม Cross word จะรู้ว่าแต่ละตัวอักษรมีค่าเป็นตัวเลข เมื่อผสมเป็นคำแล้ว คำนั้นก็จะมีคะแนนออกมา
อักษรภาษาอาหรับ เป็นอักษรเซมิติค (ต้องถามความหมายกับนักภาษาศาสตร์) ก็มีค่าเป็นตัวเลขดังนี้
อะลีฟ = 1, บา = 2, ญีม = 3, ดาล = 4, ฮา = 5, วาว = 6, ซาย = 7, หา = 8, ฏอ = 9, ยา = 10
กาฟ = 20, ลาม = 30, มีม = 40, นูน = 50, สีน = 60, อัยน์ = 70, ฟา = 80, ศอด = 90, กอฟ = 100,
รอ = 200, ชีน = 300, ตา = 400, ษา = 500, คอ = 600, ซาล = 700, ฎอด = 800,
ซอ = 900, ฆ็อยน์ = 1000
เมื่อแทนค่าตัวอักษรในคำว่า

จะได้เท่ากับ
2+60+40+1+30+30+5+1+30+200+8+40+50+1+30+200+8+10+40 = 786
ตัวเลข
786 ในความเข้าใจของหลายคน โดยเฉพาะชาวพม่า บังคลาเทศ ปากีสถานและอินเดียบางส่วน จึง
หมายถึง "บิสมิลลาฮฺฯ"นักศึกษาบังคลาเทศท่านนั้นจึงมั่นใจว่า บ้านที่เขาไปยืนรออยู่ เป็นบ้านมุสลิม
ส่วนที่ว่า ใครเป็นคนกำหนดค่าของตัวอักษร หรือมีที่มาที่ไปอย่างไรนั้น ไม่ทราบจริง ๆ ครับ
พี่น้องที่มีหนังสือ قاعده بغداديه و جزء عم ที่เราเรียกติดปากว่า "หัวเล็ก" ลองเปิดดูที่หน้า 64 จะมีค่าของตัวอักษรบอกไว้
เอาเป็นว่า รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ไม่หนักอะไรใครก็แล้วกัน
วัสสลาม
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: ILHAM Date: ม.ค. 10, 2010, 11:20 AM
ในหนังสือปาตีรอฮซียอบอกว่าอูลามอสาขาฟาลักเป็นผู้กำหนด
รู้สึกว่าผมเคยนำเสนอแล้วนะเรื่องตัวเลขพวกนี้ มีหลายรีวายัตด้วย ไม่รู้อยู่ในกระทู้ไหน
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: nada-yoru Date: ม.ค. 13, 2010, 05:00 AM
salam
ใช่กระทู้นี้หรือเปล่าอิลฮาม...
ขออนุญาตแปะกระทู้นะคะแช...
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=3461.msg31384#msg31384ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะแช...
วัสลามค่ะ
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: Bangmud Date: ม.ค. 13, 2010, 05:52 AM
salam
ก๊ะโด่โด่ มาทำหน้าที่แทน ก๊ะฟิรเดาส์ แล้ว เดี๋ยวจะเปลี่ยนสีให้เหมือน อามีน

Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: ILHAM Date: ม.ค. 13, 2010, 08:48 AM
เจ๊เขาไม่ได้สีแดงนะ ฟ้าเหมือนๆกันนั่นแหละ แต่ไอมีนมันออกนอกหน้าไปหน่อย เลยเป็นสีแดง
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: nada-yoru Date: ม.ค. 13, 2010, 01:48 PM
วะอะลัยกุมมุสลามค่ะ
เห็นก๊ะไม่อยู่ เลยช่วยก๊ะแบ่งเบาไงคะแช
ก๊ะไม่รู้หายไปไหนค่ะ...หาในครัวมุสลิมะฮฺก็ไม่เจอ

ขอเป็นสีชมพูได้มั้ยคะ...สีแดงมันดูไม่เข้ากับหน้าตาของ สส
สักเท่าไหร่น่ะค่ะ (สาว่า) เหอๆ
ไปดีกว่า...เดี๋ยวจะพาพี่น้องเข้าถ้ำ และอาจจะโดนมิใช่น้อย...อิอิ
วัสลามค่ะ
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: ILHAM Date: ม.ค. 13, 2010, 03:56 PM
ไม่เป็นไร เจ้าที่พาเข้าไปเอง 555
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย(ตอนที่ 1) By: ILHAM Date: มิ.ย. 28, 2010, 03:18 AM
ผมรู้สึกทึ่งกับแชหมัดมากเลย สำหรับการนำเสนอคำแปลกุรอาน มีนำเสนอทุกๆวัน ถึงจะวันละไม่มากมาย แต่เสนอเป็นประจำเป็นอิสตีกอมัฮ ทำให้มันมาไกลถึงขนาดนี้ นบีบอกว่าการงานที่ดีที่สุดคือทำเป็นประจำ แม้ว่ามันจะเล็กน้อยก็ตาม แต่ก่อนตอนที่เห็นแชนำเสนอซูเราะห์บากอเราะห์ฺ ผมคิดในใจไปเองว่า คงนำเสนอไม่จบหรอก เดี๋ยวก็หยุดพักไปเอง อาจจะด้วยเหตุผลไม่ว่าง งานเยอะ ลืม หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ว่า มันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด มีการนำเสนอเรื่อยๆๆๆ ไม่ขาดสาย ดึกดื่นป่านนี้ก็ยังทำได้อีก แถมยังตอบเฟสบุ๊คพลางๆอีก
สูตรตายตัวที่บางคนคิดขึ้นถูกทำลายลงแล้ว 55555