เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 25, 2010, 12:58 PM
ความรักระหว่างมารดากับบุตรนั้นเป็นสายใยระหว่างมนุษย์ที่มีความเหนียวแน่นมั่นคงแทบจะมากที่สุดในบรรดาความรักที่มนุษย์สามารถมีให้ต่อกันได้ บททดสอบที่เกี่ยวข้องกับความรักที่มีต่อบุตรจึงมักเป็นบททดสอบยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของชีวิตมุสลิมะฮโดยเฉพาะเมื่อเธอทั้งหลายต้องเสียสละลูกผู้เป็นที่รักยิ่งไปในหนทางของอัลลอฮฺเมื่อเราได้อ่านได้ฟังเรื่องราวแห่งการเสียสละเหล่านั้นซึ่งปรากฏอยู่เรื่อยมาในหน้าประวัติศาสตร์อิสลามตั้งแต่อดีตกาลตราบจนปัจจุบัน ผู้ที่ไม่เคยเป็นแม่อาจไม่สามารถสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของการเสียสละลักษณะดังกล่าวได้มากเท่าผู้ที่มีสถานะเป็นแม่คนแล้ว หัวใจของมุสลิมะฮฺเหล่านั้นช่างเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และน่ายกย่องเกินจะกล่าวทั้งเรื่องราวของพวกเธอก็ล้วนมีชีวิตชีวาอย่างที่เราไม่เคยเบื่อจะฟัง
ไม่นานมานี้มีข่าวชิ้นหนึ่งจากดินแดนฟิลัสฏีนรายงานว่า พี่น้องมุสลิมที่โน่นได้รณรงค์สนับสนุนให้มุสลิมะฮฺมีความยินดีต่อการจากไปของลูกนาง (ในตำแหน่งชะฮีด-อินชาอัลลอฮฺ) โดยได้นำเสนอเรื่องราวของซอฮาบียะฮฺท่านหนึ่ง ในฐานะต้นแบบของมารดาที่มีบทบาทอย่างมากในการปลุกปั้นให้ลูกของนางกระหายที่จะเข้าร่วมขบวนทัพแห่งญิฮาดซึ่งมีสวนสวรรค์ของอัลลอฮฺเป็นรางวัลอันสูงสุด และนางเองก็มีความปลื้มปิติอย่างเหลือล้นที่ลูก ๆ ของนางได้จากไปบนเส้นทางที่อัลลอฮฺรักสายนี้ ซอฮาบียะฮฺท่านนั้นก็คือ
ท่านหญิงคอนซาอฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮา
ท่านหญิงคอนซาอฺ หรือชื่อจริงว่าตุมาฎิร บินติ อัมรฺ มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ใน 2 ยุคสมัยที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง นั่นคือยุคสมัยแห่งญาฮิลียะฮฺ และยุคสมัยแห่งอิสลาม นางเป็นนักกวีที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่สมัยญาฮิลียะฮฺ และเฉกเช่นสตรีทั่วไปในสมัยนั้น เมื่อนางทราบว่าน้องชายของนางได้เสียชีวิตลง นางก็ได้ร้องไห้รำพัน ตีโพยตีพาย คร่ำครวญราวกับว่าโลกนี้ไม่มีความหมายใด ๆ อีกแล้ว สำหรับนาง แต่เมื่ออัลลอฮฺได้เมตตาให้นางได้สัมผัสกับอิสลาม ความศรัทธาได้เปลี่ยนหัวใจของนางให้มีความเข้มแข็ง โดยไม่มีร่องรอยของคอนซาอฺคนเดิมในสมัยญาฮิลียะฮฺ เห็นได้จากการที่นางปลูกฝังให้ลูกของนางมีความกระหายที่จะออกญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺ จนเมื่อถึงคราวสงครามกอดิซียะฮฺในสมัยท่านคอลิฟะฮฺอุมัร ท่านหญิงคอนซาอฺก็ผลักดันให้ลูกชายทั้ง 4 ของนางออกไปร่วมกองทัพมุสลิมเพื่อต่อสู้อย่างแข็งขัน จนกระทั่งพวกเขาทั้งหมดได้เป็นชะฮีดในสงครามครั้งนี้ เมื่อข่าวการจากไปของลูกชายทั้ง 4 มาถึง แทนที่นางจะคร่ำครวญ ตีโพยตีพายเฉกเช่นที่นางเคยกระทำครั้งสมัยญาฮิลียะฮฺ นางกลับกล่าวคำพูดที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกในความเด็ดเดี่ยวของนางไว้ว่า มวลการสรรญเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ผู้ทรงให้เกียรติฉันด้วยการตายของพวกเขา และฉันหวังเหลือเกินว่า ผู้อภิบาลของฉันจะรวบฉันไว้กับลูก ๆ ของฉัน ภายใต้ร่มเงาแห่งความเมตตาของพระองค์ ในสวนสวรรค์อัน เป็นนิรันดร์
อะไรกันหนอ ที่ทำให้สตรีคนนึงที่เคยมีหัวใจอ่อนไหว ร้องไห้ ตีโพยตีพายต่อการจากไปของญาติมิตร กลับกลายเป็นคนที่เข้มแข็งและรื่นเริงอย่างสุดหัวใจต่อการจากไปของบุคคลที่รักยิ่งถึง ๔ คน จะเป็นอะไรไปได้ นอกจากความศรัทธาที่มั่นคงที่มีต่ออิสลาม!
จากสารมุสลิมะห์ ฉบับที่ 10 ซุลฮิจยะห์ 1430 พฤษภาคม 2552
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: al-firdaus~* Date: ม.ค. 25, 2010, 03:56 PM
ตอนอ่านตะเล็ม อ่านเจอเรื่องราวนี้ แล้วประทับใจ
ญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์นั้น ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ คือความหอมหวลในสวนสวรรค์
ขอให้เราเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ลิ้มรสมันด้วยเถิด อามีน
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 25, 2010, 05:28 PM
ความรู้สึกเมื่อพวกญะฮูดสามารถฆ่าบรรดามูญาฮิดีนได้สำเร็จ พวกเขาอาจพากันดีใจ
แต่พวกเขาไม่อาจรับรู้ได้หรอกว่า แท้ที่จริงแล้วในความรู้สึกของบรรดาชูฮาดะอฺ
....คือ ความดีใจ ปลาบปลื้ม เปรมปรีดิ์ ที่คนเหล่านี้ช่วยส่งให้พวกเขาได้ไปเจอกับพระเจ้าได้เร็วขึ้นนั่นเอง
>>
ญิฮาด :: แพ้ก็ชนะ พิชิตก็ชนะ

Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: nada-yoru Date: ม.ค. 25, 2010, 09:12 PM
>> ญิฮาด :: แพ้ก็ชนะ พิชิตก็ชนะ 
v
v
Win all

ญะซากัลลอฮุคอยรอนผู้นำเสนอค่ะ...

วัสลามค่ะ
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: binti Date: ม.ค. 26, 2010, 11:27 AM
ไร้คำบรรยายจริงๆ

Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 26, 2010, 12:05 PM
สารถึงเหล่ามารดาแห่งประชาชาติ จาก : อบู มุศอับ อัซ-ซัรกอวียฺ
อบู มุศอับ อัซ-ซัรกอวียฺ
(อดีตผู้นำมุญาฮิดีนแห่งสมรภูมิอิรัก ถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของทหารอเมริกัน ในเดือน มิถุนายน ๒๐๐๖ )
โอ้มารดาแห่งประชาชาติอิสลาม! พวกท่านอยู่ ณ ตำแหน่งใดกันในการสู้รบอันศักดิ์สิทธิ์นี้ พวกท่านมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกองคาราวานของประชาชาตินี้อย่างไร พวกท่านไม่มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ หลงเหลืออยู่อีกแล้วหรือ พวกท่านยอมปล่อยให้ลูก ๆของพวกท่านกระโจนเข้าสู่กับดักของฏอฆูต หรือพวกท่านพึงใจที่จะเป็นดั่งผู้ที่ทรยศต่อศาสนาด้วยการออกห่างจากการญิฮาดกระนั้นหรือ เราทั้งหลายได้เห็นแล้วว่าบรรดามุสลิมีนต่างละเลยจากม้าศึก และปลดอาวุธออกจากบ่า พร้อมทั้งกล่าวว่าไม่มีการญิฮาดอีกแล้ว ในยุคสมัยนี้
เกิดอะไรขึ้นกับพวกท่านกระนั้นหรือ ที่พวกท่านไม่ยอมส่งลูก ๆ เข้ามายังคบเพลิงอันลุกโชนของสมรภูมิที่จะทำให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความอบอุ่นของมัน รวมทั้งได้เป็นผู้ปกป้องศาสนาของอัลลอฮฺ ทำไมพวกท่านจึงไม่ช่วยกันกระตุ้นให้บรรดามุสลิมีนของพวกท่านกระโจนเข้าสู่สมรภูมิเพื่อต่อต้านบรรดาทรราช และยอม เสียสละจิตวิญญาณและชีวิตอันไร้ค่าไปในหนทางของอัลลอฮฺมีเรื่องราวของบรรดาหญิงมุชริก ซึ่งพวกนางต่างอยู่บนความเชื่อที่ผิด ๆ พวกนางเคยยื่นดินสอเขียนขอบตา ให้กับบรรดาชายหนุ่มที่ผินหลังให้กับการสู้รบ พร้อมกับกล่าวว่า
พวกท่านก็แค่ผู้หญิงใน ร่างชายดี ๆ เท่านั้น !แล้วเกิดอะไรขึ้นกับพวกท่านเล่า (ที่พวกท่าน ไม่ยอมทำเช่นนี้) ทั้ง ๆ ที่พวกท่านต่างก็อยู่บนหนทางที่เที่ยงตรงจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด โอ้ หลานสาวของ อุมมฺ อิมาเราะฮฺจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด โอ้ หลานสาวของท่านหญิงซอฟียะฮฺ ท่านหญิงอัสมาอฺ และ
อัล-คอนซาอฺ !!แท้จริงแล้ว บรรดาภรรยาของมุญาฮิดต่างเลี้ยงดูลูกให้เติบโต มิใช่เพื่อจะให้เขามีชีวิตอยู่ดั่งคนทั่วไป แต่เพื่อให้เขาได้ร่วมรบ และถูกฆ่าไปในหนทางของอัลลอฮฺ แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะมีชีวิตนิรันดร์พร้อมกับอิสรภาพ (ในตำแหน่งชะฮีด) ซึ่งเป็นดั่งความหวังอันสูงสุดของพวกเราทุกคน
พวกท่านไม่เห็นดอกหรือว่า ณ ขณะนี้ ประชาชาติของเรากำ ลังถูกเฉือนออกเป็นชิ้น ๆ ถูกจู่โจมตั้งแต่เหนือจรดใต้ ถูกรุกรานทั้ง ในดินแดนตะวันออกและตะวันตก จดหมายของน้องสาวของเราจาก ที่คุมขังของพวกทรราชยังมาไม่ถึงพวกท่านอีกหรือ หากพวกท่าน ได้ อ่านแล้วจินตนาการว่าพวกท่านต้องถูกทรมานเยี่ยงพวกนาง พวก ท่านย่อมปรารถนาให้บรรดาผู้ชายแห่งประชาชาตินี้ออกมาปลด ปล่อยพวกท่านเป็นแน่
มีบรรดาพี่สาวน้องสาวของมุญาฮิดีนในดินแดนแห่งแม่น้ำ ทั้งสอง (คืออิรัก) ได้เขียนจดหมายมาหาฉัน ขอร้องให้พวกนางได้ มีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อปกป้องศาสนาอันบริสุทธิ์นี้ พวกนางยืน ยันอย่างหนักแน่นที่จะเข้าร่วมในสมรภูมิรบ จดหมายฉบับหนึ่งถูกส่งมาหลังจากที่บรรดามุญาฮิดีนจำนวนหนึ่งได้เสียชีวิตจากปฏิบัติ การณ์โจมตีเรือนจำอบู ฆอรีบ เพื่อปลดปล่อยมุสลิมะฮฺจากการถูกจองจำไว้ในเงื้อมมือของทรราชย์ มันถูกเขียนขึ้นโดยพี่น้องมุสลิมะฮฺ คนหนึ่งซึ่งใช้เลือดและน้ำตาของนางปนกับน้ำหมึก
อัลลอฮฺ ทรงรู้ดีที่สุด ว่าฉันมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง เมื่อ ได้อ่านจดหมายฉบับนั้น ฉันเริ่มหลั่งน้ำตาโดยไม่สามารถควบคุมตัว เองได้ เมื่อนึกถึงสภาพของประชาชาติในตอนนี้ ความอัปยศได้ก่อ ตัวขึ้นในทุกดินแดนโดยไม่มีมุสลิมีนสนใจจะมารับภารกิจนี้ จนต้อง ปล่อยให้มุสลิมะฮฺออกมาทำหน้าที่แทน ช่างเป็นความอับอายอย่าง
ยิ่งสำหรับบรรดาลูกผู้ชายแห่งอุมมะฮฺอิสลามียะฮฺ ที่ปล่อยให้บรรดาผู้หญิงที่บริสุทธิ์และบอบบางต้องออกมารับหน้าที่นี้ ในขณะที่ตนเองยังคงหลับใหลอยู่ในบ้านและเล่นเกมส์ที่หาสาระใดไม่ได้ไปวัน ๆ
จาก
สารมุสลิมะห์ฉบับที่ 11อ่านประวัติของอบู มุศอับ อัซ-ซัรกอวียฺ
คลิก
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 27, 2010, 01:01 PM
หัวใจของผู้ที่เป็นมูญาฮิดีน
เรียบเรียงโดย ฎอริก อัลญิฮาด
อัสลามูอาลัยกุม วาเราะฮฺมาตุลลอฮฺฮิ วะบารอกาตุฮฺ
เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามุสลิมหลายต่อหลายคนที่ยังคงคิดว่า
ชัยชนะ'' นั้นคือ การได้มาซึ่งวัตถุบนโลกใบนี้ การสามารถเอาชนะทางด้านกายภาพ การสามารถมีอำนาจเหนือฝ่ายตรงข้ามได้ แต่หารู้ไม่คำว่า ชัยชนะนั้น มิใช่การเอาชนะที่เป็นรูปธรรมอย่างเดียว การที่เรายึดมั่นอยู่บนหลักการของอัลอิสลามก็เป็นชัยชนะ การที่เราได้ตายในหนทางของอัลลลอฮฺก็เป็นชัยชนะ แต่เราก็ต้องอย่าลืมว่า ชัยชนะ ที่เป็นรูปธรรมพร้อมๆกับยึดมั่นในสัจธรรมนั้นย่อมเป็นชัยชนะที่เหนือกว่า เพราะมันคือการที่เรามีชัยเหนือชัยฏอน มีชัยเหนือกุฟฟารฺ มีชัยเหนือฏอฆูต มีชัยเหนือความเท็จ และการมีชัยเหนือพวกกาฟิรีนและบรรดามุนาฟิกีนทั้งมวล เช่นนั้นแหละหัวใจของผู้ที่เป็นมูญาฮิดีนนั้นต้องมีความมั่นคง ถึงแม้ว่าชีวิตทั้งชีวิตของเขานั้นจะถูกดูหมิ่น เย้ยหยัน และครหาจากพวกกาฟิรก็ตาม อันเนื่องจากการที่พวกเขามิแสวงหาชีวิตในโลกนี้เหมือนพวกมัน แต่กลับแสวงหาความตายเพื่อรางวัลในโลกหน้า
พวกท่านจะพบว่าบรรดามูญาฮิดีนนั้น มิอาจ
ถูกล่อลวงด้วยกับทรัพย์สินอันมีค่าบนโลกใบนี้เลย พวกเขากลับยอมสละทุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อวิ่งไปหาความตายที่อยู่ตรงหน้า แต่หารู้ไม่ พวกเขามิได้ตายจากไปไหนหรอก
พวกเราต่างหากที่กำลังรอความตายอย่างน่าอัปยศ !และเจ้าจงอย่าได้คิดเป็นอันขาดว่าบรรดาผู้ที่ถูกฆ่าในทางของอัลลอฮฺนั้นตาย มิได้พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ณ พระเจ้าของพวกเขา ในสภาพที่ได้รับปัจจัยยังชีพ [3:169]
ซุบฮานัลลอฮฺ
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 27, 2010, 01:03 PM
กี่มากน้อยแล้วที่พี่น้องมูญาฮิดีนของเราได้รุดหน้าไปยังที่นั่นก่อนหน้าเรา เพียงเพราะพวกเขามีความบริสุทธิ์ใจ มีความอิคลาศในการแสวงหาความตาย ดังนั้นอัลลอฮฺจึงได้ประทานรางวัลให้แก่เขาด้วยกับความตายนั้น พวกเขามิได้มองหาสิ่งใดเพื่อที่จะเอามาปกป้องพวกเขาหรือเพื่อที่พวกเขาจะได้หลบซ่อนจากพวกศัตรูเลย แต่พวกเขากลับต่อสู้กับทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เขาปรารถนาไว้ พวกท่านยังคงจำได้ไหม?
ท่านคอลิด อิบนฺวะลีด ผู้ที่รับสมญานามว่า
ซัยฟุลลอฮฺ หรือ
ดาบของอัลลอฮฺ ท่านได้กล่าวไว้เช่นไรก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต
ท่านได้กล่าวว่า
ฉันเคยเอาตัวของฉันกระโจนลงไปท่ามกลางหมู่ศัตรู จนกระทั่งฉันมั่นใจแล้วว่า ฉันไม่อาจกลับออกไปอย่างมีชีวิตเป็นแน่ แต่ดูนี่สิ ฉันกลับต้องมาตายอยู่บนเตียง ดังนั้นขออย่าได้ให้ดวงตาของผู้ขี้ขลาดได้หลับไหลเป็นอันขาด!อีกท่านหนึ่ง
ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนฺรอวาฮะฮฺ เมื่อตอนที่ท่านเป็นแม่ทัพนำกองทัพมุสลิมเผชิญหน้ากับศัตรูในสงครามมุอฺตะฮฺ แล้วญาติของท่านก็ได้นำชิ้นเนื้อแห้งมาให้ท่านกิน เพื่อที่จะได้มีกำลังเผชิญกับสิ่งต่างๆในวันนั้น ท่านได้กล่าวไว้เช่นไร หลังจากที่ท่านได้หยิบมันมากินแค่หนึ่งคำ
ท่านได้กล่าวว่า
นี่ฉันยังอยู่บนโลกใบนี้นี่! แล้วท่านก็ขว้างชิ้นเนื้อนั้นออกไป และได้เข้าไปต่อสู้จนกระทั่งท่านถูกฆ่าตาย
ซุบฮานัลลอฮฺ
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 27, 2010, 01:05 PM
บรรดามุอฺมินนั้นไม่ได้หวังสิ่งใดๆบนโลกใบนี้เลย พวกเขาพอใจชีวิตในโลกหน้ามากกว่าชีวิตในโลกนี้เสียอีก แม้กระทั่งการค้าขายและการทำมาหากินก็ไม่อาจทำให้เขามีพลังและกระตือรือร้นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามพวกเขากลับรู้สึกมีพลังและกระปรี้กระเปร่าในการเคารพอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺซุบฮานะฮุวาตะอาลา ดั่งที่ท่านอุษมาน ผู้ที่เป็นทั้งตาบิอีนและมูญาฮิดท่านหนึ่ง เมื่อท่านถูกถามว่าในปีนี้เขาจะยังคงออกไปรบไหม ท่านตอบว่าอย่างไร?
ท่านตอบว่า
แน่นอน ฉันไม่อยากพลาดจากมันเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าฉันจะต้องอยู่เพื่อทำรายได้ถึงหนึ่งแสนดีนารฺก็ตามอัลลอฮฺฮุอักบัรฺ !
ไม่มีอิบาดะฮฺใดๆอีกแล้วที่จะเทียบเท่ากับการญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺ แต่ยังมีมุสลิมหลายคนที่ยังคงคิดว่าการละหมาดและการถือศีลอดนั้นเป็นอิบาดะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วในอิสลาม
ใช่ ! มันเป็นอิบาดะฮฺที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะหากมุสลิมคนใดปราศจากมันทั้งสองแล้ว ก็ไม่มีความหวังใดๆแล้วสำหรับเขา แต่
ในการดิ้นรนต่อสู้จริงๆแล้ว ไม่มีอิบาดะฮฺใดที่จะเทียบเท่ากับการญิฮาด
จากศ็อฟวาน บินสะลีม : ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺได้ถามว่า
มีสักคนไหมในหมู่พวกท่านที่สามารถละหมาดและถือศีลอดโดยไม่หยุด พวกเขากล่าวว่า
โอ้ อบูฮุร็อยเราะฮฺ ใครจะไปทำเช่นนั้นได้ล่ะ เขาก็กล่าวว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ผู้ซึ่งวิญญานของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ การนอนของมูญาฮิดนั้น ดียิ่งกว่าสิ่งนั้นเสียอีก
หากนี่คือสถานะของมูญาฮิดีนในขณะที่เขาเพียงแค่นอนหลับอยู่ แล้วนับประสาอะไรกับการละหมาดของเขาล่ะ? สิ่งนี้มิใช่สิ่งที่ผู้คนควรแข่งขันกันกระนั้นหรือ มันมิใช่สิ่งที่ผู้คนควรร้องไห้เมื่อพลาดจากมันหรอกหรือ!
อบูฮุร็อยเราะฮฺได้กล่าวว่า มีชายคนหนึ่งมาหาท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)และกล่าวว่า ขอท่านจงบอกฉันเถิดซึ่งการงานที่(มีการตอบแทน)เทียบเท่ากับการญิฮาด ท่านนบีตอบว่า ไม่มีการงานใดที่เทียบเท่ากับการญิฮาด
แล้วท่านก็เสริมขึ้นมาว่า ท่านทำได้ไหมล่ะ ในขณะที่มูญาฮิดได้ออกไปยังสนามรบ ท่านก็เข้าไปยังมัสยิดแล้วละหมาดโดยไม่ต้องหยุดและถือศีลอดโดยไม่หยุดเช่นกัน ชายคนนั้นก็ตอบว่า ใครจะทำเช่นนั้นได้ล่ะ (บุคอรี-มุสลิม)
อิบนุอุมัรฺได้กล่าวว่า การยืนในตำแหน่งที่เผชิญหน้ากับศัตรูนั้น ถึงแม้จะไม่มีการแกว่งดาบ ขว้างหอก หรือยิงธนูออกไป ก็ยังดีกว่าการละหมาดเป็นเวลาหกสิบปีโดยไม่กระทำความชั่วใดๆ (อัลญามิอฺ)
ซุบฮานัลลอฮฺ
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 27, 2010, 01:07 PM
พวกท่านดูมุสลิมในยุคนี้สิ เมื่อเขาต้องยืนหยัดในเรื่องสัจธรรม
พวกเขาช่างเป็นคนที่เกรงกลัวต่อพวกุฟฟารฺเสียนี่กระไร!นี่ถ้าหากชัยคุลอิสลามอิบนฺตัยมียะฮฺได้มาเห็นพวกเราในลักษณะนี้แล้วล่ะก็ ท่านคงจะรู้สึกอัปยศและกระอักกระอ่วนที่จะบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราเป็นแน่ เพราะครั้งหนึ่งท่านเคยกล่าวไว้ว่า
เหล่าศัตรูของฉันจะสามารถทำอะไรฉันได้? ในเมื่อสวนสวรรค์นั้นอยู่ในหัวใจของฉัน ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนมันก็ไปกับฉัน การติดคุกของฉันก็คือการปลีกตัวทำอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ การประหารชีวิตฉันก็คือการมอบรางวัลชะฮีดแก่ฉัน การเนรเทศฉันออกจากดินแดน สำหรับฉันแล้วก็คือการได้ออกไปอพยพในหนทางของอัลลอฮฺ นี่แหละคือคติพจน์ของท่าน นี่แหละคือคติพจน์ของมูญาฮิด !
อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ เมื่อมูญาฮิดนั้นรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาหวังจะได้รับจากอัลลอฮฺนั้น มิใช่อื่นใดนอกจาก
สวนสวรรค์ชั้นฟิรดาวส์?พวกเขาจะเรียนรู้ศึกษามัน พวกเขาจะคิดถึงคำนึงถึงมัน พวกเขาจะพร่ำร้องเรียกหามัน และขอมันต่ออัลลอฮฺให้โปรดประทานสิ่งนั้นแก่พวกเขา ด้วยกับเหตุนี้เองที่ทำให้พวกเขาเป็นอะไรอื่นมิได้ นอกจากจะเป็นบ่าวที่ดีของอัลลอฮฺทั้งในที่ลับและที่เปิดเผย
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 27, 2010, 01:10 PM
จากอบีฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮฺ : ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ศ็อลฯ) กล่าวว่า
แท้จริงในสวนสวรรค์มีอยู่หนึ่งร้อยชั้น อัลลอฮฺได้จัดเตรียมไว้แก่บรรดาผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ ระยะห่างระหว่างสองชั้นเหมือนกับระยะห่างระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดิน ดังนั้นเมื่อพวกท่านต้องการร้องขอต่ออัลลอฮฺ ก็จงขอชั้นฟิรดาวส์ซึ่งมันตั้งอยู่ใจกลางของสวนสวรรค์และเป็นชั้นสูงสุด และข้างบนนั้นเป็นอะรัช (บัลลังก์) ของพระผู้ทรงเมตตาปราณี และในนั้นจะมีแม่น้ำจากสวนสวรรค์ไหลพุ่งออกมา (บันทึกโดยบุคอรี)
เช่นนั้นแหละ เมื่อมูญาฮิดเป็นบ่าวที่ยิ่งใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺมากเท่าใหร่ เขาก็จะยิ่งรักการต่อสู้ในหนทางของพระองค์มากขึ้นเท่านั้น ดั่งที่ท่านคอลิด อิบนฺวาลีด ได้กล่าวไว้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตว่า
แม้ว่าฉันจะได้แต่งงานกับหญิงสวยงามที่ฉันรัก หรือแม้ว่าฉันจะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับลูกชายที่เพิ่งถือกำเนิดของฉัน มันก็ยังเป็นที่รักแก่ฉันน้อยกว่าการที่ฉันได้ไปอยู่ท่ามกลางกองทัพในค่ำคืนอันหนาวเหน็บเพื่อรอการประจัญบานกับศัตรูในเช้าวันพรุ่งนี้ ดังนั้นฉันจึงแนะนำให้พวกท่านออกไปญิฮาดเถิด (อิบนฺอัลมุบาร็อก)
ด้วยเหตุนั้นมูญาฮิดต้องรีบเร่งสู่ความดีแม้ว่าการงานนั้นจะเป็นการออกไปต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺก็ตาม ดังที่อัลลอฮฺ ตะอาลาได้กล่าวว่า
และกลุ่มชนแนวหน้าคือกลุ่มชนแนวหน้า พวกเขาเหล่านั้นคือบรรดาผู้ใกล้ชิด [56:10-11]
อุษมาน บินอบีเซาดะฮฺ ได้กล่าวว่า
กลุ่มชนแนวหน้าที่ได้กล่าวไว้ในอายะฮฺข้างต้นก็คือ บุคคลแรกๆที่ออกไปญิฮาดและเป็นบุคคลแรกๆที่ออกไปละหมาด (บันทึกโดยอิบนฺ อบีชัยบะฮฺ เชื่อถือได้)
ดังนั้น ขอให้พวกท่านจงเป็นกลุ่มชนที่อยู่แนวหน้าในการรีบเร่งสู่สวนสวรรค์ชั้นฟิรดาวส์ของอัลลอฮฺกันเถิด
วะบิลลาฮิตเตาฟีก วัลฮิดายะฮฺ วัสลามูอาลัยกุม วาเราะฮฺมาตุลลอฮฺฮิ วะบารากาตุฮฺ
เค้าโครงจาก The Unjust Media
credit
Re: เธอคือความหวัง :: คำฝากฝังของค็อฏฏอบถึงลูกชาย By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 27, 2010, 01:26 PM
Amir Khattab with his Son
จากมูญาฮิด
อมีรค็อฏฏ็อบ (ชะฮีดแห่งชีชาน, อินชาอัลลอฮฺ) กล่าวไว้แก่
ซอและห์ลูกชายคนโตของเขาขณะอายุเพียง 3 เดือนว่า ;
"ไม่ว่าที่ไหนและเวลาใดก็ตาม..จงมุ่งหน้าไปสู่ความตาย แล้วการมีชีวิตอยู่ก็จะเป็นของเจ้า"..
"เจ้าอย่าได้ฝันถึงชีวิตที่สุขสบาย การดำเนินชีวิตที่สงบสุขในโลกที่ปกครองไปด้วยกุฟฟาร กุฟฟารจะตามไล่ล่าเจ้าให้เป็นส่วนหนึ่งของมัน...จงแสวงหาความรู้และท่องจำคัมภีร์ของอัลลอฮฺตั้งแต่เจ้าอายุยังน้อย จากนั้นจงเตรียมพร้อมและมุ่งหน้าสู่การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺ !!"(สท. (ส่งท้าย) เดิมทีคำฝากฝังนี้ถูกอัดเสียงใส่เทปไว้เป็นภาษาอาหรับ ต่อมามูญาฮิดีนคนอื่นจึงนำมาถอดความเป็นภาษาอังกฤษและถูกถ่ายทอดเป็นอักขระภาษไทยโดยพี่หนูดีคนเก่ง (ญะซากิลละห์ ค้อยร้อน))
อ่านประวัติของค็อฏฏ็อบ
คลิก
Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: กอ-กล้วย Date: ม.ค. 27, 2010, 04:50 PM
เข้ามาขอบคุณ "น้องครูจริงใจ" ก่อน ไว้เคลียร์งานที่วุ่น ๆ ช่วงนี้เสร็จจะเข้ามาอ่านนะคะ

ญาซากิลลาฮุค็อยรอน

Re: เธอคือความหวัง :: ต้นแบบแห่งมารดา By: little cat Date: ม.ค. 27, 2010, 05:45 PM

Re: เธอคือความหวัง :: จากเรื่องราวชีวิตของเชคอับดุลลอฮฺ ยูซุฟ อัซซาม.. By: - ครูจริงใจ- Date: ม.ค. 28, 2010, 07:59 AM
ในขณะที่ชีวิตในดุนยาของเราดำเนินไป...วันแล้ว...วันเล่า...คืนแล้ว...คืนเล่า เรื่องราว ปัญหา และสรรพสิ่งต่าง ๆ แห่งดุนยาได้เข้ามาแบ่งปันพื้นที่ในชีวิตของเราเท่า ๆ หรืออาจมากยิ่งกว่าเรื่องราวแห่งอาคิเราะฮฺ ดุนยายังคงทำให้เราสุขและทุกข์ ลิงโลดและว้าวุ่นใจ สมหวังและผิดหวัง...ได้อยู่เรื่อยไป
ช่วงเวลาเดียวกัน...ชีวิตคนอีกกลุ่ม1 ของอุมมะฮฺนี้ยังคงดำเนินไปในตลาดแห่งเสียงปืน ตลาดที่พวกเขาได้ทำสัญญาซื้อขายกับผู้อภิบาลแห่งสากลโลก โดยมีชีวิตของพวกเขาเป็นสินค้าเพื่อแลกเปลี่ยนกับสวนสวรรค์ของพระองค์ พวกเขาละทิ้งความสุขสบายที่ท้ายแถวเพื่อมุ่งหน้าสู่ความยากลำบากในแนวรบด้านหน้า บางส่วนของพวกเขายังคงใช้วันและคืนอันหนักหนาไปในแนวรบทั้งบนภูเขา และท้องทะเลทราย อีกบางส่วนของพวกเขาได้รับคัดเลือกแล้วให้ล่วงหน้าไปก่อนสู่ความสุขอันเป็นนิรันดร์ หากเรื่องราวของพวกเขายังคงมีชีวิตเสมอในหัวใจของคนที่อยู่เบื้องหลัง...คนที่หวังจะได้ร่วมกองคาราวานเดียวกับพวกเขา
หน้าประวัติศาสตร์อิสลามเต็มไปด้วยเรื่องราวของผู้กล้า...ลูกผู้ชาย...และอัศวิน 1ในบรรดาอัศวินเหล่านั้นเองที่เคยกล่าวไว้ว่า
หน้าประวัติศาสตร์อิสลามไม่เคยถูกเขียนขึ้น เว้นแต่ด้วยเลือดของชุฮะดาอฺ...เรื่องราวของชุฮะดาอฺ...และแบบอย่างของชุฮะดาอฺ เขา...ผู้กล่าวประโยคข้างต้น ไม่เพียงแต่
กล่าวเท่านั้น หากยัง
ทำให้เห็นด้วยว่าคำกล่าวของเขานั้นเป็นความจริง หน้าประวัติศาสตร์อิสลลามยินดีต้อนรับเขาเฉกเช่นที่เคยต้อนรับบรรดานักสู้คนอื่นๆ ในทุกยุคสมัย
เขา...คือคนที่ผู้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับการญิฮาดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายข่าวกรองหรือนักวิจัย มุญาฮิดีนหรือเอฟบีไอ...จะละเว้นที่จะพูดถึงประวัติ ผลงาน และถ้อยคำของเขาไม่ได้เลย
เขา...คือคนที่นิตยสารไทม์ขนามนามว่าเป็น
ผู้คืนชีพให้แก่การญิฮาดแห่งศตวรรษที่20 ในขณะที่อุซามะฮฺ บินลาดิน กล่าวว่า
หลังจากเขาแล้ว...มุสลิมะฮฺของประชาชาตินี้ก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า พวกเธอไม่สามารถให้กำเนิดบุรุษเยี่ยงเขาได้อีก เขา...คือ คนที่รวมคน 2 ประเภทอันเป็นหัวใจของอุมมะฮฺนี้ นั่นคือ
อุละมาอฺ และ
มุญาฮิดีนเข้าไว้ในตัวคน ๆ เดียว
เขาคือ
เชค อับดุลลอฮฺ อัซซาม...อาลิมที่บรรดาอุละมาอฺยกให้อยู่แถวหน้าในสนามความรู้ มุญาฮิดที่บรรดามุญาฮิดีนยกให้อยู่แถวหน้าในสนามการรบ
คลิกอ่านต่อ