กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ สนทนาศาสนธรรม
Pages: 12
ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: anti-bid'ah Date: ก.พ. 05, 2010, 02:13 PM
 salam
ผมขอรายละเอียดเรื่องนี้หน่อยครับ(อะไรคือ นินทา อะไร คือการประจาน(ทั้ง ๒ นี้อนุญาติให้กระทำเมื่อไร)) ว่ามันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร (ขอความกรุณาอ้างหลักฐานทางศาสนาด้วยครับ เพราะผมเชื่อเหลือเกินว่าอาจารย์ที่ผมเคารพคงติดตาม(สะกดรอยตามผม party:)เรื่องที่ผมถามในเวบนี้เป็นแน่แท้) ขออย่างละเอียดนะครับ

บางคนอาจสงสัยผมว่าถามอะไรแปลกๆ ผมขออ้างจาก
RIYADH-US-SALEHEEN ARABIC-ENGLISH  VOL. 2  ริยาดุซซอลีฮีน เล่ม ๒
COMPILED BY : IMAM ABU ZAKARIYA BIN SHARAF AN-NAWAWI เรียบเรียงโดย อิหม่าม อบู ซาการียา ชารีฟ อันนาวาวี
TRANSLATED BY: S.M. MADNI  ABBASI แปลโดย เอส เอม อบู อับบาซี
INTERNATIONAL ISLAMIC PUBLISHING HOUSE SAUDI ARABIA
CHAPTER 256 PAGE 737 บทที่ ๒๕๖ หน้า ๗๓๗

ผมเลยเข้าใจว่าอนุญาติให้นินทาได้(ในบางโอกาส) ถ้าผมเข้าใจผิดช่วยชี้แนะด้วยครับ
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทา By: ILHAM Date: ก.พ. 05, 2010, 05:04 PM
ไอที่อนุญาตนั้นเขาไม่เรียกว่านินทาแล้ว จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่ดูดีกว่า
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: มาลิกกุ๊กกิ๊ก Date: ก.พ. 17, 2010, 08:28 AM
นินทาไม่รุอ่ะนะ

แต่การประจารหรอ??

การลิอานปะ
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: hiddenmin Date: ก.พ. 17, 2010, 09:20 AM
จาก http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=399.msg4815#msg4815

ผู้หญิงที่เราทำการลิอาน  คือ  ภรรยาที่เราทำการสาบานปฏิเสธบุตรที่นางกำเนิดมา
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: AUZULODEEN Date: ก.พ. 17, 2010, 09:32 AM
 salam
นิทาได้ด้วยหรือ แต่ผมว่าทั้งนินทาและประจานไม่ดีด้วยกันทั้งคู่
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: Goddut Date: ก.พ. 17, 2010, 10:52 AM
ไม่มีใครเขานินทาหรอกครับ
แต่เขาวางแผน จะทำอย่างไร กับน้องบิดอะ คนนี้ต่างหาก
เพราะ พฤติกรรม มันไม่เหมาะสม
ไม่ใช่ซุนนะนบี ไม่ใช่การกระทำของผู้ใฝ่รู้

ศึกษาเข้าไปเรื่องชีอะ ถามปัญหาอะกีดะ กับผู้ที่ไม่มีความรู้ ทำให้เขาบาป ทำให้เขาต้องถูกลงโทษ
แบบนี้ ซุนนะ ที่ไหน สอนครับ ?

อยากคุยก็ MSN ก็มี เบอร์โทรผมก็ให้
อย่ามา โวยวาย ที่ตรงนี้ มันจะหมดความขลังเสียเปล่าๆ

ผมเองบอกกับทุกคนว่า น้องท่านนี้ อาจจะไม่ใช่ชีอะ ผมก็เชื่อในยึดถือมาตลอดว่า น้องบิดอะ คนนี้เป็นซุนนะ
แต่ ผมก็จำต้องเล่าให้พี่น้องหลายๆ ท่านทราบว่า น้องบิดอะ มีแนวทางการศึกษาศาสนาอย่างไร ชื่นชอบชีอะอย่างไร
และผมต้องบอกด้วยว่า น้องนั้นมีชื่อนามอะไรบ้าง น้องน่าจะบอกให้หมดว่า บอกใครชื่ออะไรบ้าง เท่าที่จำได้ ตอนนี้ น้องบิดอะ มีชื่อ 8 ชื่อเข้าให้แล้ว แล้วมาตั้งกระทู้ ร่อซู้ลก็มีหลายชื่อ (นอูซุบิลลา ) !!!

ฟิตนะหลายเรื่องมาจากตัวน้องบ่าวเอง
ที่ผมจำต้องเล่าให้พี่น้องอื่นทราบ เพราะ ศาสนาคือการตักเตือนกัน
ผมพยายามตักเตือนด้วยความจริงใจ แต่ผลที่ได้คือ "ไม่ยอมรับ"~

สาบานด้วยอัลลอฮฺ ผมกล่าวว่า "อย่าอ่านหนังสือชีอะ" น้องบิดอะตอบว่า "ไม่"
เมื่อเตือนกันไม่ได้ แล้วยังต้องการศึกษาแนวทางอื่น ที่ไม่ใช่ แนวทางซุนนะของท่านร่อซู้ลอีก
มันจำเป็นที่ ผม จะต้องบอกเรื่องเหล่านี้ ให้พี่น้องทุกคนทราบ...

ผมขอสาบานและยืนยันว่า
ผมไม่ชอบคนตอแหล ไม่จริงใจ
อยากรู้จัก อยากคบหา ช่วยแสดงความจริงใจหน่อย
อย่าทำหลบๆ ซ่อนๆ ผมไม่ชอบ และคนอื่นๆ ก็ไม่ชอบ

ถ้าน้องบ่าว พร้อมที่จะคุยกับผมอย่างจริงจังเปิดอก ผมก็ยินดีที่จะคุยด้วย
แต่แค่ ชื่อแท้ๆ ที่จะต้องบอกด้วยปากของตัวเอง น้องบิดอะ "ยังไม่เคยที่จะบอกผมเลย !!!"
ดังนั้น แค่ชื่อจริง แท้ๆ ยังบอกไม่ได้ น้องบิดอะ ตอบว่า "เพราะผมรู้แล้ว"
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผมจะรู้ได้อย่างไร เพราะคุณมันมีตั้ง 8 ชื่อ !!!
เพียงบอกชื่อที่คุณมีอยู่จริงๆ เพียงชื่อเดียว ผมก็จะยอมรับ
เพียงแค่นี้ คุณยังปกปิด แล้วเรื่องอื่น คุณจะไม่ปกปิดหรืออย่างไร ?

อ่านหนังสือชีอะ ทำให้เป็นคนแบบนี้หรือ ?
ผมขอไม่อ่านดีกว่า...
วัสลาม...
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: hiddenmin Date: ก.พ. 17, 2010, 11:05 AM


น้อยบอร์ดนักที่จะมีการตักเตือนกันอย่างจริงใจแบบนี้
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: บาชีร Date: ก.พ. 17, 2010, 11:53 AM
นินทาได้

๖ แบบ 

ซึ่งศาสนาอนุญาติ

ดังที่อิหม่ามนะวะวีได้กล่าวอ้างเอาไว้

อินชาอัลลอฮฺว่างๆจะเอามาลง
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: บาชีร Date: ก.พ. 17, 2010, 11:57 AM
باب ما يباح من الغيبة


اعلم أن الغيبة تباح لغرض صحيح شرعي لا يمكن الوصول إليه إلا بها، وهو بستة أسباب‏:‏


الأول‏:‏ التظلم، فيجوز للمظلوم أن يتظلم إلى السلطان والقاضي وغيرهما ممن له ولاية أو قدرة على إنصافه من ظالمه، فيقول ظلمني فلان بكذا‏.‏


الثاني‏:‏ الاستعانة على تغيير المنكر، ورد العاصي إلى الصواب، فيقول لمن يرجو قدرته على إزالة المنكر‏:‏ فلان يعمل كذا، فازجره عنه ونحو ذلك ويكون مقصوده التوصل إلى إزالة المنكر، فإن لم يقصد ذلك كان حرامًا‏.‏


الثالث‏:‏ الاستفتاء، فيقول للمفتي‏:‏ ظلمني أبي، أو أخي، أو زوجي، أو فلان بكذا فهل له ذلك، وما طريقي في الخلاص منه، وتحصيل حقي، ودفع الظلم‏؟‏ ونحو ذلك، فهذا جائز للحاجة، ولكن الأحوط والأفضل أن يقول‏:‏ ما تقول في رجل أو شخص، أو زوج، كان من أمر كذا‏؟‏ فإنه يحصل به الغرض من غير تعيين ومع ذلك، فالتعيين جائز كما سنذكره في حديث هند إن شاء الله تعالى‏.‏


الرابع‏:‏ تحذير المسلمين من الشر ونصيحتهم، وذلك من وجوه‏:‏ منها جرح المجروحين من الرواة والشهود، وذلك جائز بإجماع المسلمين، بل واجب للحاجة‏.‏


ومنها المشاورة في مصاهرة إنسان، أو مشاركتة، أو إيداعه، أو معاملته، أو غير ذلك، أو مجاورته، ويجب على المشاور أن لا يخفي حاله، بل يذكر المساوئ التي فيه بنية النصيحة‏.‏


ومنها إذا رأى متفقهًا يتردد إلى مبتدع، أو فاسق يأخذ عنه العلم، وخاف أن يتضرر بذلك، فعليه نصيحته ببيان حالة، بشرط أن يقصد النصيحة، وهذا مما يغلط فيه، وقد يحمل المتكلم بذلك الحسد، ويلبس الشيطان عليه ذلك، ويخيل إليه أنه نصيحة فيتفطن لذلك‏.‏


ومنها أن يكون له ولاية لا يقوم بها على وجهها‏:‏ إما بأن لا يكون صالحًا، وإما بأن يكون فاسقًا، أو مغفلا، ونحو ذلك فيجب ذكر ذلك لمن له عليه ولاية عامة ليزيله ويولي من يصلح، أو يعلم ذلك منه ليعامله بمقتضى حاله، ولا يغتر به، وأن يسعى في أن يحثه على الاستقامة أو يستبدل به‏.‏


الخامس‏:‏ أن يكون مجاهرًا بفسقه أو بدعته كالمجاهر بشرب الخمر، ومصادرة الناس، وأخذ المُكس؛ وجباية الأموال ظلمًا، وتولي الأمور الباطلة، فيجوز ذكره بما يجاهر به؛ ويحرم ذكره بغيره من العيوب؛ إلا أن يكون لجوازه سبب آخر ما ذكرناه‏.‏


السادس‏:‏ التعريف ، فإذا كان الإنسان معروفًا بلقب، كالأعمش والأعرج والأصم والأعمى، والأحول، وغيرهم جاز تعريفهم بذلك، ويحرم إطلاقه على جهة التنقص، ولو أمكن تعريفه بغير ذلك كان أولى‏.‏


فهذه ستة أسباب ذكرها العلماء وأكثرها مجمع عليه، ودلائلها من الأحاديث الصحيحة مشهورة‏.‏ فمن ذلك‏:‏


1531- عن عائشة رضي الله عنها أن رجلا استأذن على النبي صلى الله عليه وسلم فقال‏:‏ “ائذنوا له، بئس أخو العشيرة‏؟‏ ‏"‏ ‏(‏‏(‏متفق عليه‏)‏‏)‏‏.‏


احتج به البخاري في جواز غيبة أهل الفساد وأهل الريب‏.‏


1532- وعنها قالت‏:‏ قال رسول الله صلى الله عليه وسلم‏:‏ ‏"‏ما أظن فلانًا وفلانًا يعرفان من ديننا شيئًا‏"‏ ‏(‏‏(‏رواه البخاري‏)‏‏)‏‏.‏ قال الليث بن سعد أحد رواة هذا الحديث‏:‏ هذان الرجلان كانا من المنافقين‏.‏


1533- وعن فاطمة بنت قيس رضي الله عنها قالت‏:‏ أتيت النبي صلى الله عليه وسلم، فقلت‏:‏ إن أبا الجهم ومعاوية خطباني‏؟‏ فقال رسول الله صلى الله عليه وسلم‏:‏‏"‏أما معاوية، فصعلوك لا مال له ، وأما أبوالجهم، فلا يضع العصا عن عاتقه‏"‏ ‏(‏‏(‏متفق عليه‏)‏‏)‏ ‏.‏


وفي رواية لمسلم ‏:‏ ‏"‏وأما أبو الجهم فضراب للنساء‏"‏ وهو تفسير لرواية‏:‏ ‏"‏ لا يضع العصا عن عاتقه‏"‏ وقيل‏:‏ معناه‏:‏ كثير الأسفار‏.‏


1534- وعن زيد بن أرقم رضي الله عنه قال‏:‏ خرجنا مع رسول الله صلى الله عليه وسلم في سفر أصاب الناس فيه شدة، فقال عبد الله بن أبي‏:‏ لا تنفقوا على من عند رسول الله حتى ينفضوا وقال‏:‏ لئن رجعنا إلى المدينة ليخرجن الأعز منها الأذل فأتيت رسول الله صلى الله عليه وسلم، فأخبرته بذلك، فأرسل إلى عبد الله بن أبي ، فاجتهد يمينه‏:‏ ما فعل، فقالوا‏:‏ كذب زيد رسول الله صلى الله عليه وسلم فوقع في نفسي مما قالوا شدة حتى أنزل الله تعالى تصديقي ‏{‏إذا جاءك المنافقون‏}‏ ثم دعاهم النبي صلى الله عليه وسلم، ليستغفر لهم فلووا رءوسهم‏.‏ ‏(‏‏(‏متفق عليه‏)‏‏)‏ ‏.‏


1535- وعن عائشة رضي الله عنها قالت‏:‏ قالت هند امرأة أبي سفيان للنبي صلى الله عليه وسلم ‏:‏ إن أبا سفيان رجل شحيح وليس يعطيني ما يكفيني وولدي إلا ما أخذت منه، وهو لا يعلم‏؟‏ قال‏:‏ ‏"‏خذي ما يكفيك وولدك بالمعروف‏"‏ ‏(‏‏(‏متفق عليه‏)‏‏)‏ ‏.‏

Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: บาชีร Date: ก.พ. 17, 2010, 11:58 AM
แปลกันเอาเองละกัน
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: anti-bid'ah Date: ก.พ. 17, 2010, 11:58 AM
ไม่มีใครเขานินทาหรอกครับ
แต่เขาวางแผน จะทำอย่างไร กับน้องบิดอะ คนนี้ต่างหาก
เพราะ พฤติกรรม มันไม่เหมาะสม
ไม่ใช่ซุนนะนบี ไม่ใช่การกระทำของผู้ใฝ่รู้

ศึกษาเข้าไปเรื่องชีอะ ถามปัญหาอะกีดะ กับผู้ที่ไม่มีความรู้ ทำให้เขาบาป ทำให้เขาต้องถูกลงโทษ
แบบนี้ ซุนนะ ที่ไหน สอนครับ ?

อยากคุยก็ MSN ก็มี เบอร์โทรผมก็ให้
อย่ามา โวยวาย ที่ตรงนี้ มันจะหมดความขลังเสียเปล่าๆ

ผมเองบอกกับทุกคนว่า น้องท่านนี้ อาจจะไม่ใช่ชีอะ ผมก็เชื่อในยึดถือมาตลอดว่า น้องบิดอะ คนนี้เป็นซุนนะ
แต่ ผมก็จำต้องเล่าให้พี่น้องหลายๆ ท่านทราบว่า น้องบิดอะ มีแนวทางการศึกษาศาสนาอย่างไร ชื่นชอบชีอะอย่างไร
และผมต้องบอกด้วยว่า น้องนั้นมีชื่อนามอะไรบ้าง น้องน่าจะบอกให้หมดว่า บอกใครชื่ออะไรบ้าง เท่าที่จำได้ ตอนนี้ น้องบิดอะ มีชื่อ 8 ชื่อเข้าให้แล้ว แล้วมาตั้งกระทู้ ร่อซู้ลก็มีหลายชื่อ (นอูซุบิลลา ) !!!

ฟิตนะหลายเรื่องมาจากตัวน้องบ่าวเอง
ที่ผมจำต้องเล่าให้พี่น้องอื่นทราบ เพราะ ศาสนาคือการตักเตือนกัน
ผมพยายามตักเตือนด้วยความจริงใจ แต่ผลที่ได้คือ "ไม่ยอมรับ"~

สาบานด้วยอัลลอฮฺ ผมกล่าวว่า "อย่าอ่านหนังสือชีอะ" น้องบิดอะตอบว่า "ไม่"
เมื่อเตือนกันไม่ได้ แล้วยังต้องการศึกษาแนวทางอื่น ที่ไม่ใช่ แนวทางซุนนะของท่านร่อซู้ลอีก
มันจำเป็นที่ ผม จะต้องบอกเรื่องเหล่านี้ ให้พี่น้องทุกคนทราบ...

ผมขอสาบานและยืนยันว่า
ผมไม่ชอบคนตอแหล ไม่จริงใจ
อยากรู้จัก อยากคบหา ช่วยแสดงความจริงใจหน่อย
อย่าทำหลบๆ ซ่อนๆ ผมไม่ชอบ และคนอื่นๆ ก็ไม่ชอบ

ถ้าน้องบ่าว พร้อมที่จะคุยกับผมอย่างจริงจังเปิดอก ผมก็ยินดีที่จะคุยด้วย
แต่แค่ ชื่อแท้ๆ ที่จะต้องบอกด้วยปากของตัวเอง น้องบิดอะ "ยังไม่เคยที่จะบอกผมเลย !!!"
ดังนั้น แค่ชื่อจริง แท้ๆ ยังบอกไม่ได้ น้องบิดอะ ตอบว่า "เพราะผมรู้แล้ว"
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผมจะรู้ได้อย่างไร เพราะคุณมันมีตั้ง 8 ชื่อ !!!
เพียงบอกชื่อที่คุณมีอยู่จริงๆ เพียงชื่อเดียว ผมก็จะยอมรับ
เพียงแค่นี้ คุณยังปกปิด แล้วเรื่องอื่น คุณจะไม่ปกปิดหรืออย่างไร ?

อ่านหนังสือชีอะ ทำให้เป็นคนแบบนี้หรือ ?
ผมขอไม่อ่านดีกว่า...
วัสลาม...

อัลฮัมดุลิลลาฮิรอบิลอาลามีน
ขอบคุณสำหรับคำตักเตือน
ตอนนี้ก็กำลังอ่านหนังสือชิอะฮฺเป็นบางครั้ง
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: บาชีร Date: ก.พ. 17, 2010, 12:09 PM


ผมแปลก็เฉพาะหัวข้อให้ฟังละกัน หลักฐานจากหะดีษก็อยู่ในนั้น

๑) ถูกอธรรม (พูดต่อหน้าตำหรวจ หรือผู้มีอำนาจ)

๒)ขอความช่วยเหลือในการให้เขาช่วยเปลี่ยนแปลงความชั่วของคนๆหนึ่ง

๓)ขอการฟัตวา เช่น สามีของฉันอธรรมกับฉัน (ไม่ให้นะฟะเกาะแก่ฉันแล้วฉันจะโขมยเงินเขาได้รึปล่าว อะไรประมาณนี้)

๔)เตือนให้พี่น้องระวังความชั่วของเขา(เช่นระวังเขาจะมาทำร้าย)

๕)คนที่ทำชั่วแบบเปิดเภย หรือเปิดความบิดอะฮฺของเขา(เราก็เอ่ยถึงเขาได้ในสิ่งที่เขาทำชั่วแบบเปิดเภย)

๖)หาคนรู้จัก(เช่นตามหา หมัดขาด้วน ซึ่งถ้าบอกวะ อะหมัดอยู่ไหน คนไม่รู้จัก)




Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: บาชีร Date: ก.พ. 17, 2010, 12:12 PM
หนังสือชีอะผมก็เคยอ่านบ้าง นีสหน่อย

เพื่อนชีอะก็เคยมี

แต่ไม่ค่อยคุยในสิ่งที่ไม่เหมือนกัน

เพราะกลัวตัวเองจะไปต่อยหน้าเขา เมื่อเขาว่าอบูบักรเป็นมุนาฟิกหรืออื่นๆ
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: hiddenmin Date: ก.พ. 17, 2010, 12:26 PM

บัง bashir

อีหม่ามนาวาวีได้ให้ความหมายคำว่า นินทา ยังไง
Re: ไม่จริงหรอกที่ห้ามการนินทาเสียทีเดียว By: ILHAM Date: ก.พ. 17, 2010, 01:08 PM
ทั้งลูฆอฮ และอิสตีลาฮ